[CR] ไปแล้วไปอีก วัดโพธิ์ วัดพระแก้ว


เราเข้าเมืองกรุงก่อนปีใหม่ (ธันวาคม 2563) มาแต่เช้าเลย เข้าที่พักก่อน จองที่พักจากโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” พักที่ 103 Bed and Brew เห็นจากรูปดูสวยดี ราคาก็น่าเอ็นดู ลง MRT หัวลำโพง โผล่ขึ้นมาเดินไปอีก 350 เมตร ก็ถึงที่พัก


ที่พักหาง่ายเพราะอยู่ติดถนน เราไปถึงตอน 9 โมงเช้า กะว่าจะเอากระเป๋าฝากไว้เพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่พนักงานบอกว่าเข้าห้องได้เลย เราเลยไปนอนรอเพื่อนก่อนพลางๆ สำรวจห้องด้วย สวยเชียว เราได้ห้องหมายเลข 7 ห้องนอนกับห้องน้ำอยู่แยกกัน อยู่ตรงกันข้ามกับห้องนอน เป็นห้องน้ำส่วนตัวเพราะมีกุญแจของห้องน้ำให้ต่างหาก จะเข้าก็ไขเอา ห้องนอนเพดานสูง มีชั้นลอย เราลองปืนขึ้นไปดูสูงใช้ได้ ปืนครั้งเดียวพอ ดูรูปเอา ด้านล่างมีกาแฟ มีน้องแอลฯ ขาย เช้าอย่างนี้เราเลยจัด Coffee Tonic กระตุ้นพลังงาน นั่งจิบกาแฟกับเพื่อนคนเมืองกรุงที่เพิ่งมาถึง 

103 Bed and Brew
Bar ของที่พัก กาแฟ Coffee Tonic  ดีงาม
จากกาแฟมาจัดอาหารเช้าตอนสายๆ เดินไปไม่ไกลจากที่พัก เพื่อนเมืองกรุงนำทาง กินข้าวหมูแดง+หมูกรอบ ร้านสีมรกต โอ๊ย! อร่อยมาก พลังงานได้มาเต็มเดินทางต่อ

มุดดินเดินทางจาก MRT หัวลำโพง ไป MRT สนามไชย เดินไปสักพักมีพี่ตุ๊กๆ มาแอ๊ว ขอร้องให้ขึ้นเปิดบิลให้กี่บาทก็เอา เราเลยขึ้นไปบอกไปวัดโพธิ์ 


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร (วัดโพธิ์)

ตุ๊ก ตุ๊ก พาไปทางเข้าอยู่ทางด้านหลังเป็นทางเข้าทางเดียว ให้ค่าโดยสารพี่แกไป 30 บาท เข้าไปเช็คอุณหภูมิ ล้างมือ ลงทะเบียน เราเห็นวิหารเล็กๆ ทางขวามือ เลยเข้าไป อ่านประวัติที่นี่เรียกว่า วิหารคดสมอ เป็นศาลกรมหลวงชุมพรฯ ภายในประดิษฐานพระรูปเป็นภาพเขียน ตามประวัติที่ด้านหลังรูป บอกว่า นายคิด โกศีลวัฒน์ เขียนถวาย 1 ตุลาคม 2507


วัดพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหารเป็นพระอารามหลวงชั้นเอก เป็นวัดที่สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา เดิมชื่อวัดโพธาราม ชาวบ้านเรียกสั้น ๆ ว่า "วัดโพธิ์" ในสมัยธนบุรีพระเจ้าตากสินมหาราชทรงยกฐานะขึ้นเป็นพระอารมหลวง ต่อมารัชกาลที่ 1 ได้ทรงบูรณะใหม่ ใช้เวลาสร้าง 7 ปี 5 เดือน 18 วัน และพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาวาส" เป็นวัดประจำรัชกาลที่ 1 และมีการปฏิสังขรณ์เรื่อยมาในรัชกาลที่ 3 และในรัชกาลที่ 4 ทรงปฏิสังขรณ์พระรัศมีพระพุทธไสยาสน์ และทรงเปลี่ยนชื่อเป็น "วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม 

พระเจดีย์หมู่ห้าฐานเดียว สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 1 เป็นพระเจดีย์จำนวน 5 องค์ตั้งอยู่บนฐานเดียวกัน องค์กลางมีขนาดใหญ่กว่าอีก 4 องค์ที่รายล้อมอยู่ จะมีหมู่พระเจดีย์แบบนี้ประดิษฐานอยู่ตรงมุมพระวิหารคดทั้ง 4 ด้าน ภายในพระเจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุทุกองค์

พระระเบียงรอบพระอุโบสถ ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ที่รัชกาลที่ 1 โปรดให้อัญเชิญจากหัวเมืองเหนือ ทุกองค์ล้วนเป็นเนื้อสำริด มีการลงรักปิดทอง เป็นพุทธศิลป์สมัยสุโขทัย เชียงแสน ลพบุรี อู่ทอง อยุธยา


พระมหาเจดีย์ มี 4 องค์ เป็นเจดีย์ประจำรัชกาลที่ 1-4
รัชกาลที่ 1 พระมหาเจดีย์ศรีสรรเพชดาญาณ กระเบื้องเคลือบสีเขียว
รัชกาลที่ 2 พระมหาเจดีย์ดิลกธรรมกรกนิธาน กระเบื้องเคลือบสีขาว
รัชกาลที่ 3 พระมหาเจดีย์มุนีบัตบริขาร กระเบื้องเคลือบสีเหลือง
รัชกาลที่ 4 พระมหาเจดีย์ทรงพระศรีสุริโยทัย กระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินเข้ม เจดีย์นี้สร้างขึ้นตามแบบพระเจดีย์ศรีสุริโยทัย กรุงศรีอยุธยา

พระวิหารพระพุทธไสยาส มาวัดโพธิ์ ต้องมาไหว้พระนอน พระพุทธไสยาสเป็นพระพุทธรูปสมัยรัตนโกสินทร์ ก่ออิฐถือปูนลงรักปิดทอง ยาว 46 เมตร เป็นพระนอนที่ใหญ่สุดในกรุงเทพฯ และใหญ่เป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีพุทธลักษณะที่งดงามโดยเฉพาะการประดับมุกมงคล 108 ประการที่ฝ่าพระบาทเป็นศิลปะที่งดงามมาก การมาไหว้พระนอนวัดโพธิ์ มีคติว่า จะได้ร่มเย็นเป็นสุข อีกเรื่องที่เราเพิ่งรู้ ว่ากันว่า สาวโสดที่อายุขึ้นเลข 3 ยังหาคู่ไม่ได้ ก็ไปขอพรไหว้พระนอนอาจได้เจอเนื้อคู่ในเร็วๆนี้ (อ่านๆ มาอีกที ลองดู ได้ผลอย่างไรบอกเราด้วย)

ยักษ์วัดโพธิ์

พระพุทธศาสดา พระประธานในศาลาการเปรียญ (พระอุโบสถหลังเก่า) ไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างขึ้นเมื่อไหร่ ใครเป็นผู้สร้าง แต่เป็นพระประธานอยู่ในพระอุโบสถของวัดวัดโพธาราม (ชื่อเดิมของวัดพระเชตุพนฯ: วัดโพธิ์) จึงคาดว่าน่าจะสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาประมาณก็อยู่ในราวรัชกาลสมเด็จพระเพทราชาต่อกับรัชกาลสมเด็จพระนารายณ์มหาราช (พ.ศ. 2231-2246) ตอนนี้ได้มีการงาน ‘Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020)ในวิหารนี้ด้วย งานศิลปะทำมาจากวัสดุไม่ทนความร้อน (เทียน) ดังนั้นภายในจึงติดแอร์เย็นฉ่ำมาก 


พระพุทธชินศรีมุนีนาถ พระพุทธรูปปางนาคปรก สร้างขึ้นในสมัยสุโขทัย เป็นพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย รัชกาลที่ 1 ได้อัญเชิญมา ได้มีการปฏิสังขรณ์และโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพุทธบัลลังก์เป็นพญานาคเจ็ดเศียรขดสี่ชั้นภายใต้ต้นจิก ภายในพระเมาลีของพระพุทธรูป บรรจุพระบรมธาตุ ซึ่งอัญเชิญมาจากพระบรมมหาราชวัง 30 องค์ ตอนนี้ได้มีการงาน ‘Bangkok Art Biennale 2020 (BAB 2020)’ เทศกาลศิลปะร่วมสมัยนานาชาติในวิหารนี้ด้วย


พระอุโบสถ ภายในประดิษฐาน พระพุทธเทวปฏิมากร เป็นพระประธาน ไม่ปรากฏผู้สร้างแต่มีประวัติว่าเดิมประดิษฐานอยู่ วัดคูหาสวรรค์ ในปี 2332 รัชกาลที่ 1  โปรดฯ ให้เชิญมาประดิษฐานเป็นพระประธานใน พระอุโบสถ ถวายพระนามว่า “พระพุทธเทวปฏิมากร” ในสมัยรัชกาลที่ 4 ทรงพระราชดำริถึงพระบรมอัฐิรัชกาลที่ 1 ที่พระเจ้าลูกเธอในรัชกาลนั้นได้รับพระราชทานไป เมื่อเจ้านายพระองค์นั้นๆ สิ้นพระชนม์ไปแล้วไม่มีใครรักษาต่อจึงโปรดฯ ให้บรรจุพระบรมอัฐิในกล่องศิลา แล้วมาบรรจุไว้ในพุทธอาสน์ (ที่ประทับนั่ง) ของพระพุทธเทวปฏิมากร 


พระพุทธโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปยืนปางห้ามสมุทร เก่าแก่อายุกว่า 400 ปี สูง 10 เมตร ตามประวัติพระพุทธรูปองค์นี้สร้างขึ้นในรัชสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ เดิมประดิษฐานภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดในพระราชวังหลวงกรุงศรีอยุธยา ต่อมา ได้อัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดพระเชตุพน ในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช (รัชกาลที่ 1) โดยได้มีการปฏิสังขรณ์บรรจุพระบรมธาตุแล้วประดิษฐานเป็นพระประธาน พระวิหารทิศตะวันออกมุขหลัง พระพุทธโลกนาถ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่สมัยอยุธยา จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ปรากฏหลักฐานว่า เจ้าจอมแว่น พระสนมเอกในรัชกาลที่ 1 กราบทูลความปรารถนาใคร่จะอธิษฐานขอบุตร รัชกาลที่ 1 จึงโปรดให้สลักศิลาเป็นรูปกุมารกุมารีประดับไว้ที่ฝาผนังพระวิหาร พระพุทธโลกนาถจึงมีความศักดิ์สิทธิ์ในทางขอลูกสำหรับผู้ที่มีลูกยาก โดยให้ถวายตุ๊กตาและให้มาอธิษฐานขอพรในวันพระ

ชื่อสินค้า:   วัดพระศรีรัตนศาสดาราม วัดพระเชตุพน
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่