เมื่อย่าตรอมใจแล้วความผิดไปตกที่น้องชายหมดเลย​ เราควรทำยังไงดีค่ะ

ย่าเราเป็นโรคเครียดค่ะเป็นความดันด้วย​ ตอนเกิดเหตุน้าสาวเราซึ่งเป็นลูกบุญธรรม​ของย่า​ ได้โทรมาขอยืมเงินจากย่าแต่ย่าเราไม่มี​ เลยด่าทอย่าจนย่าน้อยใจไม่ยอมกินข้าว ขอเกริ่นก่อนน้าสาวกับลุงเรามีหนี้เป็นแสน​ แถมยังไม่มีงานมีการทำอีกปล่อยให้ย่ากับเราและพ่อแม่หาเงินใช้แทน​

  และบ่ายวันนั้นหลังจากที่ย่าเราโดนน้าสาวด่า​ ย่าเราก็ซึมไปเลยไม่ยอมพูดไม่ยอมคุยกับใคร​ พ่อเรารู้เรื่องเลยโทรไปด่าน้าสาว​ ย่าได้ยินก็ยิ่งเครียดไปใหญ่คิดว่าพ่อเราจะไปตีน้าอีก(พ่อเราเคยตีน้าแล้วครั้งนึง)​ ย่าเลยตะโกนลั่นบ้านบอกว่า"อะไรๆก็กุว" หลังจากนั้นย่าก็กินยาแล้วเข้านอนไปเลย เราไม่รู้ค่ะว่าย่ากินยานอนหลับไปกี่เม็ด​ แต่ย่าไม่ยอมกินข้าวเลย​ เรียกให้มากินก็ไม่กินบอกจะนอน​อย่างเดียว​ ตกดึกเราเรียกย่าให้กินข้าว​ ย่ารู้ค่ะแต่ย่าไม่ยอมมากิน​ ตอนตีสองเรากำลังจะปิดไฟนอนแล้ว​ เห็นย่าลืมตามามองหน้าเรา​ เราก็มองกลับไม่ได้พูดอะไรกัน​ มองกันมาได้สักพักเราก็ออกไปเข้าห้องน้ำ​ กลับมาก็เห็นย่านั่งกินยา​ เราเลยถามว่าไม่กินข้าวหรอ​ ย่าไม่ตอบแล้วเดินไปนอนเลย​

  ปกติย่าเราเป็นคนตื่นสาย​ แกจะตื่อนประมาณ9โมง4โมง​ แต่นี้บ่ายโมง​แล้วย่าเรายังไม่ตื่นเลย​ เราพยามปลุกย่าแล้วย่าก็ไม่ยอมตื่น​ แต่ย่าก็ยังรู้สึกอยู่​ เราเลยหามย่าส่งโรงบาล​

  ผลสรุปออกมาคือย่าเรากินยาเกินขนาดค่ะ​ แต่ตอนนี้ท่านปลอดภัยแล้ว​ พอเรื่องวันนั้นผ่านไปทุกคนรอบตัวเลยคาดโทษไปที่น้องชายเรา​ ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าน้องเรา"ปากหมา" พูดอะไรไม่คิดนรกกินหัวแน่​ บลาๆๆ​ เราพยายามอธิบายให้คนรอบข้างฟังแต่ไม่มีใครเชื่อเราสักคน​ ทุกคนกลับขุดเรื่องที่น้องเราเคยพูดไม่ดีกับย่า​ มาเป็นข้อหาที่ทำให้ย่าตรอมใจ​ทั้งๆที่เรื่องนี้มันผ่านมา4ปีแล้ว​
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่