ตั้วใจทำงานแทบตาย แต่รู้สึกเหมือนโดนเอาเปรียบทำไงดีค่ะ??

สวัสดีค่ะ เราเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ทำงานบริษัทแห่งหนึ่งมานานมากๆ 
 เราเริ่มทำงานด้วยจากการที่คุณพ่ออยากช่วยเหลือคนรู้จัก เลยให้เราไปทำงานช่วยเพราะตอนนั้นที่ทำงานยังขาดคนอยู่
ตอนนั้นเราจบมาใหม่ๆ ปริญญาตรี เกียรตินิยมอันดับ2 พ่อให้เรามาช่วยคนรู้จักทำงาน เพราะบริษัทเขาขาดคน เราก็ตั้งใจทำงานมาเรื่อยๆ เริ่มต้นจากเงินเดือน7,500 บาท จนตอนนี้ก็ยังได้7,500อยู่🤣🤣แต่ทางบริษัทให้เปอร์เซ็นต์ค่าคอมกับเรา โดยจะเฉลี่ยจากยอดที่ทางบริษัททำได้แต่ละเดือน เดือนละ0.5% เฉลี่ยเดือนนึงไม่เคยเกิน1หมื่นบาท ดังนั้นเงินเดือนเราจะอยู่ที่12,000-15,000 เคยได้มากสุดที่18,000 แต่เคยได้แค่ครั้งเดียวค่ะ งานเราเป็นงานไม่หนักมากขายของหน้าร้าน ส่งของบ้าง แล้วก็ทำเอกสารต่างๆ แต่ทุกอย่างในบริษัทเราทำคนเดียวนะคะเพราะมีพนักงานกันแค่2คน อีก1คนตัดออกไปได้เลยเพราะเป็นคนในครอบครัวเจ้าของบริษัทเอง ทำอะไรไม่เป็นนอกจากขายของอย่างเดียว เรื่องเอกสาร คุยกับลูกค้า ส่งงานไปยังสำนักงานใหญ่เราทำหมด เราให้ใจมากเพราะคิดว่ารักนับถือกันเป็นคนรู้จักกับคุณพ่อคุณแม่ เห็นกันมาตั้งแต่เด็กๆ เรื่องครอบครัวเราก็ดูแลช่วยไปส่งลูกให้ที่บ้านถ้าเจ้านายกลับมาจากต่างจังหวัดไม่ทัน ดูแลเรื่องการเรียนต่างๆ คือแค่ดีดนิ้วเราทำให้เลยทุกอย่างที่สั่ง จนมาวันนึง พนักงานอีกคนออกตอนนี้เหลือเราแค่คนเดียว เขาให้เราทำงานมากขึ้น จริงๆก็เริ่มมากขึ้นเรื่อยๆมาตั้งนานแล้วแต่เราก็พยายามปล่อยผ่านเห็นใจมาตลอด จนมาตอนนี้มีเราคนเดียว เวลาทำงานและความรับผิดชอบที่เราต้องทำมีมากขึ้น เวลาทำงานเพิ่มขึ้น เราเลยยื่นขอเสนอ ขอเงินเดือนเพิ่ม แต่ไม่ได้ยอกว่าขอเท่าไรแล้วแต่เขาจะพิจารณา แต่เขากลับบอกว่าให้เราเยอะแล้ว มีอาการไม่พอใจใส่เราที่เราเรียกร้อง แบบนี้เราผิดไหมค่ะ ที่ขอเงินเดือนเพิ่ม หรือเราเรียกร้องมากไป เราควรทำยังไงดีค่ะ คือตอนนี้เสียความรู้สึกมากๆเพราะว่าตั้งใจทำงานและทุ่มเทมาโดยตลอด