ขอโทษ

อะตามหัวข้อเลย เหมือนโดยปกติเราเติบโตมาคนเดียวกับพ่อแม่ไรงี้ แต่พ่อมาช่วงมต้นมปลายก็ตามประสาของวัยรุ่นเลย คือเราก็มีเพื่อนสนิทมากๆประมาณ2-3คน พอปลายเพื่อนคนนึงก็ย้ายไปที่อื่น ม.5เรากับเพื่อนสนิทอีกคนก

วันหนึ่งพูดไม่เกิน5ประโยค ถ้าไม่มีใครถามครับ เงียบจนคนอื่นบอกรู้สึกอึดอัดครับ ผมเป็นคนขี้กลัวด้วยครับ ไม่กล้าคุยเรื่องส่วนตัวคนอื่นครับ บางคนผมเคยลองพูดลอยๆหรือถามอะไรเล่นๆ เขาไม่ตอบ ผมก็เลยเงียบ

แก๊งหนูมี6คนซึ่งมารวมเป็น6คนจริงๆคือตอนม.2 ตอนม.1ในห้องก็จะมีทะเลาะระหว่างเพื่อนผญ.ตามประสาเด็กเข้ามาจากคนละสังคมปรับตัวกันไม่ทันแต่ตอนม.1ก็ยังสนุกดีนะ และขึ้นม.2เหมือนรู้จักกันดีแล้วยิ่งสนิทกันกว่าเด

(เพื่อนคนนั้นเป็นผู้หญิงค่ะ) เมื่อวันศุกร์ของอาทิตย์นั่นเรายังคุยปกติ มีหยอก ไปไหนมาไหนด้วยกัน แต่อยู่ๆพอมาวันนี้ตอนเช้า เพื่อนคนนั่นก็หยอกเราปกติ แต่หยอกน้อยลง สีหน้าดูไม่สบายใจ เราเลยเป็นห่วง เพราะเ

คือเราเคยมีปัญหากับเพื่อนเก่าเลยดรอปเรียนเรากลับมาเรียนใหม่ที่เดิมแต่เรากับเพื่อนเก่าก็คุยกันดีแล้วหายโกรธกันกลับมาคุยกันพอเรามาเรียนเราได้เพื่อนใหม่ซึ่งย้ายมาจากที่อื่นเราเลยคิดว่าน่าจะดีเพราะเราย้าย

คือเราเคยมีปัญหากับเพื่อนเก่าเลยดรอปเรียนเรากลับมาเรียนใหม่ที่เดิมแต่เรากับเพื่อนเก่าก็คุยกันดีแล้วหายโกรธกันกลับมาคุยกันพอเรามาเรียนเราได้เพื่อนใหม่ซึ่งย้ายมาจากที่อื่นเราเลยคิดว่าน่าจะดีเพราะเราย้าย

ขอกล่าวตามตรง วัยเด็กมีความสุขกับเพื่อน และ ชีวิตในโรงเรียนตั้งแต่ประถมจนถึง ม. ต้น (ถึงจะขี้เกียดไปโรงเรียนก็เถอะพอคิด ๆ ดูมันน่าสนุกกว่าเป็นไหน ๆ) และ พอถึง ม.ปลาย มันก็สนุกอยู่แหละที่ได้มีเพื่อน แ

ดีค่าา วันนี้มีเรื่องมาเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับคนที่ขึ้นชื่อว่าเพื่อนแต่มีสองหัว เรื่องแรก ขอใข้ตัวย่อว่า อี P นะคะ p นี่เป็นคนผอมๆทำตัวขี้อาย ล่าสุดยืดผมมา คิดสภาพคนที่หัวแบนๆผมบางๆสิคะ เหมือนกลอลั่มมากก

หนูจะมีนิสัยในกลุ่มเพื่อนคือ จะขอโทษก่อนเสมอเพื่อรักษาความสัมพันธ์ไว้ ไม่คิดเล็กคิดน้อย ปล่อยผ่านได้ปล่อย ถ้าไม่พอใจจะพูดเลย พร้อมปรับพร้อมแก้ไขถ้าจะทำให้กลุ่มดีขึ้น แต่จะมีเพื่อนคนนึงที่อยู่ในกลุ่มเพ