ค่อนข้างซีเรียสครับ
เกริ่นก่อนว่ารุ่นพี่กับผมและแฟนเขาสนิทกันตอนเรียนด้วยกัน ตอนนี้ผมฝึกงานพี่เขาแต่งงานกันเรียบร้อยไปเมื่อสองปีที่แล้ว
ทีนี้ตอนแรกก็ดีๆ แหละครับ แต่พอมาเจอพิษโควิดเลยทำให้บ้านนั้นต้องรัดเข็มขัดกันหน่อย เพราะมีภาระผ่อนบ้าน/รถร่วมกัน ประเด็นอยู่ที่ว่า รุ่นพี่เขาติดเกมครับ PS5 ออกใหม่พี่เขาอยากได้มาก ตอนช่วงมัน 35000-45000 พี่แกไม่มีเงินซื้อ แต่ตอนนี้ซื้อได้แล้วเพราะราคาถูกลงมาก แต่ไม่รู้จะอ้างแฟนยังไง เลยอ้างมุกเครื่องกรองอากาศครับ แฟนรุ่นพี่เชื่อด้วยครับ ให้ซื้อเรียบร้อย รุ่นพี่แกเลยจัดเลยครับ ผมพยายามบอกให้บอกความจริงไปเถอะ พี่แกก็บอกกลับมาว่า "ไม่เป็นไรหรอก (ชื่อแฟนพี่)ไม่รู้หรอกว่าซื้อเครื่องเล่นเกมมา โง่เทคโนโลยีจะตาย" ผมตกใจครับ เลยถามไปว่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถพวกพี่ก็ยังไม่ค่อยไหวเลยไม่ใช่เหรอ เขากลับตอบมาว่า "เออน่ะ ยืมเงินพ่อแม่ของเขาก่อนค่อยคืนก็ได้ หรือมึ. จะให้กุยืม" นั่นทำให้รู้ครับว่าเขาอยากมาก แม้ทุนทรัพย์จะยังไม่พอ ลำบากไปถึงคนอื่น โคตรจะเฟลครับ
แฟนรุ่นพี่เป็นพวก low เทคโนโลยีน่ะครับ มีแต่ไลน์ไว้คุยกับญาติ วันๆ ก็ทำขนมกับทำงาน ขนาดเพลงดังๆ ยังไม่รู้จักเท่าไหร่
ผมเคืองน่ะครับ เพราะรุ่นพี่แกไม่สามารถใช้เหตุผลว่าเธอก็ซื้อเหมือนกันได้ เพราะแฟนรุ่นพี่เขางดซื้อของที่ไม่จำเป็นหมดเลย ลิปก็ใช้แท่งเก่าให้หมดถึงใช้แท่งใหม่ ถ้าเป็นก่อนโควิด แฟนรุ่นพี่นี่สายช้อปเลยครับ ปกติแฟนรุ่นพี่ไม่ห้ามซื้อของชอบส่วนตัวครับ เธอค่อนข้างฟรีเลยครับ แค่ไม่ลำบากจนเกินไป แต่พอมีโควิดเลยให้ลดละงดซื้อบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน (เกมซื้อได้เดือนละเกม ยกเว้นลดราคา)
ผมรู้สึกว่ารุ่นพี่เห็นแก่ตัวมากน่ะครับ ในขณะที่อีกคนประหยัดช่วยเซฟค่าใช้จ่าย แต่อีกคนกลับเอาเงินไปซื้อของชอบส่วนตัวที่ตอนนี้ยังไม่จำเป็น
ควรบอกหรือปล่อยให้แฟนพี่เขารู้เองดีครับ ถ้าควรบอก ผมขอคำพูดที่น่าจะเอาไปใช้บอกได้หน่อยนะครับ
*แก้ไขคำผิด
แฟนรุ่นพี่โดนหลอก ควรบอกดีไหมครับ?
เกริ่นก่อนว่ารุ่นพี่กับผมและแฟนเขาสนิทกันตอนเรียนด้วยกัน ตอนนี้ผมฝึกงานพี่เขาแต่งงานกันเรียบร้อยไปเมื่อสองปีที่แล้ว
ทีนี้ตอนแรกก็ดีๆ แหละครับ แต่พอมาเจอพิษโควิดเลยทำให้บ้านนั้นต้องรัดเข็มขัดกันหน่อย เพราะมีภาระผ่อนบ้าน/รถร่วมกัน ประเด็นอยู่ที่ว่า รุ่นพี่เขาติดเกมครับ PS5 ออกใหม่พี่เขาอยากได้มาก ตอนช่วงมัน 35000-45000 พี่แกไม่มีเงินซื้อ แต่ตอนนี้ซื้อได้แล้วเพราะราคาถูกลงมาก แต่ไม่รู้จะอ้างแฟนยังไง เลยอ้างมุกเครื่องกรองอากาศครับ แฟนรุ่นพี่เชื่อด้วยครับ ให้ซื้อเรียบร้อย รุ่นพี่แกเลยจัดเลยครับ ผมพยายามบอกให้บอกความจริงไปเถอะ พี่แกก็บอกกลับมาว่า "ไม่เป็นไรหรอก (ชื่อแฟนพี่)ไม่รู้หรอกว่าซื้อเครื่องเล่นเกมมา โง่เทคโนโลยีจะตาย" ผมตกใจครับ เลยถามไปว่าผ่อนบ้าน ผ่อนรถพวกพี่ก็ยังไม่ค่อยไหวเลยไม่ใช่เหรอ เขากลับตอบมาว่า "เออน่ะ ยืมเงินพ่อแม่ของเขาก่อนค่อยคืนก็ได้ หรือมึ. จะให้กุยืม" นั่นทำให้รู้ครับว่าเขาอยากมาก แม้ทุนทรัพย์จะยังไม่พอ ลำบากไปถึงคนอื่น โคตรจะเฟลครับ
แฟนรุ่นพี่เป็นพวก low เทคโนโลยีน่ะครับ มีแต่ไลน์ไว้คุยกับญาติ วันๆ ก็ทำขนมกับทำงาน ขนาดเพลงดังๆ ยังไม่รู้จักเท่าไหร่
ผมเคืองน่ะครับ เพราะรุ่นพี่แกไม่สามารถใช้เหตุผลว่าเธอก็ซื้อเหมือนกันได้ เพราะแฟนรุ่นพี่เขางดซื้อของที่ไม่จำเป็นหมดเลย ลิปก็ใช้แท่งเก่าให้หมดถึงใช้แท่งใหม่ ถ้าเป็นก่อนโควิด แฟนรุ่นพี่นี่สายช้อปเลยครับ ปกติแฟนรุ่นพี่ไม่ห้ามซื้อของชอบส่วนตัวครับ เธอค่อนข้างฟรีเลยครับ แค่ไม่ลำบากจนเกินไป แต่พอมีโควิดเลยให้ลดละงดซื้อบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อน (เกมซื้อได้เดือนละเกม ยกเว้นลดราคา)
ผมรู้สึกว่ารุ่นพี่เห็นแก่ตัวมากน่ะครับ ในขณะที่อีกคนประหยัดช่วยเซฟค่าใช้จ่าย แต่อีกคนกลับเอาเงินไปซื้อของชอบส่วนตัวที่ตอนนี้ยังไม่จำเป็น
ควรบอกหรือปล่อยให้แฟนพี่เขารู้เองดีครับ ถ้าควรบอก ผมขอคำพูดที่น่าจะเอาไปใช้บอกได้หน่อยนะครับ
*แก้ไขคำผิด