คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
ถึงกับต้องล็อคอินมาตอบพันทิปไม่เคยแสดงความคิดเห็นในพันทิปเลย
ขอเกริ่นสักหน่อย เราเป็นฝ่ายเพื่อนเจ้าสาว คบกันมาร่วมสุขทุกข์ตั้งแต่ม.ต้น ยาวจนวัยทำงาน เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนคนนี้จะแต่งงาน เขาพูดกับเพื่อนเจ้าสาวทุกคนว่าอยากให้ใส่ตรีมเทา ผ้าแบบนี้ทรงแบบนี้ และเขาจะจ่ายทั้งหมดเตรียมให้เอง
ซึ่งเรายินดีมากตามใจได้หมด
พอใกล้วันงาน เราเลยถามว่าชุดที่เตรียมให้ใส่มีนัดต้องไปลองชุดมั้ย จะได้นัดเพื่อนๆไปพร้อมกันทีเดียว เพื่อนตอบมาแค่มีชุดให้แล้ว ไม่ต้องลองมาใส่วันงานหน้างานเลย ชุดใส่ไม่ยาก!
เราก็..อ่ะก็ได้! คนอื่นๆยังไม่แย้ง เราเลยไม่เซ้าซี้ แต่ก็เฟลเล็กๆที่เราไม่สามารถเตรียมตัวหรือได้ลองเลย แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ให้เป็นปัญหากวนใจกันช่วงเตรียมงาน
วันถัดมาเราจะซื้อรองเท้าให้เข้ากับชุด เลยถามเพื่อนไปว่าชุดสีเทาตามที่เคยคุยไว้เมื่อ2เดือนก่อนใช่มั้ย (เพราะเพื่อนเรานิสัยชอบเปลี่ยนใจตลอดเวลา เราเลยต้องถามเพื่อความชัวว์เสมอ)
แต่คำตอบที่ได้คือ..บอกให้เพื่อนเจ้าสาวไปหาชุดกันเอง (เอ๊า!!)
เราก็อ่ะ ก็ได้(ครั้งที่2) ให้หาเองจ่ายเองก็ไม่ติด กะว่าจะซื้อเลยเอาแบบงานสวยๆให้เกียรติงานเพื่อนหน่อย
แต่ระหว่างที่ใกล้จะถึงวันแต่ง เพื่อนคนนี้ ก็ส่งรูปชุดราตรีต่างๆมาในไลน์กลุ่มเพื่อนเจ้าสาวทุกวัน ว่าอยากให้เพื่อนใส่แบบนี้ แบบที่ต้องการ
(อีกไม่กี่วันจะถึงวันงาน เขาซื้อกันครบจบไปนานแล้ววว เราก็เลยส่งรูปชุดที่ซื้อมาให้เพื่อนดูไปเลย ว่าซื้อครบทุกอย่างแล้วโอเคมั้ย)
เพื่อนตอบแค่ว่า: โอเค ใส่อะไรก็ได้ไม่ได้ซีเรียส (นี่ขนาดไม่ซีเรียส-_-)
วันถัดมา เพื่อนก็ยังส่งรูปชุดมาไม่หยุด แถมพูดเข้าประเด็นเลยว่า จะเปลี่ยนตรีมวันงาน อยากให้ทุกคนเปลี่ยนใส่สีมิ้น และทรงชุดอยากให้เหมือนกันเป๊ะทุกคน และเขาจะจัดการเอง
ซึ่ง!!!สีเดิมที่เพื่อนบอกให้ซื้อคือสีเทา
เราแย้งทันที แล้วชุดสีเทาที่บอกให้ซื้อมาทีแรกคือ? จนเอาไปให้ช่างเสื้อแก้เข้าทรงแล้วด้วย ผ่านมาตั้ง3อาทิตย์ พึ่งจะมาเปลี่ยนใจ
เหลือเวลาใกล้วันงาน อีกไม่ถึง1อาทิตย์ จะหาตรีมสีใหม่อีกหรอ?
แต่เจ้าสาวเพื่อนเราคนนี้กลับดูไม่สนใจในความตั้งใจของเพื่อนๆเลย
มีการบอกว่า เราจะใส่ชุดสีเทาที่ซื้อมารอบแรกก็ได้ ถ้าชุดนั้นทำให้มั่นใจ แต่จะไม่เหมือนคนอื่น เพราะฝ่ายเจ้าสาวใส่สีมิ้น
ซึ่งเพื่อนคนนี้เคยพูดไว้ ก่อนจะเตรียมงานว่า (คนในงานจะใส่อะไรก็ได้ ไม่มีตรีม ไม่อยากทำให้คนที่มางานลำบากใจ แค่มางานก็ดีใจมากแล้ว)
ในตอนนี้กลับมีแต่ความลำบากใจ และเหนื่อยใจ
ขอเล่าโมเม้นในไลน์กลุ่มต่างๆสำหรับงานแต่ง
ในกรุ้ปไลน์เพื่อนคนนี้ จะแยกเพื่อนเจ้าสาวเป็น2ไลน์กลุ่ม
คือกลุ่ม1เพื่อนสมัยม.ต้น กับกลุ่ม2 คือเพื่อนวัยทำงานของเขา
ไลน์กลุ่มเพื่อนวัยทำงานกลุ่มนั้น เราก็ถูกดึงไปอยู่ในนั้นด้วย เลยได้รู้ว่าเจ้าสาวไม่ได้บอกให้ทุกคนซื้อชุดเองแต่อย่างใด
ในขณะที่ไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่ม.ตัน กลับบอกให้เพื่อนซื้อ แถมยังโลเลเปลี่ยนไปมาจนนาทีสุดท้าย (ความเกรงใจคงหายไปตามกาลเวลา)
เราทั้งเซ็งทั้งนอยด์ เลยบ่นไปว่า ที่ทำไปทั้งหมด คือใส่ใจมากนะ
แต่เพื่อนกลับตอบแค่ว่า .. แล้วไม่ชอบชุดที่จะหาให้หรอ??
(เรานี่งงเลย เพื่อนไม่รู้สึกอะไร...)
ซึ่งถ้าเลือกสักอย่างตั้งแต่แรกที่คุย ก็จบไปนานแล้ว แต่นี้เปลี่ยนใจให้เพื่อนเจ้าสาวหากันเอง ลงทุนลงความตั้งใจเต็มที่ แต่เพื่อนกลับไม่เอา เราทั้งโมโหทั้งนอยด์จริงๆตอนนี้ เหมือนกับว่าทำไปไร้ค่า
เริ่มรู้สึกไม่อยากไป อยากทิ้งหน้าที่ต่างๆ ที่เขาขอให้เราช่วย
จนนอนไม่หลับมา1คืน เลยมาหาอ่านเรื่องราวในพันทิป จนมาเจอกระทู้ของจขกท.
อ่านแล้วแอบรู้สึกนะว่า ทำไมเพื่อนเราถึงไม่นึกถึงใจคนอื่นบ้าง ซึ่งจขกท.ดูรักและแคร์เพื่อนมาก
สิ่งที่วนอยู่ในหัวตอนนี้คือ เราควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง เอาไงดี หนีเลยดีมั้ย-,- หรือทำตามใจเพื่อนให้งานจบๆไป
คิดไม่ตกเลยค่ะ จริงๆคืออยากจะหายไปเลยเพราะเหนื่อยใจมาก
ยาวมากต้องขออภัยด้วยนะคะ😂😂 คือ อึดอัดมา1คืนเต็มๆหลังจากเกิดเรื่อง ถ้าการเรียบเรียงคำทำให้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ
ขอเกริ่นสักหน่อย เราเป็นฝ่ายเพื่อนเจ้าสาว คบกันมาร่วมสุขทุกข์ตั้งแต่ม.ต้น ยาวจนวัยทำงาน เมื่อไม่นานมานี้เพื่อนคนนี้จะแต่งงาน เขาพูดกับเพื่อนเจ้าสาวทุกคนว่าอยากให้ใส่ตรีมเทา ผ้าแบบนี้ทรงแบบนี้ และเขาจะจ่ายทั้งหมดเตรียมให้เอง
ซึ่งเรายินดีมากตามใจได้หมด
พอใกล้วันงาน เราเลยถามว่าชุดที่เตรียมให้ใส่มีนัดต้องไปลองชุดมั้ย จะได้นัดเพื่อนๆไปพร้อมกันทีเดียว เพื่อนตอบมาแค่มีชุดให้แล้ว ไม่ต้องลองมาใส่วันงานหน้างานเลย ชุดใส่ไม่ยาก!
เราก็..อ่ะก็ได้! คนอื่นๆยังไม่แย้ง เราเลยไม่เซ้าซี้ แต่ก็เฟลเล็กๆที่เราไม่สามารถเตรียมตัวหรือได้ลองเลย แต่ก็ไม่อยากเซ้าซี้ให้เป็นปัญหากวนใจกันช่วงเตรียมงาน
วันถัดมาเราจะซื้อรองเท้าให้เข้ากับชุด เลยถามเพื่อนไปว่าชุดสีเทาตามที่เคยคุยไว้เมื่อ2เดือนก่อนใช่มั้ย (เพราะเพื่อนเรานิสัยชอบเปลี่ยนใจตลอดเวลา เราเลยต้องถามเพื่อความชัวว์เสมอ)
แต่คำตอบที่ได้คือ..บอกให้เพื่อนเจ้าสาวไปหาชุดกันเอง (เอ๊า!!)
เราก็อ่ะ ก็ได้(ครั้งที่2) ให้หาเองจ่ายเองก็ไม่ติด กะว่าจะซื้อเลยเอาแบบงานสวยๆให้เกียรติงานเพื่อนหน่อย
แต่ระหว่างที่ใกล้จะถึงวันแต่ง เพื่อนคนนี้ ก็ส่งรูปชุดราตรีต่างๆมาในไลน์กลุ่มเพื่อนเจ้าสาวทุกวัน ว่าอยากให้เพื่อนใส่แบบนี้ แบบที่ต้องการ
(อีกไม่กี่วันจะถึงวันงาน เขาซื้อกันครบจบไปนานแล้ววว เราก็เลยส่งรูปชุดที่ซื้อมาให้เพื่อนดูไปเลย ว่าซื้อครบทุกอย่างแล้วโอเคมั้ย)
เพื่อนตอบแค่ว่า: โอเค ใส่อะไรก็ได้ไม่ได้ซีเรียส (นี่ขนาดไม่ซีเรียส-_-)
วันถัดมา เพื่อนก็ยังส่งรูปชุดมาไม่หยุด แถมพูดเข้าประเด็นเลยว่า จะเปลี่ยนตรีมวันงาน อยากให้ทุกคนเปลี่ยนใส่สีมิ้น และทรงชุดอยากให้เหมือนกันเป๊ะทุกคน และเขาจะจัดการเอง
ซึ่ง!!!สีเดิมที่เพื่อนบอกให้ซื้อคือสีเทา
เราแย้งทันที แล้วชุดสีเทาที่บอกให้ซื้อมาทีแรกคือ? จนเอาไปให้ช่างเสื้อแก้เข้าทรงแล้วด้วย ผ่านมาตั้ง3อาทิตย์ พึ่งจะมาเปลี่ยนใจ
เหลือเวลาใกล้วันงาน อีกไม่ถึง1อาทิตย์ จะหาตรีมสีใหม่อีกหรอ?
แต่เจ้าสาวเพื่อนเราคนนี้กลับดูไม่สนใจในความตั้งใจของเพื่อนๆเลย
มีการบอกว่า เราจะใส่ชุดสีเทาที่ซื้อมารอบแรกก็ได้ ถ้าชุดนั้นทำให้มั่นใจ แต่จะไม่เหมือนคนอื่น เพราะฝ่ายเจ้าสาวใส่สีมิ้น
ซึ่งเพื่อนคนนี้เคยพูดไว้ ก่อนจะเตรียมงานว่า (คนในงานจะใส่อะไรก็ได้ ไม่มีตรีม ไม่อยากทำให้คนที่มางานลำบากใจ แค่มางานก็ดีใจมากแล้ว)
ในตอนนี้กลับมีแต่ความลำบากใจ และเหนื่อยใจ
ขอเล่าโมเม้นในไลน์กลุ่มต่างๆสำหรับงานแต่ง
ในกรุ้ปไลน์เพื่อนคนนี้ จะแยกเพื่อนเจ้าสาวเป็น2ไลน์กลุ่ม
คือกลุ่ม1เพื่อนสมัยม.ต้น กับกลุ่ม2 คือเพื่อนวัยทำงานของเขา
ไลน์กลุ่มเพื่อนวัยทำงานกลุ่มนั้น เราก็ถูกดึงไปอยู่ในนั้นด้วย เลยได้รู้ว่าเจ้าสาวไม่ได้บอกให้ทุกคนซื้อชุดเองแต่อย่างใด
ในขณะที่ไลน์กลุ่มเพื่อนสมัยเรียนตั้งแต่ม.ตัน กลับบอกให้เพื่อนซื้อ แถมยังโลเลเปลี่ยนไปมาจนนาทีสุดท้าย (ความเกรงใจคงหายไปตามกาลเวลา)
เราทั้งเซ็งทั้งนอยด์ เลยบ่นไปว่า ที่ทำไปทั้งหมด คือใส่ใจมากนะ
แต่เพื่อนกลับตอบแค่ว่า .. แล้วไม่ชอบชุดที่จะหาให้หรอ??
(เรานี่งงเลย เพื่อนไม่รู้สึกอะไร...)
ซึ่งถ้าเลือกสักอย่างตั้งแต่แรกที่คุย ก็จบไปนานแล้ว แต่นี้เปลี่ยนใจให้เพื่อนเจ้าสาวหากันเอง ลงทุนลงความตั้งใจเต็มที่ แต่เพื่อนกลับไม่เอา เราทั้งโมโหทั้งนอยด์จริงๆตอนนี้ เหมือนกับว่าทำไปไร้ค่า
เริ่มรู้สึกไม่อยากไป อยากทิ้งหน้าที่ต่างๆ ที่เขาขอให้เราช่วย
จนนอนไม่หลับมา1คืน เลยมาหาอ่านเรื่องราวในพันทิป จนมาเจอกระทู้ของจขกท.
อ่านแล้วแอบรู้สึกนะว่า ทำไมเพื่อนเราถึงไม่นึกถึงใจคนอื่นบ้าง ซึ่งจขกท.ดูรักและแคร์เพื่อนมาก
สิ่งที่วนอยู่ในหัวตอนนี้คือ เราควรจัดการกับความรู้สึกนี้ยังไง เอาไงดี หนีเลยดีมั้ย-,- หรือทำตามใจเพื่อนให้งานจบๆไป
คิดไม่ตกเลยค่ะ จริงๆคืออยากจะหายไปเลยเพราะเหนื่อยใจมาก
ยาวมากต้องขออภัยด้วยนะคะ😂😂 คือ อึดอัดมา1คืนเต็มๆหลังจากเกิดเรื่อง ถ้าการเรียบเรียงคำทำให้อ่านยากต้องขอโทษด้วยนะคะ
แสดงความคิดเห็น
ปัญหาเพื่อนเจ้าสาว
ขอเล่าก่อนว่า เราเคยอ่านกระทู้พันทิพมาหลายกระทู้ เรื่องการให้เพื่อนสนิทมาเป็นเพื่อนเจ้าสาว เราแอบกังวลไม่อยากให้มันเกิดขึ้นกับงานเรา เราก็เลยพยายามที่จะไม่ทำอะไรที่อาจจะทำให้เพื่อนรู้สึกแย่ (แต่ก็เกิดขึ้นจนได้ )
โดยเราถามเพื่อนทุกคนว่าสะดวกมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวไหม ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรนะ เราเข้าใจ ซึ่งทุกคนก็สะดวกที่จะเป็น
รวมถึงเราก็จะเช่าชุดเพื่อนเจ้าสาว และออกค่าเช่าชุดให้ด้วย โดยมีงบ 500 บาท
โดยก็มีธีมสีที่ให้เลือก 2 - 3 สีให้เพื่อนในกลุ่มเดียวกันโหวตเลือกด้วย
และแบบชุดเราก็ให้เขาเลือกว่าอยากใส่แบบสูททะมัดทะแมง หรือใส่ชุดราตรี สั้น ยาว ให้เพื่อนเจ้าสาวช่วยกันโหวตเหมือนกัน
รวมถึงเราก็จะเช่าห้องพักเพื่ออำนวยความสะดวกให้เพื่อนตอนมางานใกล้ๆ ที่จัดงานด้วย
แต่เรื่องแต่งหน้าเราให้แต่ละคนแต่งกันเอง หรืออาจจะหาช่างแต่งหน้าให้แต่ไม่ออกค่าใช้จ่ายตรงนี้ให้
ทุกอย่างดูเหมือนจะราบรื่น เพราะเราพยายามจะรักษาน้ำใจสุดๆ
แต่มีเพื่อนสนิทคนนึง เป็นเพื่อนกันมานานตั้งแต่สมัยเรียนและคุยกับเกือบทุกวันเป็นเวลาสิบกว่าปี
สิ่งที่รู้สึกแย่กับเพื่อนคนนี้คือ
เรื่องที่ 1 ชุดเพื่อนเจ้าสาว
ตอนที่ชวนเขาเป็นเพื่อนเจ้าสาว เขาถามว่า "ต้องใส่ชุดอะไรไปอ่ะ ใส่เสื้อยืดกางเกงยีนส์ได้ไหม"
ตอนนั้นเราก็ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น แต่ปกติด้วยความที่คุยกันบ่อย เวลาเขาพูดเล่นเราจะรู้ เขาจะหัวเราะตามหลัง แต่ตอนนั้นไม่ขำ และความรู้สึกของเราตอนนั้น คือ เห้ย งานแต่งไม่ใช่งานเลี้ยงวันเกิดหรือเปล่า มันต้องให้เกียรติสถานที่และญาติผู้ใหญ่เราหน่อยไหม มันไม่ควรพูดแบบนี้ไหมอ่ะ
แต่ก็พยายามคิดว่าเขาอาจจะพูดเล่นมั้ง เลยไม่ได้อะไร (แต่ก็แอบสงสัยว่าเขาอาจจะไม่พอใจอะไรอยู่หรือเปล่า แต่ก็ไม่ได้ถาม)
หลังจากนั้นเพื่อนคนนี้ก็มีปัญหาเรื่องชุดอยู่เรื่อยๆ โดยตอนที่เราให้เลือกชุด เพื่อนคนนี้ก็จะคอยขัด โวยวายว่า สีนี้มันไม่โอเค พอให้เลือกอีกสี ก็บอกสีนี้เพื่อนอีกคนใส่แล้วจะดำนะ (ทั้งที่เพื่อนอีกคนยังไม่ได้พูดอะไรเลย และยอมใส่ด้วย) และอื่นๆ อีกมากมาย บลาๆๆ
เรื่องที่ 2 เพื่อนคนเดิมนี้จู่ๆ พูดขึ้นมาว่า เพื่อนที่ทำงานของเขา ก็จะจัดงานแต่งงานไล่ๆ กับงานเรา ประมาณว่าถ้าจัดวันเดียวกันอาจจะต้องขอคิดดูก่อนว่าจะไปงานใคร บอกตรงๆ ว่าฟังแล้วจุกกับคำนี้ และคือแอบเคือง เพราะเราเป็นเพื่อนที่คบกับเขามาตั้งแต่สมัยเรียน แต่ งง ว่าทำไมต้องคิดว่าจะไปงานใคร? ก็ต้องไปงานเราที่เป็นเพื่อนสนิทหรือเปล่า สิบกว่าปีกับ สองสามปี ทำไมต้องลังเล (คือคิดในแง่ของตัวเอง ถ้าเป็นเพื่อนสนิทเราถ้ามีงานคนอื่นซ้อนยังไงก็ไปงานเพื่อนสนิทแน่ๆ ถึงจะเป็นงานของเพื่อนที่ทำงาน แต่ยังไงเพื่อนสนิทก็ต้องสำคัญกว่าหรือเปล่า?)
เรื่องที่ 3 เขาถามว่าเป็นเพื่อนเจ้าสาวต้องทำอะไรบ้าง ไม่รู้จะทำอะไรได้ จะเหนื่อยไหม (อันนี้จำคำพูดเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่ฟังแล้วเหมือนเขาไม่ค่อยอยากจะทำอะไร ) เราก็เลยบอกว่าไม่ต้องทำอะไรหรอก แค่ใส่ชุดสวยๆ มาถ่ายรูปเล่นกันก็พอแล้ว เพราะเราก็จ้าง organizer มาแล้ว ไม่อยากให้เหนื่อย เขาก็เลยไม่พูดอะไรต่อ
เรื่องที่ 4 ด้วยสถานการณ์โควิด เพื่อนคนนี้เลยมาบอกว่า เพื่อนที่ทำงานของเขาเลื่อนงานแต่งแล้วนะ งานเราไม่คิดจะเลื่อนบ้างหรอ?
ความรู้สึกพอได้ยิน คือ งานเพื่อนที่ทำงานของเขา กับงานของเราทำไมจะต้องเอามาเกี่ยวข้องกัน เขาเลื่อนแล้วเราก็ต้องเลื่อนด้วยหรอ? หรือคุณไม่อยากจะมาหรอ หรือยังไง งงมาก แถมยังเซ้าซี้ตลอด บ่อยๆ เหมือนว่าจะให้เราเลื่อนให้ได้ (แต่สรุปสุดท้ายเราก็ต้องเลื่อน แต่เป็นเพราะเจ้าบ่าวตกงานต้องเก็บเงินแต่งงานใหม่)
ปัญหาเรื่องงานแต่งก็มีประมาณนี้ แต่เนื่องจากเลื่อนงานแต่ง เลยยังไม่เจอปัญหาอื่นเพิ่ม
แต่หลังจากนั้น ก็มีเรื่องอื่นๆ กับเพื่อนคนนี้ ซึ่งเราร็สึกว่าเขาเปลี่ยนไป หลังจากปัญหาที่เราเชิญเป็นเพื่อนเจ้าสาว
เช่น ไปเที่ยวกันก็มีปัญหาเรื่องทำรถเขาเลอะ (เศษฟางจากรองเท้าติดขึ้นไปบนรถโดยไม่ตั้งใจ) เขาก็โกรธ โวยวายว่าเราทำรถเขาเลอะ
(ซึ่งเรามองว่าเรื่องมันเล็กน้อยหรือเปล่า เขาก็แค่เอารถไปล้างก็จบเรื่องแล้วทำไมต้องมาโกรธ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ เราก็ขับรถของเราไปรับเขาไปเที่ยวตลอด เราก็ไม่เคยโวยวายหรือมีปัญหาเรื่องรถเราเลย จะทำเปื้อนหรือกินอะไรบนรถเราก็ไม่ได้ซีเรียสเรื่องนี้ เลยไม่เข้าใจทำไมเขาต้องโกรธ)
และจุดสุดท้าย เหมือนเส้นความอดทนของเรามันขาด และเรารู้สึกว่าอยากจะออกห่างจากเพื่อนคนนี้
คือ คุยกันในกลุ่ม แล้วเขาพูดขึ้นมาว่า เขาชอบคนที่พูดน้อยๆ ไม่ชอบคนพูดเยอะๆ (คือเขาเป็นคนเอาความเห็นตัวเองเป็นใหญ่ และชอบเป็นผู้นำ)
ในตอนนั้น คือ ด้วยความที่สนิทระดับนึง เลยรู้ว่าถ้าพูดแบบนี้คือ คนที่อยู่ข้างเขาต้องอย่าเถียงเขา ต้องฟังเขา เหมือนจะข่มๆ คนอื่นไม่ให้พูดมาก
ซึ่งเราก็ไม่โอเคถ้ามีเพื่อนแบบนี้ คือ เพื่อนกันก็ต้องรับฟังความเห็นกัน ยินดีที่จะโต้เถียงกันอย่างมีเหตุมีผล หรือเปล่า และเราเองเป็นคนทีมีความคิดของตัวเองเหมือนกัน มีความเห็นอะไรเราก็จะพูดตรงๆ ไม่ใช่คนเงียบ
ตอนนี้เลยรู้สึกว่า เราไม่อยากคบกับเพื่อนคนนี้แล้ว ด้วยทัศนคติก็เริ่มไม่ตรงกันหลายๆ อย่าง แล้วยังมาเจอสถานการณ์เป็นเพื่อนเจ้าสาวที่โคตรวุ่นวาย และทำให้ปวดหัวมาก แทนที่จะทำให้งานเราง่ายขึ้น ต่างกับเพื่อนเจ้าสาวคนอื่นๆ สิ้นเชิง
(คนอื่นคือง่ายๆ อะไรก็ได้ เพราะเราอำนวยความสะดวกเขาหมด และหลายคนคือดีใจและยินดีอย่างจริงใจที่จะมาช่วยงานเรา)
ตอนนี้กลายเป็นว่าไม่อยากให้มีเพื่อนเจ้าสาวในงานแล้ว เพราะไม่อยากชวนเพื่อนคนนี้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาว และตอนนี้ก็เลิกคุยกับเพื่อนคนนี้ไปแล้วด้วย
ขอความเห็น
เราทำเกินไปไหมที่เลิกยุ่งกับเขาไป และเราทำอะไรผิดตรงไหนหรือเปล่า (หรือเขาอิจฉาเราหรือเปล่าที่ได้แต่งแต่เขาไม่ได้แต่ง) และจะดีไหมถ้ายกเลิกไม่ให้มีเพื่อนเจ้าสาวไปเลย (ปรึกษาที่บ้านก็บอกไม่ต้องมีหรอกเพราะเปลืองเงิน)
และสุดท้าย ในวันงานแต่งงานที่จะเกิดขึ้น เราควรจะชวนเขาอีกไหม (แต่ไม่ให้เป็นเพื่อนเจ้าสาว)
ปล. เพื่อนคนนี้มีแฟนและมีแพลนจะแต่งงานเหมือนกัน แต่แฟนเขาไม่มีเงินมาแต่ง เลยได้แค่ไปจดทะเบียนกัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ ได้ระบายแล้วก็รู้สึกโล่งขึ้นหน่อย