ไม่อยากไปบ้านแฟน คนที่บ้านแฟนไม่ชอบเรา เราควรทำยังไงดี

ท้าวความก่อนนะคะ

ไม่มีใครอยากไปในสถานที่ที่ไม่คุ้นเคย อยู่ท่ามกลางคนที่ไม่รู้จัก และต่างวัฒนธรรมเพียงลำพังหรอก มันทำตัวไม่ถูก ฟังเขาก็ไม่เข้าใจ ไม่ใช่ภาษานะที่เป็นอุปสรรค แต่การแสดงออก ท่าทาง การพูดและสายตาของคนเหล่านั้นต่างหากที่ทำให้เราไม่เข้าใจว่าเขาต้องการอะไร 
      โดยที่แฟนเรา (คนที่พาเราไป) ก็ไม่ำด้อยู่ด้วยกับเรา เราอึดอัด เราโดดเดียว เราทำตัวไม่ถูก เราอยากกลับบ้าน เราเลือกที่จะอยู่คนเดียว ก็กลายเป็นเราไม่เข้าสังคม เราคิดว่ามันคือวิธีที่ดีที่สุด แต่เปล่าเลย มันยิ่งสร้างแรงกดดัน ในขณะที่เราทนร้อน ทนหิวอยู่ข้างบนคนเดียว คนข้างล่างก็ตะโกนว่าเหน็บ ว่าแนมเราตลอด เราเลือกที่จะใส่หูฟัง ปิดการรับรู้ เปิดเฟซบุ้คก็มีคนที่นั่นตามมาโพสต์ว่าราอีก เรามีคำถามมากมายในหัว แต่เราพูดไม่ได้ ระบายในเฟซก็ไม่ได้ แฟนเราก็ไม่ได้อยู่รับฟังคำพูดเหล่านั้นกับเรา เขาไปสนุกสนานบ้านญาติเขา กินเหล้า ร้องเพลง คำถามคือ "เรามาที่นี่ทำไม" 
      ตอนก่อนไปเราตื่นเต้นมาก เราเคยไป 1 ครั้ง ตอนงานแต่งน้องชายเขา แต่นั่นมันแค่ระยะเวลาสั้น ๆ เราก็พอทนไหว เรารู้แล้วว่าเราไม่ชอบสังคมแบบนั้น แต่ที่เราไปรอบสอง เพราะโรงงานปิด แฟนเราอยากกลับบ้าน ไปหาอาชีพเสริมทำ เราคิดว่าคงไม่เป็นไร ไปทำงานแฟนเราคงไม่มีเวลากินเหล้า แล้วเราก็ต้องออกตลาด มันคงไม่กดดันมาก แต่เราก็คิดผิดอีก ไปทำงานกับน้องชาย น้องสะใภ้เขา เราสัมผัสได้ถึงความเห็นแก่ตัว และการเอาลัดเอาเปรียบของคน 2 คนนี้ เราเริ่มไม่โอเค 
      -ไปซื้ออุปกรณ์เตรียมขายของ ขับรถไปดูแหล่งที่จะขาย ไปเลาะหาทำเล รถแฟนเรา แฟนเราพาไปโดยไม่คิดค่าน้ำมัน ไม่คิดค่ารถใด ๆ เราก็โอเคคิดว่าเขาเป็นน้องก็ไม่ว่าอะไร
      -ตอนทำของแรก ๆ ทำกัน 4 คน 2 ครอบครัวกำไรหาร 2 ก็ยังปกติ หลังจากนั้น 3-4 วัน เราทำกัน 3 คน เรา แฟนเรา น้องชายแฟนเรา กำไรก็หารสองเท่าเดิม (ทั้งที่เราลง 2 แรง แต่เขาลงแค่แรงเดียว) โอเคน้องสะใภ้อ้างว่าต้องดูลูกเราก็ไม่ได้ว่าอะไร 
      -ขายไปได้ซักพักเริ่มมีปัญหาขายไม่ค่อยดี ขายไม่หมด ต้องขับรถไปมาหลายที่ เราเลยขอหารค่าน้ำมัน เพราะเราแบกครอบครัวเดียวไม่ไหว อีกอย่างน้องชายแฟนเราก็ชอบให้ควักทุนจ่ายไปก่อนบ้าง ยืมไปซื้อของกินบ้าง เราเริ่มคิดแล้วว่าไม่น่าจะโอเค แต่ยังเงียบ
      -ซักพักน้องชายแฟนเริ่มอยากจะขายแยก เราก็คิดว่าดี ทำใคร ทำมัน ขายใคร ขายมัน แต่เปล่าเลย ยังคงมีแค่เรา 2 คนที่ตื่นเช้าเพื่อขับรถเข้าไปเอาของที่อ.วาริน และแวะไปให้น้องชาย (โดยที่น้องชายไม่ช่วยหารค่าน้ำมันแล้ว เพราะเจาถือว่าแยกกันขายแล้ว) จากนั้นค่อยกลับมาทำของเตรียมไปตลาด เราเริ่มทะเลาะกับแฟนเราเพราะความเห็นแก่ตัวของน้องชายแฟนเรา
      ***จุดแตกหัก***
      -ตอนเช้าหลังจากที่เราไปเอาของที่อ.วาริน แล้วต้องเลยไปส่งน้องชายแฟนที่บ้านตามปกติ น้องชายแฟนเราทักมาเราให้ซื้อถุงมาให้หน่อย โอเคเราซื้อให้ พอกำลังจะกลับทักมาอีก ซื้อยางรัดมาให้ด้วย โอเคเราย้อนกลับไปซื้อให้ (อันนี้เขาจ่ายตังค์ปกติ) 
      -จนตอนเลยไปส่งของให้น้องเขาเอาโทรศัพท์มากด บวกยอดของที่ซื้อมามาครบตามจำนวนมั้ย เขาสั่ง 20 โล แต่ของที่เอามามี 19.3 โล เขาเลยมาแบ่งเอาที่ขาดจากแฟนเรา โดยที่ไม่ได้บวกเลยว่าของเราครบหรือเปล่า อันนี้เราโมโหมาก เราเห็นเหตุการณ์จากในรถเราเลยลงไปต่อว่าด้วยถ้อยคำรุนแรง เช่น ถ้าไม่ไว้ใจขนาดนี้ทพไมไม่ได้วยกัน , ทีหลังก็ไปเอาเองนะจะได้ไม่มีปัญหา , ถ้าจะฝากให้เอามาให้ต่อไปจะคิดค่ารถ ค่าน้ำมัน ค่ายก ค่าสึกหรอรถแล้ว
      -แฟนเราต่อว่าเราอย่างหนัก ว่าเราผิด เราทำให้น้องเขาหน้าเสีย ทั้งที่เราพยายามปกป้องเขา เรารู้ว่าเขารักน้องชายมาก และเสียสละเพื่อน้องชายเขามาโดยตลอด เราคิดว่าเขาไม่ควรได้รับสิ่งนี้เป็นการตอบแทน แล้วเราก็มาระบายที่บ้านเขามีญาติ ๆ เขานั่งอยู่ด้วย หลังจากนั้นเราก็บล็อคเฟซทั้งน้องชาย และน้องสะใภ้แฟนไปเลยเป็นการตัดความสัมพันธ์ เราคิดว่ามันจะจบ 
       -เราเล่นเฟซบุคแฟนเราปกติ เจอน้องสะใภ้แฟนเราโพสต์เหน็บเรา ว่า ใจดำ ใจแคบ ไม่เอาใคร  ไม่มีน้ำใจ เราเลยเลิกเข้าเล่นเฟสแฟนเราเป็นอันยุติการรับสารจากเขา เพราะตอนนั้นเราเพิ่งตรวจเจอว่ากำลังท้อง เราเลือกที่จะเก็บตัวเหมือนเดิม ไม่อยากคุยกับใคร เพราะเรารู้ว่าเราเป็นคนต่างถิ่นไปทำแบบนั้นคงไม่มีใครชอบ 
         เราก็ไม่ใช่คนดี เรามีนิสัยเสียตรงที่ขี้โวยวาย ใจร้อน เราจะทะเลาะกับแฟนตลอดเวลาเขากินเหล้า จนวันนึงเราไม่ไหวแล้ว เราหนีจากบ้านแฟนที่ต่างจังหวัดกลับมากรุงเทพฯ โดยไม่บอกไม่ลาใครซักคน เหมือนเดิม แฟนเราโกรธเรามากที่เราทำแบบนั้น เราคิดว่าถ้าเราไม่ต้องไปอยู่ท่ามกลางบรรยากาศที่เราไม่ชอบ เราคงจะรู้สึกดีกว่าดีกว่านี้ 
         แฟนเราตามหาเรา โทรหา แต่เราไม่รับ เราไปนอนที่สถานีรถไฟเพื่อรอกลับรถเที่ยวแรก แล้วเราก็โอนเงินไปให้เจาเป็นค่าน้ำมันกลับกรุงเทพฯ แต่เขาเอาไปกินเหล้าจนหมด พอเราโทรหาเราเลยรู้ว่าที่บ้านเขาโกรธเรามาก แม่เขาตะโกนใส่โทรศัพท์เป็นภาษา

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่