หากพูดถึงระบบต่างๆ ในบ้าน เชื่อว่าเจ้าของบ้านมากกว่า 80 % จะคิดถึงระบบน้ำ ระบบไฟ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคหลักที่ขาดไม่ได แต่หากพูดถึงระบบการจัดการขยะหรือของเสีย โดยเฉพาะขยะที่เป็นเศษอาหาร หลายๆ คนอาจคิดว่าไม่จำเป็น แค่ทิ้งลงในถังขยะหรือกรองเศษอาหารตรงซิงค์ล้างจานก็เพียงพอแล้ว ยิ่งพูดถึง “ถังดักไขมัน” อาจมีคนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วถังดักไขมันเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มาก ไม่เฉพาะต่อบ้านเท่านั้นแต่ยังดีต่อสังคมส่วนรวมด้วย เนื้อหานี้
HomeGuru จะพาไปไขข้อข้องใจว่าทำไมบ้านควรมีถังดักไขมัน ถังดักไขมันมีกี่แบบและวิธีบำรุงดูแลรักษา มีอะไรบ้างครับ
ล้างทิ้งเฉยๆ ได้ไหม ทำไมต้องดักไขมัน
เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่า ทั้งๆ ที่ก่อนล้างภาชนะเราก็กรองเศษอาหารออกจนหมดทุกครั้ง แต่ทำไมท่อระบายน้ำในครัวก็ยังอุดตันอยู่บ่อยๆ แถมมีกลิ่นเหม็นด้วย นั่นเป็นเพราะมี “คราบไขมัน” ที่ใช้ในการประกอบอาหารคงค้างอยู่ในจานชาม เมื่อเราล้างภาชนะคราบไขมันเหล่านี้ก็จะไหลปนมากับน้ำทิ้ง แล้วไปค้างอยู่ตามส่วนต่างๆ ของท่อ ไขมันที่พอกลอยตัวอยู่ผิวน้ำจะทำให้ออกซิเจนละลายน้ำได้น้อย เป็นสาเหตุให้น้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เมื่อทิ้งไว้นานๆ เข้าจะจับตัวกันเป็นเมือกหนาคล้ายสบู่ หากหนาเกิน 10 ซม. จะทำให้เกิดการอุดตันของท่อระบายน้ำในบ้าน ท่อน้ำสาธารณะนอกบ้าน และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทั้งผิดกฎหมายและทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านความรู้เรื่องท่อตันเพิ่มเติมได้ที่ วิธีแก้ปัญหาท่อตัน ทำเองก่อนจะเรียกช่าง
อ่านความรู้เรื่องคราบสกปรกเพิ่มเติมได้ที่ 5 วัสดุ “Backsplash” กันเปื้อนให้ผนังห้องครัว
ถังดักไขมันคืออะไร จำเป็นไหมที่ต้องมีทุกบ้าน
“ถังดักไขมัน” (grease trap) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ช่วยดักเศษอาหารและจับไขมันจากการล้างภาชนะและอุปกรณ์ประกอบอาหาร ไม่ให้ไหลปะปนไปกับน้ำที่ใช้งานในส่วนอื่นๆ ของบ้าน โดยจะทำการดักเศษอาหารและไขมันหนักออกจากน้ำทิ้งตัวไขมันจะอยู่ในตะกร้า ส่วนน้ำที่ไหลทิ้งจะปล่อยไปยังท่อน้ำทิ้งสาธารณะ
จำเป็นไหมที่ต้องมีถังดักไขมันทุกบ้าน คำตอบคือ จำเป็น เพราะน้ำเสียจากครัวจะปนเปื้อนไขมัน ซึ่งเป็นน้ำเสียอินทรีย์ที่บำบัดได้ยาก เนื่องจากการย่อยสลายไขมันโดยธรรมชาติต้องใช้เวลานานมาก จึงไม่ควรปล่อยทิ้งออกไปโดยไม่ผ่านถังดักไขมัน หลายคนอาจคิดว่าถังดักไขมันต้องเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกบ้านควรมีไว้ใช้ หรือต่อท่อออกมาฝังดินนอกบ้านก็ได้ เพราะนอกจากถังดักไขมันจะช่วยดักกรองเศษอาหาร ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสิ่งหมักหมมแล้ว ยังเป็นการปรับคุณภาพน้ำทิ้งก่อนออกสู่ท่อน้ำทิ้งสาธารณะ ทำให้น้ำทิ้งที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมด้วย
ประเภทของถังดักไขมัน
ถังดักไขมันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือแบบตั้งบนพื้นและแบบฝังดิน สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ในการใช้งาน ดังนี้
ถังดักไขมันแบบตั้งพื้น (บนดิน)
เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เช่น ห้องพัก คอนโด หรือทาวน์โฮม เนื่องจากขนาดถังไม่กินพื้นที่มาก วิธีติดตั้งไม่ยุ่งยากเพียงแค่ต่อท่อระบายน้ำทิ้งจากอ่างล้างจานเข้ากับถังดักไขมัน แล้วติดตั้งท่อระบายน้ำของถังดักไขมันลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ ถังดักไขมันบนพื้นจะใช้งานสะดวกและดูแลได้ง่ายกว่า อาจจะติดตั้งใต้ซิงค์ล้างในครัวหรือต่อท่อออกมาติดตั้งข้างนอกก็ได้
ถังดักไขมันแบบฝังดิน
เหมาะสำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่การใช้งานกว้างๆ เพียงพอในการฝังถังดักไขมันไว้ใต้ดินบริเวณนอกตัวบ้าน เพราะขนาดถังค่อนข้างใหญ่ วิธีนี้ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องขุดหลุมฝังถัง และต้องออกแบบระบบต่อท่อน้ำทิ้งกับซิงค์ในครัวและการวางแนวท่อออกไปนอกบ้านด้วย ทำให้การดูแลรักษายาก แต่จะดูเรียบร้อยกว่าแบบวางบนพื้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อ่านความรู้เรื่องซิงค์ในครัวเพิ่มเติมได้ที่ เคล็ดลับเลือกอ่างล้างจานใช้นาน..ใช้ทน
อ่านความรู้เรื่องอ่างล้างจานตันเพิ่มเติมได้ที่ อ่างล้างจานอุดตัน แก้ได้ไม่ยากอย่างที่คิด
เลือกถังดักไขมันขนาดไหนดี
การเลือกขนาดถังดักไขมันให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและปริมาณการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการดูแลรักษา ถังดักไขมันมีให้เลือกใช้งานหลากหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ขนาด 15 ลิตร, 40 ลิตร, 50 ลิตร, 90 ลิตรและ 140 ลิตร ตามลำดับ โดยมีเกณฑ์พิจารณาในการเลือกขนาดดังนี้
● สมาชิกภายในบ้าน 1-5 คน ควรเลือกใช้ขนาด 15 ลิตร
● สมาชิกภายในบ้าน 6-10 คน ควรเลือกใช้ขนาด 30 ลิตร
วิธีการดูแลรักษาถังดักไขมัน
สำหรับวิธีการดูแลรักษาทำได้ไม่ยาก โดยตักเศษอาหารในตะแกรงไปทิ้งเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ควรตักไขมันที่ลอยอยู่เหนือน้ำออกทุกสัปดาห์ และล้างถังดักไขมันปีละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีพร้อมกับช่วยลดกลิ่นเหม็นจากการเน่าเสียสะสมไปด้วยในตัว
ได้รู้จักกับ ถังดักไขมัน กันไปแล้ว เห็นได้ว่าไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เฉพาะภายในครัวเรือนเท่านั้น การดักไขมันที่ถูกต้องยังส่งผลแก่สาธารณะอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาหรืออยากได้ถังดักไขมันไว้ติดบ้าน สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่โฮมโปรทุกสาขาใกล้บ้านครับ เลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้านและเหมาะกับพื้นที่การติดตั้ง เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง
http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง
https://bit.ly/3dQm4XE
ถังดักไขมัน คืออะไร สำคัญอย่างไร ทำไมต้องมีในทุกบ้าน
หากพูดถึงระบบต่างๆ ในบ้าน เชื่อว่าเจ้าของบ้านมากกว่า 80 % จะคิดถึงระบบน้ำ ระบบไฟ ซึ่งเป็นสาธารณูปโภคหลักที่ขาดไม่ได แต่หากพูดถึงระบบการจัดการขยะหรือของเสีย โดยเฉพาะขยะที่เป็นเศษอาหาร หลายๆ คนอาจคิดว่าไม่จำเป็น แค่ทิ้งลงในถังขยะหรือกรองเศษอาหารตรงซิงค์ล้างจานก็เพียงพอแล้ว ยิ่งพูดถึง “ถังดักไขมัน” อาจมีคนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยก็ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วถังดักไขมันเป็นอุปกรณ์เสริมที่มีประโยชน์มาก ไม่เฉพาะต่อบ้านเท่านั้นแต่ยังดีต่อสังคมส่วนรวมด้วย เนื้อหานี้ HomeGuru จะพาไปไขข้อข้องใจว่าทำไมบ้านควรมีถังดักไขมัน ถังดักไขมันมีกี่แบบและวิธีบำรุงดูแลรักษา มีอะไรบ้างครับ
ล้างทิ้งเฉยๆ ได้ไหม ทำไมต้องดักไขมัน
เคยสังเกตกันบ้างหรือเปล่าว่า ทั้งๆ ที่ก่อนล้างภาชนะเราก็กรองเศษอาหารออกจนหมดทุกครั้ง แต่ทำไมท่อระบายน้ำในครัวก็ยังอุดตันอยู่บ่อยๆ แถมมีกลิ่นเหม็นด้วย นั่นเป็นเพราะมี “คราบไขมัน” ที่ใช้ในการประกอบอาหารคงค้างอยู่ในจานชาม เมื่อเราล้างภาชนะคราบไขมันเหล่านี้ก็จะไหลปนมากับน้ำทิ้ง แล้วไปค้างอยู่ตามส่วนต่างๆ ของท่อ ไขมันที่พอกลอยตัวอยู่ผิวน้ำจะทำให้ออกซิเจนละลายน้ำได้น้อย เป็นสาเหตุให้น้ำเน่าเสีย ส่งกลิ่นเหม็น เมื่อทิ้งไว้นานๆ เข้าจะจับตัวกันเป็นเมือกหนาคล้ายสบู่ หากหนาเกิน 10 ซม. จะทำให้เกิดการอุดตันของท่อระบายน้ำในบ้าน ท่อน้ำสาธารณะนอกบ้าน และยังเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค ทั้งผิดกฎหมายและทำลายสิ่งแวดล้อมด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถังดักไขมันคืออะไร จำเป็นไหมที่ต้องมีทุกบ้าน
“ถังดักไขมัน” (grease trap) เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ช่วยดักเศษอาหารและจับไขมันจากการล้างภาชนะและอุปกรณ์ประกอบอาหาร ไม่ให้ไหลปะปนไปกับน้ำที่ใช้งานในส่วนอื่นๆ ของบ้าน โดยจะทำการดักเศษอาหารและไขมันหนักออกจากน้ำทิ้งตัวไขมันจะอยู่ในตะกร้า ส่วนน้ำที่ไหลทิ้งจะปล่อยไปยังท่อน้ำทิ้งสาธารณะ
จำเป็นไหมที่ต้องมีถังดักไขมันทุกบ้าน คำตอบคือ จำเป็น เพราะน้ำเสียจากครัวจะปนเปื้อนไขมัน ซึ่งเป็นน้ำเสียอินทรีย์ที่บำบัดได้ยาก เนื่องจากการย่อยสลายไขมันโดยธรรมชาติต้องใช้เวลานานมาก จึงไม่ควรปล่อยทิ้งออกไปโดยไม่ผ่านถังดักไขมัน หลายคนอาจคิดว่าถังดักไขมันต้องเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ แต่ในความเป็นจริงแล้วทุกบ้านควรมีไว้ใช้ หรือต่อท่อออกมาฝังดินนอกบ้านก็ได้ เพราะนอกจากถังดักไขมันจะช่วยดักกรองเศษอาหาร ลดกลิ่นไม่พึงประสงค์จากสิ่งหมักหมมแล้ว ยังเป็นการปรับคุณภาพน้ำทิ้งก่อนออกสู่ท่อน้ำทิ้งสาธารณะ ทำให้น้ำทิ้งที่ปล่อยออกมามีคุณภาพดีขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและรับผิดชอบต่อสังคมส่วนรวมด้วย
ประเภทของถังดักไขมัน
ถังดักไขมันแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือแบบตั้งบนพื้นและแบบฝังดิน สามารถเลือกใช้ให้เหมาะสมกับลักษณะพื้นที่ในการใช้งาน ดังนี้
ถังดักไขมันแบบตั้งพื้น (บนดิน)
เหมาะสำหรับการใช้งานที่มีพื้นที่ใช้สอยจำกัด เช่น ห้องพัก คอนโด หรือทาวน์โฮม เนื่องจากขนาดถังไม่กินพื้นที่มาก วิธีติดตั้งไม่ยุ่งยากเพียงแค่ต่อท่อระบายน้ำทิ้งจากอ่างล้างจานเข้ากับถังดักไขมัน แล้วติดตั้งท่อระบายน้ำของถังดักไขมันลงสู่ท่อระบายน้ำสาธารณะ ถังดักไขมันบนพื้นจะใช้งานสะดวกและดูแลได้ง่ายกว่า อาจจะติดตั้งใต้ซิงค์ล้างในครัวหรือต่อท่อออกมาติดตั้งข้างนอกก็ได้
ถังดักไขมันแบบฝังดิน
เหมาะสำหรับบ้านเดี่ยวที่มีพื้นที่การใช้งานกว้างๆ เพียงพอในการฝังถังดักไขมันไว้ใต้ดินบริเวณนอกตัวบ้าน เพราะขนาดถังค่อนข้างใหญ่ วิธีนี้ค่อนข้างยุ่งยากเพราะต้องขุดหลุมฝังถัง และต้องออกแบบระบบต่อท่อน้ำทิ้งกับซิงค์ในครัวและการวางแนวท่อออกไปนอกบ้านด้วย ทำให้การดูแลรักษายาก แต่จะดูเรียบร้อยกว่าแบบวางบนพื้น
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เลือกถังดักไขมันขนาดไหนดี
การเลือกขนาดถังดักไขมันให้เหมาะสมกับลักษณะการใช้งานและปริมาณการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการทำงานและการดูแลรักษา ถังดักไขมันมีให้เลือกใช้งานหลากหลายขนาดด้วยกัน ตั้งแต่ขนาด 15 ลิตร, 40 ลิตร, 50 ลิตร, 90 ลิตรและ 140 ลิตร ตามลำดับ โดยมีเกณฑ์พิจารณาในการเลือกขนาดดังนี้
● สมาชิกภายในบ้าน 1-5 คน ควรเลือกใช้ขนาด 15 ลิตร
● สมาชิกภายในบ้าน 6-10 คน ควรเลือกใช้ขนาด 30 ลิตร
วิธีการดูแลรักษาถังดักไขมัน
สำหรับวิธีการดูแลรักษาทำได้ไม่ยาก โดยตักเศษอาหารในตะแกรงไปทิ้งเป็นประจำทุกวันหรืออย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ควรตักไขมันที่ลอยอยู่เหนือน้ำออกทุกสัปดาห์ และล้างถังดักไขมันปีละ 2 ครั้ง หรือทุกๆ 6 เดือน เพื่อประสิทธิภาพการใช้งานที่ดีพร้อมกับช่วยลดกลิ่นเหม็นจากการเน่าเสียสะสมไปด้วยในตัว
ได้รู้จักกับ ถังดักไขมัน กันไปแล้ว เห็นได้ว่าไม่ได้เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์เฉพาะภายในครัวเรือนเท่านั้น การดักไขมันที่ถูกต้องยังส่งผลแก่สาธารณะอีกด้วย ใครที่กำลังมองหาหรืออยากได้ถังดักไขมันไว้ติดบ้าน สามารถเข้าไปเลือกชมได้ที่โฮมโปรทุกสาขาใกล้บ้านครับ เลือกให้เหมาะกับจำนวนสมาชิกในบ้านและเหมาะกับพื้นที่การติดตั้ง เพื่อการใช้งานที่เหมาะสมและลดความยุ่งยากในการดูแลรักษา
HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE