ขอฝากนิยายแนวชุลมุนวุ่นนักวัน 'วิวาห์ลวง'

กระทู้คำถาม
บี๊กไบค์สีแดงเพลิง จอดแอบอยู่ด้านนอกพุ่มต้นชา ที่ทำเป็นแนวรั้วของอาณาจักรบ้านริมน้ำตระกูลผ่องโสภากุล

ผู้หมวดเจนรบนั่งคร่อมอานรถชะเง้อคอ โผล่เพียงหมวกกันน็อคและดวงตาเฉียบคมคู่นั้น คอยสอดส่ายสายตาข้ามเขตเข้าไปตัวบ้าน  บิ๊กไบค์ที่จอดด้านหลังตนอีกคันสีดำดุ ของผู้กองสาวชื่อมินตรา ผู้บังคับบัญชาโดยตรงของเขาเอง

เช้ามืดเช่นนี้ อรุณยังไม่ไขแสง เหมาะมากสำหรับชุดสายสืบลงพื้นที  โดยเฉพาะช่วงนี้มีคดีต้องตามเอเย่นตัวการปล่อยยาเสพติด ผู้กองสาวยืดตัวขึ้นมองเข้าไปตัวบ้านเห็นแสงไฟพึ่งเปิด  ทำให้เห็นตัวบ้านสร้างจากไม้ทรงสวยในยุคที่สไตส์วินเทจกลับมาได้รับความนิยม  

คนในบ้านกำลังออกมาทำภารกิจส่วนตัว  เป็นหญิงสาวหนึ่งคน  และเด็กสาววัยมัธยมอีกหนึ่ง แค่มองผาดๆ  ก็รู้ว่าสวยทั้งคู่  มุมปากของนายตำรวจหญิงกองปราบยิ้มดุ ชำเลืองมาที่ผู้หมวดหนุ่ม  กลับกองเมื่อไหร่ได้มีเรื่องสะสางกันแน่

ในฐานะคู่รักที่พึ่งเลิกราไปได้ไม่นาน  เหตุเพราะเข้าใจผิดจากมือที่สาม  คนคนนั้นไม่ใช่ใครอื่นไกลเลย แต่เป็นพี่ชายตัวแสบจอมเจ้าชู้ของเขาเอง  เหตุการณ์ในวันนั้น  เจ้าตัวไม่ยอมให้เธอเคลียร์อะไรทั้งสิ้น  เอะอะขอเลิกคบแล้วไปเมามาย ปกตินิสัยก็งี่เง่า บ้าบอ แถมนอกคอกอยู่ด้วย  มีงานเข้าก็ทำตัวเป็นวันแมนโชว์  หาเรื่องเสี่ยงตายโดยใช่ที่   

ในฐานะผู้บังคับบัญชา แทบจะคุมเขาไม่อยู่แล้ว  ต้องคอยตามประกบ ไม่ให้คลาดจากสายตา 

พอยายแก่ท่าทางงุ่มง่ามปรากฏตัวออกมา โดยมีชายวัยประมาณห้าสิบ คอยประคองแขนกันล้ม   ผู้หมวดเจนรีบก้มหัวหลบ เหมือนจะตกใจกับภาพที่เห็น  สตาร์ทรถได้ก็รีบขับบึ่งออกไปทันที ไวปานจรวด  ผู้กองมินตราพลอยตกใจไปด้วย เขาเห็นผีหรือไงถึงหนีไปไวปานนั้น   ใช่รถแรงแล้วยังช้าไปเลย รายนั้นออกถนนหลวงไปแล้ว ยังไม่ทันออกจากซอย นึกกังวลในใจ หากคลาดสายตาไปได้อีก คงได้ไปป่วนคดีของหน่วยอื่นอีกแน่

บรื้นนน!!!   บรื้นนนนนน!!!

  “ใครมาบิดรถเล่น หน้าบ้านเรานะ คุณพ่อ!” 

  “พวกเด็กแว้นน่ะ ลูกพลอย ไม่ต้องไปสนใจ”

  “พ่อกับพี่พลอยไม่รู้อะไร มันอาจจะเป็นพวกแอบมาส่งยาต่างหาก หนูจำบิ๊กไบค์สีแดงคันนี้ได้ มาแอบส่องดูบ้านเราหลายครั้ง เมื่อวานตอนหัวค่ำก็ทีหนึ่งแล้ว” ไข่มุกน้องสาวคนเล็ก ชี้นิ้วดิกๆ ทันเห็นแค่ฝุ่นรถเท่านั้น เด็กสาวมีใบหน้าสวยหวาน จิ้มลิ้ม ไม่ต่างจากดอกไม้แรกแย้ม  ในเมื่อยังถักเปียกับสวมชุดนักเรียนมอปลายอยู่เลย   ความสวยนี้ยังด้อยกว่าพลอยฟ้า ผู้เป็นพี่สาวคนกลาง เธออายุยี่สิบสามปี พึ่งเรียนจบ และกำลังออกหางานทำ ส่วนพี่สาวคนโต ชื่อทับทิม ตอนนี้ยังไม่ทันตื่น เมื่อคืนไปปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมงาน กลับมาอีกทีเกือบสว่าง

การมาแอบซุ่มมองเข้ามาของหนุ่มบิ๊กไบค์  พลอยฟ้าเองใช่ว่าจะไม่รู้ คิ้วโก่งเบิกขึ้น เนตรดวงโตดำขลับแสดงความพรั่นพรึงออกมา  จำได้ดีว่าคนขับเป็นชายหนุ่มหน้าตาดี แต่ชอบมาด่อมๆ มองๆ คนในบ้าน  ส่อพิรุธเป็นพวกโรคจิต  คิดอ่านด้วยประสงค์ร้าย  เธอเคยเอาน้ำสาดใส่ แล้วด่าสาดเสียเทเสีย  เจ้าคนนี้กลับชูนิ้วกลางให้อย่างหยาบคายที่สุด แล้วขับรถหนีไปอย่างไว  แจ้งตำรวจแล้ว ไม่เห็นมีสายตรวจมา  ทำให้กังวลใจมาก  ยิ่งในบ้านมีหญิงสาวถึงสามคน สามใบเถา พ่อก็แก่ ยายก็หลงๆ ลืมๆ จะหาใครช่วยมาช่วยปกป้องได้
 

อรุณรุ่งเบิกฟ้า  ณ  บ้านสวนริมน้ำผ่องโสภากุล  ด้านหลังบ้านคือแม่น้ำเจ้าพระยา  ยามมีเรือผ่านให้เกิดระลอกคลื่นเล็กๆ ซัดเข้าหาฝั่ง ซึ่งอุดมไปด้วยแมกไม้น้อยใหญ่ ให้สัตว์เล็กสัตว์น้อยได้พึ่งพิงอาศัย ได้รับการอนุรักษ์เอาไว้ จนได้รับรางวัลบ้านสวนดีเด่น มักปรากฏในภาพข่าวทีวี หรือนิตยสารหลายเล่ม  
ต้นตระกูลนี้คือท่านขุนทองคำ นอกจากงานด้านปกครองแล้ว ท่านยังหันมาทำการค้าขาย มีเบี้ยอัฐมากจึงกว้านซื้อที่ดินแถบนี้ไว้มากมาย แม้ปัจจุบันความมั่งคั่งจะลดลงไปมาก ในเมื่อทายาทรุ่นหลังผลาญสมบัติ  คุณนายมะลิ หรือคุณย่ามะลิของหลานๆ ทะเลาะกับลูกชายบ่อยครั้ง เรื่องก่อหนี้สินมาให้ จน

ล่าสุดแกถึงกับล้มในห้องน้ำ ต้องถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล  นับแต่นั้นประสาทการทรงตัวไม่ค่อยจะดี  พูดจาน้อยลง และหลงๆ ลืมๆ

อาหารมื้อเช้าบนโต๊ะพร้อมแล้ว  ทุกคนในบ้านจะต้องมานั่งล้อมโต๊ะกันพร้อมหน้า  คุณย่ามะลิถูกประคองมานั่งหัวโต๊ะโดยพลอยฟ้าหลานสาวคนกลางคอยดูแล  หาผ้ามาปูที่ตักป้องกันเศษอาหารหล่นใส่  คนแก่มีโรคประจำตัวเยอะ ล่าสุดพึ่งไปทำบายพาสหัวใจ  ทำให้ต้องมีคนคอยดูแลใกล้ชิด  เก้าอี้ตัวถัดไป คือน้องสาวคนเล็ก ชื่อไข่มุกที่สวมชุดมัธยม มือถักเปียไป เพื่อรอเวลาคุณพ่อกับพี่สาวคนโต ที่มักจะตื่นสายอยู่เป็นประจำ

“หนูพลอย วันนี้ไม่ไปเรียนหรือลูก”

“หนูเรียนจบแล้วค่ะ คุณย่า” 

คนแก่ขี้หลงก็แบบนี้  หลานสาวแอบถอนใจ ภายหลังได้รับยาแรง ทำให้สมองจะเบลอๆ ตอนนี้งานดูแลบ้านทุกอย่างตกอยู่ที่เธอคนเดียว ให้รู้สึกน้อยใจ  คุณแม่สอนให้เธอทำงานบ้าน ไม่ให้นิ่งดูดาย พี่สาวกับน้องสาวก็ช่วยกันดี พอคุณแม่เสียเมื่อต้นปี  ในบ้านมีแต่คนโลกส่วนตัวสูงกันทั้งนั้น  

สายตามองไปที่ผนัง ที่มีรูปถ่ายของคุณแม่ ถัดไปคือภาพท่านขุนทองคำซึ่งเป็นปู่ทวด  ท่านเป็นคนหน้าดุเพราะไว้หนวดโค้ง ในมือไม้ตะพด สมกับตำแหน่งทางปกครอง  ในบ้านตอนนี้ขาดผู้ใหญ่เป็นหลักให้พึ่งพิง หากเธอได้งานทำ จะเก็บเงินก้อน หวังไปใช้ชีวิตตามใจที่ไหนสักแห่ง  ห่างไกลจากสิ่งจำเจน่าเบื่อหน่าย  แต่ตอนนี้เป็นห่วงก็แต่คุณย่าเท่านั้น 

ลูกสาวคนโตชื่อทับทิม กำลังเดินลงบันไดมา กระแทกส้นเท้าดัง ตึง ตึง มือหนึ่งจับราวบันได  อีกมือกุมขมับ ผมเผ้ายุ่งเหยิง ผิวหน้าโทรมไม่น้อยจากอาการเมาค้าง  เมื่อคืนมีดื่มกินกับเพื่อน กลับมาดึกดื่นค่อนคืน 

“ก็บอกแล้วไง หนูไม่กินข้าวเช้า พ่อมาเคาะห้องเรียกอยู่ได้”

“เอาเสียหน่อยนะลูก ข้าวต้มย่อยง่ายนะลูก วันนี้ยังต้องทำงาน” สุรเดชผู้เป็นพ่อ ตามลงมาประคองแขนลูกสาวลงบันได เพราะเป็นลูกรัก ที่ตามใจมาแต่อ้อนแต่ออก

ขายาวๆ รูปร่างสูงเพรียว สวมชุดสาวออฟฟิศสีแดง เมื่อวันก่อนพึ่งไปย้อมทำสีผมใหม่สีน้ำตาล  ไข่มุกน้องสาวคนเล็ก  มักพูดชื่นชมความสวยของพี่สาวคนโตอยู่เสมอ  สมัยเรียนยังเป็นคนเรียนเก่ง พอจบมาได้งานทำในบริษัทใหญ่แห่งหนึ่ง  ได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือนที่สูง  มีชายหนุ่มหล่อคบหาด้วย  เป็นถึงลูกชายเจ้าของบริษัท ที่ทำงานอยู่ด้วยกัน  เงินได้มายังช่วยผ่อนหนี้สินที่พ่อไปกู้ยืมเอามารักษาย่ากับแม่  ทำให้เป็นคนโปรดของพ่อ  ต่างกับพี่พลอยฟ้าที่จะขาสั้นกว่า สูง 165 เซนติเมตร  นิสัยขี้บ่น วันๆ มักคอยมาจู้จี้กับเรื่องห้องนอนของน้องสาว  นิสัยเหมือนแม่ที่ตายไปแล้วไม่มีผิด   
 

พอพ่อลงมานั่งประจำโต๊ะเป็นคนสุดท้าย  ทุกคนจึงเริ่มลงมือทานอาหาร  กับข้าวเช้านี้ นอกจากข้าวต้มกุ้งของทับทิม  พลอยฟ้าทำแกงกะทิสายบัว ที่คุณย่าชมรสชาติเหมือนลูกสะใภ้ทำ พลอยฟ้าได้เสน่ห์ปลายจวักจากแม่มาทั้งหมด

สุรเดชผู้เป็นพ่อดูจะอิ่มเร็วกว่าปกติ เพียงคำสองคำวางช้อน  สายตามองนิ่งไปที่ทับทิมลูกสาวคนโต แล้วสลับมาที่พลอยฟ้า ส่วนไข่มุกลูกสาวคนเล็กยังถักเปียใส่ชุดนักเรียนมัธยมปลายอยู่เลย  เด็กเกินไปจะให้รับผิดชอบอะไรได้  ไม่ทันที่ลูกๆ จะตั้งรับ  พ่อก็เอ่ยเรื่องแต่งงานขึ้นมาทันทีทันใด  พลอยฟ้าถึงกับตาโตผุดลุกขึ้นยืนเมื่อคุณพ่อเจาะจงมาที่เธอ

“อะไรนะ! พูดใหม่อีกทีสิคะ”

“พ่อก็บอกแล้วไง จะให้ลูกพลอย แต่งงาน”

“แต่งกับใคร! ทำไมหนูไม่รู้เรื่องมาก่อน”

 “แต่งกับเจ้าของบริษัท ที่ทับทิมทำงานด้วยทุกวันนี้ไง เขามาทาบทามกับพ่อเมื่อวาน ตอนลูกพลอยไปสมัครงานยังไม่กลับ พ่อนอนคิดทั้งคืน รอเช้าเสียก่อนจะมาบอกกับลูก” สิ่งที่คนเป็นพ่อยังบอกไม่หมด คนที่มาสู่ขอลูกสาวก็คือเจ้าหนี้ คนเดียวกันที่ทวงต้นทวงดอก และขู่จะยึดโฉนดที่บ้านถ้าเลยกำหนด 

 “แต่ ...หนูพึ่งเรียนจบเองนะคะ และกำลังหางานทำอยู่ด้วย”

“ก็ให้สามี หาเลี้ยงให้สิลูก ฝ่ายชายเขารวยมากนะ เป็นเจ้านายที่บริษัทของทับทิม ไม่มีกำมะลอแน่นอน”

“สมัยนี้มันไม่มีแล้วนะคะพ่อ เรื่องที่จะจับแต่งงานแบบคลุมถุงชน ถ้าไม่สมัครใจรักชอบพอกัน จะอยู่กินกันรอดได้ยังไง เรื่องนี้ หนูไม่ยอมเด็ดขาด”

“ใจเย็นๆ ลูก พ่อให้โอกาสลูกไปดูตัวเขาก่อนนะ จะแต่งหรือเปล่าพ่อไม่บังคับ” ฝ่ายพ่อถึงกับหน้าเสีย มือคว้าแก้วน้ำมาดื่มแก้สีหน้า พลอยฟ้าปกตินิสัยดี เรียบร้อยอยู่หรอก แม่กับย่าอบรมมาดี แต่ยามดื้อรั้นขึ้นมา นิสัยร้ายกาจพอๆ กับภรรยาที่เสียไปแล้ว 

“หัวเด็ดตีนขาดยังไง หนูก็ไม่แต่ง!”

“ไม่ดูตัวผู้ชาย ก่อนหรือลูก” น้ำเสียงพ่อแผ่วต่ำลงทุกที

“คุณย่าคะ ช่วยพูดอะไรหน่อยสิคะ พ่อเอาแต่ใจอีกแล้ว” เธอหันมาเขย่าแขน แต่คนแก่ไม่รับรู้อะไรด้วยแล้ว

“พ่อเค้าว่าอะไรหรือหนูพลอย ย่าไม่ทันได้ฟัง” ได้ยินอย่างนั้น พลอยฟ้าอยากจะร้องไห้ ในเมื่อโครงการที่วาดไว้หลังเรียนจบ ยังไม่ได้เริ่มต้นอะไรเลย จะมาถูกตัดตอนเสียก่อน 

ทับทิมเห็นอาการกระฟัดกระเฟียดของแม่น้องสาว เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาบ้าง กระแทกช้อนในมือแรงดังเพล้ง! มองแบบหมิ่นนิดๆ  แล้วเริ่มแผดเสียงแทนพ่อ จะดัดจริตอะไรนักหนา มีคนรวยระดับเสี่ยพันล้านมาขอแต่งงานทั้งที จะได้สบายไปทั้งชาติ  ทางบ้านจะพลอยสบายไปด้วย  

เรื่องแต่งงาน ทับทิมคือตัวตั้งตัวตี เพราะเสี่ยที่ว่า คือเสี่ยวิชัย ประธานบริษัท วัยหกสิบต้นๆ ที่หล่อนทำงานด้วยนั่นเอง  และยังเป็นคุณพ่อของคุณจอห์น  แฟนหนุ่มคนปัจจุบัน  แผนการจับพ่อ จับลูก แล้วเงินทองจะไปไหนเสีย ดีดลูกคิดรางแก้วไว้เสร็จสรรพ  ไม่เช่นนั้น พี่สาวคนโตได้ทำงานใช้หนี้ให้พ่อ ชาตินี้จะใช้หมดหรือ ถ้าไม่ทำแบบนี้ 

“ยัยพลอย! แกไม่รู้หรือไง  พ่อเอาโฉนดที่ดินของบ้านไปจำนองไว้ กับเสี่ยวิชัยเจ้านายของพี่  ไม่งั้นจะเอาเงินที่ไหน มาเป็นค่ารักษาคุณแม่กับคุณย่า ตอนนี้ดอกเบี้ยมันงอกขึ้นทุกวัน  ลำพังเงินเดือนของฉันจ่ายจนจะไม่ไหวแล้วนะ”

“พี่ก็ประหยัดๆ ซื้อเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวบ้างสิ นี่ถ้าฉันหางานทำได้ จะหาเงินมาจ่ายหนี้ให้พ่ออีกแรง”

“นี่พ่อดูมัน เถียงคำไม่ตกฟาก”

“อย่าเถียงพี่เค้าสิลูก”

ลูกสาวคนรองมองค้อนพ่อ  เหมือนตอกย้ำอย่ามาบงการชีวิต  ทำเอาพ่อนั่งหงอ ตอนเมียยังมีชีวิตอยู่ ตนเองต้องเชื่อฟังเมีย  พอตายไปแล้วยังต้องเชื่อฟังลูกสาวอีก แล้วจะทำยังไงกับหนี้ก้อนใหญ่ จะหาจากไหนไปใช้คืนเขา

 
เวลาเดินไปอย่างน่าอึดอัดสำหรับบางคน นาฬิกาเรือนไม้หลังใหญ่ที่ตั้งอยู่ในมุมห้องลั่นเสียง เง๊ง งาง ต่างคนไม่มีกะใจทานข้าวอีกแล้ว นอกจากย่ามะลิที่เคี้ยวข้าวตุ้ยๆ ไม่รับรู้เรื่องราวอะไรในบ้าน  

ทับทิมวางช้อนลงหยิบกระดาษมาซับมัน แล้วหยิบเครื่องสำอางมาแต่งหน้า เติมริมฝีปากจนแดงสด ไม่สนว่าพ่อกับย่าจะยังทานกันอยู่  โดยมีน้องสาวลุกมาช่วยทำผมให้อย่างเอาใจ  พี่ทับทิมชอบใช้งาน แล้วตบท้ายให้เงินใช้ทุกที ผิดกับพี่พลอยฟ้าคนงก
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่