ครูจูหลิง ปงกันมูล ภาพวาดที่ควนเนียง-สงขลา

.
ก่อนวันขึ้นปีใหม่
จขกท. ได้ไปพักผ่อนที่ควนเนียง
แล้วเดินเข้าไปในวัดปากบางภูมี
เจอป้ายว่าเชิญชมภาพ ครูจูหลิง ปงกันมูล
ความทรงจำเก่า ๆ เลยหวนคืนกลับมา
.

---

.



.
ครูจูหลิง ปงกันมูล ถูกแนวร่วมสตรีโจรแขกมุสลิม
พยายามฆ่าที่นราธิวาส ข้อหาเป็นสายทางการ
เธอกับครูชาวพุทธอีกคนถูกจับเป็นตัวประกัน
เพื่อต่อรองแลกเปลี่ยนกับโจรก่อการร้าย 2 คน

เธอถูกจับที่บ้านกูจิงลือปะ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส
ต่อมาถูกทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัส
และเสียชีวิตเมื่อวันที่ 8 ม.ค.2550
         
ย้อนรอยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับครูสาว
ซือแย(สยาม/ไทย)พุทธเมื่อ 13 ปีที่แล้วนั้น
เริ่มต้นจากช่วงเช้าของวันที่ 19 พ.ค.49 
เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้งทหาร ตำรวจ 
และฝ่ายปกครองจำนวนกว่า 50 นาย 
เข้าปิดล้อมพื้นที่บ้านกูจิงลือปะ 
เพราะสืบทราบว่าผู้ต้องสงสัยก่อเหตุ
ยิงทหารเสียชีวิต 2 นาย
ที่สถานีรถไฟลาโล๊ะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส 
ได้ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในหมู่บ้าน

ผลจากการตรวจค้น 
เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 2 คน คือ 
นายอับดุลการีม มาแต
นายมูหะมะสะแปอิง มือลี 
พร้อมยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด .45 ได้ 1 กระบอก 
ก่อนนำตัวทั้งสองไปสอบปากคำ 
แล้วถอนกำลังเจ้าหน้าที่ออกจากหมู่บ้านกูจิงลือปะ

เวลาเที่ยงวันเดียวกัน
เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น
เมื่อมีเสียงประกาศจากเครื่องขยายเสียงในหมู่บ้าน
(ปกติใช้กระจายข่าวทั่วไป/บอกเวลาอะซาน
เตรียมตัวนมาซในเวลาที่ศาสนบัญญัติ)
ให้สตรีไปรวมตัวกันที่โรงเรียนบ้านกูจิงลือปะ
ทำให้มีสตรีในหมู่บ้านไปรวมตัวกันเกือบร้อยคน 

(บางครั้งก็ประกาศให้รีบออกมาปิดกั้นการเข้าตรวจค้น/ปราบปราม
หรือให้จูงเด็กออกมาให้เดินไปเดินมาเต็มไปหมด
ทำให้ยิง/จับคนร้ายไม่ได้ง่ายเพราะมีเด็ก/สตรี

ถ้าที่รัสเซีย จีน ยิว จะยิงทิ้งทันทีถือว่า
เป็นพวกโจร/ผู้สนับสนุนโจร/ท่อน้ำเลี้ยงโจร
ถ้าประกาศให้เวลาคนไม่เกี่ยวข้องให้หลบหนีออกมา
ครบกำหนดเวลาแบบที่ซีเรีย ในรัสเซีย ยิว จีน
ก็ลุย/ถล่มทันทีไม่สนใจตัวประกันแต่อย่างใด
ถ้าหลบหนีออกมาไม่ได้
ก็ถือคติว่า ถ้าคุณถูกจับเป็นตัวประกัน
ถ้าคุณรอดตายออกมาได้ ถือว่าคุณโชคดีก็แล้วกัน)


เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ ครูจูหลิง ปงกันมูล
กับ ครูสิรินาถ ถาวรสุข 
สองครูสาวไทยพุทธกำลังทานอาหาร
อยู่ที่ร้านข้างๆ มัสยิดพอดี

จากนั้นก็มีหญิงชาวบ้านหลายคน
กรูเข้าจับตัวครูสาวทั้งสอง
แล้วนำตัวไปขังไว้ที่ห้องเก็บของ
ภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก
ห่างจากโรงเรียน 300 เมตร
การจับตัวครูสาวทั้งสองคน
ของกลุ่มสตรีบ้านกูจิงลือปะ
เพื่อเป็นข้อต่อรองให้ปล่อยตัวสองผู้ต้องสงสัยคือ  
นายอับดุลการีม มาแต/นายมูหะมะสะแปอิง มือลี 
ที่ถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวไปสอบสวนเมื่อช่วงเช้า

ระหว่างที่ครูจูหลิงกับครูสิรินาถ ถูกจับขังอยู่นั้น
ผู้หญิงในหมู่บ้านอีกกลุ่มหนึ่งและบรรดาเพื่อนครู
ได้พยายามเจรจาขอร้องให้ชาวบ้านแนวร่วมโจร
ปล่อยตัวครูสาวทั้งสองคน แต่ก็ไม่เป็นผล 
ซ้ำร้ายในช่วงเวลาเดียวกัน
ยังมีกลุ่มชายฉกรรจ์ที่ใช้ผ้าคลุมปิดบังใบหน้า
บุกเข้าไปทำร้ายครูสาวทั้งสอง 
โดยใช้ไม้ทุบตีจนได้รับบาดเจ็บสาหัสและสลบไป
          
ต่อมาผู้ใหญ่บ้านได้เข้าไปเจรจาพูดคุย
กับชาวบ้านมุสลิมแนวร่วมโจรก่อการร้าย
จนสามารถช่วยเหลือและนำครูสาวทั้งสองออกมาได้ 
ก่อนจะรีบนำส่งโรงพยาบาล
นราธิวาสราชนครินทร์ อ.เมือง จ.นราธิวาส 
แต่อาการสาหัสมาก ต้องส่งต่อไปรักษา
ที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ 
อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา

ครูสิรินาถอาการเบากว่า เธอจึงหายเป็นปกติ 
แต่ครูจูหลิงอาการสาหัสมาก
เพราะถูกตีด้วยไม้เข้าที่ศีรษะ
สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง 
กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา (มนุษย์ผัก)
ระหว่างรักษาตัว 
ครูจูหลิงได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก 
สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ 
ทรงรับเป็นคนไข้ในพระบรมราชินูปถัมภ์ 
และยังได้รับกำลังใจมากมาย
จากประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศ

แต่แล้วเมื่อเย็นวันที่ 8 ม.ค.50 ครูจูหลิงก็จากไป 
สุดความสามารถที่คณะแพทย์จะยื้อชีวิตเอาไว้
 
แม้เหตุการณ์จะผ่านไปนานถึง 13 ปีเต็ม 
แต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับครูจูหลิงยังไม่จบ 
โดยเฉพาะคดีความต่าง ๆ
เพราะยังเหลือจำเลยอีก 27 ราย
ที่รอการจับกุมดำเนินคดี หรือจำหน่ายคดีถ้าตาย
หรือหนึให้สุดชีวิตจนกว่าจะหมดอายุความอีก 7 ปี
.

---

.
เมื่อกลางเดือน ธ.ค.2557
หลังจากครูจูหลิง ปงกันมูล ตายไปแล้ว 7 ปี
ทหารพรานได้เข้าปิดล้อมตรวจค้น
และยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัย
ในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นรสธิวาส
และสามารถจับกุมผู้ต้องหาคดีความมั่นคงได้ 2 คน
หนึ่งในนั้นคือ นายบารูวัน บากา
ชาวบ้านกูจิงลือปะ(ที่ได้พวกแนวร่วมโจรแขกช่วยเหลือ)
ซึ่งมีประวัติเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีจับตัว
และรุมทำร้ายครูจูหลิง กันปงมูล

พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง รองผู้กำกับการฝ่ายอำนวยการ
ตำรวจภูธรจังหวัดนครศรีธรรมราช
(รอง ผกก.ฝอ.ภ.จว.นครศรีธรรมราช)
ซึ่งเคยเป็นพนักงานสอบสวน สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส
และเคยรับผิดชอบคดีครูจูหลิง กันปงมูล
มาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ  เล่าให้ฟังว่า

หากย้อนไปถึงคดีในตอนนั้น
มีผู้ถูกออกหมายจับทั้งหมด 58 ราย
ได้เข้ามอบตัวและควบคุมตัวได้ 27 ราย
จึงได้ทำสำนวนส่งอัยการ
และอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง
คดีจึงไปอยู่ในชั้นศาลจังหวัดนราธิวาส
และอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล
จนประมาณปี 2554 ศาลตัดสินยกฟ้อง
เพราะไม่มีประจักษ์พยานในที่เกิดเหตุ

(ไม่มีใครกล้าเป็นพยาน/พยานให้การสับสนเอง
เลยต้องยกประโยชน์ให้จำเลย
แบบปรัชญากฎหมาย ปล่อยคนผิดร้อยคน
ดีกว่าลงโทษคนไม่ผิดเพียงคนเดียว
แต่ถ้าโจโฉฆ่าคนร้อยคนดีกว่าให้หนีรอดไปได้สักคน
ฮิตเลอร์ เจงกีสข่าน ก็เอามาใช้ปราบศัตรู)

" ในตอนนั้น สำนวนคดีที่ส่งอัยการมีข้อหา
กักขังหน่วงเหนี่ยวและทำร้ายร่างกาย
หลังจากอัยการสั่งฟ้องและเข้าสู่กระบวนการศาล 
ก็จะเป็นการสืบพยาน ในขั้นตอนนี้ใช้เวลานานมาก
จนสุดท้ายแล้วไม่มีพยานหลักฐาน
โดยเฉพาะประจักษ์พยาน ทำให้ศาลยกฟ้อง
จำได้ว่ามีเพียงคนเดียวที่ศาลพิพากษาลงโทษจำคุก 3 เดือน
ฐานเป็นผู้ที่พูดผ่านเครื่องขยายเสียง
ปลุกระดมให้คนมารวมตัวกัน
ส่วนรายอื่นๆ ที่ถูกออกหมายจับในคดีเดียวกัน
และมีบางรายถูกจับได้ภายหลัง
ก็ต้องดำเดินการเหมือนกันในข้อหาเดียวกัน 
เมื่อศาลยกฟ้องก็จบ ขณะที่บางรายเสียชีวิตไป
ก่อน ก็ต้องจำหน่ายคดีไป " 
พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง ระบุ 

ขณะที่ พ.ต.ท.สมใจ สิงเกลี้ยง
พนักงานสอบสวน สภ.ระแงะ
ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบคดีต่อจาก พ.ต.ท.เฉลิม ยิ่งคง
กล่าวว่าผู้ที่ถูกดำเนินคดีในชั้นศาลไปแล้ว
และศาลได้ตัดสินยกฟ้อง
ทำให้คดีก็สิ้นสุดไป มีประมาณ 30 ราย
มีทั้งที่มอบตัวสู้คดีตั้งแต่ต้น
และเป็นที่ผู้ถูกติดตามจับกุม
ตามหมายจับได้ในภายหลัง
รวมถึงผู้ที่เสียชีวิตระหว่างดำเนินคดี
" คดีนี้ก็ยังคงมีผู้ที่ถูกออกหมายจับอีก 20 กว่าราย และยังคงหลบหนีอยู่
ส่วนใหญ่จะเป็นผู้ที่มีหมายจับ
ในคดีอื่นๆ รวมอยู่ด้วย
ทำให้ต้องหลบหนีการจับกุม
หากถูกจับกุมได้
ต้องนำตัวมาดำเนินคดีตามกระบวนการเช่นเดียวกัน เพราะคดีนี้มีอายุความ 20 ปี "

ที่มา  8 ปีครูจูหลิงที่จากไป...กับโศกนาฏกรรมร้ายที่ยังไม่จบบริบูรณ์

---

.
ภาพเขียน ของเธอ ที่วัดหลวงพ่อสงค์ 
วัดปากบางภูมี (คงคาวดี) ควนเนียง

ในครั้งแรก จขกท. กะว่าจะตัดต่อภาพ
เพื่อให้ภาพมีขนาดเหมือนภาพทั่วไป
แต่สเกลภาพอาจจะบิดเบี้ยว/เพี้ยนไป
เลยมาคิดอีกที เอาตามภาพดิบดิบ
ตามมุมมองผ่านกล้องมือถือดีกว่า
ภาพอาจจะกระโดดไปกระโดดมา
เพราะ จขกท.ไปถ่ายซ้ำภาพที่ชอบ
ถ้าภาพบิดเบี้ยวหรือเพื้ยนหรือซ้ำไปมา
ถือว่าเป็นความผิดของ จขกท.

ภาพบางภาพเริ่มเสื่อมสภาพ
จากความชื้นและไอเค็มน้ำทะเล
การมีภาพซ้ำอาจจะมีส่วนอนุรักษ์
ถ้าให้ดีควรมีบันไดสูงหรือนั่งร้าน
จะได้วางถ่ายภาพแต่ละภาพได้ขัดเจนกว่า
การยืนถ่ายจากด้านล่างขึ้นด้านบน

ควรรีบไปชม ถ้ามีเวลา
เพราะ พรุ่งนี้ก็สายเสียแล้ว
แว่วเสียงอาจารย์ศิลป์ พีระศรี
.

---