ขอเกริ่นก่อนนะครับ
ผมได้ทำงานใหม่ที่บริษัทใหม่โดยมีการประเมินงาน 4 เดือนข้างหน้าตอนรับเข้าไปให้ไปเป็นตำแหน่ง ไอทีซัพพอร์ต แต่ทางบริษัทอยากให้เราเรียนรู้งานทางฝั่งโปรแกรมเมอร์ซึ่งเราก็ยินดีที่จะเรียนรู้ (แต่เราบอกกับเขาว่าอย่าคาดหวัง) เข้ามาเริ่มงานใหม่กลายเป็นว่าตำแหน่งงานที่เราทำอยากไอทีซัพพอร์ตเราทำได้ดีในระดับที่โอเคเลยจะกลับกันเรากลับรู้สึกเครียดและกดดันกับตำแหน่งโปรแกรมเมอร์มากเพราะเราไม่มีความรู้และพื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์เลยเวลาที่เราศึกษาหรือค้นหาข้อมูลเราเลยเครียดจนปวดไมเกรนแล้วปวดสมองในบางครั้ง จนตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกแยกไม่ออกระหว่างงานหลักกับงานเสริม
และกลัวว่าตอนช่วงประเมินโปรทางบริษัทจะเอาตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ไปประเมินด้วยทำให้เราอาจจะไม่ผ่านโปร
คำถาม ผมควรจัดความคิดและความรู้สึกยังไงดีเพราะเราก็อยากเรียนรู้แต่เราก็ไม่อยากรู้สึกเครียดที่ว่าเราทำได้ไม่เต็มที่หรือไม่ดีพอในสายตาเขา
จนผมมีความคิดว่าถ้าในช่วง 4 เดือนนี้ผมรู้สึกกดดันตัวเองมากเกินไปผมก็คงจะขอไม่ผ่านโปรด้วยตัวเองเนื่องจากผมเป็นคนที่เคยเคยเป็นคนเขียนโปรแกรมที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดคนนึงแต่พอมาเจอลูกความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย
ขอคำปรึกษาจากพี่ด้วยครับขอบคุณมากครับ
ปล.ที่ผมรู้สึกเครียดเพราะผมต้องนั่งอยู่กับพวกที่เป็นโปรแกรมเมอร์ แล้วเวลางานผมเสร็จทางฝั่งไอทีแล้วมันจะว่างมากจนทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องหาอะไรทำเพราะว่ามันมีสายตาที่จ้องมองตลอดทำให้ผมต้องเรียนรู้โปรแกรมและรู้สึกกดดันตัวเองไปด้วยในทีเดียวกัน
รู้สึกกดดันกับงานใหม่ ควรจัดความคิดยังไงดี
ผมได้ทำงานใหม่ที่บริษัทใหม่โดยมีการประเมินงาน 4 เดือนข้างหน้าตอนรับเข้าไปให้ไปเป็นตำแหน่ง ไอทีซัพพอร์ต แต่ทางบริษัทอยากให้เราเรียนรู้งานทางฝั่งโปรแกรมเมอร์ซึ่งเราก็ยินดีที่จะเรียนรู้ (แต่เราบอกกับเขาว่าอย่าคาดหวัง) เข้ามาเริ่มงานใหม่กลายเป็นว่าตำแหน่งงานที่เราทำอยากไอทีซัพพอร์ตเราทำได้ดีในระดับที่โอเคเลยจะกลับกันเรากลับรู้สึกเครียดและกดดันกับตำแหน่งโปรแกรมเมอร์มากเพราะเราไม่มีความรู้และพื้นฐานเกี่ยวกับโปรแกรมเมอร์เลยเวลาที่เราศึกษาหรือค้นหาข้อมูลเราเลยเครียดจนปวดไมเกรนแล้วปวดสมองในบางครั้ง จนตอนนี้ทำให้ผมรู้สึกแยกไม่ออกระหว่างงานหลักกับงานเสริม
และกลัวว่าตอนช่วงประเมินโปรทางบริษัทจะเอาตำแหน่งโปรแกรมเมอร์ไปประเมินด้วยทำให้เราอาจจะไม่ผ่านโปร
คำถาม ผมควรจัดความคิดและความรู้สึกยังไงดีเพราะเราก็อยากเรียนรู้แต่เราก็ไม่อยากรู้สึกเครียดที่ว่าเราทำได้ไม่เต็มที่หรือไม่ดีพอในสายตาเขา
จนผมมีความคิดว่าถ้าในช่วง 4 เดือนนี้ผมรู้สึกกดดันตัวเองมากเกินไปผมก็คงจะขอไม่ผ่านโปรด้วยตัวเองเนื่องจากผมเป็นคนที่เคยเคยเป็นคนเขียนโปรแกรมที่คิดว่าตัวเองเก่งที่สุดคนนึงแต่พอมาเจอลูกความจริงแล้วมันไม่ใช่เลย
ขอคำปรึกษาจากพี่ด้วยครับขอบคุณมากครับ
ปล.ที่ผมรู้สึกเครียดเพราะผมต้องนั่งอยู่กับพวกที่เป็นโปรแกรมเมอร์ แล้วเวลางานผมเสร็จทางฝั่งไอทีแล้วมันจะว่างมากจนทำให้ผมรู้สึกว่าผมต้องหาอะไรทำเพราะว่ามันมีสายตาที่จ้องมองตลอดทำให้ผมต้องเรียนรู้โปรแกรมและรู้สึกกดดันตัวเองไปด้วยในทีเดียวกัน