'เอ็นที' จ่อแลกคลื่น 2600 ลงศึกสู้ '5จี “ทรูยิ้มได้ 700 เพิ่ม 10Mhz (34,306 ล้านบาท) แลกกับคลื่น 2600 (17,604 ล้านบาท)

กระทู้ข่าว
“ดีอีเอส” หนุน “เอ็นที” เปิดโต๊ะเจรจา “ค่ายมือถือ” ขอแลกคลื่น 5จี ให้บริหาร หลังควบรวมองค์กรเสร็จแล้ว มีฐานลูกค้าโมบายรวมที่ 2.68 ล้านราย ย้ำศักยภาพมี ไม่แพ้ใคร แต่ต้องประหยัดและให้เกิดประโยชน์สูงสุด สู้ได้ทันสถานการณ์ ย้ำแนวทางบริหารปี 64 ต้องเห็นความชัดเจน “ดาวเทียม - 5จี - มือถือ”


นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า หลังจากวานนี้ (7 ม.ค.) ได้เปิดตัว

บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็นที 

ที่เกิดจากการควบรวมกิจการระหว่าง บมจ. กสท โทรคมนาคม และ บมจ.ทีโอที โดยมี ม.ล.ชโยทิต กฤดากร เป็นประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) และ นาวาอากาศเอก สมศักดิ์ ขาวสุวรรณ์ นั่งตำแหน่งรักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่เอ็นทีนั้น

แผนงานแรกที่มุ่งมั่นจะเห็นเอ็นทีดำเนินการ คือ หน่วยธุรกิจโมบาย ต้องแข็งแกร่งและให้บริการแก่ประชาชน ภาครัฐ สามารถแข่งขันกับเอกชนได้เพราะเอ็นที โมบาย มีทรัพยากรที่เพียงพอ และมีศักยภาพการให้บริการ 

ทั้งนี้ ปัจจุบันลูกค้าเดิมของ ทีโอที โมบาย มีอยู่ 1.8 แสนราย ส่วน มาย บาย แคท อยู่ที่ 2.5 ล้านราย เมื่อนำมาบริหารจัดการร่วมกันรวมเป็น  “เอ็นที โมบาย” จะมีฐานลูกค้าอยู่ที่ 2.68 ล้านราย 

และมีความคลื่นความถี่รวมกัน 600 เมกะเฮิรตซ์ จาก 6 ย่านความถี่ทั้งที่มีอยู่เดิมและมาจากการประมูลของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)
 
ประกอบด้วย
1.คลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์จำนวน 10×2 เมกะเฮิรตซ์

2. คลื่น 26 กิกพเฮิรตซ์ จำนวน 400×1 เมกะเฮิรตซ์ 

3. คลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์จำนวน 15×2 เมกะเฮิรตซ์ 

4.คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 15×2 เมกะเฮิรตซ์ 

5.คลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 60×1 เมกะเฮิรตซ์ 

และ 6.คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จำนวน 30×2 เมกะเฮิรตซ์

“เร็วๆ นี้ จะมีการแถลงความร่วมมือระหว่างเอ็น โมบาย กับกับค่ายมือถือบางราย ด้วยการนำคลื่น 2600 เมกะเฮิรตซ์ที่เอกชนประมูลไปมาแลกกับคลื่น 700 ที่เอ็นทีมี เพื่อให้ 5จีที่ให้บริการมีความทันสมัย ซึ่งสิ่งที่ดี เร็ว และประหยัดคือการหาพันธมิตร และก็อาจจะมีความเป็นไปได้ที่ขึ้นมาเป็นท๊อป 3 ในตลาดแทน”

เขา กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ การรวมเป็นเอ็นทีความชัดเจนของธุรกิจโมบาย ก็กำลังให้บอร์ดไปดูว่าจะนำ
คลื่น 2100 เมกะเฮิรตซ์ ที่เหลือคาปาซิตี้ 30% และคลื่น 2300 เมกะเฮิรตซ์ เหลือคาปาซิตี้ 40% 

จะมาร่วมกับคลื่น 850 เมกะเฮิรตซ์ ของกสทฯที่มีคาปาซิตี้ เหลืออยู่ 30% รองรับได้ 10 ล้านเลขหมาย 

ดังนั้น การทำตลาดก็คงเน้นไปที่กลุ่มลูกค้ารัฐ ราชการ หรือขายไปพร้อมกับเน็ตบ้าน
 
และดีอีเอสจะผลักดันอย่างเต็มที่ และจะร่วมวางนโยบาย โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทักษะบุคลากรแก่พนักงานเดิมให้สามารถทำงานภายใต้บทบาทและโครงการใหม่ๆ โดยเมื่อควบรวมเสร็จแล้ว เอ็นทีจะกลายเป็นบริษัทโทรคมนาคมที่มีศักยภาพในการให้บริการโดยเฉพาะเรื่อง โมบาย ธุรกิจ 5จี และ ดาวเทียม โดยในมี.ค.จะเริ่มเห็นบริการอย่างเป็นรูปธรรมจากเอ็นที โมบาย

ผู้สื่อข่าวรายงาน ความเป็นไปได้ในการแลกเปลี่ยนคลื่นความถี่ (สวอป) นั้น เป็นการหารือกันมาล่วงหน้าตั้งแต่เมื่อครั้งที่มีการประมูลคลื่น 5จีของสำนักงานกสทช.ซึ่ง กสทฯที่ประมูลคลื่น 700 ไปนั้น มีการเจรจากับบมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เพื่อขอให้ความถี่ร่วมกันในฐานะท่ีเป็นคู่สัญญาสัมปทานกันมาในอดีต ซึ่งเป้าหมาบของเอ็นทีจะต้องเป็นผู้ที่แข่งขันในตลาดได้อย่างเท่าเทียมในอุตสาหกรรมโทรศัพท์มือถือ 5จี และดาวเทียม

https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/916210

โดยมีเงื่อนไขต้องนำคลื่น 2600 MHz ซึ่งมีการให้บริการ 5G อยู่แล้ว มาแลก และพันธมิตแค่จะต้องลงทุนติดตั้งคลื่น 700 MHz แทน
การลงทุน 5G ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก กว่าที่จะลงทุน 5G ครบทั้งประเทศต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้นการจับมือร่วมกับคนที่มี 5G ในการให้บริการอยู่แล้วจะทำให้ลูกค้าสามารถใช้งาน 5G ได้เร็วที่สุด สามารถใช้งาน 5G ได้ทันที 

งานนี้ทรูยิ้ม ไม่ต้องจ่ายค่าประมูลหนัก ซึ่ง 2600 กับ 700 ทรู ก็ติดตั้งอยู่แล้ว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่