สวัสดีครับ ผมขอเล่า การขอปิดบัญชีเงินฝากผู้เสียชีวิต ในแต่ละสถาบันการเงิน ปี 2563
เนื่องจากในช่วงเดือน ตุลาคม 2562 ตา และยายผม เสียชีวิตในวันที่ใกล้ๆ กัน และไม่ได้ทำพินัยกรรม ไว้ ประกอบผมเป็นทาญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
ซึ่งต้องดำเนินการในมรดก ต่างๆที่ตาและยายทิ้งไว้ให้ ที่ดิน บ้าน และ เงินฝาก ตามหัวข้อผมเล่าในส่วนของเงินฝากก่อน ครับ ส่วนในเรื่องอื่นจะอยู่ท้ายๆ
- เอกสารสำหรับต่างที่ผมเตรียมไว้ (ซึ่งผมเตรียมเอกสารทั้งหมดไว้เป็นชุดๆ เพราะแต่และหน่วยงาน เรียกให้เอกสารที่มีรายละเอียดแต่ต่างกัน)
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
(กรณีผม แม่เสียชีวิตนานแล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร สำเนาสูติบัตร สำเนาเอกสารข้อมูลครอบครัว)
6. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว จะได้รับหลังจากศาลพิจารณาไปแล้ว 30 วัน
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
งั้นมาเข้าส่วนของการ ขอปิดบัญชีเงินฝากผู้เสียชีวิตเลยแล้วกัน เริ่มจากธนาคาร (นำเอกสารตัวจริงติดตัวไปทุกครั้ง
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรร สาขาที่เปิดบัญชี ยอดถอน 5X,XXX บาท( ดำเนินการในช่วง 15 มิถุนายน 2563)
ส่วนของธนาคาร ธกส เนื่องจากผมรู้ว่าตา มีเงินฝากไว้กับธนาคารนี้ จึงเข้าไปข้อข้อมูลจากทางธนาคาร แจ้งว่าขอปิดบัญชีของผู้เสียชีวิต
แต่สมุดบัญชีหาย ทางธนาคารก็ตรวจสอบ ข้อมูลเลขบัญชีเพื่อให้นำไปแจ้งความ เพื่อเป็นเอกสารควบคู่ในการปิดบัญชี และดำเนินการปิดบัญชีพร้อมถอน
เงินเสร็จสิ้นในวันนั้น เลยครับ
เอกสารที่ผมใช้ยืน
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
6. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต
5. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาเอกสารทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
7. บันทึกแจ้งความ (เนื่องจากสมุดบัญชี่หาย)
*** ไม่แน่ใจในเรื่องการขอปิดบัญชีต่างสาขาได้หรือไม่
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาที่เปิดบัญชี ยอดถอน ไม่ถึง 5X,XXX บาท (ดำเนินการในช่วง 21 ธันวาคม 2563)
ส่วนของธนาคากรุงเทพ เป็นบัญชีที่พึ่งหารเจอ และเป็นบัญชีที่อัพสมุดล่าสุดตั้งแต่ ปี 2543 ซึ่งผ่านมาแล้ว เกือบ 20 ปี หลังจากแจ้งขอปิดบัญชี
และส่งเอกสาร เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องให้ระยเวลาดำเนินการ 2 สัปดาห์
เอกสารที่ผมใช้ยืน
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
6. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต
5. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
6. สำเนาเอกสารทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
*** ให้ไปดำเนินการปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ณ สาขาที่เปิดบัญชี
- ธนาคารกรุงไทย ต่างสาขา ยอดถอน ไม่ถึง 1X,XXX บาท (ดำเนินการในช่วง 3 มกราคม 2564 )
ส่วนของธนาคารกรุงไทย เป็นบัญชีที่พึ่งหารเจอ และเป็นบัญชีที่อัพสมุดล่าสุดตั้งแต่ ปี 2553 ซึ่งผ่านมาแล้ว เกือบ 10 ปี ดำเนินการปิดบัญชี
พร้อมถอนเงินเสร็จสิ้นในวันนั้น เลยครับ
เอกสารที่ผมใช้ยืน เท่าที่ผมสังเกตเจ้าหน้าที่เก็บเอกสารแค่บางรายการ
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
4. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
5. สำเนาบัตรประชาชน ทายาท
*** สามารปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ต่างสาขาได้ และสาขาย่อย
จากทั้ง 3 ธนาคาร ได้เห็นความแต่ต่างที่ชัดเจนที่สุดที่ในส่วนของระยะเวลาดำเนินการคือ ธนาคารกรุงเทพ จากการสอบถามทาง
ณ วันที่ 4 มกราคม 2564 call center 1333 แจ้งว่า ในการขอปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ยอดเงินไม่เกิน 100,000 บาท ผู้จัดการสาขาสามารถดำเนินการ
อนุมัติปิดบัญชีได้ และทาง call center ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในส่วนของระยะเวลาได้ ให้ติดต่อไปที่สาขา หลังจากติดต่อไปที่สาขาแจ้งว่า
คิวเอกสารจะออกมาในสัปดาห์นี้ อะไรคือเหตุผลของการรอบ 2 สัปดาห์ เป็นกฎระเบียบที่ธนาคารกำหนดไว้ หรือเป็นแค่กดระเบียบของสาขากำหนดเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนของจัดการมรดกที่ดิน แบ่งตามกรณีเอกสารสำคัญที่ยื่นขอ
ทำเนินการยื่อขอรับมรดกที่ดิน ณ สำนักที่ดิน สาขาที่ดูและพื้นที่นั้นๆ
- กรณีที่ 1 ยื่นเอกสารหลังฐานทั่วไปที่ไม่มี สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
เอกสารที่ผมยื่น และเป็นที่ดินที่ไม่มีสินปลูกสร้าง
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
(กรณีผม แม่เสียชีวิตนานแล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร สำเนาสูติบัตร สำเนาเอกสารข้อมูลครอบครัว)
เนื่องจากผมเป็นทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ จึงสามารถยื่อเอกสารขอรับมรดกได้เลย แต่จะมีเอกสารประกาศชุดหนึ่งออกมาโดยเราจะต้องดำเนิการเอง
ในการส่งประการแ ไปยังส่วนราชการท้องถิ่นที่ที่ดินตั้งอยู่ เช่น ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการกำนัน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ว่าจะมีการโอนที่ดิน
แปลงนี้ และใบตอบรับเอกสารส่งกลับสำนักที่ดิน หลังจากนั้น 30 วัน หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงจะสามารโอนที่ดินให้แล้วเสร็จได้
- กรณีที่ 2 ยื่นเอกสารหลังฐานทั่วไปพร้อมกับ สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
เอกสารที่ผมยื่น เป็นที่มี่ทั้งดินสิ่งปลูกสร้าง และไม่สิ่งปลูกสร้าง
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
*** หากเป็นที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือน จะต้องขอคัดเอกสารใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร จากเทศบาลนั้นๆ ซึ่งในส่วนนี้การของเอกสาร ชุดนี้ ผู้ขอคัดเอกสารใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร จะต้องเป็นผู้ขออนุญาต หากผู้ขออนุญาตเสียชิวิต ผู้ที่ขอได้จะต้องเป็นผู้จัดการมรด
ในส่วนของผม ดำเนิการโอนที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง และไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ในดำเนินการโอนก็เสร็จสิ้น ณ วันนั้นๆ เลย ซึ่งมีความแต่ต่างในการดำเนิน
จากกรณีที่ 1 ที่ไม่ต้องส่งประกาศ และรอเวลา 30 วันจึงจะดำเนินการโอนที่ดินมรดกแล้วเสร็จ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยครับ
การขอปิดบัญชีเงินฝากผู้เสียชีวิต ในแต่ละสถาบันการเงิน ปี 2563
เนื่องจากในช่วงเดือน ตุลาคม 2562 ตา และยายผม เสียชีวิตในวันที่ใกล้ๆ กัน และไม่ได้ทำพินัยกรรม ไว้ ประกอบผมเป็นทาญาติคนเดียวที่เหลืออยู่
ซึ่งต้องดำเนินการในมรดก ต่างๆที่ตาและยายทิ้งไว้ให้ ที่ดิน บ้าน และ เงินฝาก ตามหัวข้อผมเล่าในส่วนของเงินฝากก่อน ครับ ส่วนในเรื่องอื่นจะอยู่ท้ายๆ
- เอกสารสำหรับต่างที่ผมเตรียมไว้ (ซึ่งผมเตรียมเอกสารทั้งหมดไว้เป็นชุดๆ เพราะแต่และหน่วยงาน เรียกให้เอกสารที่มีรายละเอียดแต่ต่างกัน)
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
(กรณีผม แม่เสียชีวิตนานแล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร สำเนาสูติบัตร สำเนาเอกสารข้อมูลครอบครัว)
6. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว จะได้รับหลังจากศาลพิจารณาไปแล้ว 30 วัน
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
งั้นมาเข้าส่วนของการ ขอปิดบัญชีเงินฝากผู้เสียชีวิตเลยแล้วกัน เริ่มจากธนาคาร (นำเอกสารตัวจริงติดตัวไปทุกครั้ง
- ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรร สาขาที่เปิดบัญชี ยอดถอน 5X,XXX บาท( ดำเนินการในช่วง 15 มิถุนายน 2563)
ส่วนของธนาคาร ธกส เนื่องจากผมรู้ว่าตา มีเงินฝากไว้กับธนาคารนี้ จึงเข้าไปข้อข้อมูลจากทางธนาคาร แจ้งว่าขอปิดบัญชีของผู้เสียชีวิต
แต่สมุดบัญชีหาย ทางธนาคารก็ตรวจสอบ ข้อมูลเลขบัญชีเพื่อให้นำไปแจ้งความ เพื่อเป็นเอกสารควบคู่ในการปิดบัญชี และดำเนินการปิดบัญชีพร้อมถอน
เงินเสร็จสิ้นในวันนั้น เลยครับ
เอกสารที่ผมใช้ยืน
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
6. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต
5. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาเอกสารทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
7. บันทึกแจ้งความ (เนื่องจากสมุดบัญชี่หาย)
*** ไม่แน่ใจในเรื่องการขอปิดบัญชีต่างสาขาได้หรือไม่
- ธนาคารกรุงเทพ สาขาที่เปิดบัญชี ยอดถอน ไม่ถึง 5X,XXX บาท (ดำเนินการในช่วง 21 ธันวาคม 2563)
ส่วนของธนาคากรุงเทพ เป็นบัญชีที่พึ่งหารเจอ และเป็นบัญชีที่อัพสมุดล่าสุดตั้งแต่ ปี 2543 ซึ่งผ่านมาแล้ว เกือบ 20 ปี หลังจากแจ้งขอปิดบัญชี
และส่งเอกสาร เจ้าหน้าที่แจ้งว่าต้องให้ระยเวลาดำเนินการ 2 สัปดาห์
เอกสารที่ผมใช้ยืน
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
6. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต
5. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
6. สำเนาเอกสารทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
*** ให้ไปดำเนินการปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ณ สาขาที่เปิดบัญชี
- ธนาคารกรุงไทย ต่างสาขา ยอดถอน ไม่ถึง 1X,XXX บาท (ดำเนินการในช่วง 3 มกราคม 2564 )
ส่วนของธนาคารกรุงไทย เป็นบัญชีที่พึ่งหารเจอ และเป็นบัญชีที่อัพสมุดล่าสุดตั้งแต่ ปี 2553 ซึ่งผ่านมาแล้ว เกือบ 10 ปี ดำเนินการปิดบัญชี
พร้อมถอนเงินเสร็จสิ้นในวันนั้น เลยครับ
เอกสารที่ผมใช้ยืน เท่าที่ผมสังเกตเจ้าหน้าที่เก็บเอกสารแค่บางรายการ
1. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
(หากมีเอกสารนี้ จะช่วยให้การเดินเรื่องต่าง ๆ ง่ายและเร็วขึ้น)
2. สำเนามรณบัตร
3. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
4. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
5. สำเนาบัตรประชาชน ทายาท
*** สามารปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ต่างสาขาได้ และสาขาย่อย
จากทั้ง 3 ธนาคาร ได้เห็นความแต่ต่างที่ชัดเจนที่สุดที่ในส่วนของระยะเวลาดำเนินการคือ ธนาคารกรุงเทพ จากการสอบถามทาง
ณ วันที่ 4 มกราคม 2564 call center 1333 แจ้งว่า ในการขอปิดบัญชีผู้เสียชีวิต ยอดเงินไม่เกิน 100,000 บาท ผู้จัดการสาขาสามารถดำเนินการ
อนุมัติปิดบัญชีได้ และทาง call center ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในส่วนของระยะเวลาได้ ให้ติดต่อไปที่สาขา หลังจากติดต่อไปที่สาขาแจ้งว่า
คิวเอกสารจะออกมาในสัปดาห์นี้ อะไรคือเหตุผลของการรอบ 2 สัปดาห์ เป็นกฎระเบียบที่ธนาคารกำหนดไว้ หรือเป็นแค่กดระเบียบของสาขากำหนดเอง
ข้อมูลเพิ่มเติม ในส่วนของจัดการมรดกที่ดิน แบ่งตามกรณีเอกสารสำคัญที่ยื่นขอ
ทำเนินการยื่อขอรับมรดกที่ดิน ณ สำนักที่ดิน สาขาที่ดูและพื้นที่นั้นๆ
- กรณีที่ 1 ยื่นเอกสารหลังฐานทั่วไปที่ไม่มี สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
เอกสารที่ผมยื่น และเป็นที่ดินที่ไม่มีสินปลูกสร้าง
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
(กรณีผม แม่เสียชีวิตนานแล้ว และไม่ได้จดทะเบียนสมรส ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร สำเนาสูติบัตร สำเนาเอกสารข้อมูลครอบครัว)
เนื่องจากผมเป็นทายาทคนเดียวที่เหลืออยู่ จึงสามารถยื่อเอกสารขอรับมรดกได้เลย แต่จะมีเอกสารประกาศชุดหนึ่งออกมาโดยเราจะต้องดำเนิการเอง
ในการส่งประการแ ไปยังส่วนราชการท้องถิ่นที่ที่ดินตั้งอยู่ เช่น ที่ว่าการอำเภอ สำนักงานเทศบาล ที่ทำการกำนัน ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ว่าจะมีการโอนที่ดิน
แปลงนี้ และใบตอบรับเอกสารส่งกลับสำนักที่ดิน หลังจากนั้น 30 วัน หากไม่มีผู้ใดคัดค้าน จึงจะสามารโอนที่ดินให้แล้วเสร็จได้
- กรณีที่ 2 ยื่นเอกสารหลังฐานทั่วไปพร้อมกับ สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
เอกสารที่ผมยื่น เป็นที่มี่ทั้งดินสิ่งปลูกสร้าง และไม่สิ่งปลูกสร้าง
1. สำเนามรณบัตร
2. สำเนาบัตรประชาชน ผู้เสียชีวิต
3. สำเนาทะเบียนบ้าน ผู้เสียชีวิต (ควรเป็นสำเนาทะเบียนบ้านที่มีการแจ้งเจ้าหน้าทะเบียนแล้ว ผู้ง่ายๆ คือ ปั๊มตราประทับ ว่าตาย)
4. สำเนาเอกสารคู่สมรส เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน (กรณีผมยายเยียชีวิตแล้ว ก็เพิ่ม สำเนามรณบัตร)
5. สำเนาเอกสารคู่ทายาท เช่น สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน
6. สำเนาคำสั่งศาลขอเป็นผู้จัดการมรดก และสำเนาหนังสือคำสั่งศาลถึงที่สุดแล้ว
*** หากเป็นที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง อาคาร บ้านเรือน จะต้องขอคัดเอกสารใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร จากเทศบาลนั้นๆ ซึ่งในส่วนนี้การของเอกสาร ชุดนี้ ผู้ขอคัดเอกสารใบอนุญาตปลูกสร้างอาคาร จะต้องเป็นผู้ขออนุญาต หากผู้ขออนุญาตเสียชิวิต ผู้ที่ขอได้จะต้องเป็นผู้จัดการมรด
ในส่วนของผม ดำเนิการโอนที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้าง และไม่มีสิ่งปลูกสร้าง ในดำเนินการโอนก็เสร็จสิ้น ณ วันนั้นๆ เลย ซึ่งมีความแต่ต่างในการดำเนิน
จากกรณีที่ 1 ที่ไม่ต้องส่งประกาศ และรอเวลา 30 วันจึงจะดำเนินการโอนที่ดินมรดกแล้วเสร็จ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยครับ