.
ไดอารี่ความคิดถึง
เดือนยังไม่ร้อนก็จัดงานบุญงานมงคลได้ ถ้าเข้าเดือนเมษายนจัดงานมงคลไม่ได้ เพราะมันร้อน จะทำให้เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อน หลังจากเทศกาลปีใหม่ก็ยังมีการจัดงานมงคลต่าง ๆ กันอยู่ เช่น งานแต่งงาน งานบวชก็ยังคงมีประปราย
วันเสาร์ที่จะถึงนี้เป็นงานบวชพี่ชายของโสรญา บวชหาญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกัน สนิทมากสำหรับเพื่อนต่างหมู่บ้าน เรียนห้องเดียวกัน จึงอยากไปช่วยงานด้วย ก็เล่นอยู่ในกลุ่มเดียวกันสำหรับ 1/5
นอกจากนั้นครอบครัวและญาติ ๆ ของโสรญายังจ้างหมอลำคณะดังมาแสดงในช่วงกลางคืนด้วย ความปลอดภัยเข้มงวด จ้างตำรวจทหารมาคุมงาน เพราะมีบทเรียนจากงานผู้ใหญ่บ้าน บ้านของเธอเมื่อคราวนั้นแล้ว เรื่องนั้นเป็นที่ฮือฮากันในวงกว้าง และยาวนาน กลายเป็นตำนานให้พูดถึงไปแล้ว
“แม่พรุ่งนี้บอสขอไปช่วยงานบวชโสนะ เพื่อนบอส อยู่หมู่ 3 นี่เอง” ค่ำวันศุกร์บอสคุยกับแม่เช่นปกติ และขอแม่ไปเที่ยวงานบวช หมายถึงตอนกลางคืนไปค้างที่บ้านโสรญาด้วย ขอยายกับตาแล้ว ยายอนุญาต ทว่ายังเกรงใจแม่เธอจึงขอแม่อีกคน
“บวชหาใคร บ้านอยู่คุ้มไหน ลูกใคร” แม่สอบถามข้อมูล แม่เองก็รู้จักกับคนหมู่ 3 เพื่อน ๆ แม่ก็มีหลายคน สมัยเป็นวัยรุ่นเป็นเพื่อนกัน
“ลูกแม่แก้ว บ้านอยู่คุ้มอนามัย เห็นว่าบวชหาตากับยายมันน่ะ บอสขอไปนะแม่ ยายอนุญาตแล้ว แต่บอสอยากขอแม่ด้วย ตอนเย็นขอไปดูหมอลำด้วยได้มั้ย”
“แก้ว! แก้วเคนมั้ย ลูกพ่อเคนแมนบ่ แม่เค้าน่ะเพื่อนแม่ ไปก็อย่าเถลไถล ถ้าทำตัวไม่ดีโตแค่ไหนแม่ก็ตีนะบอกไว้ก่อน ถ้าได้ยินข่าวไม่ดีพ่อขับรถแป๊บเดียวนะถึงบ้าน” แม่ขู่นิดหน่อย เธอก็ไม่สะทกสะท้าน พร้อมยักไหล่ให้แม่ น้องบีมหัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ๆ รอต่อคิวคุยกับแม่
“จ้า! บอสให้สัญญา” ถึงจะถูกปฐมนิเทศนิดหน่อยแต่เธอก็ยิ้มได้ ดีใจที่แม่ไม่ห้าม แถมให้นอนค้างที่นั้นด้วย “พรุ่งนี้โสมารับบอส บอสไม่ได้ไปเอง ตอนสาย ๆ แหละมันจะมารับ”
พอคุยธุระของตนเสร็จก็เปลี่ยนเป็นน้องบีมมาคุยกับแม่ต่อ ส่วนตนเองลงไปข้างล่าง นำเรื่องไปบอกยายว่าแม่อนุญาต งานบวชที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันรูปแบบเหมือนกัน แต่มันเป็นการได้เที่ยวมากกว่า ได้เที่ยวตอนกลางคืน ได้ไปค้างบ้านเพื่อนแค่คิดมันก็ตื่นเต้น
เธอไม่ได้คิดจะเกเรหรือโกหกแม่ไปทำสิ่งไม่ดี แต่เธอตื่นเต้นเพราะจะได้เที่ยวตอนกลางคืนแบบผู้ใหญ่ ที่ไม่เคยได้ทำเลย นึกแล้วโทรไปหาโสรญาหน่อยดีกว่า นำข่าวดีไปบอกสักหน่อย ดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว
งานนี้สองฝาแฝดไม่ได้ไปด้วย เพราะเป็นเพื่อนของเธอ ถ้าเกิดจะไปด้วยก็ไม่เป็นไร พิมพ์กับแพรวก็รู้จักกับโสรญาดี นึกได้เช่นนั้นแล้วบอสก็เดินกลับขึ้นไปชั้นสองของบ้าน กดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนทันที
“ศรีเค้าได้ไปงานบุญที่บ้านอยู่นะ ได้ไปดูหมอลำด้วย แม่เค้าอนุญาต เอ้อ! แม่เค้าบอกว่าเป็นเพื่อนกับแม่ด้วย” บอสนำข่าวดีมาบอกเพื่อน เธอหยิบเก้าอี้มานั่งที่หน้าต่าง ดูทัศนียภาพของท้องทุ่งนายามค่ำคืน มองออกไปมันมืดมากทว่าไม่น่ากลัว
“รู้แล้ว แม่เค้าว่าไม่รู้ว่ามืงเป็นลูกแม่ฝนพะนะจื้น ฮา แม่ว่าเป็นเพื่อนกัน เล่นด้วยกันสมัยก่อน” ถึงสมัยก่อนการเดินทางจะไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน แต่คนสมัยก่อนก็มีเพื่อนต่างหมู่บ้านได้ “สมัยก่อนไปหาเลี้ยงควายพ้อกันว่าซ้าน!!! กูหัวกะบ่คืนจื้น” พวกเธอหัวเราะให้กันและกันผ่านโทรศัพท์ โสรญาชอบเรียกเธอว่าจื้น ส่วนเธอเรียกโสว่าศรี หรือศรีหาเหตุก็ได้
“กูไปคนเดียว พรุ่งนี้มารับด้วย อี่แฝดไม่ไป มันเข้าไปโรงเรียนมันอ่ะ”
“เค เอ้อ จื้นอี่กล้วยก็มาด้วยนะ มันบอกให้เราไปรับมันด้วย พี่ต่ายบอกให้มันมา” พี่ต่ายที่โสพูดถึงเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง และกำลังคบกับกล้วยด้วย
“ไปรับก็ไปรับตั้ว ยายมันจะได้เชื่อใจไง ถ้ามีเพื่อนไปรับ ไม่ยอมให้หลานมาคนเดียว เพิ่นแฮงว่าหลานเพิ่นดีอยู่ นิสัยดี ตั้งใจเรียน ไม่คบผู้ชาย ฮา “ พูดกันถูกจริตมาก เมื่อพูดถึงเพื่อนชื่อกล้วย เพื่อนเป็นเด็กเรียนคนดีจริง ๆ นั่นแหละ ตามที่ยายของเพื่อนพูดนั่นแหละ ไม่คบผู้ชาย ไม่มีแฟน ผู้ชายไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน
เมื่อเม้าส์กันเสร็จก็วางสาย คืนนี้ต้องฝันดีแน่นอน เพราะสมหวัง ขอไปงานบุญเพื่อนก็ได้ไป พรุ่งนี้เธอจะรีบตื่นแต่เช้าแต่งตัวรอโสรญามารับเลย เงินติดตัวก็มีอยู่แล้ว ไม่ต้องขอยายให้โดนบ่น
สาย ๆ ของวันเสาร์บอสนั่งรอเพื่อนที่เปลหน้าบ้าน คุยกันไปเรื่อยเปื่อยกับยาย ยายก็ไม่บ่นอะไรยอมให้ไป ยายรู้จักกับโสรญาเหมือนกัน เพราะแวะที่บ้านของเธอบ่อยหลังเลิกเรียน
บอสแต่งตัวด้วยชุดกางเกงวอร์มเสื้อยืดเหมือนเดิม กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน เสื้อหมีพูห์สีเหลือง กระเป๋าสะพายข้างรูปตัวการ์ตูนสตีฟสีน้ำเงินเข้มใบกะทัดรัด เตรียมความพร้อมรอเพื่อนแล้ว แค่โสมาถึงก็ออกเดินทางได้เลย
ไม่นานก็เห็นโสรญาขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคลิกสีน้ำเงินปนขาวเข้ามาจอดที่บ้านของเธอ โสยกมือไหว้ทักทายยายอย่างคุ้นเคย พร้อมนั่งคุยด้วย
“ยายโสขอพาอี่จื้น เอ้ย บอสไปช่วยงานบุญนะ ตอนเย็น ๆ แห่เสร็จจะมาส่งมันอาบน้ำ และพามันไปดูหมอลำนะยาย แม่จ้างฟ้าสีครามมา ยายไปดูมั้ย ถ้ายายไปจะให้พ่อขับรถมารับ”
“ไปช่วยงานบุญก็ช่วยหาข้าวหาน้ำให้แขกนะ อย่าพากันไปเถลไถลที่ไหน คนอื่นไปด้วยมั้ยหนิ” ยายฝากฝังก่อนไป กลัวแต่เธอหลอกไปเที่ยว
“เพื่อน ๆ ไปกันหลายคนอยู่ยาย เพื่อนหมู่บ้านอื่นก็ไปกัน บอสไม่ทำตัวเกเรหรอกน่า” เธอเป็นคนตอบยาย แล้วพวกเธอก็ขอตัวลายายไปรับกล้วยที่อีกหมู่บ้านกันต่อ
เธอเป็นคนขับโสเป็นคนซ้อน ขับรถมุ่งหน้าไปรับกล้วยอยู่อีกหมู่บ้านถัดไป หมู่บ้านของกล้วยไม่ได้อยู่ตำบลเดียวกันกับหมู่บ้านของพวกเธอ เป็นหมู่บ้านอยู่ทางทิศใต้ติดกับหมู่ 1 ไม่ไกลมาก เข้ามาเรียนโรงเรียนตำบลของพวกเธอด้วย
มาถึงก็เห็นกล้วยนั่งรออยู่แล้ว พวกเธอเข้าไปสวัสดียายของกล้วย ซึ่งหน้าไม่รับแขกเท่าไหร่นัก คงกลัวว่าพวกเธอจะพาหลานไปหาผู้ชาย ใคร ๆ ก็ไม่ดีหมด ดีแต่หลานตัวเองคนเดียว
พวกเธอได้ยินสรรพคุณยายของกล้วยมาจากปากเพื่อนคนอื่นบ้างแล้ว ทว่าที่มารับก็เพราะกล้วยกับพี่ต่ายขอร้อง เรื่องพี่ต่ายยายของกล้วยก็ไม่รู้ กล้วยเอาพวกเธอบังหน้าในการไปเที่ยวครั้งนี้ กล้วยบอกยายว่าไปช่วยงานบุญบวชโสรญาแทน ไม่อย่างนั้นยายไม่อนุญาต
“ขับรถดี ๆ ล่ะ แห่เสร็จมาเด้อ อย่าพากันอยู่ค่ำ” ยายของกล้วยกำชับ
“จ้า!” พวกเธอขานรับพร้อมกัน พอมารับกล้วย ก็เปลี่ยนตำแหน่งในการนั่ง กล้วยตัวสูง เธอจึงได้นั่งซ้อนข้างหน้า กล้วยเป็นคนขับ และโสนั่งซ้อนด้านหลัง ทั้งสามคนขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของโสที่อยู่หมู่ 3 กัน
มาถึงบ้านของโสมีแขกมากมายมาช่วยงาน มาช่วยฟรีด้วยใจ ทั้งญาติคนในหมู่บ้าน และต่างหมู่บ้าน คนหมู่บ้านเดียวกันกับเธอก็มาเพราะเป็นญาติโส เธอจำหน้าได้ ก็ได้แค่ยิ้มให้และทักทายนิดหน่อย ที่หน้าบ้านมีกองกฐิน เสื่อและหมอนที่แขกนำมาบริจาคช่วย มีโต๊ะรับปัจจัย พี่สาวของโสเป็นคนเขียนบัญชี
ใครมาช่วยงานต้องนำเงินใส่ซองพร้อมหมอนหนึ่งใบ จะใส่เท่าไหร่ก็ได้ตามศรัทธา พอนำมาช่วยแล้วก็จะได้ของชำร่วยกลับบ้าน นั่นก็คือของกิน จะเป็นข้าวต้มมัด ขนมจีนน้ำยา หรือเป็นลาบก้อยก็แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดให้
ข้าง ๆ กองกฐินมีนาคนั่งอยู่สองคน เป็นลูกพี่ลูกน้องของโสที่บวชหาบรรพบุรุษ ยายฝากเงินมาช่วยงานด้วยหนึ่งร้อยบาท บอสนำเงินไปลงบัญชีแต่ไม่ขอรับของชำร่วยเพราะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน ส่วนกล้วยมาถึงก็ไปหาพี่ต่าย ขอแยกกับพวกเธอ กล้วยจะไปไหนก็เรื่องของกล้วยเลย พวกเธอไม่ค่อยสนใจ ความจริงไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วย
ที่งานเปิดเพลงเสียงดังทั้งวัน ตอนเย็นก็จะมีการแห่นาค แห่ด้วยกลองยาว คณะกลองยาวก็ไม่ใช่คณะอื่นไกล เป็นคณะเพชร... ของตาเอง แม่ของโสไปว่าจ้างเอาไว้ คณะกลองยาวของตาใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้ง 13 หมู่บ้านในตำบล และทั่วแคว้นแดนไกล
นอกจากพวกเธอยังมีเพื่อนคนอื่น ๆ มาช่วยงานด้วย พวกเธอต่างพากันหยิบจับช่วยผู้ใหญ่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่จะช่วยได้ เสิร์ฟอาหารให้แขกบ้าง ล้างจานบ้างก็สนุกดี แล้วก็มานั่งจับกลุ่มเป็นแขกทานข้าวที่โต๊ะรับแขกเมื่อเสร็จงาน ทั้งเพื่อนผู้หญิงผู้ชายพวกเธอสนุกกันมาก ยกเว้นกล้วยที่หายหัวไปไหนไม่รู้
ที่โต๊ะของพวกเธอคุยกันสนุกเฮฮา มีแอลกอฮอล์ด้วย บอสเองก็ดื่มกับเพื่อน ๆ แต่ไม่ถึงกับเมา ไม่อยากให้ยายห่วง ตอนเย็นต้องกลับบ้านไปอาบน้ำอีก ถ้ายายรู้ว่าเมามีหวังต้องโดนไม่มากก็น้อยแน่นอน
“เด็ก ๆ ทานเสร็จแล้วไปล้างจานช่วยป้า ๆ หน่อยเด้อ แล้วเราไปเต้นหน้ากลองยาวกัน บ่ายสามก็จะแห่นาคแล้ว กินอิ่มพากันไปล้างชามก่อนเด้อลูก ช่วยแม่ครัวเค้า” แม่ของโสเดินมาพูดด้วย พวกเธอตบปากรับคำทันที
พอทานเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เพื่อน ๆ ผู้ชายก็ไปเก็บโต๊ะบางส่วน เหลือไว้ไม่กี่โต๊ะให้นั่ง เนื่องจากบ่ายแก่ ๆ แบบนี้แขกที่ได้รับเชิญ มากันเกือบครบและกลับไปแล้ว เหลือก็แค่แม่ครัวพ่อครัวที่ยังต้องอยู่เก็บกวาด ช่วยกันด้วยใจไม่ได้จ้างสักบาท เธอกับโสลืมกล้วยเสียสนิทใจ ไม่นึกถึงเลย
พอล้างจานเสร็จ ล้างไม้ล้างมือ ทาแป้งแต่งหน้าเตรียมตัวไปแห่กลองยาว ไม่นานรถกระบะวงกลองยาวของตาก็มาถึง บอสเดินเข้าไปหาตา พูดคุยด้วย แม่ของโสก็บอกให้ไปหาข้าวหาน้ำให้คณะกลองยาวทาน พวกเธอก็ทำหน้าที่อีกครั้ง บ่ายสามโมงตรงขบวนแห่นาคจะเริ่มขึ้น
และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย คือแห่นาครอบหมู่บ้าน รถกระบะสองคันตกแต่งด้วยผ้าสวยงาม ไว้ให้นาคขึ้นนั่ง และรถกระบะอีกสองคันหลังใส่หมอนเสื่อที่คนนำมาบริจาคแห่รอบหมู่บ้าน จะมีการโปรยทานด้วย นั่นก็คือการโยนเหรียญกัลปพฤกษ์
ตาวอร์มกลองยาวเสียงดังกระหึ่ม ไพเราะมาก ๆ เสียงพิณเสียงกลองโทนกลองรำมะนาเสียงฉาบ เสียงคีย์บอร์ดช่างผสมผสานเข้ากันลงตัว ออกมาเป็นเสียงเพลงที่น่าเต้นมาก ๆ ทว่าเธอไม่กล้าเต้นกลัวตาดุ ได้แค่เดินตามขบวนเฉย ๆ
เพื่อน ๆ และขบวนก็เคลื่อนตัวออกไป แห่วนรอบหมู่บ้าน และก็แห่เข้าวัด แขกที่มาร่วมงานต่างสนุกฟ้อนไปกับเสียงกลองยาว และแย่งเหรียญกัลปพฤกษ์กันจ้าละหวั่น
แห่เสร็จห้าโมงเย็นก็ยังไม่เห็นกล้วยกับพี่ต่าย หายหัวกันไปไหนก็ไม่รู้ พอจะถึงเวลากลับไปอาบน้ำไม่เห็นเพื่อนก็ชักเป็นห่วง ถ้าไม่ติดว่าพวกเธอเป็นคนไปรับมาจะไม่ห่วงเลย จะไปไหนก็ไปเลย แต่พวกเธอออกรับหน้าไปรับมานี่สิ
“ศรีมืงโทรหาอี่กล้วยดิ มันไปเอากันที่ไหนหนิ จะกลับไปอาบน้ำมั้ย” บอสพูดด้วยความหงุดหงิด มาถึงตั้งแต่เช้าจนป่านนี้หายหัวไปไหนกัน ยังไม่กลับมาสักที
“แป๊บมืง กูโทรหาพี่ต่ายดีกว่า” โสเลือกที่จะโทรหาพี่ชายแทนที่จะโทรหากล้วย โทรติดได้ความว่าพี่ต่ายกำลังมาส่ง กล้วยไปเล่นอยู่บ้านของพี่ต่ายที่อยู่หมู่ 5 งานบวชญาติตัวเองแทนที่จะมาอยู่ช่วยงาน กลับพาแฟนไปกกกันอยู่ที่บ้านตัวเอง โสรญาบ่นพึมพำคนเดียว “มันกำลังมามืง ห่าหนิบุญบวชตัวเองแทนที่จะพากันอยู่ช่วยงานผู้ใหญ่ กลับแอบไปเอากันที่บ้านเฉย” โสรญาคงอดทนไม่ได้จริง ๆ และก็คิดเหมือนที่เธอคิดด้วย ถึงได้บ่นออกมา
“เค!” เพื่อน ๆ คนอื่นต่างขอตัวกลับ บางคนก็จะกลับมาดูหมอลำอีก นัดแนะกันไว้แล้ว บางคนก็ไม่ขอมา เพราะบ้านไกล มาช่วยแค่ตอนกลางวันก็พอ ส่วนเธอกลับมาดูหมอลำคณะฟ้าสีครามแน่นอน ขอแม่กับยายกับตาไว้แล้วไม่มีปัญหา
คิดถึง 2 บทที่ 28
.
ไดอารี่ความคิดถึง
เดือนยังไม่ร้อนก็จัดงานบุญงานมงคลได้ ถ้าเข้าเดือนเมษายนจัดงานมงคลไม่ได้ เพราะมันร้อน จะทำให้เดือดร้อนไปตาม ๆ กัน ตามความเชื่อของคนเฒ่าคนแก่สมัยก่อน หลังจากเทศกาลปีใหม่ก็ยังมีการจัดงานมงคลต่าง ๆ กันอยู่ เช่น งานแต่งงาน งานบวชก็ยังคงมีประปราย
วันเสาร์ที่จะถึงนี้เป็นงานบวชพี่ชายของโสรญา บวชหาญาติที่ล่วงลับไปแล้ว ด้วยความที่เป็นเพื่อนสนิทกัน สนิทมากสำหรับเพื่อนต่างหมู่บ้าน เรียนห้องเดียวกัน จึงอยากไปช่วยงานด้วย ก็เล่นอยู่ในกลุ่มเดียวกันสำหรับ 1/5
นอกจากนั้นครอบครัวและญาติ ๆ ของโสรญายังจ้างหมอลำคณะดังมาแสดงในช่วงกลางคืนด้วย ความปลอดภัยเข้มงวด จ้างตำรวจทหารมาคุมงาน เพราะมีบทเรียนจากงานผู้ใหญ่บ้าน บ้านของเธอเมื่อคราวนั้นแล้ว เรื่องนั้นเป็นที่ฮือฮากันในวงกว้าง และยาวนาน กลายเป็นตำนานให้พูดถึงไปแล้ว
“แม่พรุ่งนี้บอสขอไปช่วยงานบวชโสนะ เพื่อนบอส อยู่หมู่ 3 นี่เอง” ค่ำวันศุกร์บอสคุยกับแม่เช่นปกติ และขอแม่ไปเที่ยวงานบวช หมายถึงตอนกลางคืนไปค้างที่บ้านโสรญาด้วย ขอยายกับตาแล้ว ยายอนุญาต ทว่ายังเกรงใจแม่เธอจึงขอแม่อีกคน
“บวชหาใคร บ้านอยู่คุ้มไหน ลูกใคร” แม่สอบถามข้อมูล แม่เองก็รู้จักกับคนหมู่ 3 เพื่อน ๆ แม่ก็มีหลายคน สมัยเป็นวัยรุ่นเป็นเพื่อนกัน
“ลูกแม่แก้ว บ้านอยู่คุ้มอนามัย เห็นว่าบวชหาตากับยายมันน่ะ บอสขอไปนะแม่ ยายอนุญาตแล้ว แต่บอสอยากขอแม่ด้วย ตอนเย็นขอไปดูหมอลำด้วยได้มั้ย”
“แก้ว! แก้วเคนมั้ย ลูกพ่อเคนแมนบ่ แม่เค้าน่ะเพื่อนแม่ ไปก็อย่าเถลไถล ถ้าทำตัวไม่ดีโตแค่ไหนแม่ก็ตีนะบอกไว้ก่อน ถ้าได้ยินข่าวไม่ดีพ่อขับรถแป๊บเดียวนะถึงบ้าน” แม่ขู่นิดหน่อย เธอก็ไม่สะทกสะท้าน พร้อมยักไหล่ให้แม่ น้องบีมหัวเราะคิกคักอยู่ข้าง ๆ รอต่อคิวคุยกับแม่
“จ้า! บอสให้สัญญา” ถึงจะถูกปฐมนิเทศนิดหน่อยแต่เธอก็ยิ้มได้ ดีใจที่แม่ไม่ห้าม แถมให้นอนค้างที่นั้นด้วย “พรุ่งนี้โสมารับบอส บอสไม่ได้ไปเอง ตอนสาย ๆ แหละมันจะมารับ”
พอคุยธุระของตนเสร็จก็เปลี่ยนเป็นน้องบีมมาคุยกับแม่ต่อ ส่วนตนเองลงไปข้างล่าง นำเรื่องไปบอกยายว่าแม่อนุญาต งานบวชที่ไหน ๆ ก็เหมือนกันรูปแบบเหมือนกัน แต่มันเป็นการได้เที่ยวมากกว่า ได้เที่ยวตอนกลางคืน ได้ไปค้างบ้านเพื่อนแค่คิดมันก็ตื่นเต้น
เธอไม่ได้คิดจะเกเรหรือโกหกแม่ไปทำสิ่งไม่ดี แต่เธอตื่นเต้นเพราะจะได้เที่ยวตอนกลางคืนแบบผู้ใหญ่ ที่ไม่เคยได้ทำเลย นึกแล้วโทรไปหาโสรญาหน่อยดีกว่า นำข่าวดีไปบอกสักหน่อย ดีใจจนเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว
งานนี้สองฝาแฝดไม่ได้ไปด้วย เพราะเป็นเพื่อนของเธอ ถ้าเกิดจะไปด้วยก็ไม่เป็นไร พิมพ์กับแพรวก็รู้จักกับโสรญาดี นึกได้เช่นนั้นแล้วบอสก็เดินกลับขึ้นไปชั้นสองของบ้าน กดโทรศัพท์โทรหาเพื่อนทันที
“ศรีเค้าได้ไปงานบุญที่บ้านอยู่นะ ได้ไปดูหมอลำด้วย แม่เค้าอนุญาต เอ้อ! แม่เค้าบอกว่าเป็นเพื่อนกับแม่ด้วย” บอสนำข่าวดีมาบอกเพื่อน เธอหยิบเก้าอี้มานั่งที่หน้าต่าง ดูทัศนียภาพของท้องทุ่งนายามค่ำคืน มองออกไปมันมืดมากทว่าไม่น่ากลัว
“รู้แล้ว แม่เค้าว่าไม่รู้ว่ามืงเป็นลูกแม่ฝนพะนะจื้น ฮา แม่ว่าเป็นเพื่อนกัน เล่นด้วยกันสมัยก่อน” ถึงสมัยก่อนการเดินทางจะไม่สะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน แต่คนสมัยก่อนก็มีเพื่อนต่างหมู่บ้านได้ “สมัยก่อนไปหาเลี้ยงควายพ้อกันว่าซ้าน!!! กูหัวกะบ่คืนจื้น” พวกเธอหัวเราะให้กันและกันผ่านโทรศัพท์ โสรญาชอบเรียกเธอว่าจื้น ส่วนเธอเรียกโสว่าศรี หรือศรีหาเหตุก็ได้
“กูไปคนเดียว พรุ่งนี้มารับด้วย อี่แฝดไม่ไป มันเข้าไปโรงเรียนมันอ่ะ”
“เค เอ้อ จื้นอี่กล้วยก็มาด้วยนะ มันบอกให้เราไปรับมันด้วย พี่ต่ายบอกให้มันมา” พี่ต่ายที่โสพูดถึงเป็นพี่ชายลูกพี่ลูกน้อง และกำลังคบกับกล้วยด้วย
“ไปรับก็ไปรับตั้ว ยายมันจะได้เชื่อใจไง ถ้ามีเพื่อนไปรับ ไม่ยอมให้หลานมาคนเดียว เพิ่นแฮงว่าหลานเพิ่นดีอยู่ นิสัยดี ตั้งใจเรียน ไม่คบผู้ชาย ฮา “ พูดกันถูกจริตมาก เมื่อพูดถึงเพื่อนชื่อกล้วย เพื่อนเป็นเด็กเรียนคนดีจริง ๆ นั่นแหละ ตามที่ยายของเพื่อนพูดนั่นแหละ ไม่คบผู้ชาย ไม่มีแฟน ผู้ชายไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน
เมื่อเม้าส์กันเสร็จก็วางสาย คืนนี้ต้องฝันดีแน่นอน เพราะสมหวัง ขอไปงานบุญเพื่อนก็ได้ไป พรุ่งนี้เธอจะรีบตื่นแต่เช้าแต่งตัวรอโสรญามารับเลย เงินติดตัวก็มีอยู่แล้ว ไม่ต้องขอยายให้โดนบ่น
สาย ๆ ของวันเสาร์บอสนั่งรอเพื่อนที่เปลหน้าบ้าน คุยกันไปเรื่อยเปื่อยกับยาย ยายก็ไม่บ่นอะไรยอมให้ไป ยายรู้จักกับโสรญาเหมือนกัน เพราะแวะที่บ้านของเธอบ่อยหลังเลิกเรียน
บอสแต่งตัวด้วยชุดกางเกงวอร์มเสื้อยืดเหมือนเดิม กางเกงวอร์มสีน้ำเงิน เสื้อหมีพูห์สีเหลือง กระเป๋าสะพายข้างรูปตัวการ์ตูนสตีฟสีน้ำเงินเข้มใบกะทัดรัด เตรียมความพร้อมรอเพื่อนแล้ว แค่โสมาถึงก็ออกเดินทางได้เลย
ไม่นานก็เห็นโสรญาขับมอเตอร์ไซค์ฮอนด้าคลิกสีน้ำเงินปนขาวเข้ามาจอดที่บ้านของเธอ โสยกมือไหว้ทักทายยายอย่างคุ้นเคย พร้อมนั่งคุยด้วย
“ยายโสขอพาอี่จื้น เอ้ย บอสไปช่วยงานบุญนะ ตอนเย็น ๆ แห่เสร็จจะมาส่งมันอาบน้ำ และพามันไปดูหมอลำนะยาย แม่จ้างฟ้าสีครามมา ยายไปดูมั้ย ถ้ายายไปจะให้พ่อขับรถมารับ”
“ไปช่วยงานบุญก็ช่วยหาข้าวหาน้ำให้แขกนะ อย่าพากันไปเถลไถลที่ไหน คนอื่นไปด้วยมั้ยหนิ” ยายฝากฝังก่อนไป กลัวแต่เธอหลอกไปเที่ยว
“เพื่อน ๆ ไปกันหลายคนอยู่ยาย เพื่อนหมู่บ้านอื่นก็ไปกัน บอสไม่ทำตัวเกเรหรอกน่า” เธอเป็นคนตอบยาย แล้วพวกเธอก็ขอตัวลายายไปรับกล้วยที่อีกหมู่บ้านกันต่อ
เธอเป็นคนขับโสเป็นคนซ้อน ขับรถมุ่งหน้าไปรับกล้วยอยู่อีกหมู่บ้านถัดไป หมู่บ้านของกล้วยไม่ได้อยู่ตำบลเดียวกันกับหมู่บ้านของพวกเธอ เป็นหมู่บ้านอยู่ทางทิศใต้ติดกับหมู่ 1 ไม่ไกลมาก เข้ามาเรียนโรงเรียนตำบลของพวกเธอด้วย
มาถึงก็เห็นกล้วยนั่งรออยู่แล้ว พวกเธอเข้าไปสวัสดียายของกล้วย ซึ่งหน้าไม่รับแขกเท่าไหร่นัก คงกลัวว่าพวกเธอจะพาหลานไปหาผู้ชาย ใคร ๆ ก็ไม่ดีหมด ดีแต่หลานตัวเองคนเดียว
พวกเธอได้ยินสรรพคุณยายของกล้วยมาจากปากเพื่อนคนอื่นบ้างแล้ว ทว่าที่มารับก็เพราะกล้วยกับพี่ต่ายขอร้อง เรื่องพี่ต่ายยายของกล้วยก็ไม่รู้ กล้วยเอาพวกเธอบังหน้าในการไปเที่ยวครั้งนี้ กล้วยบอกยายว่าไปช่วยงานบุญบวชโสรญาแทน ไม่อย่างนั้นยายไม่อนุญาต
“ขับรถดี ๆ ล่ะ แห่เสร็จมาเด้อ อย่าพากันอยู่ค่ำ” ยายของกล้วยกำชับ
“จ้า!” พวกเธอขานรับพร้อมกัน พอมารับกล้วย ก็เปลี่ยนตำแหน่งในการนั่ง กล้วยตัวสูง เธอจึงได้นั่งซ้อนข้างหน้า กล้วยเป็นคนขับ และโสนั่งซ้อนด้านหลัง ทั้งสามคนขับรถมุ่งหน้าไปยังบ้านของโสที่อยู่หมู่ 3 กัน
มาถึงบ้านของโสมีแขกมากมายมาช่วยงาน มาช่วยฟรีด้วยใจ ทั้งญาติคนในหมู่บ้าน และต่างหมู่บ้าน คนหมู่บ้านเดียวกันกับเธอก็มาเพราะเป็นญาติโส เธอจำหน้าได้ ก็ได้แค่ยิ้มให้และทักทายนิดหน่อย ที่หน้าบ้านมีกองกฐิน เสื่อและหมอนที่แขกนำมาบริจาคช่วย มีโต๊ะรับปัจจัย พี่สาวของโสเป็นคนเขียนบัญชี
ใครมาช่วยงานต้องนำเงินใส่ซองพร้อมหมอนหนึ่งใบ จะใส่เท่าไหร่ก็ได้ตามศรัทธา พอนำมาช่วยแล้วก็จะได้ของชำร่วยกลับบ้าน นั่นก็คือของกิน จะเป็นข้าวต้มมัด ขนมจีนน้ำยา หรือเป็นลาบก้อยก็แล้วแต่เจ้าภาพจะจัดให้
ข้าง ๆ กองกฐินมีนาคนั่งอยู่สองคน เป็นลูกพี่ลูกน้องของโสที่บวชหาบรรพบุรุษ ยายฝากเงินมาช่วยงานด้วยหนึ่งร้อยบาท บอสนำเงินไปลงบัญชีแต่ไม่ขอรับของชำร่วยเพราะต้องอยู่ที่นี่อีกนาน ส่วนกล้วยมาถึงก็ไปหาพี่ต่าย ขอแยกกับพวกเธอ กล้วยจะไปไหนก็เรื่องของกล้วยเลย พวกเธอไม่ค่อยสนใจ ความจริงไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกันด้วย
ที่งานเปิดเพลงเสียงดังทั้งวัน ตอนเย็นก็จะมีการแห่นาค แห่ด้วยกลองยาว คณะกลองยาวก็ไม่ใช่คณะอื่นไกล เป็นคณะเพชร... ของตาเอง แม่ของโสไปว่าจ้างเอาไว้ คณะกลองยาวของตาใคร ๆ ก็รู้จักกันทั้ง 13 หมู่บ้านในตำบล และทั่วแคว้นแดนไกล
นอกจากพวกเธอยังมีเพื่อนคนอื่น ๆ มาช่วยงานด้วย พวกเธอต่างพากันหยิบจับช่วยผู้ใหญ่เล็ก ๆ น้อย ๆ เท่าที่จะช่วยได้ เสิร์ฟอาหารให้แขกบ้าง ล้างจานบ้างก็สนุกดี แล้วก็มานั่งจับกลุ่มเป็นแขกทานข้าวที่โต๊ะรับแขกเมื่อเสร็จงาน ทั้งเพื่อนผู้หญิงผู้ชายพวกเธอสนุกกันมาก ยกเว้นกล้วยที่หายหัวไปไหนไม่รู้
ที่โต๊ะของพวกเธอคุยกันสนุกเฮฮา มีแอลกอฮอล์ด้วย บอสเองก็ดื่มกับเพื่อน ๆ แต่ไม่ถึงกับเมา ไม่อยากให้ยายห่วง ตอนเย็นต้องกลับบ้านไปอาบน้ำอีก ถ้ายายรู้ว่าเมามีหวังต้องโดนไม่มากก็น้อยแน่นอน
“เด็ก ๆ ทานเสร็จแล้วไปล้างจานช่วยป้า ๆ หน่อยเด้อ แล้วเราไปเต้นหน้ากลองยาวกัน บ่ายสามก็จะแห่นาคแล้ว กินอิ่มพากันไปล้างชามก่อนเด้อลูก ช่วยแม่ครัวเค้า” แม่ของโสเดินมาพูดด้วย พวกเธอตบปากรับคำทันที
พอทานเสร็จก็แยกย้ายกันไปทำหน้าที่ เพื่อน ๆ ผู้ชายก็ไปเก็บโต๊ะบางส่วน เหลือไว้ไม่กี่โต๊ะให้นั่ง เนื่องจากบ่ายแก่ ๆ แบบนี้แขกที่ได้รับเชิญ มากันเกือบครบและกลับไปแล้ว เหลือก็แค่แม่ครัวพ่อครัวที่ยังต้องอยู่เก็บกวาด ช่วยกันด้วยใจไม่ได้จ้างสักบาท เธอกับโสลืมกล้วยเสียสนิทใจ ไม่นึกถึงเลย
พอล้างจานเสร็จ ล้างไม้ล้างมือ ทาแป้งแต่งหน้าเตรียมตัวไปแห่กลองยาว ไม่นานรถกระบะวงกลองยาวของตาก็มาถึง บอสเดินเข้าไปหาตา พูดคุยด้วย แม่ของโสก็บอกให้ไปหาข้าวหาน้ำให้คณะกลองยาวทาน พวกเธอก็ทำหน้าที่อีกครั้ง บ่ายสามโมงตรงขบวนแห่นาคจะเริ่มขึ้น
และแล้วก็ถึงเวลาที่รอคอย คือแห่นาครอบหมู่บ้าน รถกระบะสองคันตกแต่งด้วยผ้าสวยงาม ไว้ให้นาคขึ้นนั่ง และรถกระบะอีกสองคันหลังใส่หมอนเสื่อที่คนนำมาบริจาคแห่รอบหมู่บ้าน จะมีการโปรยทานด้วย นั่นก็คือการโยนเหรียญกัลปพฤกษ์
ตาวอร์มกลองยาวเสียงดังกระหึ่ม ไพเราะมาก ๆ เสียงพิณเสียงกลองโทนกลองรำมะนาเสียงฉาบ เสียงคีย์บอร์ดช่างผสมผสานเข้ากันลงตัว ออกมาเป็นเสียงเพลงที่น่าเต้นมาก ๆ ทว่าเธอไม่กล้าเต้นกลัวตาดุ ได้แค่เดินตามขบวนเฉย ๆ
เพื่อน ๆ และขบวนก็เคลื่อนตัวออกไป แห่วนรอบหมู่บ้าน และก็แห่เข้าวัด แขกที่มาร่วมงานต่างสนุกฟ้อนไปกับเสียงกลองยาว และแย่งเหรียญกัลปพฤกษ์กันจ้าละหวั่น
แห่เสร็จห้าโมงเย็นก็ยังไม่เห็นกล้วยกับพี่ต่าย หายหัวกันไปไหนก็ไม่รู้ พอจะถึงเวลากลับไปอาบน้ำไม่เห็นเพื่อนก็ชักเป็นห่วง ถ้าไม่ติดว่าพวกเธอเป็นคนไปรับมาจะไม่ห่วงเลย จะไปไหนก็ไปเลย แต่พวกเธอออกรับหน้าไปรับมานี่สิ
“ศรีมืงโทรหาอี่กล้วยดิ มันไปเอากันที่ไหนหนิ จะกลับไปอาบน้ำมั้ย” บอสพูดด้วยความหงุดหงิด มาถึงตั้งแต่เช้าจนป่านนี้หายหัวไปไหนกัน ยังไม่กลับมาสักที
“แป๊บมืง กูโทรหาพี่ต่ายดีกว่า” โสเลือกที่จะโทรหาพี่ชายแทนที่จะโทรหากล้วย โทรติดได้ความว่าพี่ต่ายกำลังมาส่ง กล้วยไปเล่นอยู่บ้านของพี่ต่ายที่อยู่หมู่ 5 งานบวชญาติตัวเองแทนที่จะมาอยู่ช่วยงาน กลับพาแฟนไปกกกันอยู่ที่บ้านตัวเอง โสรญาบ่นพึมพำคนเดียว “มันกำลังมามืง ห่าหนิบุญบวชตัวเองแทนที่จะพากันอยู่ช่วยงานผู้ใหญ่ กลับแอบไปเอากันที่บ้านเฉย” โสรญาคงอดทนไม่ได้จริง ๆ และก็คิดเหมือนที่เธอคิดด้วย ถึงได้บ่นออกมา
“เค!” เพื่อน ๆ คนอื่นต่างขอตัวกลับ บางคนก็จะกลับมาดูหมอลำอีก นัดแนะกันไว้แล้ว บางคนก็ไม่ขอมา เพราะบ้านไกล มาช่วยแค่ตอนกลางวันก็พอ ส่วนเธอกลับมาดูหมอลำคณะฟ้าสีครามแน่นอน ขอแม่กับยายกับตาไว้แล้วไม่มีปัญหา