หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว Moridon ร้านอาหารญี่ปุ่น-อิซากายะราคากันเอง ปรุงโดยเชฟประสบการณ์จากออสเตรเลีย อยู่ในซอยสาทร 11
กระทู้รีวิว
อาหารฟิวชั่น
อาหารคาว
อาหารญี่ปุ่น
อาหารฝรั่ง
อาหารจานเดียว
เลื่อนหน้าฟีดบนมือถือไปเรื่อยๆก็พบกับโฆษณาร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้านึงที่ดูน่าสนใจก็คือ Moridon X Izakaya สิ่งที่ดึงดูดนั่นก็คือเชฟที่ร้านมีประสบการณ์จาก Fine Dinning จากประเทศออสเตรเลีย โดยซอสภายในร้านมีการปรุงใหม่ด้วยตัวเองทั้งหมดและใช้เทคนิคการปรุงอาหารชั้นสูงมาผสมผสานให้เข้ากับอาหารญี่ปุ่นกลายเป็นรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของทางร้านมีแนวคิดว่า "อาหารญี่ปุ่นที่ไม่ใช่อาหารญี่ปุ่น" ที่สำคัญก็คือเขาขายราคาถูกดูจากรูปรีวิวเก่าๆทางร้านก็ใช้ของคุณภาพดีคะแนนทุกสำนักเฉลี่ยอยู่ที่ 3.8-4.4 เต็ม 5 ดาว เลยจัดการแท็กชื่อชวนคุณแฟนนัดกันมาทานที่ร้านนี้อยู่ภายในซอยสาทร 11 หรือซอยจันทร์ 18/7 วิธีการเดินทางหากมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวก็สามารถจอดรถบนถนนหน้าร้านได้ตลอดยกเว้นเวลา 15.00-19.00 น. (เป็นเวลาห้ามจอด) หรือจอดรถได้ที่ร้านเวกัสสนุ๊กเกอร์คลับใกล้ๆกันคิดค่าบริการชั่วโมงละ 30 บาท หากมาด้วยบริการขนส่งสาธารณะลง BTS สถานีช่องนนทรีหรือสถานี BTS ที่กำลังจะเปิดในวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 64 นี้ชื่อว่า "สถานีเซ็นหลุยส์" ถึงแล้วก็ลงทางออกไปซอยสาทร 11 จากนั้นให้เรียกรถเข้าไปที่ร้านตามจุดปักหมุดใน Google Maps หรือนั่งรถสองแถวจากปากซอยมาลงที่ซอยจันทร์ 18/7 แยก 20 เพียงคนละ 8 บาทเท่านั้น ด้านหน้าร้านนั้นสังเกตได้ง่ายๆเพราะเป็นตึกแถวจำลองให้เหมือนกับบ้านสไตล์ญี่ปุ่นที่ห้อยประดับด้วยโคมไฟสีแดง ป้ายชื่อร้านก็ขนาดใหญ่ทำให้มองเห็นข้าวหน้ากุ้งทอดในชามสีแดงซึ่งเป็นสัญลักษณ์ได้ตั้งแต่ระยะไกล ข้างๆประตูทางเข้าร้านแปะเมนูเด็ดเอาไว้แต่ที่น่าสนใจก็คือ Omakase แค่ 200 บาท นั่นก็คือจ่ายเงินแล้วลุ้นเอาว่าจะได้เมนูอะไรออกมาทาน ซึ่งเราสอบถามทางร้านแล้วว่าเป็นเมนูตามใจเชฟที่เอาไว้ครีเอทเมนูใหม่ให้ลูกค้าได้สนุกกัน โดยใช้เทคนิคการปรุงพิเศษมาเป็นจานใหม่ที่ไม่มีขายในเล่มเมนูของที่ร้าน ใครอยากเสี่ยงดวงก็ลองดูครับแต่วันนี้เราไม่เอาดีกว่าเพราะอยากทานเมนูที่ List ตามรีวิวคนอื่นมา จะอร่อยมั้ยไปชมกันครับ
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศก็คือห้องแถวขนาด 1 ตึก ถึงแม้จะดูเล็กๆแต่ภายในก็ไม่ได้อึดอัด แบ่งโซนเป็นห้องกระจกด้านหน้าทำเป็นครัวที่เชฟหมูเป็นคนทำเองทุกจานไม่มีผู้ช่วย ถัดมาด้านหลังเป็นแคชเชียร์และตู้เก็บวัตถุดิบที่แยกกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่เย็นแบบร้าน Izakaya ส่วนที่นั่งภายในร้านมีให้บริการอยู่ 7 โต๊ะรองรับได้เพียง 28-30 คน เฟอร์นิเจอร์ที่ร้านใช้โต๊ะโครงเหล็กไม้สีอ่อนพร้อมกับเปิดไฟส่องสว่างทำให้ร้านดูกว้างมากยิ่งขึ้น มาถึงผู้ช่วยของเชฟก็ยกเล่มเมนูอาหารมาวางไว้ให้เราสั่งที่โต๊ะ จะมีอะไรให้ทานบ้างนั้นเรามาเปิดดูไปด้วยกันเลยครับผม
ก่อนที่เราจะสั่งอาหารร้านนี้ทางร้านได้ย้ำความเป็นตัวเองโดยการพิมพ์เตือนเอาหน้าเล่มเมนูว่า Japanese Is Not Japanese นั่นหมายความว่าถึงแม้ชื่อ-หน้าตาอาหารจะเหมือนญี่ปุ่นแต่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นนะจ๊ะ เปิดมาหน้าแรกก็พบกับหมวด Snacks หรืออาหารทานเล่นทั้งปีกไก่ทอดราดซอสราคา 150-169 บาท มันฝรั่งทอดที่รูปแบบแตกต่างกันราคา 89-169 บาท นอกนั้นเป็นอาหารทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง เกี๊ยวซ่า/ไก่ทอด/เทมปุระ/ของเสียบไม้ทอด/ไข่หวานและพิซซ่าญี่ปุ่นราคา 59-250 บาท หมวดต่อมาคือ Katsu หรือเนื้อสัตว์ชุบเกล็ดขนมปังทอดราคา 139-180 บาท เลือกทานกับซอสที่เชฟปรุงขึ้นเองได้ 2 จากทั้งหมด 12 รายการ หากต้องการเพิ่มคิดราคาซอสละ 20 บาท เพิ่มซุปมิโสะ+สลัด+กิมจิเป็นชุดราคา 49 บาท ถ้ารวมข้าวราคา 65 บาท เพิ่มชาเขียวอีกเพียงแก้วละ 10 บาท ราคาโดยรวมถือว่าถูกกว่าร้านบนห้างแต่เพิ่มความสนุกด้วยการทานกับซอสที่หลากหลายไม่เหมือนใครดีครับ
หมวดต่อมาเป็นเมนู A La Carte สั่งเป็นกับข้าวทั้งทูน่าทาทากิ/สเต็กปลา/สเต็กเนื้อ/ปลาหมึกย่าง/เต้าหู้ย่าง/หมูผัดกับซอสต่างๆราคา 140-380 บาท เพิ่ม Set Menu ได้แบบเดียวกับหมวด Katsu หน้าเมื่อกี้ ส่วนใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบจานเดียวจบก็ต้องมาสั่งที่หมวด Donburi ที่มีให้เลือกทั้งหมด 23 เมนู โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายตั้งแต่เห็ด/ผักรวม/ไก่ทอด/เนื้อผัดซอส/หมูผัดซอส/ปลาย่างไปจนถึงข้าวหน้าปลาดิบสุดหรูในราคาเริ่มต้นที่ 79-350 บาท ตามระดับของวัตถุดิบที่สั่งในแต่ละจานแต่ก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆที่ขายเมนูเดียวกันอยู่ดี
หน้าต่อมาคือ Kare หรือเมนูแกงกระหรี่อันขึ้นชื่อของทางร้านเรื่องความเข้มข้นราคาเริ่มต้นที่ 109-309 บาท โดยมีท๊อบปิ้งให้เลือกมากกว่า 15 รายการ ยิ่งใส่มากราคายิ่งบวกเข้าไปเรื่อยๆเริ่มที่ 40-250 บาท หน้าต่อไปเป็น Hot Udon ราคาเริ่มต้นที่ 149-329 บาท มีท๊อบปิ้งให้เลือก 9 รายการราคาเริ่มที่ 35-180 บาท แล้วต่อกันด้วยหมวด Cold Soba ราคาเริ่มต้นที่ 120-300 บาท นาเบะหม้อร้อนราคา 179-189 บาท เมนูเส้นแบบผัดแห้งราคา 179-199 บาท สุดท้ายคือสลัดมีให้เลือกมากถึง 9 เมนูราคา 75-159 บาท ตามของคุณภาพวัตถุดิบที่ใส่เป็นท๊อบปิ้ง และอีกอย่างคือ Omakase ตามใจเชฟ 200 บาท คุณจะได้เมนูใหม่ที่ไม่มีในเล่มนี้เหมาะกับคนชอบท้าทายครับ
นอกจากนี้ยังมี Side Dish เป็นของทานเล่นไว้ทานคู่กับอาหารจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 20-50 บาท ถ้ามาร้านนั่งดื่มแบบนี้ ก็ต้องคู่กับเครื่องดื่มดีๆที่ร้านนี้ก็มีให้เลือกไม่มากนักแต่คัดมาเฉพาะตัวเด็ด (ไม่ได้ถ่ายรูปแนบมาด้วย) ส่วนน้ำดื่มทั่วไปก็มีทั้งน้ำแร่/น้ำอัดลม/ชามะนาว/ชาเขียว(รีฟีล)/น้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสนมเปรี้ยวราคา 20-190 บาท ตอนนี้เราก็ทำการสั่งอาหารไปเรียบร้อยโดยทุกจานถูกปรุงใหม่ๆโดยเชฟหมูที่เป็นเจ้าของร้านนี้ หากใครอยากรู้ว่าคนนี้เขามีความพิเศษอย่างไรแนะนำว่าไปดูที่หน้า Facebook ของที่ร้านเลยครับบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน
เมนูจานแรกมาเสิร์ฟเป็น Signature ของทางร้านคือ "มิลเฟยคัตสึ" ราคา 180 บาท เนื้อหมูส่วนสันคอสไลด์แทรกไขมันละเอียดนำมาซ้อนกันหลายๆชั้น (คล้ายกับชั้นแป้งกรอบในขนมมิลเฟย) ก่อนนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปังทอดจนมีสีเหลืองกรอบ ส่งผลให้น้ำเนื้อและไขมันหมูแทรกตัวชุ่มฉ่ำอยู่ตามช่องว่างในแต่ละชั้น ให้ความฟินห์ในการทานที่แตกต่างจากหมูชิ้นใหญ่-หนาตามปกติ วิธีการทานก็แค่บีบเลมอนลงบนหมูทอดร้อนๆหรือทานคู่กับซอสในชุดเราสั่งมา 2 สูตรคือ น้ำซอสมาโยหรือมายองเนสสูตรโฮมเมดไว้ทานคู่กับผักกะหล่ำปลีซอย และทงคัตสึซอสหรือน้ำจิ้มของทอดสไตล์ญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับก็อร่อยฟินห์ไม่แพ้ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังๆบนห้างใหญ่ๆเลยแม้แต่น้อยครับผม
เมนูต่อมาเป็นเมนูเส้นผัดร้อนที่เชฟได้ผสมเทคนิคการทำครัวแบบยุโรป เข้าไปก็คือ "ฮอกไกโดยากิโซบะ" ราคา 179 บาท เป็นเส้นยากิโซบะเรียวเล็กคล้ายราเมนผัดกับซอสยากิโซบะรสชาติหวาน-เค็มกลมกล่อมสูตรของที่ร้าน ใส่เครื่องลงไปทั้งแครอท/กะหล่ำปลี/เห็ดแชมปิญอง ก่อนจะเสิร์ฟราดด้วยโฮมเมดมาโย-โรยสาหร่าย/ปลาคัตสึโอะแห้งและท๊อบปิ้งด้วย Poached Egg หรือไข่ดาวน้ำที่เสิร์ฟแบบเดียวกับเมนู Eggs Benedict ทำให้เมนูนี้มีความคล้ายคลึงกันแต่เปลี่ยนจากขนมปังเป็นยากิโซบะแทนถือว่าเข้ากันได้อย่างลงตัวครับผม เมนูต่อไปเป็นจานพิเศษที่ไม่เคยเห็นในร้าน Izakaya ที่อื่นคือ "เห็ดผัดเต้าหู้ย่างราดซอสมิโสะ" ราคา 149 บาท เริ่มจากเห็ดที่ร้านเชฟเขานำไปต้มกับซีอิ๊วให้ได้รสหวานเค็มอมเปรี้ยวนิดๆจนเข้าเนื้ออย่างเข้มข้นได้ความอูมามิรองที่ด้านล่างสุดของจาน เต้าหู้ที่นำมาใช้เป็นแบบแข็งพิเศษ (ตัดด้วยตะเกียบไม่เข้า) นำไปย่างท๊อบปิ้งด้วยซอสมิโสะรสหวานมันสูตรคล้ายๆกับมิโสะหวานจิ้มกับต้นหอมลวกแบบที่คนญี่ปุ่นชอบทาน จากนั้นเบิร์นไฟเพื่อเพิ่มความเกรียมหอมกรุบกรอบและตกแต่งให้สวยงามด้วยการโรยต้นหอมกับงา ส่วนตัวถ้าไม่เคยอ่านรีวิวเก่าๆมาก่อนจะไม่สั่งเมนูนี้เด็ดขาดเพราะหลายๆร้านมักจะทำจืด แต่ที่นี่รสชาติเข้มข้นหวานมันทานกับเห็ดต้มซีอิ๊วอร่อยสุดๆ เหมาะเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยครับสำหรับจานนี้
****** เกิน 10,000 ตัวอักษร ขอรีวิวต่อในช่อง Comment นะครับ ******
ชื่อสินค้า:
Moridon ซอยสาทร 11 (จันทร์ 18/7)
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
กินข้าวเช้ากัน : เกาเหลาลูกชิ้นเกี๊ยวปลาคนละครึ่งงงงง
จรืงๆเค้าขายให้แบบเอามากินแบบลวกจิ้ม แต่เราเอามาแปลงร่างเป็นเกาเหลาแทน ของถนัดเติมเต้าหู้ไข่นิด หมูสับหน่อย ได้..... และมี ข้าวโพดอ่อน+เห็ดออรินจิ ผัดหมูชิ้นน้ำมันหอย ขาดไม่ได้ต้องมี จบคอสม
แก้วหนึ่งใบกับเบียร์สองขวด
รีวิวร้าน Salada Lasalle's Avenue
วันนั้นได้มีโอกาสผ่านไปแถวซอยลาซาล ก็ได้เห็นมี คอมมูนิตี้มอลแห่งใหม่ เลยลองขับรถแวะไปชมสักหน่อย พอดีเราได้เจอร้านนึงที่เคยออกรายการทีวี ชื่อร้าน Salada ดูแล้วน่าสนใจ
สมาชิกหมายเลข 5561826
เหตุเกิดจากความหิว ##ผัดเต้าหู้ซอสน้ำมันหอย##
วันนี้ขอเสนอเมนู ผัดเต้าหู้ซอสน้ำมันหอย วัตถุดิบ 1. เต้าหู้แบบนิ่ม 2. หมูสับ 3. เห็ดแชมปิญอง 4. น้ำมันหอย 5. ซีอิ๊วขาว 6. น้ำมันงา 7. พริกไทย 8. แป้งมัน ใช้เต้าหูแบบนิ่มครับ หั่นเต้าหู้เป็นชิ้นสี่
Fong Dee
สูตรขนมไชเถ่าก้วย (ขนมผักกาด) อร่อย เนื้อแน่น หอมๆหวานมัน กินเปล่าหรือเอาไปผัดก็อร่อยเน้นๆ
ดีครับ ทุกคนมากันอีกแล้วเมนูอร่อยๆ วันนี้เข้าครัวกับผมอีกเช่นเคย คราวนี้มาทำสิ่งที่ที่ตัวผมนั้นไม่ชอบกินเอาเสียเลย 😅 แต่อย่างว่าน้อ มาม้า แกอยากจะกินตัวเขาก็มั่นใจเรามาก อะทำสะหน่อยละกัน ปล. นี่ครั้งแ
สมาชิกหมายเลข 5397999
หมูผัดซอสเทริยากิ 🐷 🍄 🍛 เมนูชวนอร่อย ทำกินเองง่ายๆได้ที่บ้าน 🏠❤️
สวัสดีค่ะ วันนี้ขอนำเสนอเมนู หมูผัดซอสเทริยากิ 🐷 🍄 🍛 เมนูชวนอร่อย ทำกินเองง่ายๆได้ที่บ้าน 🏠❤️ กันค่ะ ส่วนประกอบ - หมูสันคอสไลด์ หมูสามชั้นสไลด์ - เห็ดออรินจิ - ซอสเทริยากิ หั่นหมูสันคอ
สาวโรงงานชั้นสิบแปด
ตามตำนานเถ่าชิ้วภัตตาคารดัง...รสชาติแห่งรอยอดีต ที่ยากจะลืมเลือน " เจ๊กเอี๋ยวโภชนา "
วันนี้เบลล่ามาทานอาหารที่ร้าน เจ๊กเอี๋ยวโภชนา ร้านอาหารเล็กๆปากซอยท่าดินแดง 6 ย่านฝั่งธนบุรี เจ๊กเอี๋ยวเป็น กุ๊กเก่าจากภัตตาคารไซโก้ ที่เคยโด่งดังในอดีต ร้านนี้วัตถุดิบไม่หลากหลาย แต่วัตถุดิบสดคุ
...BeLliE...
[อาหารเจ] ผัดวุ้นเส้นเจ กินกับเผือกทอดร้อนๆ อร่อย
ผัดวุ้นเส้น เป็นเมนูที่ทำบ่อย ถึงจะกินเจ หรือไม่กินเจ ที่บ้านก็จะทำกินประจำ วิธีการทำง่ายๆ ขั้นตอนไม่ยุ่งยาก ใช้แค่วุ้นเส้น, เห็ดหอม, และผักต่างๆ ตามใจชอบได้เลย ผักที่ผัดก็จะมี ผักกาดขาว, ข้าวโพดอ่อน
ย้ำคิดย้ำฝัน
มื้อกลางวันคุณสามี ทำทีไรก็ทานหมด
สวัสดีค่ะ พอดีดิฉันชอบทำกับข้าวให้สามีทาน แต่ปกติจะลงรูปแต่ใน IG วันนี้ก็เลยนำบางรูปมาลองลงในพันทิปดูบ้างค่ะ เผื่อไว้เป็นไอเดียเวลาคิดไม่ออกว่าจะทานอะไร ไก่ทอดเกาหลี ข้าวหน้าหมู ซี่โครงหมูอบน้ำ
Lazy Daisy Girl
ยากิเกี้ยวทอด - เกี้ยวทอดนำมาผัดแบบยากิโซบะ (ใช้เกี้ยวทอดแทนเส้นโซบะ)
ยากิเกี้ยวทอด - เกี้ยวทอดมาผัดกับผักใส่ซอสยากิโซบะ ผัดไทย ดัดแปลงเป็น เกี้ยวทอดผัดไทย ราดหน้า ดัดแปลงเป็น เกี้ยวกรอบราดหน้า ยากิโซบะ ดัดแปลงเป็น ยากิเกี้ยวทอด ทำเกี้ยวหมู นำไปทอด เอาหมูผัดกับกะหล
swin
เย็นนี้ใครทานมื้อค่ำอะไร เอามาอวดด้วยค่ะ
วันนี้ แม่อยากกินล้วนๆ นางซื้อของมาไว้ ทำ4จาน กินสองคน ส้มตำปูปลาร้า ซี่โครงหมูทอดกระเทียม ผัดดอกขจรและเห็ดเข็มทองหมูสับ และ กะหล่ำปลีทอดน้ำปลา อาหารธรรมดา ที่ไม่ต้องแพง แต่อร่อยมากๆ
SCYEE
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
อาหารฟิวชั่น
อาหารคาว
อาหารญี่ปุ่น
อาหารฝรั่ง
อาหารจานเดียว
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 36
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว Moridon ร้านอาหารญี่ปุ่น-อิซากายะราคากันเอง ปรุงโดยเชฟประสบการณ์จากออสเตรเลีย อยู่ในซอยสาทร 11
เข้ามาภายในร้านบรรยากาศก็คือห้องแถวขนาด 1 ตึก ถึงแม้จะดูเล็กๆแต่ภายในก็ไม่ได้อึดอัด แบ่งโซนเป็นห้องกระจกด้านหน้าทำเป็นครัวที่เชฟหมูเป็นคนทำเองทุกจานไม่มีผู้ช่วย ถัดมาด้านหลังเป็นแคชเชียร์และตู้เก็บวัตถุดิบที่แยกกันกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แช่เย็นแบบร้าน Izakaya ส่วนที่นั่งภายในร้านมีให้บริการอยู่ 7 โต๊ะรองรับได้เพียง 28-30 คน เฟอร์นิเจอร์ที่ร้านใช้โต๊ะโครงเหล็กไม้สีอ่อนพร้อมกับเปิดไฟส่องสว่างทำให้ร้านดูกว้างมากยิ่งขึ้น มาถึงผู้ช่วยของเชฟก็ยกเล่มเมนูอาหารมาวางไว้ให้เราสั่งที่โต๊ะ จะมีอะไรให้ทานบ้างนั้นเรามาเปิดดูไปด้วยกันเลยครับผม
ก่อนที่เราจะสั่งอาหารร้านนี้ทางร้านได้ย้ำความเป็นตัวเองโดยการพิมพ์เตือนเอาหน้าเล่มเมนูว่า Japanese Is Not Japanese นั่นหมายความว่าถึงแม้ชื่อ-หน้าตาอาหารจะเหมือนญี่ปุ่นแต่มันไม่ใช่อาหารญี่ปุ่นนะจ๊ะ เปิดมาหน้าแรกก็พบกับหมวด Snacks หรืออาหารทานเล่นทั้งปีกไก่ทอดราดซอสราคา 150-169 บาท มันฝรั่งทอดที่รูปแบบแตกต่างกันราคา 89-169 บาท นอกนั้นเป็นอาหารทานเล่นสไตล์ญี่ปุ่นทั้ง เกี๊ยวซ่า/ไก่ทอด/เทมปุระ/ของเสียบไม้ทอด/ไข่หวานและพิซซ่าญี่ปุ่นราคา 59-250 บาท หมวดต่อมาคือ Katsu หรือเนื้อสัตว์ชุบเกล็ดขนมปังทอดราคา 139-180 บาท เลือกทานกับซอสที่เชฟปรุงขึ้นเองได้ 2 จากทั้งหมด 12 รายการ หากต้องการเพิ่มคิดราคาซอสละ 20 บาท เพิ่มซุปมิโสะ+สลัด+กิมจิเป็นชุดราคา 49 บาท ถ้ารวมข้าวราคา 65 บาท เพิ่มชาเขียวอีกเพียงแก้วละ 10 บาท ราคาโดยรวมถือว่าถูกกว่าร้านบนห้างแต่เพิ่มความสนุกด้วยการทานกับซอสที่หลากหลายไม่เหมือนใครดีครับ
หมวดต่อมาเป็นเมนู A La Carte สั่งเป็นกับข้าวทั้งทูน่าทาทากิ/สเต็กปลา/สเต็กเนื้อ/ปลาหมึกย่าง/เต้าหู้ย่าง/หมูผัดกับซอสต่างๆราคา 140-380 บาท เพิ่ม Set Menu ได้แบบเดียวกับหมวด Katsu หน้าเมื่อกี้ ส่วนใครชอบทานอาหารญี่ปุ่นแบบจานเดียวจบก็ต้องมาสั่งที่หมวด Donburi ที่มีให้เลือกทั้งหมด 23 เมนู โดยใช้วัตถุดิบที่หลากหลายตั้งแต่เห็ด/ผักรวม/ไก่ทอด/เนื้อผัดซอส/หมูผัดซอส/ปลาย่างไปจนถึงข้าวหน้าปลาดิบสุดหรูในราคาเริ่มต้นที่ 79-350 บาท ตามระดับของวัตถุดิบที่สั่งในแต่ละจานแต่ก็ยังถือว่าถูกเมื่อเทียบกับร้านอื่นๆที่ขายเมนูเดียวกันอยู่ดี
หน้าต่อมาคือ Kare หรือเมนูแกงกระหรี่อันขึ้นชื่อของทางร้านเรื่องความเข้มข้นราคาเริ่มต้นที่ 109-309 บาท โดยมีท๊อบปิ้งให้เลือกมากกว่า 15 รายการ ยิ่งใส่มากราคายิ่งบวกเข้าไปเรื่อยๆเริ่มที่ 40-250 บาท หน้าต่อไปเป็น Hot Udon ราคาเริ่มต้นที่ 149-329 บาท มีท๊อบปิ้งให้เลือก 9 รายการราคาเริ่มที่ 35-180 บาท แล้วต่อกันด้วยหมวด Cold Soba ราคาเริ่มต้นที่ 120-300 บาท นาเบะหม้อร้อนราคา 179-189 บาท เมนูเส้นแบบผัดแห้งราคา 179-199 บาท สุดท้ายคือสลัดมีให้เลือกมากถึง 9 เมนูราคา 75-159 บาท ตามของคุณภาพวัตถุดิบที่ใส่เป็นท๊อบปิ้ง และอีกอย่างคือ Omakase ตามใจเชฟ 200 บาท คุณจะได้เมนูใหม่ที่ไม่มีในเล่มนี้เหมาะกับคนชอบท้าทายครับ
นอกจากนี้ยังมี Side Dish เป็นของทานเล่นไว้ทานคู่กับอาหารจานหลักราคาเริ่มต้นที่ 20-50 บาท ถ้ามาร้านนั่งดื่มแบบนี้ ก็ต้องคู่กับเครื่องดื่มดีๆที่ร้านนี้ก็มีให้เลือกไม่มากนักแต่คัดมาเฉพาะตัวเด็ด (ไม่ได้ถ่ายรูปแนบมาด้วย) ส่วนน้ำดื่มทั่วไปก็มีทั้งน้ำแร่/น้ำอัดลม/ชามะนาว/ชาเขียว(รีฟีล)/น้ำผลไม้และเครื่องดื่มรสนมเปรี้ยวราคา 20-190 บาท ตอนนี้เราก็ทำการสั่งอาหารไปเรียบร้อยโดยทุกจานถูกปรุงใหม่ๆโดยเชฟหมูที่เป็นเจ้าของร้านนี้ หากใครอยากรู้ว่าคนนี้เขามีความพิเศษอย่างไรแนะนำว่าไปดูที่หน้า Facebook ของที่ร้านเลยครับบอกได้เลยว่าไม่ธรรมดาแน่นอน
เมนูจานแรกมาเสิร์ฟเป็น Signature ของทางร้านคือ "มิลเฟยคัตสึ" ราคา 180 บาท เนื้อหมูส่วนสันคอสไลด์แทรกไขมันละเอียดนำมาซ้อนกันหลายๆชั้น (คล้ายกับชั้นแป้งกรอบในขนมมิลเฟย) ก่อนนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปังทอดจนมีสีเหลืองกรอบ ส่งผลให้น้ำเนื้อและไขมันหมูแทรกตัวชุ่มฉ่ำอยู่ตามช่องว่างในแต่ละชั้น ให้ความฟินห์ในการทานที่แตกต่างจากหมูชิ้นใหญ่-หนาตามปกติ วิธีการทานก็แค่บีบเลมอนลงบนหมูทอดร้อนๆหรือทานคู่กับซอสในชุดเราสั่งมา 2 สูตรคือ น้ำซอสมาโยหรือมายองเนสสูตรโฮมเมดไว้ทานคู่กับผักกะหล่ำปลีซอย และทงคัตสึซอสหรือน้ำจิ้มของทอดสไตล์ญี่ปุ่นสูตรต้นตำรับก็อร่อยฟินห์ไม่แพ้ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าดังๆบนห้างใหญ่ๆเลยแม้แต่น้อยครับผม
เมนูต่อมาเป็นเมนูเส้นผัดร้อนที่เชฟได้ผสมเทคนิคการทำครัวแบบยุโรป เข้าไปก็คือ "ฮอกไกโดยากิโซบะ" ราคา 179 บาท เป็นเส้นยากิโซบะเรียวเล็กคล้ายราเมนผัดกับซอสยากิโซบะรสชาติหวาน-เค็มกลมกล่อมสูตรของที่ร้าน ใส่เครื่องลงไปทั้งแครอท/กะหล่ำปลี/เห็ดแชมปิญอง ก่อนจะเสิร์ฟราดด้วยโฮมเมดมาโย-โรยสาหร่าย/ปลาคัตสึโอะแห้งและท๊อบปิ้งด้วย Poached Egg หรือไข่ดาวน้ำที่เสิร์ฟแบบเดียวกับเมนู Eggs Benedict ทำให้เมนูนี้มีความคล้ายคลึงกันแต่เปลี่ยนจากขนมปังเป็นยากิโซบะแทนถือว่าเข้ากันได้อย่างลงตัวครับผม เมนูต่อไปเป็นจานพิเศษที่ไม่เคยเห็นในร้าน Izakaya ที่อื่นคือ "เห็ดผัดเต้าหู้ย่างราดซอสมิโสะ" ราคา 149 บาท เริ่มจากเห็ดที่ร้านเชฟเขานำไปต้มกับซีอิ๊วให้ได้รสหวานเค็มอมเปรี้ยวนิดๆจนเข้าเนื้ออย่างเข้มข้นได้ความอูมามิรองที่ด้านล่างสุดของจาน เต้าหู้ที่นำมาใช้เป็นแบบแข็งพิเศษ (ตัดด้วยตะเกียบไม่เข้า) นำไปย่างท๊อบปิ้งด้วยซอสมิโสะรสหวานมันสูตรคล้ายๆกับมิโสะหวานจิ้มกับต้นหอมลวกแบบที่คนญี่ปุ่นชอบทาน จากนั้นเบิร์นไฟเพื่อเพิ่มความเกรียมหอมกรุบกรอบและตกแต่งให้สวยงามด้วยการโรยต้นหอมกับงา ส่วนตัวถ้าไม่เคยอ่านรีวิวเก่าๆมาก่อนจะไม่สั่งเมนูนี้เด็ดขาดเพราะหลายๆร้านมักจะทำจืด แต่ที่นี่รสชาติเข้มข้นหวานมันทานกับเห็ดต้มซีอิ๊วอร่อยสุดๆ เหมาะเป็นกับแกล้มชั้นดีเลยครับสำหรับจานนี้
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น