ผมวิ่งสุดชีวิต โดยมีไอ้ตัวยาวใหญ่ยักษ์ไล่ผมมาติดๆ
ไม่ต้องหันไปดูก็รู้
ผมรู้ได้ไงน่ะเหรอ
ก็อาการแผ่นดินสะเทือนที่ไล่หลังผมมาไงล่ะ !
ผมหลีกเลี่ยงเขตเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงต้องวิ่งอ้อมข้ามเขามา 3 ลูก แต่มันก็ยังตามมาไม่ลดละ
"โยเนียร์" ผมชูมือ ตะโกนเรียก ขณะที่วิ่งไปพลาง เนิ่นนานผ่านไปก็ยังไร้วี่แววค้อนคู่มือ
ให้มันได้อย่างนี้สิ ! โยเนียร์เรียกไม่มา จาร์วิสก็ติดต่อไม่ได้ ไม่เคยคิดว่าต้องมาอยู่ในสภาพอย่างนี้
ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ
ไม่มีอาวุธกับชุดเกราะ แล้วยังไง
ทำไมผมต้องหนีมันด้วย
ผมจึงหันไปเผชิญหน้ากับมัน
เจ้างูตัวใหญ่ จะดำก็ไม่ดำ ขาวก็ไม่ขาว ตรงดิ่งเข้ามาหาผม
ผมยืน มือซ้ายล้วงกระเป๋า เอนตัวไปด้านหลัง เอียงขวาเล็กน้อย ยกมือขวา ชี้นิ้วไปข้างหน้า เมื่อมันเข้ามาอยู่ในระยะ ผมจึงออกคำสั่ง
"สตาร์บัคส์แพลตตินัม"
"โอ้ว" สแตนด์ที่ผมไม่ได้เรียกใช้ซะนาน เพราะไม่มีตังค์ ส่งเสียงร้องลั่นทันทีที่ได้ออกมา แล้วพุ่งไปประเคนหมัดใส่เจ้างูยักษ์
"Ora ora ora ora ora ora orarara"
หลายสิบหมัดกระทบตัวมัน แต่เจ้างูยักษ์ไม่สะดุ้งสะเทือนซักนิด มันยังตรงดิ่งมาหา
"ให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่ได้ใช้งานหลายปี พลังหมัดที่เคยชกรถถังกระเด็น อ่อนแอลงขนาดนี้" ผมสบถก่อนจะเรียกสแตนด์กลับ
คราวนี้ ไม่พึ่งพลังของสแตนด์แล้ว จะใช้พลังของตัวเองล้วนๆ
"คอสโมของชั้นเอ๋ย จงลุกโชนขึ้น"
ผมกำหมัด ง้างแขน ตั้งท่า
"ตูจะซัด หมัดดาวตก !"
ผมชกออกไปด้วยความเร็ว ราวๆ 165 หมัดต่อวินาที
-ผัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ-
แต่มันก็ยังคงไม่เป็นไรแม้แต่น้อย ทำให้ผมต้องวิ่งเตลิดอีกครั้ง
นี่ก็เพราะผมไม่ได้สวมชุดคลอธ ทำให้คอสโมไม่พอ ทั้งยังไม่รู้สึกสัมผัสถึงเซนต์คนอื่นๆ ทำให้จะใช้เซเว่นเซ้นส์ หยิบยืมพลังคอสโม่มาก็ไม่ได้
ระหว่างที่วิ่ง ผมกระโดดต่อยก้อนอิฐแปลกๆที่ลอยอยู่เหนือหัว ก็ปรากฏเห็ดลายจุดสีแดงผุดขึ้นมา ผมกินมันทันที ทำให้ตัวของผมใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า
ผมจึงกระโดดต่อยใส่ก้อนอิฐทุกก้อนที่เจอ จนปรากฏดอกไม้แดงออกมา ผมคว้ามากิน แล้วหันไปเผชิญหน้าเจ้างูยักษ์อีกครั้ง
ตอนนี้ในท้องผมถูกแผดเผาจนร้อนรุ่ม ผมชักนำพลังความร้อนมาไว้ที่มือทั้งสองข้าง เกิดเป็นลูกบอลไฟในมือข้างละลูก ที่ผมขว้างรัวใส่มันเป็นชุด
Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera
แต่ผมยังคงคิดผิด ลูกไฟก็ไม่มีผลกับมัน มันพุ่งเข้ามาชน จนผมกระเด็นและตัวกลับเล็กลงเท่าเดิม
ผมพลิกตัว หลบปากของมันที่งับลงมา แล้ววิ่งหนีต่อไปเบื้องหน้า มีรถไฟขบวนหนึ่งจอดอยู่
ผมทันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งจะก้าวขึ้นรถไฟ ทำให้รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกไป
ผู้หญิงคนนั้น ผมเห็นชัด เธอรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง สวมชุดขนสัตว์และหมวกขนสัตว์สีดำ นั่นทำให้ผมรู้ว่ารถไฟขบวนนั้นจะช่วยพาผมหนีได้
ผมหมายจะเกาะไปด้วย แต่รถไฟก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมเร่งฝีเท้าจนสุดชีวิตแล้ว แต่มือที่เอื้อมก็ยังห่างจากราวท้ายรถไฟอยู่ 1 เซ็นต์
แต่เพียง 1 เซ็นต์นี้เอง คือความแตกต่าง ระหว่างสำเร็จ กับล้มเหลว
ผมคว้าพลาด และขบวนรถไฟก็พุ่งขึ้นฟ้า ไปยังสถานีหน้า ที่ดาวอื่น
คงเหลือผมที่ยังต้องวิ่งล้มลุกคลุกคลานหนีเจ้างูยักษ์ต่อไป
หลังจากได้แต่วิ่งหนีมานาน มันชักทำให้ผมเบื่อ
"แก ทำให้ชั้นต้องเอาจริงแล้วนะ"
พลังชี่ที่ยังเหลือในตัว คงจะใช้ได้แค่เพียงครั้งเดียว
นี่คือ ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของผมแล้ว ผมหันกลับไปหามัน ย่อขายันเป็นหลักมั่น เหยียดแขนทั้งสองไปข้างหน้า
"พลัง..."
หงิกมือประกบกัน
"คลื่น.."
ดึงมือกลับมาแนบข้างลำตัว
"เต่า.."
รวบรวมพลังชี่ไว้กลางระหว่างฝ่ามือทั้งสองเป็นจุดเดียว
"สะท้าน..."
ผลักมือยิงคลื่นพลังแรงสูงออกไปเบื้องหน้า
"ฟ้า !!!"
KAAABOOOOOOOOMMMMMMM!!!!
ผลที่ได้ แค่ตัวมันสะท้อนถอยหลังเพียงเล็กน้อย ชะงักไปไม่กี่วินาที ก่อนจะกลับมาไล่ล่าผมใหม่
ผมเจอช่องเขาเล็กๆ ที่คิดว่าขนาดตัวของเจ้างูยักษ์ไม่น่าลอดผ่านได้ ผมจึงวิ่งเข้าไปในนั้น
มันกลับลดขนาดตัวของมันได้ แล้วไล่ตามหลังผมมาติดๆ
แต่ ข้างหน้าผมเป็นทางตัน ซ้ายขวาก็เป็นหน้าผาสูง มีทางออกอยู่เพียงทางเดียว คือทางที่เข้ามานั่นไง
ผมไม่วิ่งหนีมันอีกแล้ว คราวนี้ ผมหมุนตัวกลับวิ่งเข้าใส่มันตรงๆ ด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า 40 หลา ภายใน 4.1 วินาที
แต่ผมรู้ดี แค่ เดวิลแบทส์ โกสต์ ไม่พอที่จะผ่านมันไปได้หรอก
ดังนั้น
พริบตาที่ผมจะชนกับมัน ผมถอย 1 ก้าว ก่อนจะเร่งซอยเท้าซ้ายเฉียงไปด้านขวา แล้วพุ่งผ่านตัวมันไปทางด้านซ้าย ด้วยความเร็วแสง
เดวิล ฟอร์ซ ไดเมนชั่น
ยี้ ฮ่าาาาหห !
งงเด้ ไอ้กร๊วก !
ผมผ่านมันมาได้สำเร็จ
ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น เอวผมก็ถูกรวบไว้ โดยไม่ทันรู้ตัว ผมหนีไปไหนไม่ได้แล้ว
เจ้างูตัวนั้น พันรัดรอบตัวผมอีกชั้น ซึ่งมันแปลกที่ผมไม่ได้เจ็บปวดหรืออึดอัด แต่กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นแทน
หลังจากจับผมได้แล้ว มันจ้องหน้าผม เมื่อผมเห็นหน้ามันชัดๆ ไม่รู้ทำไม ถึงได้คิดว่าคุ้นเคยกับมันอย่างประหลาด
เจ้างูยักษ์ซึ่งเป็นผู้ชนะ มันยิ้ม แล้วพูดกับผมว่า
"นายหนีเราไม่พ้นหรอก"
สิ้นคำ แสงเจิดจ้าปรากฏขึ้น ราวกับเป็นสัญญาณสิ้นสุด เกมไล่จับระหว่างผมกับมัน
ร่างของผมและมันต่างค่อยๆสลายลงไป ด้วยแสงนั่น
...
หนี..ไม่พ้น
ไม่ต้องหันไปดูก็รู้
ผมรู้ได้ไงน่ะเหรอ
ก็อาการแผ่นดินสะเทือนที่ไล่หลังผมมาไงล่ะ !
ผมหลีกเลี่ยงเขตเมือง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับชาวบ้านที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ จึงต้องวิ่งอ้อมข้ามเขามา 3 ลูก แต่มันก็ยังตามมาไม่ลดละ
"โยเนียร์" ผมชูมือ ตะโกนเรียก ขณะที่วิ่งไปพลาง เนิ่นนานผ่านไปก็ยังไร้วี่แววค้อนคู่มือ
ให้มันได้อย่างนี้สิ ! โยเนียร์เรียกไม่มา จาร์วิสก็ติดต่อไม่ได้ ไม่เคยคิดว่าต้องมาอยู่ในสภาพอย่างนี้
ผมชักจะทนไม่ไหวแล้วนะ
ไม่มีอาวุธกับชุดเกราะ แล้วยังไง
ทำไมผมต้องหนีมันด้วย
ผมจึงหันไปเผชิญหน้ากับมัน
เจ้างูตัวใหญ่ จะดำก็ไม่ดำ ขาวก็ไม่ขาว ตรงดิ่งเข้ามาหาผม
ผมยืน มือซ้ายล้วงกระเป๋า เอนตัวไปด้านหลัง เอียงขวาเล็กน้อย ยกมือขวา ชี้นิ้วไปข้างหน้า เมื่อมันเข้ามาอยู่ในระยะ ผมจึงออกคำสั่ง
"สตาร์บัคส์แพลตตินัม"
"โอ้ว" สแตนด์ที่ผมไม่ได้เรียกใช้ซะนาน เพราะไม่มีตังค์ ส่งเสียงร้องลั่นทันทีที่ได้ออกมา แล้วพุ่งไปประเคนหมัดใส่เจ้างูยักษ์
"Ora ora ora ora ora ora orarara"
หลายสิบหมัดกระทบตัวมัน แต่เจ้างูยักษ์ไม่สะดุ้งสะเทือนซักนิด มันยังตรงดิ่งมาหา
"ให้มันได้อย่างนี้สิ ไม่ได้ใช้งานหลายปี พลังหมัดที่เคยชกรถถังกระเด็น อ่อนแอลงขนาดนี้" ผมสบถก่อนจะเรียกสแตนด์กลับ
คราวนี้ ไม่พึ่งพลังของสแตนด์แล้ว จะใช้พลังของตัวเองล้วนๆ
"คอสโมของชั้นเอ๋ย จงลุกโชนขึ้น"
ผมกำหมัด ง้างแขน ตั้งท่า
"ตูจะซัด หมัดดาวตก !"
ผมชกออกไปด้วยความเร็ว ราวๆ 165 หมัดต่อวินาที
-ผัวะๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ-
แต่มันก็ยังคงไม่เป็นไรแม้แต่น้อย ทำให้ผมต้องวิ่งเตลิดอีกครั้ง
นี่ก็เพราะผมไม่ได้สวมชุดคลอธ ทำให้คอสโมไม่พอ ทั้งยังไม่รู้สึกสัมผัสถึงเซนต์คนอื่นๆ ทำให้จะใช้เซเว่นเซ้นส์ หยิบยืมพลังคอสโม่มาก็ไม่ได้
ระหว่างที่วิ่ง ผมกระโดดต่อยก้อนอิฐแปลกๆที่ลอยอยู่เหนือหัว ก็ปรากฏเห็ดลายจุดสีแดงผุดขึ้นมา ผมกินมันทันที ทำให้ตัวของผมใหญ่ขึ้นเป็นสองเท่า
ผมจึงกระโดดต่อยใส่ก้อนอิฐทุกก้อนที่เจอ จนปรากฏดอกไม้แดงออกมา ผมคว้ามากิน แล้วหันไปเผชิญหน้าเจ้างูยักษ์อีกครั้ง
ตอนนี้ในท้องผมถูกแผดเผาจนร้อนรุ่ม ผมชักนำพลังความร้อนมาไว้ที่มือทั้งสองข้าง เกิดเป็นลูกบอลไฟในมือข้างละลูก ที่ผมขว้างรัวใส่มันเป็นชุด
Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera Pera
แต่ผมยังคงคิดผิด ลูกไฟก็ไม่มีผลกับมัน มันพุ่งเข้ามาชน จนผมกระเด็นและตัวกลับเล็กลงเท่าเดิม
ผมพลิกตัว หลบปากของมันที่งับลงมา แล้ววิ่งหนีต่อไปเบื้องหน้า มีรถไฟขบวนหนึ่งจอดอยู่
ผมทันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งที่เพิ่งจะก้าวขึ้นรถไฟ ทำให้รถไฟเริ่มเคลื่อนขบวนออกไป
ผู้หญิงคนนั้น ผมเห็นชัด เธอรูปร่างสูงโปร่ง ผมสีทอง สวมชุดขนสัตว์และหมวกขนสัตว์สีดำ นั่นทำให้ผมรู้ว่ารถไฟขบวนนั้นจะช่วยพาผมหนีได้
ผมหมายจะเกาะไปด้วย แต่รถไฟก็เร่งความเร็วขึ้นเรื่อยๆ ผมเร่งฝีเท้าจนสุดชีวิตแล้ว แต่มือที่เอื้อมก็ยังห่างจากราวท้ายรถไฟอยู่ 1 เซ็นต์
แต่เพียง 1 เซ็นต์นี้เอง คือความแตกต่าง ระหว่างสำเร็จ กับล้มเหลว
ผมคว้าพลาด และขบวนรถไฟก็พุ่งขึ้นฟ้า ไปยังสถานีหน้า ที่ดาวอื่น
คงเหลือผมที่ยังต้องวิ่งล้มลุกคลุกคลานหนีเจ้างูยักษ์ต่อไป
หลังจากได้แต่วิ่งหนีมานาน มันชักทำให้ผมเบื่อ
"แก ทำให้ชั้นต้องเอาจริงแล้วนะ"
พลังชี่ที่ยังเหลือในตัว คงจะใช้ได้แค่เพียงครั้งเดียว
นี่คือ ท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของผมแล้ว ผมหันกลับไปหามัน ย่อขายันเป็นหลักมั่น เหยียดแขนทั้งสองไปข้างหน้า
"พลัง..."
หงิกมือประกบกัน
"คลื่น.."
ดึงมือกลับมาแนบข้างลำตัว
"เต่า.."
รวบรวมพลังชี่ไว้กลางระหว่างฝ่ามือทั้งสองเป็นจุดเดียว
"สะท้าน..."
ผลักมือยิงคลื่นพลังแรงสูงออกไปเบื้องหน้า
"ฟ้า !!!"
KAAABOOOOOOOOMMMMMMM!!!!
ผลที่ได้ แค่ตัวมันสะท้อนถอยหลังเพียงเล็กน้อย ชะงักไปไม่กี่วินาที ก่อนจะกลับมาไล่ล่าผมใหม่
ผมเจอช่องเขาเล็กๆ ที่คิดว่าขนาดตัวของเจ้างูยักษ์ไม่น่าลอดผ่านได้ ผมจึงวิ่งเข้าไปในนั้น
มันกลับลดขนาดตัวของมันได้ แล้วไล่ตามหลังผมมาติดๆ
แต่ ข้างหน้าผมเป็นทางตัน ซ้ายขวาก็เป็นหน้าผาสูง มีทางออกอยู่เพียงทางเดียว คือทางที่เข้ามานั่นไง
ผมไม่วิ่งหนีมันอีกแล้ว คราวนี้ ผมหมุนตัวกลับวิ่งเข้าใส่มันตรงๆ ด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า 40 หลา ภายใน 4.1 วินาที
แต่ผมรู้ดี แค่ เดวิลแบทส์ โกสต์ ไม่พอที่จะผ่านมันไปได้หรอก
ดังนั้น
พริบตาที่ผมจะชนกับมัน ผมถอย 1 ก้าว ก่อนจะเร่งซอยเท้าซ้ายเฉียงไปด้านขวา แล้วพุ่งผ่านตัวมันไปทางด้านซ้าย ด้วยความเร็วแสง
เดวิล ฟอร์ซ ไดเมนชั่น
ยี้ ฮ่าาาาหห !
งงเด้ ไอ้กร๊วก !
ผมผ่านมันมาได้สำเร็จ
ขณะที่ผมคิดอย่างนั้น เอวผมก็ถูกรวบไว้ โดยไม่ทันรู้ตัว ผมหนีไปไหนไม่ได้แล้ว
เจ้างูตัวนั้น พันรัดรอบตัวผมอีกชั้น ซึ่งมันแปลกที่ผมไม่ได้เจ็บปวดหรืออึดอัด แต่กลับรู้สึกถึงความอบอุ่นแทน
หลังจากจับผมได้แล้ว มันจ้องหน้าผม เมื่อผมเห็นหน้ามันชัดๆ ไม่รู้ทำไม ถึงได้คิดว่าคุ้นเคยกับมันอย่างประหลาด
เจ้างูยักษ์ซึ่งเป็นผู้ชนะ มันยิ้ม แล้วพูดกับผมว่า
"นายหนีเราไม่พ้นหรอก"
สิ้นคำ แสงเจิดจ้าปรากฏขึ้น ราวกับเป็นสัญญาณสิ้นสุด เกมไล่จับระหว่างผมกับมัน
ร่างของผมและมันต่างค่อยๆสลายลงไป ด้วยแสงนั่น
...