สวัสดีค่ะ พอดีมีเรื่องที่จะปรึกษาชาวพันทิปค่ะ คือเรื่องเป็นอย่างนี้ คือเราอะเป็นสาวประเภทสอง ด้วยความกะเทย ความมั่น ความเฟียซของเรา ก็เลยทำให้เราพรีเวดดิ้งนี้แหละชวนเราไปทำงานด้วย เราก็ตอบว่าตกลง งานแรกเราก็ไปที่แห่งนี้ใน จ.เพชรบูรณ์ ก็เลยขอแม่ว่าขอไปได้มั้ยแกก็ตอบตกลงให้เราไป เราก็ได้ไป พอหลังๆเราก็ออกงานไปเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนึงแม่เกิดไอเดียอยากขายของเพราะว่าจะไม่มีเงินใช้จ่ายในครอบครัวแล้ว เนื่องจากโควิดทำให้งานแม่ล่ม พ่อ ฝ.ที่อยู่อังกฤษก็ตกงาน แกก็เริ่มขายของ แรกๆขายน้ำเต้าหู้ เราก่อนเป็นแรงช่วยอีก1 พอเราจะออกไปทำงานแกก็เริ่มที่จะห้ามเราล่ะ เราถามเหตุผลว่าทำไม แกก็บอกไปว่าไม่คนช่วยคั้นน้ำเต้าหู้ (ที่บ้านมี แม่ ป้า ยาย พี่สาว ลุง) เราก็เออช่วยก็ช่วยเพราะว่าเวลาคั้นน้ำเต้าหู้เนี่ยมันจำเป็นต้องใช้แรง เพราะเราเป็นคนตัวใหญ่น๊าาา5555 เออก็ทำๆไปเสร็จแล้วก็ไป พอธุรกิจเริ่มปังขึ้นๆ ก็เลยพลิกเปลี่ยนมาขายน้ำปั้น ยำ ลูกชิ้นจากที่เคยตื่นสายนิดๆ กลายมาเป็นตื่นเช้าเวลาไม่เพียงพอ กลับมาจากทำงานไม่ดึกมากแต่มันเหนื่อยไง เรื่อยๆปุ๊บ!!!! จนมาถึงหน้าตัดอ้อยจากที่เช้ากลายมาเป็นเช้าตรู่ ทำให้เรานอนไม่เพียงพอ ปวดหัวบ้าง เพลียบ้าง ต่างๆนานา มาขึ้นอ้อยช่วยลุงจ้างวันละ50กับทำงานพรีเวดดิ้ง2วันได้600อันคุ้มกว่าคะ มาวันนึงแม่อยู่หน้าร้านขอเเกตามปกติแต่!!!!! ครั้งหน้าแกไม่ให้ไป เอ้าแม่!!!! งานหนูนะ แกบอกว่ามันเกินไปล่ะ ต้องไปทำงานช่วยลุงนะได้50บาทดีกว่าไม่ได้ คือแกไม่ได้หวังอะไรจากเรา หวังไว้แค่ผลลัพธ์ซึ่ง ผลลัพธ์เนี่ยมันดีกว่าเยอะและเป็นสิ่งที่เรามีความสามารถให้เรื่องแบบนี้ด้วย แต่แกปฏิเสธเราไม่ให้ไปทำงานนี้อย่างแรงเลย ด่าบ้าง สารพัด จนร้องไห้อะคิดดู เหตุผลของคือ อยากให้เราไปทำงานช่วยลุง ช่วยครอบครัวบ้าง แล้วตอนที่เราไปโรงเรียน แกก็สามารถทำได้ดิ แล้วร้านค้าที่เปิดมา ตอนเช้าเราก็ทำช่วย เสียบลูกชิ้นเตรียมของทุกอย่าง วันไหนที่ได้เลิกเร็วหน่อยก็มาช่วยล้างถ้วยล้างจาน ซึ่งมันเป็นหน้าที่ของเรา ถ้าวันไหนว่างก็ขายของช่วย ไม่งั้นก็ไปขึ้นอ้อย แกมาพูดแบบเนี้ยมันถูกต้องไหม อยากเห็นเราเป็นลูกอยู่ไหม เราก็มีความรู้สึกอยู่นะ
ควรแก้ปัญหายังไงดี อยากไปทำงาน แต่อยากสองฝ่ายดีขึ้น(ฝ่ายที่ทำงาน ฝ่ายครอบครัว)โดยเฉพาะแม่ควรทำไงคะ
แม่ไม่ให้ไปทำงานทำไงดี?
ควรแก้ปัญหายังไงดี อยากไปทำงาน แต่อยากสองฝ่ายดีขึ้น(ฝ่ายที่ทำงาน ฝ่ายครอบครัว)โดยเฉพาะแม่ควรทำไงคะ