สวัสดีคะ.. คือวันนี้มีปัญหาที่คาราคาซังมานานหลายปี อยากจะมาขอ คคห. จากเพื่อนๆชาวพันทิปคะ ขอเริ่มเล่าเลยนะคะ
...ในอดีตเราประสบปัญหาชีวิตที่ล้มเหลวมากมาย จนมีเหตุให้ต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่บ้านที่ ตจว.ในตอนที่อายุเข้าเลขสี่นิดๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงประมาณ3-4ปีที่แล้ว เราเคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านตรงข้ามกัน เรื่องเกี่ยวกับหมาแมว ประมาณว่าเพื่อนบ้านจะนิยมเลี้ยงเฉพาะหมาแมวพันธุ์ราคาแพง และ รังเกียจหมาแมวไทย
จนกระทั่งวันหนึ่ง หลานของพวกเขา(ในซอยที่อยู่ ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติของเพื่อนบ้าน)ได้เก็บลูกหมาที่ถูกทิ้งในทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมาเลี้ยง เพราะเห็นว่ามันน่ารัก แต่พอลูกหมาเริ่มโตขึ้น โรคผิวหนังก็เริ่มถามหา เพราะเพื่อนบ้านเอาแค่เศษอาหารให้ลูกหมากิน พอให้นานๆเข้าขี้เรื้อนก็ถามหา หมาตัวนั้นตามตัวมีแต่ไรขี้เรื้อน และ เห็บหมัด กลางคืนร้องโหยหวนวิ่งไปมาในซอย จนเราเกิดความสงสาร ได้หาวิธีการรักษาจนหมาตัวนั้นเริ่มดีขึ้น อาจจะไม่หาย100%แต่ก็ไม่ทรมานแบบเก่า
พอหมาเริ่มดีขึ้นเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยสนใจใคร โดยเฉพาะคนที่ไม่มีผลประโยชน์ให้
เพราะไม่ว่าหมาจะมีสภาพยังไง พวกเขาก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับอาการของหมาตัวนั้นเลย เพื่อนบ้านยังผลักภาระหมาตัวนี้ให้เรา ด้วยการขอให้เราหาบ้านให้หมาตัวนี้ ซึ่งเราก็ได้พยามหาแล้วแต่ไม่มีใครสนใจเพราะหมาโตแล้ว และ สีดำ แถมเป็นเรื้อน เราเลยทำได้แค่แวะไปให้ข้าวให้ยา
พอเราหาบ้านให้หมาไม่ได้ จึงเป็นเหตุทำให้พื่อนบ้านไม่ค่อยพอใจเรา เพราะลึกๆพวกเขาอยากไล่หมาตัวนี้ออกไปไกลๆจากบ้าน ไม่ต้องการเลี้ยง เวลามันเดินเข้าบริเวณบ้านก็ไล่ตีมัน หมาต้องทนอยูู่่แบบกล้ำกลืนไปวันๆ จนมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมาอีก คือ เดิมทีมีแมวจร 1 ตัวได้มาอาศัยในบ้านของเพื่อนบ้าน
ช่วงแรกๆ เพื่อนบ้านก็okดี เพราะแมวตัวนี้ช่วยทำให้บ้านเขาไร้หนู แต่พอแมวตัวนั้นท้อง เพื่อนบ้านก็เกิดอารมณ์อยากกำจัดทั้งแม่ทั้งลูกซ่ะงั้น จะเอาพวกมันไปทิ้ง ไอ้เราก็ขี้สงสาร ก็เลยอาสาจะหาบ้านให้ครอบครัวแมวจร แต่ด้วยความที่ตัวแม่ถูกตีบ่อยจึงจับยาก ใช้กรงดักก็ยังไม่สำเร็จ คงทำได้แค่เอาตัวลูกแมว2ตัวมาก่อน
แต่ด้วยความที่คนในครอบครัวของ จขกท.ไม่ชอบแมว แพ้ขนแมว รังเกียจแมว การเจรจาขอเอาแมว2ตัวมาไว้ที่บ้านเพื่อหาบ้านจึงยากพอสมควร เจรจาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เพื่อนบ้านจึงใช้วิธีบีบ จขกท. แทน ด้วยการใช้แมวโหดที่ลูกสาวของเพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ที่บ้านของลูกสาวเขาที่ ระยะทางห่างกัน 100 เมตร เอามาปล่อยไว้ในบ้านของเพื่อนบ้าน
ทีนี้ครอบครัวแมวจร ตัวลูกที่ยังเล็กถูกไล่กัดจนมีแผล และ กรี๊ดร้องจนบาดหัวใจของเรา ตัวแม่แมวก็สู้แมวโหดไม่ได้ แพ้ย่อยยับ ไม่สามารถปกป้องลูกแมวได้ สภาพจึงเละทั้งแม่ทั้งลูก ตอนนั้นเราทำได้แค่รักษาลูกเพราะจับแม่ไม่ได้ แต่ระหว่างนั้นเราก็ไม่ได้นิ่งเฉยเรื่องหาบ้านให้ครอบครัวแมวจร เราได้ประกาศหาบ้านเรื่อยๆ และ ยังคงพยายามหาโอกาสขอนุญาติที่บ้านเพื่อจะเอาลูกแมวมาพักพิงที่บ้านชั่วคราว
แต่อะไรๆก็เริ่มหนักขึ้นๆ เพราะลูกแมวตัวเมีย(4เดือน)เริ่มโตอาจจะท้องถ้าช้ากว่านี้ ตัวแม่ก็เหมือนจะท้องอีกรอบด้วย เพื่อนบ้านจึงยื่นคำขาดกับเราอีกครั้งว่า ถ้าภายใน1อาทิตย์ จขกท. ยังไม่มาเอาครอบครัวแมวจรออกไป จะจับใส่กระสอบเอาไปทิ้งทั้งแม่ทั้งลูก
พอได้ยินมันทำให้ จขกท.ที่ยังเจรจากับคนในบ้านไม่สำเร็จ ยอมเสี่ยงมีปัญหากับคนในครอบครัว หาทางปรึกษากับพี่รู้จัก พี่ที่รู้จักบอกเพื่อนเขาที่มีบ้านสวนจะรับทั้งแม่ทั้งลูกเอง แต่ให้เราหาทางช่วยลูกแมวกับแม่มาไว้ด้วยก่อน ซึ่งมีทางเดียวคือ ต้องเอามาไว้ที่บ้านของเราเท่านั้น และ ต้องใช้กรง เพราะตอนนั้นที่ที่เรานอนคือห้องโถ่งโล่งๆของตัวบ้าน แถมบ้านเรามีหมา2ตัว นอนในบ้าน1ตัว นอกบ้าน1ตัว
และ หมา2ตัวนี้ชอบกัดแมวจรที่เข้ามาหากินในบริเวณบ้านตายด้วย
ณ ตอนนั้นช่วงที่กำลังคิดอะไรไม่ออก ก็ได้มีคนที่อ่านโพสหาบ้าน เสนอจะช่วยเรื่องกรงขังแมวระหว่างพักบ้านเรา โดยจะส่งกรงขนาดใหญ่มาให้ และ จะช่วยพูดกับแม่ จขกท.ว่าเขาจะรับลูกแมวพวกนี้เอง แต่ขอฝากชั่วคราวก่อน ที่บ้านจึงอนุญาติ ให้ฝากไว้ได้ 1 อาทิตย์ พอครบกำหนดก็มีเหตุเอาแมวไปส่งพี่ที่รู้จักไม่ได้ หารถไปส่งไม่ได้ เนื่องจากเวลารถรับส่งนัดส่งที่ปลายทางเป็นเวลาที่พี่เขาไม่สะดวกมารับ จึงต้องเปลี่ยนแผน หาบ้านใหม่ มีคนสนใจจะรับลูกแมวทั้ง2แต่ขอให้เราพาไปทำหมันก่อน เราจึงทำหมันลูกแมวทั้ง2ส่งบ้านใหม่เรียบร้อย อยู่บ้านใหม่ได้2แมว ลูกแมวหลุดหายออกจากกรง และ มีเหตุไม่ดีอีกมากมาย
ส่วนแม่แมวกับลูกแมวคอกใหม่ ถูกเนรเทศออกจากบ้านเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว โดยไปอาศัยอยู่ใต้หลังคาของข้างๆบ้านเพื่อนบ้านแทน เรายังคงเอาอาหารไปให้ข้างกำแพงเรื่อยไป ตลอดเวลาที่ไปให้เราโดนเพื่อนบ้านพูดจา-ดันสารพัด เราก็ทนเพราะคิดว่าถ้าโต้ตอบแมวจะลำบาก แต่แล้วเพื่อนบ้านก็กำจัดแม่แมวกับลูกๆคอกใหม่จนสำเร็จ
ส่วนเราก็มีเหตุให้ต้องออกจากบ้านเพราะแมวที่เอามาหาบ้านอีกเคสแบบกระทันหัน และ มีเหตุให้ต้องกลับมาอยู่บ้านอีกครั้ง ครั้งนี้คนที่บ้านเป็นคนขอให้กลับ เพราะเห็นเราเจอพิษโควิด
พอกลับมา เพื่อนบ้านตรงข้ามที่เคยมีปัญหาเรื่องหมาแมว เวลาเจอเราชอบกระแทกอะไรดังใส่เรา จอดรถขว้างทาง-เข้าออก ประตูบ้านเรา และ ทิ้งขยะทั้งหน้าบ้านและข้างกำแพงบ้านเรา จนเราแทบจะทนไม่ไหว ต้องพูดลอยๆตอนกวาดขยะหน้าบ้านว่า
ไม่มีใครสั่งใครสอนหรือไงว่า ขยะต้องทิ้งลงถัง ไม่ใช่ทิ้งข้างกำแพงหรือหน้าบ้านคนอื่น เพื่อนบ้านก็จะพากันคุยกันดังๆลอยๆ ประมาณว่า
ไม่ต้องไปกลัวหรือสนใจคนที่ไม่มีอะไรแบบเราหรอก อายุก็เยอะ ลูกหลานก็ไม่มี ไม่มีจะแดรกยังทำตัวใจบุญให้ข้าวหมาแมว หลังจากนั้นก็ยังคงทิ้งขยะบริเวณข้างกำแพงและหน้าบ้านเราเหมือนเดิมคะ และ ชอบพูดจาโอ้อวดว่า พวกเขามีเงิน ลูกหลานมีแต่คนเรียนสูงและทำงานดีๆ มีอนาคตไม่จำเป็นต้องกลัวคนที่กระจอกๆแบบเรา
คือ เอาจริงๆเรื่องมันยาวยืดเยื้อกว่านี้มาก แต่เราขอเล่าเพียงเท่านี้คะ เราเลยอยากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ใครผิด เพราะอะไรเพื่อนบ้านถึงไม่ต่างคนต่างอยู่คะ
เรา หรือ เพื่อนบ้านที่ผิด
...ในอดีตเราประสบปัญหาชีวิตที่ล้มเหลวมากมาย จนมีเหตุให้ต้องกลับมาใช้ชีวิตอยู่บ้านที่ ตจว.ในตอนที่อายุเข้าเลขสี่นิดๆ
ซึ่งก่อนหน้านี้ช่วงประมาณ3-4ปีที่แล้ว เราเคยมีปัญหากับเพื่อนบ้านตรงข้ามกัน เรื่องเกี่ยวกับหมาแมว ประมาณว่าเพื่อนบ้านจะนิยมเลี้ยงเฉพาะหมาแมวพันธุ์ราคาแพง และ รังเกียจหมาแมวไทย
จนกระทั่งวันหนึ่ง หลานของพวกเขา(ในซอยที่อยู่ ส่วนใหญ่เป็นเครือญาติของเพื่อนบ้าน)ได้เก็บลูกหมาที่ถูกทิ้งในทุ่งนาท้ายหมู่บ้านมาเลี้ยง เพราะเห็นว่ามันน่ารัก แต่พอลูกหมาเริ่มโตขึ้น โรคผิวหนังก็เริ่มถามหา เพราะเพื่อนบ้านเอาแค่เศษอาหารให้ลูกหมากิน พอให้นานๆเข้าขี้เรื้อนก็ถามหา หมาตัวนั้นตามตัวมีแต่ไรขี้เรื้อน และ เห็บหมัด กลางคืนร้องโหยหวนวิ่งไปมาในซอย จนเราเกิดความสงสาร ได้หาวิธีการรักษาจนหมาตัวนั้นเริ่มดีขึ้น อาจจะไม่หาย100%แต่ก็ไม่ทรมานแบบเก่า
พอหมาเริ่มดีขึ้นเพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยสนใจใคร โดยเฉพาะคนที่ไม่มีผลประโยชน์ให้
เพราะไม่ว่าหมาจะมีสภาพยังไง พวกเขาก็ไม่ได้ยินดียินร้ายกับอาการของหมาตัวนั้นเลย เพื่อนบ้านยังผลักภาระหมาตัวนี้ให้เรา ด้วยการขอให้เราหาบ้านให้หมาตัวนี้ ซึ่งเราก็ได้พยามหาแล้วแต่ไม่มีใครสนใจเพราะหมาโตแล้ว และ สีดำ แถมเป็นเรื้อน เราเลยทำได้แค่แวะไปให้ข้าวให้ยา
พอเราหาบ้านให้หมาไม่ได้ จึงเป็นเหตุทำให้พื่อนบ้านไม่ค่อยพอใจเรา เพราะลึกๆพวกเขาอยากไล่หมาตัวนี้ออกไปไกลๆจากบ้าน ไม่ต้องการเลี้ยง เวลามันเดินเข้าบริเวณบ้านก็ไล่ตีมัน หมาต้องทนอยูู่่แบบกล้ำกลืนไปวันๆ จนมีปัญหาใหม่เกิดขึ้นมาอีก คือ เดิมทีมีแมวจร 1 ตัวได้มาอาศัยในบ้านของเพื่อนบ้าน
ช่วงแรกๆ เพื่อนบ้านก็okดี เพราะแมวตัวนี้ช่วยทำให้บ้านเขาไร้หนู แต่พอแมวตัวนั้นท้อง เพื่อนบ้านก็เกิดอารมณ์อยากกำจัดทั้งแม่ทั้งลูกซ่ะงั้น จะเอาพวกมันไปทิ้ง ไอ้เราก็ขี้สงสาร ก็เลยอาสาจะหาบ้านให้ครอบครัวแมวจร แต่ด้วยความที่ตัวแม่ถูกตีบ่อยจึงจับยาก ใช้กรงดักก็ยังไม่สำเร็จ คงทำได้แค่เอาตัวลูกแมว2ตัวมาก่อน
แต่ด้วยความที่คนในครอบครัวของ จขกท.ไม่ชอบแมว แพ้ขนแมว รังเกียจแมว การเจรจาขอเอาแมว2ตัวมาไว้ที่บ้านเพื่อหาบ้านจึงยากพอสมควร เจรจาหลายครั้งก็ไม่สำเร็จ เพื่อนบ้านจึงใช้วิธีบีบ จขกท. แทน ด้วยการใช้แมวโหดที่ลูกสาวของเพื่อนบ้านเลี้ยงไว้ที่บ้านของลูกสาวเขาที่ ระยะทางห่างกัน 100 เมตร เอามาปล่อยไว้ในบ้านของเพื่อนบ้าน
ทีนี้ครอบครัวแมวจร ตัวลูกที่ยังเล็กถูกไล่กัดจนมีแผล และ กรี๊ดร้องจนบาดหัวใจของเรา ตัวแม่แมวก็สู้แมวโหดไม่ได้ แพ้ย่อยยับ ไม่สามารถปกป้องลูกแมวได้ สภาพจึงเละทั้งแม่ทั้งลูก ตอนนั้นเราทำได้แค่รักษาลูกเพราะจับแม่ไม่ได้ แต่ระหว่างนั้นเราก็ไม่ได้นิ่งเฉยเรื่องหาบ้านให้ครอบครัวแมวจร เราได้ประกาศหาบ้านเรื่อยๆ และ ยังคงพยายามหาโอกาสขอนุญาติที่บ้านเพื่อจะเอาลูกแมวมาพักพิงที่บ้านชั่วคราว
แต่อะไรๆก็เริ่มหนักขึ้นๆ เพราะลูกแมวตัวเมีย(4เดือน)เริ่มโตอาจจะท้องถ้าช้ากว่านี้ ตัวแม่ก็เหมือนจะท้องอีกรอบด้วย เพื่อนบ้านจึงยื่นคำขาดกับเราอีกครั้งว่า ถ้าภายใน1อาทิตย์ จขกท. ยังไม่มาเอาครอบครัวแมวจรออกไป จะจับใส่กระสอบเอาไปทิ้งทั้งแม่ทั้งลูก
พอได้ยินมันทำให้ จขกท.ที่ยังเจรจากับคนในบ้านไม่สำเร็จ ยอมเสี่ยงมีปัญหากับคนในครอบครัว หาทางปรึกษากับพี่รู้จัก พี่ที่รู้จักบอกเพื่อนเขาที่มีบ้านสวนจะรับทั้งแม่ทั้งลูกเอง แต่ให้เราหาทางช่วยลูกแมวกับแม่มาไว้ด้วยก่อน ซึ่งมีทางเดียวคือ ต้องเอามาไว้ที่บ้านของเราเท่านั้น และ ต้องใช้กรง เพราะตอนนั้นที่ที่เรานอนคือห้องโถ่งโล่งๆของตัวบ้าน แถมบ้านเรามีหมา2ตัว นอนในบ้าน1ตัว นอกบ้าน1ตัว และ หมา2ตัวนี้ชอบกัดแมวจรที่เข้ามาหากินในบริเวณบ้านตายด้วย
ณ ตอนนั้นช่วงที่กำลังคิดอะไรไม่ออก ก็ได้มีคนที่อ่านโพสหาบ้าน เสนอจะช่วยเรื่องกรงขังแมวระหว่างพักบ้านเรา โดยจะส่งกรงขนาดใหญ่มาให้ และ จะช่วยพูดกับแม่ จขกท.ว่าเขาจะรับลูกแมวพวกนี้เอง แต่ขอฝากชั่วคราวก่อน ที่บ้านจึงอนุญาติ ให้ฝากไว้ได้ 1 อาทิตย์ พอครบกำหนดก็มีเหตุเอาแมวไปส่งพี่ที่รู้จักไม่ได้ หารถไปส่งไม่ได้ เนื่องจากเวลารถรับส่งนัดส่งที่ปลายทางเป็นเวลาที่พี่เขาไม่สะดวกมารับ จึงต้องเปลี่ยนแผน หาบ้านใหม่ มีคนสนใจจะรับลูกแมวทั้ง2แต่ขอให้เราพาไปทำหมันก่อน เราจึงทำหมันลูกแมวทั้ง2ส่งบ้านใหม่เรียบร้อย อยู่บ้านใหม่ได้2แมว ลูกแมวหลุดหายออกจากกรง และ มีเหตุไม่ดีอีกมากมาย
ส่วนแม่แมวกับลูกแมวคอกใหม่ ถูกเนรเทศออกจากบ้านเพื่อนบ้านเรียบร้อยแล้ว โดยไปอาศัยอยู่ใต้หลังคาของข้างๆบ้านเพื่อนบ้านแทน เรายังคงเอาอาหารไปให้ข้างกำแพงเรื่อยไป ตลอดเวลาที่ไปให้เราโดนเพื่อนบ้านพูดจา-ดันสารพัด เราก็ทนเพราะคิดว่าถ้าโต้ตอบแมวจะลำบาก แต่แล้วเพื่อนบ้านก็กำจัดแม่แมวกับลูกๆคอกใหม่จนสำเร็จ
ส่วนเราก็มีเหตุให้ต้องออกจากบ้านเพราะแมวที่เอามาหาบ้านอีกเคสแบบกระทันหัน และ มีเหตุให้ต้องกลับมาอยู่บ้านอีกครั้ง ครั้งนี้คนที่บ้านเป็นคนขอให้กลับ เพราะเห็นเราเจอพิษโควิด
พอกลับมา เพื่อนบ้านตรงข้ามที่เคยมีปัญหาเรื่องหมาแมว เวลาเจอเราชอบกระแทกอะไรดังใส่เรา จอดรถขว้างทาง-เข้าออก ประตูบ้านเรา และ ทิ้งขยะทั้งหน้าบ้านและข้างกำแพงบ้านเรา จนเราแทบจะทนไม่ไหว ต้องพูดลอยๆตอนกวาดขยะหน้าบ้านว่า ไม่มีใครสั่งใครสอนหรือไงว่า ขยะต้องทิ้งลงถัง ไม่ใช่ทิ้งข้างกำแพงหรือหน้าบ้านคนอื่น เพื่อนบ้านก็จะพากันคุยกันดังๆลอยๆ ประมาณว่า
ไม่ต้องไปกลัวหรือสนใจคนที่ไม่มีอะไรแบบเราหรอก อายุก็เยอะ ลูกหลานก็ไม่มี ไม่มีจะแดรกยังทำตัวใจบุญให้ข้าวหมาแมว หลังจากนั้นก็ยังคงทิ้งขยะบริเวณข้างกำแพงและหน้าบ้านเราเหมือนเดิมคะ และ ชอบพูดจาโอ้อวดว่า พวกเขามีเงิน ลูกหลานมีแต่คนเรียนสูงและทำงานดีๆ มีอนาคตไม่จำเป็นต้องกลัวคนที่กระจอกๆแบบเรา
คือ เอาจริงๆเรื่องมันยาวยืดเยื้อกว่านี้มาก แต่เราขอเล่าเพียงเท่านี้คะ เราเลยอยากรู้ว่าเรื่องทั้งหมดนี้ใครผิด เพราะอะไรเพื่อนบ้านถึงไม่ต่างคนต่างอยู่คะ