“เมืองสามหมอก” สำหรับคนชอบเดินทางคงตอบได้ไม่ยากว่าคือที่ไหน แต่สำหรับใครที่ยังไม่รู้จัก รีวิวนี้จะทำให้คุณรู้จักและอาจหลงรักเมืองสามหมอกแห่งนี้ก็เป็นไปได้
ด้วยลักษณะของภูมิประเทศที่มีภูเขาสูงสลับซับซ้อนจึงทำให้เมืองนี้มีหมอกปกคลุมตลอดทั้งปี การเดินทางครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ของเราในการมาเยือนแม่ฮ่องสอน รอบนี้เป็นการมาพิชิต 4 พันโค้ง ถามว่าเป็นความตั้งใจ ความมุ่งมั่นที่จะพิชิตโค้งแต่แรกเลยมั้ย ตอบตรงๆ ว่าไม่ใช่เลยจ้า เพราะมันไม่มีเครื่องบินมาลงต่างหาก 555 (สนามบินแม่ฮ่องสอนปิด อยู่ระหว่างซ่อมแซมปรับปรุง)
เราเดินทางสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ทริปนี้ 5 วัน กับสมาชิก 5 คน เราเลือกที่จะอยู่หลายวันหน่อย เพราะอยากฟินกับหมอกนานๆ พาหนะที่พาพวกเรา 5 คน มาเจอ 4 พันกว่าโค้ง คือ ThaiVietJet Air เราเพิ่งเคยนั่งสายการบินนี้เป็นครั้งแรก โอเคเลยนะ เครื่องลำใหญ่ ที่นั่งกว้างกว่าแอร์เอเชียอีก นั่งหลับสบายๆ 1 ชั่วโมงเต็มแบบใส่หน้ากากตลอด ไม่รู้สึกอึดอัดเลย
เครื่องบินลงที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นตลอดการเที่ยว 5 วัน เราเหมารถพร้อมคนขับของ ปายเลทโกทัวร์ เจ้าเดิมกับเมื่อตอนมาเที่ยวครั้งแรก จากเชียงใหม่สามารถเที่ยวขับรถเที่ยวแม่ฮ่องสอนเป็นเส้นทางวงกลมได้ (เชียงใหม่ - ปาย - ปางมะผ้า - เมืองแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม - แม่ลาน้อย - แม่สะเรียง - เชียงใหม่) ใครอยากเที่ยวเต็มวงแบบไม่เหนื่อยมากแนะนำลางานมา 1 อาทิตย์เลยจ้า สำหรับทริปเรา 5 วัน เที่ยวแบบครึ่งวงกลม คือ เส้นทาง เชียงใหม่ - ปาย - ปางมะผ้า – เมืองแม่ฮ่องสอน ไปกลับเส้นทางเดิม โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 เป็นหลัก
Day 1: กทม. - เชียงใหม่ - แม่ฮ่องสอน - บ้านรักไทย
ตื่นแต่ไก่โห่ ไปขึ้นเครื่องเลยจ้า เพราะจาก เชียงใหม่ไปแม่ฮ่องสอน ใช้เวลาเกือบ 6 ชั่วโมง โดยเรามีแพลนแวะเที่ยวสวนดอกไม้ (I Love Flower Farm) ที่อำเภอแม่ริมด้วย แล้วที่พัก 2 คืนแรก (พฤหัส, ศุกร์) เราจองที่ลีไวน์รักไทยไว้ อยากจะบอกว่าเดินทางอย่างโหดเลยนะ นั่งก้นเปียกก้นแฉะ อ๊วกแตก บางทียาแก้เมารถหากกินผิดเวลาก็ไม่ได้ช่วยอะไรนะ เจอมาแล้ว .....ถนนอะไรไม่เป็นเส้นตรงเอาซะเลย โค้งตัว C, S, Z มีหมด
สาเหตุที่จองที่นี่ 2 คืนแรกเพราะ 2 คืนหลัง เราเลือกพักที่อำเภอปายจะได้เดินถนนคนเดินปายในวันเสาร์ได้ด้วย (ปล. หน้าหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ถนนคนเดินปายมีทุกวันนะจ๊ะ อันนี้มารู้ทีหลัง หลังจากกลับมาแล้ว) ฉะนั้น ถ้าเพื่อนๆ ไปหน้าหนาว อย่า...อย่าหาทำแบบเรานะ ให้เลือกพักที่อำเภอปาย แวะเที่ยวปายก่อน ให้ได้พักก้น พักร่าง พักใจบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบความท้าทาย จัดตามได้เลยจ้า
หลังจากเครื่องลง เราแวะทานอาหารเช้าในเมืองเชียงใหม่ หาร้านจากใน Google ไม่ไกลจากสนามบิน ร้านชื่อ Goodsouls Kitchen ร้านนี้เป็นร้านอาหารมังสวิรัติ (Vegan) ในชีวิตจริงก็ทานเนื้อสัตว์ปกติแหละ แต่เห็นหน้าตาอาหารจากในเน็ตดูดีเชียว เลยต้องลอง เมนูที่เลือกลองทานในมื้อนี้
- สเต็กเห็ด (9/10) ซิกเนอเจอร์ของร้าน พนักงานแนะนำ
- ข้าวซอย (7/10) รสชาติข้าวซอยที่แท้ทรู ใช้ได้อยู่นะ แต่เส้นยังไม่ใช่ ทานไปทานมารู้สึกเส้นแบบนี้มันไม่เข้ากัน
- ปอเป๊ยะสด (8/10) น้ำจิ้มยังไม่นัวเท่าไหร่ หักไป 2 แต้ม
- ซุปฝักทอง (10/10) อร่อยมาก จานนี้ต้องสั่ง เสริฟพร้อมขนมปัง จิ้มกินเข้ากันได้ดี
- เครื่องดื่มเป็นกาแฟ มอคค่ากับลาเต้ นมถั่วเหลือง (10/10) อันนี้คือดี ทำอร่อยกว่าสตาร์บัคในราคามิตรภาพเอาไปเต็มสิบไม่หักจ้า
หลังจากเติมพลังเสร็จ สถานีต่อไป สวนดอกไม้จ้า ที่ไอเลิฟฟลาวเวอร์ฟาร์ม (I love flower farm) อยู่อำเภอแม่ริม เราจองคิวไว้ตอน 11 โมง เสียค่าเข้า 90 บาท รวมเครื่องดื่มเย็นๆ และขนมไทยที่แจกให้คนที่มาเที่ยวสวนนี้ สวนนี้มีดีอะไร..ทำไมดาราชอบมา เราอยากรู้ก็เลยตามดารามา 555 จากที่จอดรถ ก็พอรู้แหละว่าคนเยอะ แต่สวนเค้าเคลมว่าใหญ่ ก็สบายใจหวังจะได้ถ่ายรูปชิลๆ พอเข้าสวนมาเท่านั้นแหละจ้า คนล้านแปดมาออกันอยู่ 2 แปลง แปลงดอกสีแดง กับดอกสีม่วง ส่วนแปลงที่เหลืออีกมากมายดอกยังไม่ขึ้น อารมณ์เสียเพราะถ่ายรูปมุมไหนคือติดคนหมดเลย ใครอยากตามรอยดาราอย่างเรา เผื่อใจไว้นิดนึงนะ (เดี๋ยววันสุดท้ายเรามีมาเก็บสวนดอกไม้ซ้ำ ใครหาที่เที่ยว ที่ถ่ายรูป ติดตามอ่านให้ถึงวันสุดท้ายนะ สวนนี้เด็ดจริงบอกเลย)





ดื่มน้ำสมุนไพรแก้ช้ำใจก่อนออกจากสวน แล้วก็เดินทางกันต่อ มุ่งหน้าสู่ จ.แม่ฮ่องสอน จากนี้จะไม่มีแวะที่เที่ยวไหนแล้ว เตรียมใจตั้งรับ 2 พันกว่าโค้งที่กำลังจะเจอ เราถามคนขับจากจุดนี้ไปกี่ชั่วโมงถึง น้องคนขับบอก 5 ชั่วโมงกว่า ( 2 ร้อยกว่ากิโล) จะพาไปทานข้าวกลางวันก่อนจะเข้าเส้นทางที่เริ่มมีโค้ง อุ๊ยๆๆ ดีอ่ะ ให้ดาวไป 1 แต้ม มีการวางแผนให้ด้วย เพราะหากให้ไปทานช่วงที่ถนนไม่เป็นเส้นตรงแล้ว ก็เกรงว่าทานไปเท่าไหร่ก็คงออกมาเท่านั้น แล้วรถน้องก็จะเลอะด้วย (เราจดแต้มจดไว้ในใจนะ เพื่อจบทริปจะแปลงดาวเป็นเงินค่าทิปให้นั่นเอง)
เราถึงตัวอำเภอปายประมาณ 4 โมงเย็น หลับๆ ตื่นๆ สลับกันไป น้องคนขับขอเอารถเข้าอู่ไปเช็คผ้าเบรก เนื่องจากได้กลิ่นไม่ดีจากใต้ท้องรถ ขุ่นพระ!!! รู้สึกใจไม่ดี หนทางอีกยาวไกล เพราะจากปายไปจุดหมายปลายทางนั้น ใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมง สวดมนต์สิจ๊ะรออะไร... จากการเช็คที่อู่ ผลคือต้องเปลี่ยนผ้าเบรกจริงๆ น้องคนขับบอกขับต่อไปอันตราย เอาความปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า จัดไปจ้า พวกพี่รอได้ (ณ จุดนี้ต้องให้ดาวไปอีก 1 แต้มจ้า สำหรับความใส่ใจถึงความปลอดภัยและมีความรอบคอบ)
พอรถเปลี่ยนผ้าเบรกเสร็จ พวกเราก็เดินทางกันต่อ เวลาที่คาดว่าจะถึงบ้านรักไทยก็คงค่ำๆ ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ จริงๆ อยากจะถึงก่อนฟ้าจะมืด เพราะถนนไม่มีไฟและคดเคี้ยว เกรงว่าจะเจออันตรายที่อาจคาดเดาไม่ได้ ก็นั่งลุ้นแบบหลับไม่ลงเลยทีเดียว และแล้วก็ถึงลีไวน์รักไทยอย่างปลอดภัยตอน 2 ทุ่มกว่า พอเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถ เจออากาศเย็นสดชื่นมาก ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายไปเลย พวกเราสั่งอาหารผ่านทาง inbox เพจไว้เรียบร้อยแล้ว ไปถึงแจ้งชื่อ อาหารก็ทยอยออกมาวางเต็มโต๊ะเลย (ครัวปิด 1 ทุ่ม ร้านปิด 2 ทุ่ม ใครเดินทางถึงค่ำแบบพวกเราแนะนำโทรหรือส่งข้อความไปทางเพจ เพื่อสั่งอาหารไว้ก่อน)
เมนูที่พวกเราสั่งก็สั่งแบบเดิมที่เคยกินครั้งที่แล้ว สามารถสั่งตามได้หมด ทุกจานเต็มสิบไม่หักจ้า
- ขาหมูหมั่นโถว
- ผัดซาโยเต้
- ซุปจงเปา
- ไข่เจียวหมูสับ
- ข้าวผัดยูนนาน
มีความโชคที่วันนี้ลูกค้าเยอะ 2 ทุ่มกว่าร้านยังไม่ปิด ได้นั่งทานที่ร้าน รับลมชมวิวสบายๆ พอกินอิ่ม หายเหนื่อยจากการเดินทาง ก็เข้าที่พักกันจ้า ห้องพักที่เราจองได้ครั้งนี้ คือ บ้านชาก้านเดียว (พักได้ 4 คน) กับบ้านนางงาม (พักได้ 2 คน) จริงๆ อยากพักโซนบ้านไวน์ แต่ราคาแรงไป สำหรับการจองที่พักของลีไวน์รักไทยรีสอร์ท สามารถจองได้ทางเพจ ติดตามประกาศจากทางหน้าเพจได้ว่า เปิดให้จองช่วงไหนเมื่อไหร่ อย่างเราเข้าพักต้นเดือนธันวาคม เปิดจองตอนกลางปีราวๆ เดือน 6 หรือ 7 นี่แหละ ทุกครั้งที่เราจอง จะเต็มภายใน 10-15 นาที ขอบอกว่าที่พักเค้าเต็มทั้งปีจริงๆ นะ ใครตั้งใจอยากมาพักขอให้จองได้กันนะจ๊ะ พักที่นี่ไม่ผิดหวังจริงๆ
Day 2: เมืองแม่ฮ่องสอน ล่องเรือ ชมไร่ชา พระตำหนักปางตอง วัดจองกลาง-จองคำ พระธาตุดอยกองมู
เช้าวันที่สอง ตื่นมาอย่างสดใส มาดูพระอาทิตย์ขึ้น วิวหน้าบานพัก (บ้านชาก้านเดียว) กับหมอกจางๆ และแสงอาทิตย์ ฟินมาก กดชัตเตอร์รัวๆ ไปเลยจ้า โปรแกรมเช้าวันนี้ที่บ้านรักไทย พวกเราจะล่องเรือที่อ่างเก็บน้ำ โชคดีอีกแล้วที่เช้านี้มีหมอก แต่เราไม่ได้ลงมาจองคิวไว้ก่อน เลยได้รอบสาย 9 โมงกว่า ช่วงเวลาพีคของการชมหมอก คือ 6-9 โมงเช้านะจ๊ะ จองคิวและลงเรือได้ที่ลีไวน์คาเฟ่จ้า ค่าล่องเรือราคาต่างกันไปตามช่วงเวลาและขนาดเรือ อยู่ในช่วงราคา 280-490 บาท ราคาที่จ่ายนี้ฟรีน้ำชา 1 กา ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที
เต็มอิ่มกับการล่องเรือ ไปเก็บชากันต่อจ้า พวกเรากลับไปโซนที่พัก ที่ลีไวน์ฯ เค้าจะมีพร๊อพ คือ ตระกร้าเก็บชา และหมวกไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้ถ่ายรูป ไปเดินตามหามาจนได้ ช่วงสายๆ แสงดี อากาศเย็นเลยทำให้ไม่ร้อนมาก ไปชมภาพกันจ้า
To be continued.....
[CR] หนาวนี้ ... ที่เมืองสามหมอก
เราเดินทางสัปดาห์แรกของเดือนธันวาคม ทริปนี้ 5 วัน กับสมาชิก 5 คน เราเลือกที่จะอยู่หลายวันหน่อย เพราะอยากฟินกับหมอกนานๆ พาหนะที่พาพวกเรา 5 คน มาเจอ 4 พันกว่าโค้ง คือ ThaiVietJet Air เราเพิ่งเคยนั่งสายการบินนี้เป็นครั้งแรก โอเคเลยนะ เครื่องลำใหญ่ ที่นั่งกว้างกว่าแอร์เอเชียอีก นั่งหลับสบายๆ 1 ชั่วโมงเต็มแบบใส่หน้ากากตลอด ไม่รู้สึกอึดอัดเลย
เครื่องบินลงที่จังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นตลอดการเที่ยว 5 วัน เราเหมารถพร้อมคนขับของ ปายเลทโกทัวร์ เจ้าเดิมกับเมื่อตอนมาเที่ยวครั้งแรก จากเชียงใหม่สามารถเที่ยวขับรถเที่ยวแม่ฮ่องสอนเป็นเส้นทางวงกลมได้ (เชียงใหม่ - ปาย - ปางมะผ้า - เมืองแม่ฮ่องสอน - ขุนยวม - แม่ลาน้อย - แม่สะเรียง - เชียงใหม่) ใครอยากเที่ยวเต็มวงแบบไม่เหนื่อยมากแนะนำลางานมา 1 อาทิตย์เลยจ้า สำหรับทริปเรา 5 วัน เที่ยวแบบครึ่งวงกลม คือ เส้นทาง เชียงใหม่ - ปาย - ปางมะผ้า – เมืองแม่ฮ่องสอน ไปกลับเส้นทางเดิม โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 1095 เป็นหลัก
สาเหตุที่จองที่นี่ 2 คืนแรกเพราะ 2 คืนหลัง เราเลือกพักที่อำเภอปายจะได้เดินถนนคนเดินปายในวันเสาร์ได้ด้วย (ปล. หน้าหนาว พฤศจิกายน-กุมภาพันธ์ ถนนคนเดินปายมีทุกวันนะจ๊ะ อันนี้มารู้ทีหลัง หลังจากกลับมาแล้ว) ฉะนั้น ถ้าเพื่อนๆ ไปหน้าหนาว อย่า...อย่าหาทำแบบเรานะ ให้เลือกพักที่อำเภอปาย แวะเที่ยวปายก่อน ให้ได้พักก้น พักร่าง พักใจบ้าง แต่ถ้าเพื่อนๆ คนไหนชอบความท้าทาย จัดตามได้เลยจ้า
หลังจากเครื่องลง เราแวะทานอาหารเช้าในเมืองเชียงใหม่ หาร้านจากใน Google ไม่ไกลจากสนามบิน ร้านชื่อ Goodsouls Kitchen ร้านนี้เป็นร้านอาหารมังสวิรัติ (Vegan) ในชีวิตจริงก็ทานเนื้อสัตว์ปกติแหละ แต่เห็นหน้าตาอาหารจากในเน็ตดูดีเชียว เลยต้องลอง เมนูที่เลือกลองทานในมื้อนี้
- สเต็กเห็ด (9/10) ซิกเนอเจอร์ของร้าน พนักงานแนะนำ
- ข้าวซอย (7/10) รสชาติข้าวซอยที่แท้ทรู ใช้ได้อยู่นะ แต่เส้นยังไม่ใช่ ทานไปทานมารู้สึกเส้นแบบนี้มันไม่เข้ากัน
- ปอเป๊ยะสด (8/10) น้ำจิ้มยังไม่นัวเท่าไหร่ หักไป 2 แต้ม
- ซุปฝักทอง (10/10) อร่อยมาก จานนี้ต้องสั่ง เสริฟพร้อมขนมปัง จิ้มกินเข้ากันได้ดี
- เครื่องดื่มเป็นกาแฟ มอคค่ากับลาเต้ นมถั่วเหลือง (10/10) อันนี้คือดี ทำอร่อยกว่าสตาร์บัคในราคามิตรภาพเอาไปเต็มสิบไม่หักจ้า
เราถึงตัวอำเภอปายประมาณ 4 โมงเย็น หลับๆ ตื่นๆ สลับกันไป น้องคนขับขอเอารถเข้าอู่ไปเช็คผ้าเบรก เนื่องจากได้กลิ่นไม่ดีจากใต้ท้องรถ ขุ่นพระ!!! รู้สึกใจไม่ดี หนทางอีกยาวไกล เพราะจากปายไปจุดหมายปลายทางนั้น ใช้เวลาอีก 3 ชั่วโมง สวดมนต์สิจ๊ะรออะไร... จากการเช็คที่อู่ ผลคือต้องเปลี่ยนผ้าเบรกจริงๆ น้องคนขับบอกขับต่อไปอันตราย เอาความปลอดภัยไว้ก่อนดีกว่า จัดไปจ้า พวกพี่รอได้ (ณ จุดนี้ต้องให้ดาวไปอีก 1 แต้มจ้า สำหรับความใส่ใจถึงความปลอดภัยและมีความรอบคอบ)
พอรถเปลี่ยนผ้าเบรกเสร็จ พวกเราก็เดินทางกันต่อ เวลาที่คาดว่าจะถึงบ้านรักไทยก็คงค่ำๆ ไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ จริงๆ อยากจะถึงก่อนฟ้าจะมืด เพราะถนนไม่มีไฟและคดเคี้ยว เกรงว่าจะเจออันตรายที่อาจคาดเดาไม่ได้ ก็นั่งลุ้นแบบหลับไม่ลงเลยทีเดียว และแล้วก็ถึงลีไวน์รักไทยอย่างปลอดภัยตอน 2 ทุ่มกว่า พอเปิดประตูก้าวเท้าลงจากรถ เจออากาศเย็นสดชื่นมาก ทำให้ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางหายไปเลย พวกเราสั่งอาหารผ่านทาง inbox เพจไว้เรียบร้อยแล้ว ไปถึงแจ้งชื่อ อาหารก็ทยอยออกมาวางเต็มโต๊ะเลย (ครัวปิด 1 ทุ่ม ร้านปิด 2 ทุ่ม ใครเดินทางถึงค่ำแบบพวกเราแนะนำโทรหรือส่งข้อความไปทางเพจ เพื่อสั่งอาหารไว้ก่อน)
- ขาหมูหมั่นโถว
- ผัดซาโยเต้
- ซุปจงเปา
- ไข่เจียวหมูสับ
- ข้าวผัดยูนนาน
มีความโชคที่วันนี้ลูกค้าเยอะ 2 ทุ่มกว่าร้านยังไม่ปิด ได้นั่งทานที่ร้าน รับลมชมวิวสบายๆ พอกินอิ่ม หายเหนื่อยจากการเดินทาง ก็เข้าที่พักกันจ้า ห้องพักที่เราจองได้ครั้งนี้ คือ บ้านชาก้านเดียว (พักได้ 4 คน) กับบ้านนางงาม (พักได้ 2 คน) จริงๆ อยากพักโซนบ้านไวน์ แต่ราคาแรงไป สำหรับการจองที่พักของลีไวน์รักไทยรีสอร์ท สามารถจองได้ทางเพจ ติดตามประกาศจากทางหน้าเพจได้ว่า เปิดให้จองช่วงไหนเมื่อไหร่ อย่างเราเข้าพักต้นเดือนธันวาคม เปิดจองตอนกลางปีราวๆ เดือน 6 หรือ 7 นี่แหละ ทุกครั้งที่เราจอง จะเต็มภายใน 10-15 นาที ขอบอกว่าที่พักเค้าเต็มทั้งปีจริงๆ นะ ใครตั้งใจอยากมาพักขอให้จองได้กันนะจ๊ะ พักที่นี่ไม่ผิดหวังจริงๆ
Day 2: เมืองแม่ฮ่องสอน ล่องเรือ ชมไร่ชา พระตำหนักปางตอง วัดจองกลาง-จองคำ พระธาตุดอยกองมู
เช้าวันที่สอง ตื่นมาอย่างสดใส มาดูพระอาทิตย์ขึ้น วิวหน้าบานพัก (บ้านชาก้านเดียว) กับหมอกจางๆ และแสงอาทิตย์ ฟินมาก กดชัตเตอร์รัวๆ ไปเลยจ้า โปรแกรมเช้าวันนี้ที่บ้านรักไทย พวกเราจะล่องเรือที่อ่างเก็บน้ำ โชคดีอีกแล้วที่เช้านี้มีหมอก แต่เราไม่ได้ลงมาจองคิวไว้ก่อน เลยได้รอบสาย 9 โมงกว่า ช่วงเวลาพีคของการชมหมอก คือ 6-9 โมงเช้านะจ๊ะ จองคิวและลงเรือได้ที่ลีไวน์คาเฟ่จ้า ค่าล่องเรือราคาต่างกันไปตามช่วงเวลาและขนาดเรือ อยู่ในช่วงราคา 280-490 บาท ราคาที่จ่ายนี้ฟรีน้ำชา 1 กา ใช้เวลาล่องเรือประมาณ 40 นาที
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้