เมื่อไบโพล่าร์ผมกำเริบตอนอายุ 30 ปี จากการเป็น prefectionism

กระทู้สนทนา
ผมอยากจะแชร์ประสบการณ์และแลกเปลี่ยนความคิดสำหรับผู้ป่วยไบโพล่าร์นะครับ ก่อนอื่น ผมขอใช้นามแฝงว่า คิว นะครับ คิวรู้ตัวมาตั้งแต่ปีสี่แล้วว่าตัวเองเป็นไบโพล่าร์จากการสังเกตของเพื่อนอีกคนที่เขาเป็น เขาบอกว่าเราเหมือนมาก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คิว มีชีวิตที่ประสบความสำเร็จมาตลอด โดยเฉพาะการเรียน ได้ทุนเรียนตั้งแต่อนุบาลหนังสือจนถึงปริญญาโท ปัจจุบันเป็นนักวิจัยหน่วยงานภาครัฐ แต่ภายใต้ธงชัยแห่งความสำเร็จมันคือมีดอีกเล่มที่ทิ่มแทงผม เพราะ ผมกดดันตัวเองมาตั้งแต่เด็ก เเละเป็นคนคิดมาก จริงก็รักษามาตั้งแต่ปี61 เพราะตอนเรียนปริญญาโท ผมไม่สมาธิ มัปัญหากับการทำงานไม่สำเร็จเลยรักษา ก็รักษาขาดๆหายๆในช่วง 61-63 อันนี้บอกเลยอย่าหาทำครับ ห้ามหยุดรักษา!!!!!! เพราะอ่การจะทรุดครับ คือแบบนี้ค้าบบบบบ >>>>>> พอผมกลับที่ทำงานเพื่อเริ่มทำงารเมื่อสามเดือนก่อนช่วงเดือนตุลา 63 ผมเลิกกับแฟน ตอนนั้นทั้งทำงานและเรียนปริญญาโทด้วยเหลือวิทยานิพนธ์ ผมรักเธอมาก พอเลิกกันก็คิดว่า ชิวๆ สบาย หาใหม่ 55555 แต่มันไม่ใช่ครับ อารมณ์ผมเศร้าแบบดิ่งเลยเป็นอาทิตย์ ปกติไม่เคยเศร้าหนักและนานขนาดนี้ จนรู้สึกชีวิตไร้ค่า ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ปกติผมเป็นคนแอคทีฟมาก ใช้ชีวิตสนุก ทำงานเก่ง ไปฟิตเนสทุกวัน จู่ๆ ผมไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น เป็นอาทิตย์ๆ จนสุดท้ายไม่ได้การละผมมานึกถึงอาการไบโพล่าร์ที่ผมเคยขาดการรักษา เลยตัดสินใจไปพบจิตแพทย์ คุณหมอท่านน่รักมาก เป็น พญ ผมเล่าปัญหาและเธอก็บอกว่า ผมน่าจะเป็นมาตั้งแต่สมัยมัธยมปลายแล้ว ช่วงนั้นเราจะรู้สึกยิ่งใหญ่ทำอะไก็สำเร็จ (มอหกผมสอบติดทุกคณะที่ผมไปสอบ ทั้งสัตวแพทย์ อักษร รัฐศาสตร์) อาการจะยังคงตัวมาเรื่อยๆ ซึ่งก็จริง ผมจบปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 1 และสอบบรรจุรับราชการได้ตั้งแต่อายุ 22 แต่จะเริ่มทรุดลวเรื่อยยๆๆละมาพักหลังช่วงอายุ29-30 นี่และครับ โรคของผมดำเนินไปสู่ขั่วซึมเศร้า หมอเลยจัดยาให้โดยกินยาลิเธียม และลูลาซิโดรน ทั้งสองตัวเนี่ย ช่วยปรัยสมดลสารในสมอง ดูเหมือนดี แต่!!!!! ไอ้ยาลูลาซิโดรนมันยิ่งทำผมดาวน์ลงครับ กินไปสักหนึ่งถึงสองชั่วโมง ผมตะกะวนกะวาย หดหู่ เศร้า ใจมันวูบๆ และวิตกกังวลตลอด ตอนแรกก็กินช่วงกลางวันครับ สุดท้ายขอหมอกินตอนเย็น อาการนี้ก็ยังเป็นจนทุกวันนี้ครับ จะครบสองเดือนแล้ว พรุ่งนี้ผมหทออีกครั้งผมคงต้องรายงานแกเรื่องนี้ อ่อสำหรับคนที่อยากรู้ว่าซึมเศร้ามันรู้สึกยังไง ผมบอกเลยส่าอย่าเป็น มันเหมือนจะตายทั้งเป็นครับ เราจะไม่ยินดียินร้าย ำม่มีความสุขในทุกเรื่อง ทั้งทีแต่ก่อนมันเคยนำพาซึ่งความสุขให้เรา การทำงานแย่ลงไม่มีสมาธิ คิดงานไม่ได้ แต่ก่อนเขียนวิจัยบทนึ่งสามสี่วันเสร็จ แต่ตอนนี้วันละพารากราฟ ยังยากเลยครับๆๆๆๆๆ เริ่มคิดถึงเรื่องในอดีตแล้วจะใจหายวูบๆ วิตกกังวลเรื่อวอนาคต บลาๆๆ ไม่เข้าสังคม และที่สำคัญขี้หงุด จนทะเลาะกับหัวหน้ากับเพื่อนร่วมวาน ซึ่งปกติผมไม่เคยมีป่กเสียกับใคร แต่โชคดีที่ผมยังไม่ถึงขั้นอยากฆ่าตัวตาย หมอบอกต้องรีบรักษาแล้ว ยังไงพรุ่งนี้ผมมาอัปเดตเพราะนัดผมหมอครั้งที่ 3 จะได้บอกปัญหาไอ้เจ้ายาลุลานี้จริงๆๆ 😂🤣
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่