JJNY : ดัชนีคอร์รัปชันไทยรั้ง104/เอกชนเชียร์ผ่อนปรนร้านอาหาร/วัคซีน'โนวาแวกซ์'มีประสิทธิภาพ89%/โควิดแอฟริกาใต้ระบาดเร็ว

ดัชนีคอร์รัปชันไทยรั้ง104 ของโลกได้ 36 จากเต็ม 100 อยู่อันดับ 5 อาเซียน
https://voicetv.co.th/read/CNMMkNOK1
 
องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ เผยคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต ปี 2020 ไทยได้ 36 คะแนนจากคะแนนเต็ม 100 อยู่ที่ 104 ของโลก ด้าน ป.ป.ช.จี้รัฐบาลดันนโยบายแก้ปัญหาทุจริต
 
 
นิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 ม.ค. 2564 เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศเยอรมนี หรือ เมื่อประมาณ 12.00 น. ตามเวลาในประเทศไทย องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ได้ประกาศคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต หรือ CPI (Corruption Perceptions Index : CPI) ประจำปี 2020 (พ.ศ. 2563) จากจำนวน 180 ประเทศทั่วโลก
 
โดยประเทศเดนมาร์กและประเทศนิวซีแลนด์ ยังครองตำแหน่งอันดับที่ 1 ของโลก ด้วยคะแนนสูงสุด 88 คะแนน ในขณะที่ประเทศไทยได้ 36 คะแนน เท่ากับปี 2019 (พ.ศ. 2562) จัดอยู่ในอันดับที่ 104 ของโลก และอยู่ในอันดับที่ 5 ของกลุ่มประเทศอาเซียนเท่ากับประเทศเวียดนาม ซึ่งประเทศสิงค์โปร ได้คะแนนสูงสุด คือ 85 คะแนน จัดอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก
 
แม้ค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย ในปี 2563 จะเท่ากับปี 2562 แต่พบว่า จากแหล่งข้อมูลทั้ง 9 แหล่ง ประเทศไทยได้คะแนนลดลง 1 แหล่ง และได้คะแนนคงที่ 8 แหล่ง
 
คะแนนลดลง 1 แหล่งข้อมูล คือ แหล่งข้อมูล IMD World Competitiveness Yearbook (IMD) ได้ 41 คะแนน (ปี 2019 ได้ 45 คะแนน)
 
IMD นำข้อมูลสถิติทุติยภูมิและผลการสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูง ไปประมวลผลจัดอันดับ ความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย และพิจารณาจาก 4 องค์ประกอบ คือ 1) สมรรถนะทางเศรษฐกิจ 2) ประสิทธิภาพของภาครัฐ 3) ประสิทธิภาพของภาคธุรกิจ 4) โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งนี้ IMD สำรวจข้อมูลประมาณ เดือน ม.ค. – เม.ย. ของทุกปี ในแหล่งข้อมูล IMD World Competitiveness Yearbook(IMD) โดยมีประเด็น ที่องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ นำมาคำนวณเป็นคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตจากแบบสำรวจความคิดเห็นผู้บริหารระดับสูงในประเทศไทย คือ “มีการติดสินบนและคอร์รัปชันหรือไม่”
 
คะแนนลดลง 4 คะแนน เนื่องจากผู้ตอบแบบสำรวจเห็นว่า ยังมีปัญหาการให้และรับสินบน และการคอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐ เช่น เจ้าหน้าที่รัฐยอมรับสินบนในการลักลอบเปิดบ่อนการพนัน ปัญหาสินบน จากลักลอบเข้าประเทศของแรงงานผิดกฎหมาย ถึงแม้ภาครัฐจะมีการนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาให้บริการประชาชน แต่ในกระบวนการพิจารณาอนุมัติ อนุญาต ยังมีการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ จึงเกิดปัญหาสินบนและการทุจริต ซึ่งส่งผลต่อภาพลักษณ์การทุจริตของประเทศ โดยมีสาเหตุมาจากการที่ผู้เข้ารับบริการต้องความสะดวกรวดเร็ว ในการรับบริการ จึงยอมที่จะจ่ายสินบน
 
ประกอบกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อลงโทษเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำการทุจริตยังไม่มีประสิทธิภาพ ถึงแม้จะมีการลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำความผิด แต่เป็นเพียงเจ้าหน้าที่ของรัฐในระดับล่าง นอกจากนี้ กฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการอนุมัติ อนุญาต เช่น พระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวก ในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 ไม่สามารถดำเนินการได้อย่างอย่างมีประสิทธิภาพ
 
คะแนนคงที่ 8 แหล่งข้อมูล เช่น แหล่งข้อมูล Bertelsmann Stiftung Transformation Index (BF (TI)) ได้ 37 คะแนน (ปี 2019 ได้ 37 คะแนน)
 
BF (TI) ใช้ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์และประเมินกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปสู่ประชาธิปไตย และระบบเศรษฐกิจแบบตลาดเสรี และดูความเปลี่ยนแปลง 3 ด้าน คือ 1) ด้านการเมือง 2) ด้านเศรษฐกิจ และ 3) ด้านการจัดการของรัฐบาล ทั้งนี้ BF (TI) จะมีการเผยแพร่ผลทุก 2 ปี และข้อมูลที่เผยแพร่ครั้งล่าสุดช่วงต้นปี 2563 ถึงแม้ว่า การประเมินจะประกอบด้วยชุดคำถามหลายข้อ แต่องค์การเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ใช้คะแนนจากคำถาม ของ BF (TI) เพียง 2 ข้อ ในการประเมินคะแนน CPI คือ การดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ของรัฐที่กระทำการทุจริต และความสำเร็จของรัฐบาลในการจัดการกับปัญหาคอร์รัปชัน โดยข้อมูลที่ได้จะถูกนำมาวิเคราะห์จากผู้เชี่ยวชาญของ BF (TI) ในประเทศไทย จำนวน 2 คน
 
คะแนนคงที่ เนื่องจากองค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ (Transparency International หรือ TI) ใช้คะแนนจากรายงานการวิเคราะห์ของ BF (TI) ครั้งล่าสุด เมื่อปีที่ผ่านมา
 
นิวัติไชย ระบุ จากผลคะแนนการรับรู้การทุจริต ในปี 2020 เป็นเครื่องบ่งชี้สำคัญถึงสถานการณ์การทุจริตในประเทศไทย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่รัฐบาลจำเป็นต้องมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาการทุจริตอย่างจริงจัง เพื่อนำไปสู่แนวทางปฏิบัติในการสร้างความโปร่งใสในการดำเนินการของหน่วยงานภาครัฐ นอกจากนี้ภาคธุรกิจเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชน จะต้องตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาการทุจริต และไม่ยอมทน ต่อการทุจริต ซึ่งจะนำไปสู่สังคมที่สุจริตส่งผลต่อการพัฒนาประเทศ และส่งผลต่อการเพิ่มขึ้นของคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตต่อไป
 
ขณะที่องค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ ให้ข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการทุจริต คอร์รัปชัน โดยระบุว่า 1) ต้องมีการสร้างความเข้มแข็งให้กับหน่วยงานตรวจสอบ เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทรัพยากรต่าง ๆ จะไปถึงผู้ที่มีความต้องการอย่างแท้จริง และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการต่อต้านการทุจริตและหน่วยงานตรวจสอบต้องได้รับจัดสรรงบประมาณและทรัพยากรที่เพียงพอ รวมถึงมีความเป็นอิสระในการดำเนินการ 
 
2) สร้างความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยและความโปร่งใสในการได้รับสัญญา เพื่อขจัดการกระทำผิดและขัดกันแห่งผลประโยชน์ และเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการเข้าเสนอราคาอย่างเป็นธรรม 3) ปกป้องประชาธิปไตยและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพลเมือง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยให้รัฐบาลต้องมีความรับผิดชอบ และ 4) เผยแพร่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องและรับรองการเข้าถึงข้อมูลเพื่อให้มั่นใจว่าสาธารณชนได้รับข้อมูลสำคัญได้โดยง่าย สะดวก และตรงต่อเวลา
  

 
เอกชน เชียร์ ศบค.เตรียมผ่อนปรนเปิดร้านอาหาร-นั่งดริงก์ ถึง 5 ทุ่ม
https://www.matichon.co.th/economy/news_2551864
 
เอกชน เชียร์ ศบค.เตรียมผ่อนปรนเปิดร้านอาหาร-นั่งดริงก์ ถึง 5 ทุ่ม 

นายวิศิษฐ์ ลิ้มลือชา รองประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดต่อเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดเล็ก เตรียมเสนอศบค.ชุดใหญ่ ในวันที่ 29 มกราคมนี้ ผ่อนปรนให้เปิดร้านอาหารให้นั่งทานรวมถึงจำหน่ายสุราในร้านได้แบบเว้นระยะห่าง โดยเปิดได้ไม่เกิน 23.00 น. และแสดงดนตรีได้ แต่งดการเต้นรำ ว่า เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวของ ศบค.ชุดเล็ก เพราะการเพิ่มเวลาการเปิดให้บริการจะช่วยให้ร้านค้าเหล่านี้มีรายได้เพิ่มขึ้นเพื่อนำเงินมาหมุนเวียนค่าใช้จ่ายภายในร้าน และช่วยให้เกิดการประคองการจ้างงานอีกด้วย โดยเชื่อว่าในช่วงแรกกลุ่มที่จะกลับมาใช้บริการ คือ นักธุรกิจที่ต้องการพูดคุยเรื่องธุรกิจภายในร้านอาหาร ที่จะมีเวลาในการหารือเพิ่มขึ้น เป็นต้น
 
หากการล็อกดาวน์ธุรกิจกลางคืนยังยืดเยื้อต่อไปเรื่อยๆ อาจส่งผลให้มีธุรกิจรายเล็กล้มหายตายจากเพิ่มอีก รวมทั้งจะส่งผลให้เศรษฐกิจ​ในภาพรวมฟื้นตัวช้าขึ้นอีกด้วย หากเป็นเช่นนั้นรัฐบาลจะต้องออกมาตรการเยียวยาเพิ่มอีก ซึ่งจะเป็นการเพิ่มภาระให้กับรัฐบาล ดังนั้น การค่อยๆ ผ่อนปรนกิจการจึงถือว่าเป็นวิธีที่เหมาะสมในสถานการณ์​เช่นนี้แล้ว” นายวิศิษฐ์ กล่าว
 
นายวิศิษฐ์ กล่าวว่า หาก ศบค.ชุดใหญ่มีมติเห็นชอบให้เปิดบริการได้ถึง 23.00 น. สิ่งที่อยากเสนอแนะเพิ่มเติม คือ ร้านอาหารต้องปฏิบัติตาม​กฎของกระทรวงสาธารณสุข​อย่างเคร่งครัด​ รวมทั้งประชาชนต้องป้องกันตนเองซึ่งจากประสบการณ์​การแพร่ระบาด​ของ​โค​วิด​-19 เมื่อต้นปี 2563 ทำให้ประชาชนเรียนรู้และปรับตัวได้ดีมากขึ้น แต่ทางที่ดีควรโหลดแอพพลิเคชั่น หมอชนะ ไว้ด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบไทม์ไลน์เมื่อเกิดเหตุการณ์​ฉุกเฉิน มองว่าหลังจากนี้การดำเนินธุรกิจจะต้องทำควบคู่ไปกับการบริหารจัดการเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าแม้มีวัคซีนแล้ว การระบาดจะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีก
 

 
วัคซีน 'โนวาแวกซ์' มีประสิทธิภาพป้องกันโควิด 89%
https://www.dailynews.co.th/foreign/822013
 
วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ของบริษัทโนวาแวกซ์ มีประสิทธิภาพ 89.3% จากการทดสอบระยะที่สามในสหราชอาณาจักร
 
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 29 ม.ค.ว่า บริษัทโนวาแวกซ์ หนึ่งในผู้ให้บริการด้านชีวเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐ เผยแพร่รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี เป็นผลการทดสอบประสิทธิภาพทางคลินิกในระยะที่สามในสหราชอาณาจักร ของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่บริษัทพัฒนาในชื่อ "NVX-CoV2373" ซึ่งมีอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการมากกว่า 15,000 คน อายุระหว่าง 18-84 ปี จากจำนวนดังกล่าว 27% เป็นผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี
 
ทั้งนี้ ประสิทธิภาพของการป้องกันในภาพรวมอยู่ที่ 89.3% แม้มีรายงานอาสาสมัคร 62 คน ติดเชื้อหลังรับวัคซีน แต่ 56 คน เป็นกลุ่มที่ได้รับยาหลอก ส่วนที่เหลืออีก 6 คนได้รับวัคซีนจริง
 
ด้านรายงานของโนวาแวกซ์เผยผลการทดสอบระยะที่สามในแอฟริกาใต้เช่นกัน โดยแบ่งเป็นกลุ่มที่มีเชื้อไวรัสเอชไอวีกับปลอดเชื้อไวรัส ซึ่งค่าเฉลี่ยการป้องกันในภาพรวมอยู่ที่ 49% แต่ประสิทธิภาพการป้องกันเฉพาะในกลุ่มผู้ที่ไม่มีเชื้อไวรัสเอชไอวีอยู่ที่ 60%
 
ขณะที่นายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน กล่าวแสดงความยินดีกับข้อมูลของโนวาแวกซ์ และยืนยันว่าหากได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลสหราชอาณาจักรพร้อมสั่งซื้อ 60 ล้านโดส
 
อนึ่ง วัคซีนของโนวาแวกซ์ เป็นอีกหนึ่งวัคซีนซึ่งมีส่วนประกอบจากปุ่มโปรตีนของเชื้อไวรัสโคโรนา SARS-CoV-2 และเป็นวัคซีนตัวที่ 5 ซึ่งกำลังทดสอบระยะที่สามในสหรัฐตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว โดยต้องฉีด 2 โดส เป็นระยะเวลาห่างกัน 21 วัน โดยวัคซีนสามารถอยู่ได้ที่อุณหภูมิระหว่าง 2 ถึง 8 องศาเซลเซียส หรือตู้เย็นทั่วไป จึงง่ายต่อการขนส่งกว่ามาก เมื่อเทียบกับวัคซีนของไฟเซอร์/ไบโอเอ็นเทค และโมเดอร์นา จึงน่าจะง่ายต่อการขนส่ง.
 
https://twitter.com/Novavax/status/1354899348413415425
https://twitter.com/BorisJohnson/status/1354901600242905088
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่