ดิฉันไป test drive รถไฟฟ้า MG EP มาเมื่อวาน นอนหลับไปหนึ่งคืนตื่นมาแล้วคิดว่าควรเขียนเป็นรีวิวแบ่งปันข้อมูลกัน
MG EP เป็นรถที่ใช้ไฟฟ้าล้วน 100%  เป็นตัวที่ MG เพิ่งนำเข้ามาใหม่ราคาเปิดตัวมาหนึ่งล้านมีทอนนิดหน่อย เป็นรถลักษณะ station wagon (รถแวน) สวยงามสะดุดตา ในเมืองไทยไม่ค่อย(ปัจจุบันไม่เห็นเลย)ใครผลิตรถยนต์ทรงนี้ขายกันภายในประเทศ เห็นครั้งแรกติดใจหน้าตา สวยรอบคัน ถึงกับนัดขอทดลองขับ จึงมาแบ่งปันความรู้สึกที่ได้เผื่อมีท่านอื่นๆกำลังสนใจรถรุ่นนี้อยู่ และถ้าใครได้ซื้อรถรุ่นนี้มาเป็นสมบัติส่วนตัวแล้ว การใช้งานจริงเป็นอย่างไรช่วยแบ่งปันความเห็นในคอมเม้นท์ด้วยนะคะ
ความประทับใจ:
1. position คนขับ: ขอให้คะแนนเต็ม 10 (อย่างที่ตัวเองก็ไม่คาดคิดมาก่อน)
เนื่องจากได้ไป test drive รถอื่นๆมาก่อนหน้านี้เช่น หลายยี่ห้อ
ดิฉันเป็นผู้หญิงตัวเล็ก ความสูง 150 แต่สามารถปรับตำแหน่งเบาะและพวงมาลัยรถให้พอดี โดยส้นเท้าไม่ลอย วางสบาย พวงมาลัยไม่บังสายตา รู้สึกดีมาๆๆๆ ทะมัดทะแมงแบบไม่น่าเชื่อ สำหรับคนตัวเล็กๆในรถใหญ่ เพราะรถอื่นๆ เช่น Mazda2 และ Nissan Kick e-power กลับไม่ได้มุมมองที่ถนัดถนี่เช่นนี้
2. กำลังและการคุมรถ: แรงดี นุ่ม รู้สึกเบา kick in เพื่อแซงได้เฉียบๆเลย รู้สึกถึง g-force หลังติดเบาะได้
การเปลี่ยนเลนกระทันหัน ทำได้นุ่ม ไม่รู้สึกเหวี่ยงเลย พวงมาลัยความหน่วงบอดี และเบามากเมื่อขับแบบคลานๆ กุกๆกักๆถอยเข้าถอยออก ประทับใจค่ะ
3. station wagon ตัวรถค่อนข้างยาว และเดี้ยเหมือนรถเก๋ง ข้อดีคือได้ส่วนกระโปรงท้ายแบบ hatch back ที่กว้างมาก ยิ่งเมื่อพับเบาะแถวที่สองแล้วได้พื้นที่เก็บของยาวกว่ารถ SUV ที่ดูมาทั้งหมด และมีความรู้สึก luxury แบบหญิงๆ ผู้ใหญ่ๆ งามดีค่ะ

ความค้างคาใจ:
มีดีแล้วก็ต้องมีจุดคาใจเป็นธรรมดา ไม่งั้นคงไม่ได้มานั่งเขียนรีวิว
1. จุดชาร์จ: ณ ตอนนี้ มค.63 ยังไม่มีจุดชาร์จไฟสาธารณะมากพอ เรียกว่าน้อยมากๆๆ ต้องพึ่งพาตัวเองคือชาร์จจากที่บ้านเท่านั้น ซึ่งทำให้ต้องคิดหนัก ดิฉันได้เข้าไปดูรีวิวของรถรุ่นนี้ที่ขายในอังกฤษ โดยใช้เชื่อรุ่นว่า MG5 ฟังดูโอเคเพราะคนที่ใช้จริงบอกว่าได้ระยะวิ่งจากการชาร์ตเต็ม 1 ครั้ง ได้ใกล้เคียงกับโฆษณามาก แต่ในยุโรปมีที่ชาร์จรถไฟฟ้าทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นตามห้าง ซุปเปอร์มาร์เกต แม้แต่ข้างถนนที่ตีเส้นให้จอด ก็มีจุดที่กันไว้สำหรับรถไฟฟ้าเท่านั้น พร้อมแท่นชาร์จ ฟรี!
ดิฉันอยู่เชียงใหม่ ตอนนี้มีจุดชาร์จแค่ 3 ที่ ทั้งหมดอยู่ในเมือง ถ้าไปแม่ฮ่องสอน หรือฝาง = ไม่รอด
ถ้าจะหนีสามีไปกรุงเทพ ต้องแวะชาร์จลำปาง ถ้าไม่ได้ชาร์จ = ไม่รอด
เชื่อว่าในอีก 2-3 ปี จุดชาร์จไฟจะมีให้เห็นมากขึ้น เสียดายจริงๆเพราะคงไม่สามารถรอเปลี่ยนรถคันใหม่ได้นานขนาดนั้น 
2. ตัวช่วยในการขับขี่มีมาให้น้อย: โดยเฉพาะอย่างยิ่งรถที่หน้ายาวขนาดนี้ แต่ไม่มีกล้องหน้า ไม่มีเซ้นเซอร์หน้า มีแต่กล้องและเซนเซอร์หลังเท่านั้น เชื่อว่าการจอดแบบเลียบฟุตบาทอาจจะยากขึ้นหน่อย แต่ถ้าเคยชินก็คงได้ หรือถ้ามันเบียดจริงๆ ก็ต้องยอมลงรถไฟดูเอาเหมือนที่เคยทำ แต่ก็สงสัยว่ามันทำให้แพงขึ้นอีกมากหรืออย่างไรถ้าจะให้สิ่งอำนวยความสะดวกอันนี้ เพราะทรงรถน่าจะเขาะกลุ่มผุ้หญิงที่เป็นผู้ใหญ่หน่อย หรือคุณแม่ลูก 2 ไม่ใช่สาวๆวัยรุ่น หรือหนุ่มเปรี้ยวๆจบใหม่ ก็ควรจะเผื่อมาให้นิดนึงไหมคะ  ที่ได้ก็มีมาเพียง cruise controll ธรรมดาไม่ได้เป็น adaptive ซึ่งพอมันไม่ adaptive แล้วก็แทบจะไม่มีความหมาย ดิฉันเคยเช่รถที่เป็น cruise controll ธรรมดาไม่แปรผัน รู้สึกว่าตัวเองเกร็งๆเท้าอยู่ตรงเบรกมากกว่าเดิม และรู้สึกอันตราย ไม่ใช้จะดีกว่า และที่หายไปเลยคือ lane assist ควบคุมรถให้อยู่ในเลน อันนี้ทำใจได้ ไม่เดือดร้อนเท่าไหร่

สรุป : รถขับดีมาก ชอบมาก สวย สง่า อลัง รักษ์โลก ราคาเอื้อมถึง แต่ก็ยังมีจุดต่างๆที่กังขาอยู่ แล้วแต่ท่านอื่นๆเห็นว่าเป็นปัญหาหรือไม่อย่างไร