คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ขอโทษนะเธอ เค้ารู้ว่าเค้าพูดจาไม่ดีจริง สิ่งที่พูดมันไม่สมควรพูดออกไปเลย แต่เค้าอยากให้เธอรู้ว่าที่ทำแบบนั้นเพราะโกรธมากที่เธอผิดสัญญา จริงๆแล้วคือเธอไม่ต้องห่วงเลยว่าเค้าจะไปด่าหรือว่าอะไรเธออีกถ้าเธอไม่ผิดสัญญากับเค้าเพราะมีแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เค้าจะโกรธถึงขนาดด่าเธอด้วยคำหยาบแบบนั้น
วัดจากประโยคที่คุณบอกไป ฉันยังไม่เห็นตรงไหนเลยค่ะที่คุณบอกว่าคุณจะไม่ทำอีก ^^"
มีแต่บอกว่า "คุณรู้แล้วว่าด่าหยาบมันไม่ดี ไม่สมควร แต่ถ้าเธอไม่ผิดสัญญา คุณก็จะไม่ด่าหยาบ"
ซึ่งหมายความว่า ถ้าเธอทำอีก คุณก็ด่าหยาบเหมือนเดิม
ฉันว่าคุณสื่อสารถูกต้องแล้วล่ะ คุณก็แน่ใจว่าคุณต้องการแบบนี้ถูกไหมล่ะ
คุณไม่มีตัวเลือก "เลิกด่าหยาบโดยสิ้นเชิงไม่ว่าเธอจะผิดสัญญาอีกหรือไม่ก็ตาม" ใช่ไหม?
ถ้าใช่ คุณสื่อสารถูกต้องแล้วค่ะ และฉันเชื่อด้วยว่าเธอก็เข้าใจตรงกับคุณ
วิจารณ์ตามจริง จากประสบการณ์ของคนที่หากินด้านการสื่อสารด้วยภาษาไทยนะคะ
คุณน่ะไม่ได้จะขอโทษเธอที่ตัวเองด่าหยาบ แต่คุณต้องการบอกว่า "เพราะเธอทำผิด เธอต่างหากที่ทำให้คุณต้องด่าหยาบ"
ซึ่งปกติของแบบนี้เขาไม่เรียกว่าการขอโทษค่ะ เพราะคุณคิดจะทำอีกอยู่เห็นๆ
การขอโทษ พื้นฐานของมันคือ "จะไม่ทำอีกแล้ว" ซึ่งคุณไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณจึงไม่ได้จะขอโทษ
คุณโบ้ยความผิดที่ตัวเองด่าหยาบให้เธอ กลายเป็นว่า เธอผิดที่ผิดสัญญาและผิดซ้ำที่บีบให้คุณต้องด่าหยาบด้วย หมายความว่าคุณไม่ผิดอะไรไง OwO คงจะแปลกล่ะค่ะที่เธอฟังแบบนี้แล้วจะเข้าใจว่า "คุณจะไม่ด่าหยาบอีก"
คงเป็นคุณที่เข้าใจของคุณเองเพียงคนเดียวแล้วล่ะ เธอกับคนอื่นทั้งโลกคงไม่คิดเหมือนคุณ 5555
ที่คุณทะเลาะกันอยู่จนถึงตอนนี้เนี่ย คือคุณต้องการให้เธอขอโทษ+รับปากเรื่องทำผิดสัญญา ส่วนเธอต้องการให้คุณขอโทษ+รับปากเรื่องด่าหยาบ
คุยกันคนละเรื่องโดยที่เข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน คุยอีกเท่าไรก็ไม่เข้าใจกันหรอกค่ะ ต่างฝ่ายต่างไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิดเพราะอีกฝ่ายก็ดูจะไม่ยอมรับผิดเหมือนกัน ต่างคนต่างคุยจี้ว่าอีกฝ่ายทำผิด
เหมือนคุณกับแฟนตะโกนใส่กันว่า "เธอแหละผิด!" "เธอนั่นแหละผิด!" ในใจก็คิดว่าตัวเองไม่เลิกทำอย่างที่ทำไปหรอก
คุณไม่คิดเลิกด่าหยาบ ส่วนเธอก็ไม่คิดจะเลิกทำผิดสัญญา
ไม่แปลกใจสักนิดที่จะทะเลาะกัน ^^"
ฉันขอแนะนำให้คุณบอกตรงๆ ไปเลยว่า
"เค้าไม่เลิกด่าหยาบหรอกตราบใดที่เธอยังจะผิดสัญญาอีก เค้าจะเลิกต่อเมื่อเธอไม่ทำผิดสัญญาเท่านั้น ถ้าเธออยากให้เราขอโทษเรื่องด่าหยาบแล้วรับปากว่าจะไม่ทำอีก เธอก็ต้องขอโทษที่ผิดสัญญาแล้วรับปากว่าจะไม่ทำอีกเหมือนกัน แฟร์ๆ นะ มาแลกกัน"
แบบนี้ถึงจะจบเรื่องได้จริง
อันที่จริงระบบป้องกันตัวมีติดตั้งอยู่ในมนุษย์ทุกคนนะคะ ^^ ทั้งคุณและเธอต่างก็มีเหมือนคนอื่นที่มี
เราทำผิด เราก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ถ้ามองแล้วอีกฝ่ายไม่ลดราวาศอกให้ โดยเฉพาะในกรณีที่เขาก็ทำผิดเหมือนกัน เราก็จะรู้สึกไม่อยากยอมรับความผิดซะงั้น ไม่มีวันยอมรับว่าเราผิดแค่ฝ่ายเดียว
บางคนก็ใจเด็ด ยอมรับเละวันนี้ก่อน ปล่อยให้อีกฝ่ายขยี้ได้ตามใจ นอนหลับพักจิตสักคืน พรุ่งนี้ก็ถึงตาเธอโดนบ้าง
ซึ่งน้อยคนล่ะจะยอม ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรมนี่นา
จึงมักจะลงเอยที่ "การประนีประนอม" ค่ะ ฉันรับผิดนะ เธอล่ะรับไหม ถ้าต่างฝ่ายต่างรับก็จบกันไป
ฉันก็เห็นใจคุณนะ เธอทำผิดสัญญาและคุณก็โกรธมากจริง
แต่คนที่โกรธได้เต็มแม็กซ์จริงๆ เขาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองทำผิดด้วยหรอกค่ะ ^^ เพราะการที่เราทำผิดจะเป็นจุดอ่อนให้อีกฝ่ายเอามาโจมตีได้ เพราะเราก็ทำผิด เขาจึงไม่จำเป็นต้องขอโทษไง
ดังนั้นถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะรับปากเดี๋ยวนั้นเลยว่าไม่มีวันด่าหยาบอีกแล้ว เพราะครั้งต่อไปที่เธอผิดสัญญาอีก ฉันที่ไม่ได้ด่าหยาบจะสามารถกดเธอได้เต็มเท้า เอาให้พูดไม่ออก แก้ตัวไม่ได้ จงยอมรับมาซะว่าตัวเองทำผิดจริงอย่างเต็มประตู ฮั้ว55555
ตัวฉันเองถ้าทำผิดจะยอมรับแบบหมดตัวหมดใจก่อนที่อีกฝ่ายจะกล่าวโทษเสียด้วยซ้ำ ไม่เถียง ไม่แถ ไม่เหลือศักดิ์ศรี (มันมีศักดิ์ศรีของคนผิดด้วยเหรอ?) และมีปณิธานมุ่งมั่นจะไม่ทำผิดซ้ำ เพราะงั้นเลยยากที่ฉันจะอภัยหากว่าเขาไม่ได้รีบยอมรับผิดเต็มที่โดยทันที เพราะฉันไม่มีชนักติดหลัง หากอีกฝ่ายพยายามดิ้นหนีจากความผิด ฉันจึงซ้ำจนจมดินได้เสมอ ความจริงคือเขาทำผิด เขาไม่มีทางหนีความจริงนี้ได้ และความจริงก็เจ็บปวดมากด้วย นี่คือสัจจธรรม
ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทนทานไม่ไหวค่ะ
คนส่วนใหญ่แม้รู้ตัวว่าตัวเองผิดจริง แต่จะรับไม่ได้หากถูกบังคับให้เหลือทางเลือกเดียวคือยอมรับผิด เขาต้องการทางเลือกอื่น เช่น เนียนๆ ทำเป็นจำไม่ได้ หรือได้รับการอภัยแบบออโต้ มันทำให้เขารู้สึกสบายใจมากกว่า สบายใจที่ไม่ต้องรับรู้ว่าตัวเองผิด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันกับการสำนึกนะคะ แม้ไม่ขอโทษ ไม่รับรู้ว่าตัวเองผิด แต่อาจจะไม่ทำอีกได้
ดังนั้นสำหรับฉันแล้ว ไม่สำคัญว่าจะขอโทษหรือไม่ ขอแค่อนาคตไม่ทำอีกก็พอ
ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะขอโทษส่วนของตัวเองแล้วปล่อยเธอไป ตราบใดที่เธอไม่ทำอีกก็จะถือว่าเรื่องเดิมได้รับการอภัยไปแล้ว ซึ่งในหลายๆ ครั้งฉันก็เคยได้อภัยแบบนี้นะ เขาสำนึกจริงแม้ไม่พูด ฉันพอใจ
แต่ถ้าทำอีก ทำซ้ำ คนแบบนี้ไม่มีวันสำนึกผิดได้จริงหรอกค่ะ เขาไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองหรือปรับตัวเข้าหาเรา ไม่แคร์ว่าทำแล้วเราจะเจ็บปวด ไม่แคร์ว่าตัวเองทำให้เราเจ็บปวด ก็เหลือทางเลือกแค่จะทำใจยอมรับหรือเลิกรากันไปเท่านั้น ไม่มีช่องให้ประนีประนอมได้เลย
ก็ทำนองนี้ ขอให้คุณโชคดีนะคะ
ขอให้คุณมีชีวิตคู่ที่ปกติสุขค่ะ
วัดจากประโยคที่คุณบอกไป ฉันยังไม่เห็นตรงไหนเลยค่ะที่คุณบอกว่าคุณจะไม่ทำอีก ^^"
มีแต่บอกว่า "คุณรู้แล้วว่าด่าหยาบมันไม่ดี ไม่สมควร แต่ถ้าเธอไม่ผิดสัญญา คุณก็จะไม่ด่าหยาบ"
ซึ่งหมายความว่า ถ้าเธอทำอีก คุณก็ด่าหยาบเหมือนเดิม
ฉันว่าคุณสื่อสารถูกต้องแล้วล่ะ คุณก็แน่ใจว่าคุณต้องการแบบนี้ถูกไหมล่ะ
คุณไม่มีตัวเลือก "เลิกด่าหยาบโดยสิ้นเชิงไม่ว่าเธอจะผิดสัญญาอีกหรือไม่ก็ตาม" ใช่ไหม?
ถ้าใช่ คุณสื่อสารถูกต้องแล้วค่ะ และฉันเชื่อด้วยว่าเธอก็เข้าใจตรงกับคุณ
วิจารณ์ตามจริง จากประสบการณ์ของคนที่หากินด้านการสื่อสารด้วยภาษาไทยนะคะ
คุณน่ะไม่ได้จะขอโทษเธอที่ตัวเองด่าหยาบ แต่คุณต้องการบอกว่า "เพราะเธอทำผิด เธอต่างหากที่ทำให้คุณต้องด่าหยาบ"
ซึ่งปกติของแบบนี้เขาไม่เรียกว่าการขอโทษค่ะ เพราะคุณคิดจะทำอีกอยู่เห็นๆ
การขอโทษ พื้นฐานของมันคือ "จะไม่ทำอีกแล้ว" ซึ่งคุณไม่ได้คิดอย่างนั้น คุณจึงไม่ได้จะขอโทษ
คุณโบ้ยความผิดที่ตัวเองด่าหยาบให้เธอ กลายเป็นว่า เธอผิดที่ผิดสัญญาและผิดซ้ำที่บีบให้คุณต้องด่าหยาบด้วย หมายความว่าคุณไม่ผิดอะไรไง OwO คงจะแปลกล่ะค่ะที่เธอฟังแบบนี้แล้วจะเข้าใจว่า "คุณจะไม่ด่าหยาบอีก"
คงเป็นคุณที่เข้าใจของคุณเองเพียงคนเดียวแล้วล่ะ เธอกับคนอื่นทั้งโลกคงไม่คิดเหมือนคุณ 5555
ที่คุณทะเลาะกันอยู่จนถึงตอนนี้เนี่ย คือคุณต้องการให้เธอขอโทษ+รับปากเรื่องทำผิดสัญญา ส่วนเธอต้องการให้คุณขอโทษ+รับปากเรื่องด่าหยาบ
คุยกันคนละเรื่องโดยที่เข้าใจว่าเป็นเรื่องเดียวกัน คุยอีกเท่าไรก็ไม่เข้าใจกันหรอกค่ะ ต่างฝ่ายต่างไม่อยากยอมรับว่าตัวเองผิดเพราะอีกฝ่ายก็ดูจะไม่ยอมรับผิดเหมือนกัน ต่างคนต่างคุยจี้ว่าอีกฝ่ายทำผิด
เหมือนคุณกับแฟนตะโกนใส่กันว่า "เธอแหละผิด!" "เธอนั่นแหละผิด!" ในใจก็คิดว่าตัวเองไม่เลิกทำอย่างที่ทำไปหรอก
คุณไม่คิดเลิกด่าหยาบ ส่วนเธอก็ไม่คิดจะเลิกทำผิดสัญญา
ไม่แปลกใจสักนิดที่จะทะเลาะกัน ^^"
ฉันขอแนะนำให้คุณบอกตรงๆ ไปเลยว่า
"เค้าไม่เลิกด่าหยาบหรอกตราบใดที่เธอยังจะผิดสัญญาอีก เค้าจะเลิกต่อเมื่อเธอไม่ทำผิดสัญญาเท่านั้น ถ้าเธออยากให้เราขอโทษเรื่องด่าหยาบแล้วรับปากว่าจะไม่ทำอีก เธอก็ต้องขอโทษที่ผิดสัญญาแล้วรับปากว่าจะไม่ทำอีกเหมือนกัน แฟร์ๆ นะ มาแลกกัน"
แบบนี้ถึงจะจบเรื่องได้จริง
อันที่จริงระบบป้องกันตัวมีติดตั้งอยู่ในมนุษย์ทุกคนนะคะ ^^ ทั้งคุณและเธอต่างก็มีเหมือนคนอื่นที่มี
เราทำผิด เราก็รู้อยู่แก่ใจ แต่ถ้ามองแล้วอีกฝ่ายไม่ลดราวาศอกให้ โดยเฉพาะในกรณีที่เขาก็ทำผิดเหมือนกัน เราก็จะรู้สึกไม่อยากยอมรับความผิดซะงั้น ไม่มีวันยอมรับว่าเราผิดแค่ฝ่ายเดียว
บางคนก็ใจเด็ด ยอมรับเละวันนี้ก่อน ปล่อยให้อีกฝ่ายขยี้ได้ตามใจ นอนหลับพักจิตสักคืน พรุ่งนี้ก็ถึงตาเธอโดนบ้าง
ซึ่งน้อยคนล่ะจะยอม ความยุติธรรมที่ล่าช้าก็คือความไม่ยุติธรรมนี่นา
จึงมักจะลงเอยที่ "การประนีประนอม" ค่ะ ฉันรับผิดนะ เธอล่ะรับไหม ถ้าต่างฝ่ายต่างรับก็จบกันไป
ฉันก็เห็นใจคุณนะ เธอทำผิดสัญญาและคุณก็โกรธมากจริง
แต่คนที่โกรธได้เต็มแม็กซ์จริงๆ เขาไม่ยอมปล่อยให้ตัวเองทำผิดด้วยหรอกค่ะ ^^ เพราะการที่เราทำผิดจะเป็นจุดอ่อนให้อีกฝ่ายเอามาโจมตีได้ เพราะเราก็ทำผิด เขาจึงไม่จำเป็นต้องขอโทษไง
ดังนั้นถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะรับปากเดี๋ยวนั้นเลยว่าไม่มีวันด่าหยาบอีกแล้ว เพราะครั้งต่อไปที่เธอผิดสัญญาอีก ฉันที่ไม่ได้ด่าหยาบจะสามารถกดเธอได้เต็มเท้า เอาให้พูดไม่ออก แก้ตัวไม่ได้ จงยอมรับมาซะว่าตัวเองทำผิดจริงอย่างเต็มประตู ฮั้ว55555
ตัวฉันเองถ้าทำผิดจะยอมรับแบบหมดตัวหมดใจก่อนที่อีกฝ่ายจะกล่าวโทษเสียด้วยซ้ำ ไม่เถียง ไม่แถ ไม่เหลือศักดิ์ศรี (มันมีศักดิ์ศรีของคนผิดด้วยเหรอ?) และมีปณิธานมุ่งมั่นจะไม่ทำผิดซ้ำ เพราะงั้นเลยยากที่ฉันจะอภัยหากว่าเขาไม่ได้รีบยอมรับผิดเต็มที่โดยทันที เพราะฉันไม่มีชนักติดหลัง หากอีกฝ่ายพยายามดิ้นหนีจากความผิด ฉันจึงซ้ำจนจมดินได้เสมอ ความจริงคือเขาทำผิด เขาไม่มีทางหนีความจริงนี้ได้ และความจริงก็เจ็บปวดมากด้วย นี่คือสัจจธรรม
ซึ่งคนส่วนใหญ่จะทนทานไม่ไหวค่ะ
คนส่วนใหญ่แม้รู้ตัวว่าตัวเองผิดจริง แต่จะรับไม่ได้หากถูกบังคับให้เหลือทางเลือกเดียวคือยอมรับผิด เขาต้องการทางเลือกอื่น เช่น เนียนๆ ทำเป็นจำไม่ได้ หรือได้รับการอภัยแบบออโต้ มันทำให้เขารู้สึกสบายใจมากกว่า สบายใจที่ไม่ต้องรับรู้ว่าตัวเองผิด ซึ่งเป็นคนละเรื่องกันกับการสำนึกนะคะ แม้ไม่ขอโทษ ไม่รับรู้ว่าตัวเองผิด แต่อาจจะไม่ทำอีกได้
ดังนั้นสำหรับฉันแล้ว ไม่สำคัญว่าจะขอโทษหรือไม่ ขอแค่อนาคตไม่ทำอีกก็พอ
ถ้าฉันเป็นคุณ ฉันจะขอโทษส่วนของตัวเองแล้วปล่อยเธอไป ตราบใดที่เธอไม่ทำอีกก็จะถือว่าเรื่องเดิมได้รับการอภัยไปแล้ว ซึ่งในหลายๆ ครั้งฉันก็เคยได้อภัยแบบนี้นะ เขาสำนึกจริงแม้ไม่พูด ฉันพอใจ
แต่ถ้าทำอีก ทำซ้ำ คนแบบนี้ไม่มีวันสำนึกผิดได้จริงหรอกค่ะ เขาไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองหรือปรับตัวเข้าหาเรา ไม่แคร์ว่าทำแล้วเราจะเจ็บปวด ไม่แคร์ว่าตัวเองทำให้เราเจ็บปวด ก็เหลือทางเลือกแค่จะทำใจยอมรับหรือเลิกรากันไปเท่านั้น ไม่มีช่องให้ประนีประนอมได้เลย
ก็ทำนองนี้ ขอให้คุณโชคดีนะคะ
ขอให้คุณมีชีวิตคู่ที่ปกติสุขค่ะ
แสดงความคิดเห็น
มีปัญหาเรื่องการสื่อสารกับแฟนครับ
ตอนนี่ยังทะเลาะกันเรื่องนี้อยู่ครับ อยากจะรู้ว่า ผมสื่อสารผิดพลาดเลยทำให้แฟนเข้าใจผิดว่าผมจะยังด่าแฟนแบบนั้นอยู่ หรือแฟนผมไม่เข้าใจและไม่เปิดใจรับฟังให้ดีเองว่าผมได้ขอโทษและสำนึกไปตั้งแต่แรกแล้ว เพียงแค่พยายามอธิบายและพูดถึงเหตุในการกระทำ