เรื่องเซ็กซ์ทำให้เกิดปัญหาอีกแล้ว ทำยังไงดีคะ??

กระทู้คำถาม
ไทม์ไลน์ยาวนิดนึงนะคะ 
คืออยากจะเล่าก่อน เราเคยมีแฟนมาแล้วก็หลายคน ก่อนมาคบกับคนปัจจุบันที่คบด้วยนานที่สุด และคิดว่าคือคนสุดท้าย เพราะเราทำอะไรหลายอย่างร่วมกันเยอะมาก คือโนสนคนอื่น ใช้ชีวิตและความคิดแบบผู้ใหญ่ ไม่งอแง คุยและเข้าใจกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีสักเรื่องที่ปิดบังกัน แต่ติดอยู่เรื่องเดียวคือเรื่องเกี่ยวกับเซ็กซ์... ซึ่งตอนนี้เริ่มตึง 
ต้องท้าวความก่อนว่า ตอนแรกเริ่มที่คบกัน ใช่เราบอกเขาว่าไม่เคยมีอะไรกับใคร เนื่องด้วยพึ่งคบไงและอีกอย่าง เราไม่อยากนับว่าคือการมีอะไรกันไม่รู้ทำไม ไม่อยากจำ เลยเลือกบอกว่า *ไม่เคยมีอะไรกับใคร* แต่มารู้ทีหลังว่าผู้ชายเขารู้ว่าคนไหนซิงหรือไม่ซิง แต่ด้วยความไม่สนิทมาก แบบใหม่ๆ เลยไม่ได้คิดถามอะไร  (ทดไว้ จุดประกายที่1) 

📌ในความจริงคือ ครั้งแรกกับแฟนคนแรกของเราใช่ อันนั้นมี แบบมีจริงๆ ค่อนข้างคบนาน (นานอับดับที่2 เพราะอันดับแรกก็คือคนปัจจุบันนี่แหละ) และคนต่อๆมาไม่เคยให้ไม่เคยเลยจริงๆ ความจริงคือมากสุดแค่นิ้วจริงๆ(และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้หลายคนเลิก เพราะเราไม่ให้มีอะไร) กลัวท้องมากๆ พ่อดุกลัวพ่อ เป็นคนรักเรียน แต่ไม่ถึงกับเรียบร้อย และก็มีแฟนคือเราไม่ติ๋ม มีหน้ามีตาในวงเด็กเห่อสมัยนั้น และช่วงนั้นไม่เคยคบใครนานอีกเลยหลังจากคนแรก คือสวยมาก คบใครไม่นานเปลี่ยน และเว้นว่างนานไม่ได้ ช่วงนั้นดังเดี๋ยวเสียชื่อ(ภายหลังรู้สึกตลกตัวเองในวัยนั้น มันก็ไม่ได้เท่) คบเป็นวันเลิกก็มี ความจริงมันก็มีเท่านี้ ไม่มีอะไรแล้วจริงๆในความเป็นจริง **ซึ่งบทความนี้เราได้เล่าให้แฟนคนปัจจุบันฟังทั้งหมด ในการเปิดปากครั้งที่3ของเรา** มาติดตามกันต่อ.. 
เวลาผ่านไปสักระยะนึงกับแฟนคนปัจจุบัน วนลูปกลับไปที่คำถามเดิมๆ ไอเรารำคาญมากๆ ก็ไม่อยากจดจำว่ามีหรือไม่มี ก่อนหน้านั้นมีถามเรื่ยๆแต่ก็ตอบว่าไม่มี เหมือนรอบแรกที่ถาม จนวันนึง เลยเลือกที่จะมั่วแฟนคนล่าสุด(คบนานลำดับที่3) ก่อนคนปัจจุบันขึ้นมาว่า เออกูมีอะไรกับ นาย ม. ยอมรับและดราม่าว่าขอโทษที่โกหกแล้วกัน เพื่อให้จบ เขาอยากได้คำตอบอะไรก็ให้เขาเชื่อแบบนั้นไปเลยดีกว่า ในความคิดตอนนั้น ก็ดูเหมือนจะจบแล้วใช่ไหม (ทดไว้ จุดประกายที่2) 

เวลาผ่านไป จนโตพอสมควรที่จะรับและรู้กันทุกเรื่อง แบบ100% เคยคุยขนาดที่ว่าถ้าอนาคตเรามีลูก และเขาต้องการเซ็กซ์จะทำยังไง คำตอบก็คือให้เขาไปใช้บริการได้ ไม่ใช่การเอาเมียน้อยเข้ามา นั่นเลิกเด็ดขาด(ต้องบอกก่อนว่าเราคบกันมาไม่เคยเลิกกัน และไม่เคยพูดคำว่าเลิกเลยสักครั้ง ถ้าครั้งไหนพูดคือเลิกจริงๆเท่านั้น) เขาเป็นคนเสนอนะเรื่องใช้บริการ อ่ะเราเคลียร์เราไม่งอแง เข้าใจในเรื่องนี้100% คือถึงจุดที่อยากขออะไรขอมา ไม่ใช่แอบทำ เพราทุกครั้งที่เราคุยกัน เรามีคำตอบเสมอ นั่นคือเราเปิด และเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว ทั้งเราและเขา  
วันนึง เรากำลังมีอะไรกันเราคุยเรื่องนี้กันเขาเล่าเรื่องเซ็กกับแฟนคนก่อนๆ เราเล่ากลับ และเปิดปากความจริงในครั้งที่3นี้ คือความจริง100% ตามบทความด้านบน ว่าไทม์ไลน์มันเป็นยังไงประมานไหน ก็ไม่รู้สึกเสียอารมตอนมีเซ็กซ์อะไร เพราะมันอดีต คือเรื่องปกติที่ต้องผ่านกันมา ใช่เราต้องรู้อดีตของกันและกัน ไม่ปิดสักเรื่อง นั่นคือคู่เรา ภายหลังจะได้ไม่หน้าเหวอ เวลาคนอื่นมาเล่าให้ฟัง 

หลังจากเราเล่าไปและตัวเขาเองก็เหมือนจะไม่อยากจะเชื่อขึ้นมาอีกครั้งแต่ไม่ได้ติดหรือซีเรียสอะไร แต่พยายามจะเชื่อ แต่เราเข้าใจว่ายากที่จะเชื่อ เราโกหก สับขา ไปถึง2รอบ รอบที่3ในมุมมองฝั่งเขา ก็คงคิดว่ามันจะใช่ความจริง จริงๆเหรอ ประมานนั้น (ทดไว้ จุดประกายที่3) 
เวลาผ่านไปมีวันนึง เรากลับไปบ้านของเราเอง(ปัจจุบันเราซื้อบ้านใหม่อยู่ด้วยกัน แต่อยู่หลายคน) ไปเอาตู้เสื้ผ้า ที่ห้องนอนเราตอนเด็กๆ มาไว้ที่บ้าน
เราไปรื้อตู้กัน ในตู้ก็จะมีข้าวของสตอรี่บ้าๆบอๆตามวัย เคยอยู่หญิงล้วน เลยจะมีกล่องเก็บสตอรี่อะไรสักอย่างกลัวแม่เห็น (แม่ไม่ชอบผู้ทอม) แต่ช่วงนั้นก่อนแฟนคนแรกด้วยซ้ำคือแบบ เข้ารร.หญิงใหม่ๆมันคือเรื่องปกติ เจอแต่ทอมอะเนอะ แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น 
ประเด็นความตึงเคลียดของตอนนี้มันอยู่ตรงนี้ หลังจากวันนั้นผ่านไป เขาเก็บไว้ในใจ จนมาเมื่อคืนนี้ เขาได้พูดขึ้นมาว่า "เขาเจอยาคุมฉุกเฉิน ในกล่องส่วนตัวของเรานั้น" เราหันไปเป็นงง และพูดออกไปว่า "ห๊ะ คืออะไร จะมีได้ยังไง" เขาหันมาถามเราว่า ขอความจริง จริงๆ เพราะยาคุมนั้นมันวันที่ผลิตก่อนที่จะมาคบกับเขาไม่นาน ประจวบเหมาะกับแฟนคนล่าสุดหรือคนก่อนเขานั่นเอง ใช่ สายตามันฟ้องว่าเขากำลังไม่เชื่ออะไรสักอย่าง และไม่เชื่อในสิ่งที่เราเล่าความจริงไปจริงๆในครั้งที่3 .. 

เขาพยายามเค้น ให้เราพูด และเราตอบว่า "จะเป็นไปได้ยังไง ไม่มีอะไรจะพูด เพราะไม่รู้ว่ามันไปอยู่ได้ยังไงด้วย เคยกินก็แค่ตอนมาคบกับเขานั่นแหละ" เขาเองก็รู้ ต้องท้าวความว่าเราเคยปล่อยในครั้งนึงตอนคบกัน และเขาเองก็คอยดูแลตลอดระยะเวลาการกินยาคุมฉุกเฉินในตอนนั้น  

สายตาเขายิ่งบ่งบอกว่า จะพูดความจริงได้หรือยัง ประมานนั้น ซึ่งเราแทบร้องไห้ เพราะ ทั้ง งง และ ไม่รู้จะตอบอะไร ก็ไม่รู้จริงๆ ในตัวเขามั่นใจว่ามันไม่ใช่กล่องเดียวที่เคยกินตอนอยู่กับเขาแน่ๆ ไอเราเป็นพวกเบลอเก่ง จำเรื่องราวอะไรไม่ค่อยได้ เลยเป็นรองเขาเรื่องนี้ นั่นยิ่งย้ำให้เขาไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ บวกกับเราโกหกไป2ครั้ง รู้นะและแอบเข้าใจ แต่เราไม่แน่ใจว่ายาคุมนั้นมาจากไหน แต่ไม่ใช่จากการมีอะไรกับใครแน่นอน ย้ำว่าแน่นอน มันมีเหตุการใหญ่ๆไม่กี่ครั้งที่เราต้องจำได้แน่ๆ เราก็ยืนยัน แบบซีเรียสจริงๆ ว่า "ไม่รู้จริงๆ มันจะอยู่ในนั้นได้ยังไง ไม่เคยกิน ไม่เคยใช้กับใครนอกจากเขา และยิ่งกับคนแรก ยิ่งไม่ใช่ ตอนนั้นยังเด็ก ไม่ทันได้ค้นหาอะไรพวกนี้ ขนาดเรามีอะไรกับเขาที่บ้านแล้ว กลับเก็บถุงยางไว้บนหัวเตียง โดนแม่จับได้ เนี่ย เรายังจำได้ ไม่มีทางที่เราจะจำไม่ได้ว่ายาคุมฉุกเฉินนั้นมาจากไหน แต่ก็เพราะเราไม่รู้จริงๆ ไม่ใช่จำไม่ได้นะ ไม่รู้จริงๆ"  

ขณะคุยกันอยู่นั้น เขาเองก็จะสวนกลับมาตลอดๆว่า "มันย้อนแย้งมากเลยนะ ที่บอกว่ามีอะไรกับแค่คนเดียว แต่ยาคุมฉุกเฉินมัน แค่ไกล้ๆเขาเอง (แปลได้ว่าคนก่อนเขา) มันเชื่อยากมาก กูพยายามจะเชื่อ แต่ไม่รู้จะเชื่อยังไง เออถ้าบอกเหมือนรอบที่2(สตอรี่การโกหกในรอบที่2) ค่อยสมเหตุสมผลเพราะบอกว่ามีอะไรกับคนนั้น และก็มาบอกว่าจริงๆมีแค่กับคนแรก กูเลยงง ต้องเชื่ออะไร หรือ มีความจริงบ้างไหมที่พูดมา"  

ไอเราอยากเอาหัวโขกกำแพงให้ตายไปเลย เราสิ้นสุดหนทางตอบมากๆ เพราะไม่รู้ เขาสวนมาว่า เปรียบเทียบหากเขามีอะไรกับคนอื่นและเราเจอถุงยางใช้แล้ว แล้วเขาตอบบ้างว่าไม่รู้จะรู้สึกยังไง ถามเท่าไหร่ก็ตอบว่าไม่รู้ๆแบบนี้  โอเคเราเข้าใจนะ เข้าใจเขาทุกอย่าง เข้าใจแต่แรกแล้ว เราตอบไปว่า  
"แล้วจะให้เราพิสูจยังไง เรางงมาก ก็มันไม่รู้ และไม่มีคำตอบ และพูดเท่าไหร่เขาก็ไม่เชื่อ จะต้องทำยังไง" เขาตอบว่า ก็มันย้อนแย้งไง มันเป็นไปไม่ได้ และนั่นมันกล่องส่วนตัวไง ใครจะเอาไปไว้ แม่เหรอ เขาผู้ใหญ่แล้ว วัยนั้นไม่ซ่อนหรอก หรือเพื่อน เป็นไปไม่ได้ มันขอใช้ห้องแต่เป็นไปได้ยาก มันกล่องส่วนตัว มันจะกล้าเอามาใส่ในห้องเธอเหรอ" ไอเราก็นึกตาม เห้ย แต่เพื่อนเราก็เคยขึ้นมากับแฟนมัน แต่มันก็จริงที่มันจะเอามาใส่ได้ยังไงวะ ของใครวะ ของใครวะ วนอยู่ในหัวเราอย่างนั้น จนเกิดคำพูดออกไป "หรือยังไง อยากได้ยินว่ามีอะไรกับนายม. ใช่ไหม อย่างนั้นจะจบไหม (เราเคยบอกในครั้งที่3ไปแล้วว่าตอนนั้นประชดเพราะรำคาญ) เอาไหม เชื่ออย่างนั้นไปเลยดีกว่าเนอะ เอาหล่ะ เรามีอะไรกับนายม. โอเคไหม เอาเท่านี้ จำแค่นั้น อยากจำแบบไหนจำไปเลยดีกว่า" เกิดการประชด เพราะรู้สึกเหนื่อยและง่วงนอน เขาก็บอกไม่ใช่ดิ ก็มันย้อนแย้งอ่ะ ไอเราก็ งง เห้ย สรุปอยากได้ยินอะไรจากปากเรา ไอนู้นก็ไม่เอาไอนี่ก็ไม่เอา เราแบบเห้อ มันอึดอัดในตัวเอง ว่ามันมาจากไหนวะ ตัวกูเองก็ไม่รู้ ก็จบด้วยความเงียบ 

และครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เราคุยกันแบบไม่ได้คำตอบ และหันหลังหลับใส่กัน ตื่นเช้ามาทุกอย่างตึง เราไม่อยากปลุกเขา แต่ต้องไปทำงานด้วยกัน เลยโยนนาฬิกาเสียงดังๆใส่แทนการเรียก ระหว่างวันคุยบ้าง แต่ไม่ใช่การโกรธงอนอะไร เราเองที่ค้างคาใจ เขาเองก็น่าจะค้างอยู่ไม่น้อย  

เลยอยากจะปรึกษาเพื่อนๆว่า มีคำแนะนำไหมคะ ในการพิสูจ หรือมันพอจะมีวิธีไหนบ้าง ที่ทั้งเราและเขาจะได้รู้และสบายใจ เป็นครั้งแรกที่เราเซ็ง และซีเรียสตาม จนทำให้เหตุการมันตึง เพราะครั้งนี้เราไม่ได้โกหก เราไม่ชิลเหมือนที่ผ่านมา เราซีเรียส เราควรทำยังไง ต้องบอกก่อนว่าเายังไม่ได้เห็นยานั่นนะคะ เขาบอกและยืนยันว่าเจอจริงๆ 

ใครพอมีวิธีสืบหรือเพื่อนๆ พอจะคิดแนวทาง ชี้แนะ ลองทำแบบนั้นลองหาแบบนี้ลองคิดอย่างนั้น อะไรทำนองนี้ เพื่อนๆว่ายังไงกันบ้างคะ คอมเม้นท์ได้เต็มที่เราผิดเองที่เลือกโกหกเขาไม่ผิดสักอย่าง เรารู้สึกถ้าเรื่องนี้ไม่เคลียร์ ชีวิตคู่เราดำเนินต่อแบบยังไง ครั้งนี้เราปล่อยเขาคิดแบบนั้นไม่ได้ เราเดินกันมาไกลมาก ถอยไม่ได้แล้วค่ะ อยากหาวิธีจบปัญหาคาราคาซังนี้ รบกวนเพื่อนๆค่ะ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่