ถ้าคุณเคยเป็นแฟนเก่าของผม คุณจะเกลียดผมขนาดไหนครับ?

***เรื่องนี้ค่อนข้างยาว บอกไว้ก่อนเลยนะครับว่าผมเป็นคนที่พูดวกวนไปวนมา ถ้าอ่านแล้วรู้สึกขัดใจก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ***
      ตั้งแต่เลิกกันถึงตอนนี้ก็ประมาณ 2 ปีแล้ว ผมมีแฟนใหม่มาและเลิกไปเหมือนชีวิตเด็กวัยรุ่นปกติ แต่ในชีวิตประจำวันบางครั้งก็มีเรื่องให้นึกถึงเขาเพราะเขาก็เป็นคนที่ไม่ได้อยู่ไกลตัวผมมากนัก เพราะแบบนี้แหละเลยมูฟออนเป็นวงกลม5555 แต่ผมไม่ได้ถึงขนาดไม่อยากทำอะไรเลย แค่รู้สึกเศร้าเวลานึกถึง ที่บอกไม่ได้อยู่ไกลตัว ผมไม่ได้หมายถึงเจอกันได้ง่ายนะครับ ผมหมายถึงผมสามารถรู้ข่าวคราวของเขาได้บางในบางครั้ง เช่นจากเพื่อนของเขา หรือข่าวจากคนอื่นๆ ผมเศร้าและรู้สึกผิดทุกครั้ง แต่ผมอยากรู้ความคิดเห็นของคนอื่นครับ ว่าถ้าเป็นผู้อ่านจะรู้สึกเกลียดหรือไม่ เกลียดระดับไหน ผมจะเล่าแบบย่อๆให้อ่านกันนะครับ
 
     มันเริ่มจากช่วง ม.ปลาย ผมชอบเพื่อนในห้องคนนึง(ใช้ชื่อสมมติเป็นก้อยนะครับ) ซึ่งจริงๆไม่ตรงสเปคผมเลย เขาเป็นคนเก่ง เรียนดี ทำงานดี ตั้งใจเรียน ถามว่าไม่ตรงสเปคตรงไหน เขาเป็นคนที่ข้อนข้างจะอ่อนเรื่องกิจกรรมที่เน้นลุยๆ หรือพวกกีฬา ตัวเล็ก ดูไม่ค่อยสู้คน เวลามีคนเล่นมุขก็จะตามไม่ค่อยทัน สำหรับผมก้อยดูเป็นคนที่อ่อนต่อสังคมมาก และอีกอย่างก็รูปลักษณ์นั่นแหละครับ ผมไม่ได้ว่าก้อยหน้าตาขี้เหร่นะครับ แต่หมายถึงไม่ตรงสเปค ผู้ชายส่วนใหญ่ก็จะมองรูปลักษณ์ที่ตัวเองชอบก่อนจะจีบอยู่แล้ว(ในกรณีที่ไม่รู้จักกัน) ซึ่งผมก็เป็นแบบนั้น
 
     ผมคงต้องแนะนำตัวก่อนใช่ไหมครับ เอาเป็นว่าผมเป็นคนมั่นหน้าประจำโรงเรียน ที่เป็นที่นิยมของผู้หญิงพอสมควรในโรงเรียน ไม่ได้แบบระดับดาราที่จะมีแฟนคลับมารุมขอจับมืออะไรขนาดนั้นนะครับ เอาเป็นว่าก็หน้าตาดีระดับนึง เรียนห้องวิทย์-คณิต เป็นสภาโรงเรียน(แต่ไม่ได้เป็นประธานนะ) เล่นกีฬาเก่ง เล่นดนตรีได้ ร้องเพลงได้ ประกวดร้องเพลงของโรงเรียน เป็นดรัมเมเยอร์ของวงโยโรงเรียน เป็นเด็กวิทย์-คณิตเรียนดี สายทำกิจกรรมที่ดูทำอะไรได้หลายอย่างเลยว่าไหมครับ แต่ผมบอกเลยว่าตัวตนผมจริงๆแล้วเป็นคนที่ขี้เกียจมาก บอกเลยว่าเกรดของผมในช่วงแรกของ ม.ปลายนี่ไม่ดีเอาซะเลย อย่างเทอมแรกและเทอมที่สองผมได้เกรดเฉลี่ย 2.32 และ 2.73 ถ้าดูห้องที่ผมเรียนอยู่ผมไม่น่าจะไม่ใช่คนแบบที่บอกไว้แต่แรกใช่ไหมครับ ซึ่งมันก็จริงแหละ คนนั้นที่ผมบอกมันก็มุมมองจากคนที่ไม่ได้อยู่ห้องเดียวกัน คนจากภายนอก แต่ถ้าเป็นเพื่อนร่วมห้องจะรู้ดีว่าผมไม่ค่อยเอาเรื่องเรียน ครูสอนเป็นหลับ แอบเล่นเกมมือถือก็ทำประจำเลย ไม่ค่อยมีเสน่ห์เลยจริงๆ ผมมั่นใจว่าผมค่อนข้างเป็นคนฉลาด เรียนรู้ไว้ ติดที่ขี้เกียจจริงๆ งานไม่ส่ง การบ้านไม่ทำ สอบไม่อ่านหนังสือ ไปอ่านหน้าห้อง คะแนนเก็บน้อย ไปเอาตัวรอดตรงสอบนี่แหละ ขนาดไม่อ่านยังผ่านได้เลย แอบภูมิใจนิดนึงนะ5555 อาจจะมีแอบถามเพื่อนนิดนึง แต่ก็ส่วนน้อยแหละ
    
     ต้องแนะนำก้อยด้วย ก้อยเป็นลูกสาวคนโตของบ้าน จึงอาจจะทำให้โดนพ่อแม่ที่ค่อยข้างกวดขันอย่างหนักให้เป็นคนดี ตั้งใจเรียนจะได้มีอนาคตที่ดี ก้อยค่อนข้างจะกลัวพ่อดุมากๆ ก้อยบอกว่าพ่อไม่ให้มีแฟนตอนเรียน ไม่ให้เล่นโซเชียล แต่ยกเว้นไลน์ ด้วยความไลน์ห้องอะเนอะ ต้องตามข่าวสารในห้องบ้าง ครูประจำวิชาบางท่านก็ใช้ไลน์ในการติดต่อ เช่น ชวนไปทำกิจกรรม ไปแข่ง พ่อจึงอนุญาตให้เล่นไลน์ได้ นอกนั้นไม่ได้เลย อาจจะทำให้ก้อยดูเนิร์ดไปเลยนะครับ
 
     กลับเข้าเรื่องดีกว่า แบบที่บอกข้างบน ผมค่อนข้างจะเหลวไหล ไม่ตั้งใจเรียน เป็นปกติของผม ผมก็ได้ไปชอบก้อยเข้า และเข้าหาก้อยด้วยวิธีต่างๆ เช่น เข้าไปชวนคุย ไปแกล้ง แต๊ะอั๋ง เหมือนที่เด็กๆผู้ชายเขาทำกัน(มั้ง) ทำให้เราได้ลองคุยกัน ด้วยที่ก้อยกับผมนั้นคนละขั้วเลย ทำให้ผมรู้สึกเหมือนดอกฟ้ากับหมาวัดไรงี้ ผมเลยพยายามดีดตัวเองขึ้นมา พยายามตั้งใจเรียนขึ้น แต่ก็เหลวไหลอยู่ ยังนอนในห้อง ยังเล่นเกมอยู่นะ55555555 หลังจากที่ผมได้คุยกัน ผมก็ดีดขึ้นมาเลย ทำเกรดขึ้น 3 มาเลยครับ ผมรู้สึกเลยว่าเพราะก้อยจริงๆที่เป็นคนผลักดันผมขึ้นมา ถึงเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย ไม่ได้ติวให้ผม ไม่ได้มาคอยจี้ให้ผมทำงาน แต่เขาทำให้ผมอยากเปลี่ยนตัวเองจริงๆ สุดท้ายเราก็ได้คบกัน แต่อย่างที่บอกเรื่องที่โดนห้ามมีแฟน เลยคบกับแบบลับๆ แต่ก็ไม่รอดเพื่อนในห้องอยู่ดี ทุกคนในห้องและคนสนิทนอกห้องบางคนก็รู้ว่าเราคบกัน แต่ยังไงก็ต้องปิดเป็นความลับกับครูและคนอื่นๆในโรงเรียน ซึ่งผมก็ยอมรับว่าบางครั้งผมก็อึดอัดกับมัน
 
     เรื่องรายละเอียดระหว่างคบกันผมขอไม่เล่ามากนะครับ ระหว่างคบกันเคยมีครั้งนึงที่ก้อยมาถามผมว่าตอนนี้เราเลิกกันก่อนดีไหม เพราะก้อยไม่สบายใจเรื่องที่บ้านจะรู้ เพราะก้อยมีน้องสาวอีก 2 คนที่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน บอกผมว่าตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันไปก่อน แล้วเราค่อยมาคบกันตอนเรียนมหาลัยได้ไหมถ้าเรายังรู้สึกกันเหมือนเดิมอยู่ แต่ผมก็พูดไกล่เกลี่ยจนก้อยยอมคบต่อ หลังจากเราคบกันได้ 9 เดือนเป็นช่วงที่เพิ่งขึ้น ม.6 อยู่ๆก็มีกลุ่มนักเรียนและนักกีฬาบาสจากโรงเรียนอื่นเข้ามาเรียนห้องเดียวกับผม ซึ่งแต่ละคนบอกเลยดีต่อใจสาวกันทั้งนั้น แต่ผมก็ไม่ได้อคตินะ แต่ก็หมั่นไส้บ้างในบางครั้ง(ก็พวกนั้นมันเด่นเกินหน้าเกินตาผมอะ5555)
 
     หลังจากเปิดเทอมได้เดือนนึง ก้อยก็มาขอเลิกกับผม แล้วบอกเหตุผลกับผมว่ารับแรงกดดันที่มีคนรู้เรื่องที่เราคบกันไม่ไหว กลัวพ่อรู้ ซึ่งผมก็เข้าใจแล้วก็ยอมโดยดี แต่ก็ไม่ได้ห่างกันไป เราก็ยังทำตัวเหมือนคบกันอยู่ ยังจับมือกัน อ้อนกันบ้าง แต่ไม่ได้ชัดเจนเหมือนตอนคบกัน และด้วยที่สถานะมันหายไป ทำให้เราเริ่มห่างกันมากขึ้น รวมกับที่พวกนักบาสที่เข้ามาเทอมนี้มันชอบมาแกล้ง และเข้าหาก้อยเหมือนที่ผมเคยทำตอนจีบก้อยใหม่ๆ ซึ่งก้อยก็เหมือนจะยิ้มเขินๆ เพื่อนของก้อยก็เหมือนจะแซวช่วยนักบาสคนนั้น ทำให้ผมไม่พอใจมากๆ แต่ผมไม่มีสถานะอะไรที่จะไปหึงหวงได้อีกแล้ว ทำให้ผมเริ่มที่จะไม่ชอบนักบาสคนนี้และเหมารวมทั้งกลุ่มไปเลย จนวันนึงผมได้ไปปิ๊งรุ่นน้องคนนึง ทำให้ผมห่างกับก้อยไปซักพัก ด้วยความที่ก้อยรู้สึกว่าผมเปลี่ยนไป และผมไม่อยากปิดบัง ผมจึงบอกก้อยว่าผมปิ๊งรุ่นน้องคนนึงอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้จีบต่อนะครับ ด้วยเหตุผลส่วนตัวจึงหยุดจีบต่อ และก็ปล่อยตัวเองโสดไปอย่างนั้น และก้อยก็ห่างจากผมไปเลยตั้งแต่วันที่ผมบอกก้อยว่าผมปิ๊งรุ่นน้อง
 
     จากนั้นผ่านมาจนถึงช่วงเทอมสองของ ม.6 ช่วงกีฬาสีเดือนธันวาคม เป็นช่วงที่ผมรู้ตัวแล้วว่าผมยังรู้สึกกับก้อยเหมือนเดิม แต่ด้วยความหยิ่งยโสของตัวเอง ด้วยความคิดที่ว่าผมไม่ได้เป็นคนบอกเลิกทำไมผมต้องง้อ ผมจึงพยายามทำเหมือนผมกำลังคุยกับคนนั้นคนนี้ แล้วเอาไปอวดก้อย เพื่อพยายามทำให้ก้อยหึง ทำแบบนี้ไปครั้งสองครั้ง หลังจากนั้นก้อยก็ไม่คุยกับผมอีก
 
     จนหลังปีใหม่ผมรู้สึกตัวแล้วว่าผมมูฟออนจากก้อยไม่ได้ ผมจึงพยายามขอโทษก้อย อ้อนวอนก้อยให้กลับมาคุยกันเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าผมจะทำยังไง สิ่งที่ได้กลับมามีแค่การที่ก้อยบอกว่าความรู้สึกของก้อยนั้นเปลี่ยนไปแล้ว ให้มากสุดได้แค่เพื่อน ผมเศร้าใจมาก ยอมรับเลยว่าเป็นจุดที่ใจของตัวเองตกต่ำมากจริงๆ มากที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้ ผมโทษตัวเองไม่เลิก ด่าตัวเองทุกครั้งว่าผมทำตัวเอง ผมเลือกทำเอง ในกลุ่มเพื่อนของผมเป็นสายฮา พูดมาก จะทำให้กลุ่มวุ่ยวายหน่อยๆ และจะมีผมนี่แหละเป็นตัวป่วน ทำเสียงดัง เล่นดนตรี ร้องเพลง สารพัด แต่ด้วยเหตุการณ์นี้ ทำให้ผมเก็บตัวอยู่ช่วงนึงแบบไม่ค่อยร่าเริงเหมือนแต่ก่อน
 
     จนถึงงานวันปัจฉิมนิเทศ ผมตัดสินใจขอร้องเพื่อนให้ช่วยผม เพื่อที่ผมจะได้มอบดอกไม้วันจบการศึกษาให้ก้อยเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งมันก็จบลงด้วยดี ซึ่งผมก็คิดว่าวันนั้นเรื่องของเราคงจบลงแล้ว 
 
     หลังจากขึ้นปี 1 ผมได้กลับมาเยี่ยมครูที่โรงเรียนเนื่องในวันครู ซึ่งได้ข่าวจากเพื่อนๆว่าก้อยก็ไปเหมือนกัน ผมดีใจมากที่จะได้เจอก้อยในวันนี้ แต่ผมมีเรียนในตอนเช้า ทำให้ผมไปได้ในตอนบ่าย นั่นทำให้ผมได้เจอก้อยแค่ครั้งเดียวในวันนั้น ผมจึงทักก้อยไปด้วยความคิดถึง แต่ก้อยก็ไม่ตอบผมเลย จนผมรู้ว่าก้อยได้บล็อคไลน์ผมไปแล้ว ช่วงคบกันก้อยเคยแอบพ่อเล่นอินสตาแกรมด้วย ซึ่งเราก็ Follow กัน ผมจึงทักอินสตาแกรมไปอีกครั้งและทำให้รู้ว่าก้อยได้ทิ้งอินสตาแกรมเก่าแล้วสมัครใหม่ไปแล้ว ก่อนหน้านั้นก้อยมีอินสตาแกรมสองไอดี ไอดีแรกตอนคบกัน ไอดีที่สองตอนช่วงกีฬาสี ม.6 ที่เลิกกันไปแล้ว โดยบอกเหตุผลว่าไอดีเก่าเข้าไม่ได้ เลยสมัครใหม่ นั่นหมายความนี่คือไอดีที่ 3 แล้ว ซึ่งคนที่ก้อยฟอล และคนที่ฟอลก้อยมีแค่เพื่อนในกลุ่มของก้อยเท่านั้น ซึ่งผมพยายามตื้อ กดรีเควสฟอลโล่ พอเห็นว่าไม่รับ ก็อันรีเควส และรีเควสใหม่ แต่ก็ไม่ได้ผล และผมเลยลองพยายามขอให้เพื่อนของเขาคุยให้แต่ก็ไม่ได้ผล เพื่อนบอกว่าก้อยพยายามเลี่ยงที่จะคุยเรื่องผม ผมก็เลยไม่ได้ขออะไรมากกว่านี้
 
     หลังจากที่ผมถอดใจไป ช่วงขึ้นปี2 ผมได้คุยกับเพื่อนเก่าของก้อยคนนึงซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของก้อย(สมมติชื่อมิว) มิวเรียนวิศวกรรมศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ซึ่งได้ทักมาให้ผมช่วยเรื่องเรียน(ผมสงสัยว่า ผมดูมีความรู้หรอถึงมาปรึกษา5555) ผมก็ช่วยเท่าที่สามารถทำได้ พอจบธุระของมิว ผมจึงถามถึงก้อย แต่มิวบอกว่าช่วงนั้นก้อยค่อยข้างติดต่อยาก ไม่ค่อยได้คุยกันเลยนอกจากเรื่องงานหรือเรื่องเรียน ผมเลยถามว่าไอจีของก้อยก็ไม่ค่อยได้ลงรูปหรือสตอรี่หรอ มิวก็บอกว่าใช่ จากนั้นเราก็จบบทสนทนาและไม่ได้คุยกันอีก
 
     ตอนนี้ผมเรียน ปี2 เทอม2 แล้ว ไม่นานมานี้พึ่งผ่านวันเกิดเพื่อนตอน ม.ปลาย ของก้อย(สมมติชื่อมุก) ซึ่งมุกก็เป็นเพื่อนผมเหมือนกัน ผมที่ฟอลโล่มุกไว้ตั้งแต่สมัย ม.ปลายแล้ว ในสตอรี่ของมุก ผมได้เห็นไอดีอินสตาแกรมที่มา HBD ให้มุก ซึ่งผมรู้ได้ในทันทีว่าเป็นไอดีของก้อย ด้วยรูปที่นำมาอวยพรเป็นรูปกลุ่มก้อยและเพื่อน และชื่ออินสตาแกรมที่ผมดูก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นก้อย ทำให้รู้ว่านี่ไอดีที่ 4 แล้ว ผมได้แต่สงสัยว่าทำไมต้องสมัครใหม่อีกแล้ว หรืออาจจะเพราะผมที่พยายามรีเควสฟอลโล่ไปตอนนั้น แล้วทำไมมิวถึงไม่ได้บอกว่าก้อยสมัครไอดีใหม่ นี่คือคุยกันมาก่อนแล้วโป๊ะหรือป่าว อันนี้ไม่รู้ แล้วผมก็มารู้ทีหลังอีกว่าในกลุ่มเพื่อนของผมก็โดนก้อยบล็อคไลน์ไปด้วย และก็ไม่รับรีเควสฟอลโล่จากเพื่อนผมเหมือนกัน ผมไม่มั่นใจเลยว่าเป็นเพราะผมหรือป่าว หรือว่าก้อยจะเกลียดผมไปแล้ว
 
     จากที่ได้อ่านไป ถ้าผู้อ่านเป็นก้อยจะรู้สึกยังไงครับ จะเกลียดผมหรือไม่ คิดเห็นยังไง commend บอกผมหน่อยนะครับ ผมจะอ่านของทุดคนแน่นอน สำหรับวันนี้ก็ขอตัวลาไปก่อน see you again yesterday เจอปืนครับผม อย่าลืมเป็นร้อนในนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่