ตอนนี้ท้อกับการใช้ชีวิตมากค่ะไม่รู้ว่าแคร์แม่มากเกินไปหรือคาดหวังอะไรกับแม่ เราออกจากงานเพราะทนความกดดันจากที่ทำงานไม่ไหวเนื่องจากต้องทำยอดแล้วปัจจัยอื่นๆทำให้เราตัดสินใจออกงาน เราออกงานมา 10 วัน แล้วพยายามมองหางานใหม่ๆที่มันไม่เหมือนงานเดิมแล้ว แม่เราก็ชอบพูดกรอกหูเราตลอดว่าออกงานแล้วแม่ไม่เลี้ยงนะไม่มีความอดทนเราก็ปล่อยผ่านทำเป็นไม่ได้ยินไม่ตอบโต้อะไร แต่นับวันถ้าเรายังอยู่บ้านยังไม่มีงานทำแม่ก็จะพยายามบีบให้เราหางานทำให้ได้เร็วๆ บางงานเงินมันน้อยกว่าค่าแรงขั้นต่ำทำเกือบ 12 ชม.ประกันสังคมไม่มีก็ยังจะให้ไปทำแถมมันเป็นงานที่ต้องบริการลูกค้าซึ่งเราเคยทำงานอยู่ตรงนั้นเราไม่ไหวจริงๆ เราอยู่กับแม่ เรามีเงินเก็บอยู่พอสมควรแล้วเราก็ไม่ได้รีบหาถึงขั้นทำงานอะไรก็ได้ ค่าใช้จ่ายเรากับพี่หารกันออก ตอนที่เราออกจากงานแม่ก็จะได้รับแค่เงินจากพี่สาวเพราะเขาทำงานอยู่ ปกติเราจะให้แต่พอเราออกงานเราก็จะขอจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายอย่างอื่น แม่ไม่ต้องออกค่าใช้จ่ายในบ้านเลยกับข้าวเราก็ซื้อมาทำกินกันเอง แล้วพอออกจากงานคำพูดแม่ก็เปลี่ยน เอาเราไปเปรียบเทียบกับคนอื่น พอเราเดินหนีไม่ตอบโต้ก็จะบอกว่าเราไม่มีความอดทนอะไรเลยสักอย่าง ตอนที่เราทำงานวันหยุดเราจะมีให้4วัน/เดือน แม่ก็จะพูดในวันหยุดที่เรานอนตื่นสายว่า หยุดงานแบบนี้จะเอาเงินที่ไหนใช้ จะไปทำอะไรได้ตื่นสายขนาดนี้ดูลูกคนอื่นสิเขาเป็นแบบนั้นแบบนี้เราก็จะเซ็งไปเลย บางอย่างที่ไม่ควรทะเลาะก็มาทะเลาะอย่างตอนเรากลับจากบ้านพี่หลังจากเอาหลานไปส่งบ้านพี่ตอนบ่ายโมงเพราะเราเอาหลานมาบ้านแล้วเรากลับเกือบ6โมง แม่ถามว่าได้ซื้ออะไรมากินมั้ย เราบอกไม่ได้ซื้อ แม่เลยบอกว่าวันนี้ไม่ได้หุงข้าวนะไม่รู้จักกินมา เราก็บอกไม่เป็นไรไม่ค่อยหิว แม่ก็จะบอกว่าอย่ามาน้อยใจอะไรไร้สาระนะถ้าหิวก็ขับรถออกไปซื้อ เราก็บอกว่าน้อยใจอะไรแม่หนูไม่หิว แม่ก็บอกว่าอย่ามาเถียงคนอย่างนะ แล้วก็พูดเอาเรื่องเก่าๆมาพูดเหมือนเราไปทำผิดอะไรมากมายขนาดนั้น บางครั้งคำพูดแม่ก็ทำเราคิดมากมีครั้งนึงที่เราทะเลาะกับแม่เพราะว่าเราเป็นโรคซึมเศร้า ตอนนั้นเราดาวน์ตัวเองมากไม่อยากมีขีวิตอยู่เพราะครอบครัวของพ่อเลี้ยงที่แม่เอาเราไปอยู่ด้วย พ่อเลี้ยงกับแม่ทะเลาะกันทุกวัน แล้วแม่ก็เอาอารมณ์มาลงกับเราไม่ใช่การทำร้ายร่างกายแต่เดินเข้าห้องเรามาละเอาเรื่องที่เราทำผิดมาพูดวนเวียนอยู่แบบนั้นตั้งแต่ ม.1จนเราเรียนจบ ม.6 เราเริ่มทำงานหลังเรียนจบ แม่กับพ่อเลี้ยงก็เลิกกัน แต่เราออกมาอยู่ข้างนอกก่อนแม่เราจะเลิกกับพ่อเลี้ยงเกือบ2ปีแล้วแม่ก็มาอยู่กับเราแล้วมีครั้งนึง ที่ทะเลาะกันเพราะเราให้เงินแม่ช้า แม่ก็เอาเรื่องในอดีตที่เราทำผิดมาพูดให้เรารู้สึกแย่ประมาณว่า มันจะอะไรหนักหนาอีโรคเรียกร้องความสนใจ ที่กูต้องเลิกกับเขาก็เพราะ เราก็อึ้งไม่คิดว่าแม่จะพูดคำนี้เราไม่เคยก้าวก่ายอะไรในชีวิตคู่ของแม่เลยเพราะเราต้องทำตามกรอบที่แม่วางไว้ตั้งแต่ตอนเรียนหรือเพราะเอาเราไปอยู่ด้วยมันเลยเกิดปัญหาแบบนี้เหรอ? ตอนเราทำงานเราให้เงินแม่ใช้ครึ่งนึงของเงินเดือนเราตั้งแต่ตอนแม่ยังไม่เลิกกับพ่อเลี้ยงแม่บอกเงินไม่พอใช้ทั้งๆที่แม่ก็ได้เงินจากพี่สาวทุกเดือน แม่บอกมีค่างวดรถค่าแชร์ แล้วค่าหวย ของแม่ ซึ่งตอนอยู่กับพ่อเลี้ยงแม่ก็ได้เงินจากพ่อเลี้ยงเพราะแม่ไม่ได้ทำงานอยู่บ้านทำกับข้าวแต่เงินแม่ก็ไม่พอใช้ เราเคยฝากบัตรกดเงินให้แม่เป็นคนถือเพราะเราจะฝากเงินแล้วเราไว้ใจแม่เพราะคิดว่าแม่ไม่กดเงินเราไปใช้แน่ๆเพราะเราก็ส่งให้แม่ตลอด ตอนนั้นเราเก็บออมเงินจะไปเที่ยวกับเพื่อนมีเงินในบัญชีหมื่นกว่าบาทพอวันใกล้ไปเที่ยวเราขอบัตรกับแม่ แม่บอกไม่มีเงินแล้วยืมไปจ่ายค่านั้นนี้ก่อนเดียวจะคืน คือตอนนั้นเราเฟลมากเสียใจมากแถมต้องยกเลิกแพลนที่วางไว้ว่าจะไป พอแม่มาอยู่กับเรา เราก็โดนกดดันด้วยคำพูดต่างๆนาๆที่แม่นึกออกแล้วก็จะพูดๆออกมา บางทีเราก็นอนร้องไห้ตลอดทำไมแม่เราไม่เคยให้กำลังใจอะไรเราเลยมีแต่ตอกย้ำตลอด บางทีก็คิดถ้าเราตายทุกอย่างมันจะดีขึ้นหรือเปล่าทุกวันนี้เหมือนเป็นที่รองรับอารมณ์แม่เลยค่ะ พยายามไม่คิดมากแล้วค่ะแต่ทุกครั้งที่แม่พูดอะไรเราจะเฟลจะดาวน์ตัวเองมาก แม่รู้ค่ะว่าเราเป็นโรคซึมเศร้าแม่ก็จะเอาสิ่งที่เราเป็นมาพูดใส่เราว่าเรานะเป็นของเราเองไม่มีใครไปทำอะไรให้อยากเป็นมากกว่า อยู่แบบคนปกติแบบคนอื่นไม่ได้เหรอ เราจักการทุกอย่างด้วยความเงียบแต่ไม่มีอะไรดีขึ้นมาเลยค่ะ
ท้อกับคำพูดแม่เครียดจนโรคซึมเศร้ากำเริบ บางทีก็คิดอยากจะฆ่าตัวตายเพราะเหนื่อยกับจุดยืนตรงนี้มาก