[CR] Kimetsu No Yaiba: Mugen Ressha-Hen: รีวิวและความรู้สึกหลังดู (Spoil)


บอกตามตรงว่าไม่ได้คิดจะดูหนังเรื่องนี้แต่แรกเพราะไม่ได้อ่านการ์ตูนมังงะเรื่องนี้มาก่อน  ถึงจะชอบอ่านการ์ตูนตั้งแต่ยุค เคนชิโร่, ซึบาสะ, ดราก้อนบอล, เซนต์เซย์ย่า   แต่มาห่างๆ ไปจนหยุดตามอ่านบูมกับซีคิดส์ช่วงที่เรื่องนารูโตะยังเดินเรื่องอยู่ในช่วงวัยเด็กอยู่เลย  ส่วนตัวแล้วเป็นคนดูหนังบ่อยแต่จะดูหนังคนแสดงเป็นหลัก  หนังอนิเมชั่นล่าสุดที่ดูคือเรื่องนาจา ก่อนหน้านั้นก็ Frozen2  9ศาสตรา  ส่วนอนิเมะญี่ปุ่นที่ดูในโรงครั้งหลังสุดคือ FMA: Conqueror of Shambala โน่นเลย

หลังช่วงล็อคดาวน์โหยหาโรงหนังมาก  แต่หนังที่ฉายไม่ค่อยมีเรื่องโดนใจ  Tenet นี่ดูรอบเดียวพอ  เข้าพันทิปห้องเฉลิมไทยกระทู้หนังก็ไม่ค่อยคึกคัก  จนเริ่มเห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังการ์ตูนเรื่องนี้แต่ไม่ได้เปิดอ่านเพราะไม่รู้จักเรื่องนี้เลย  แต่ก็ยังเห็นกระทู้เกี่ยวกับหนังเรื่องนี้โผล่มาเรื่อยๆ  จนตัวเต็งหนังฮิต Wonder Woman 1984 เข้าฉายแล้วมีกระทู้พูดคุยกันซักอาทิตย์ จนกระทู้WWซาลงไปแล้วก็ยังมีกระทู้แจ้งอัพเดทรายได้เรื่องดาบพิฆาตอสูรกันอยู่  สงสัยเลยลองอ่านกระทู้รีวิวเรื่องนี้ดูจนได้รู้เนื้อเรื่องคร่าวๆ ว่าเป็นตอนต่อของอนิเมะทีวีที่ฉายไป26ตอนแล้ว ตัวละครใครเป็นใคร ทำให้เริ่มสนใจและตัดสินใจไปดูทั้งที่ไม่ได้อ่านมังงะหรือดูอนิเมะ ดูแค่ trailer ตัวอย่างหนังแล้วถูกใจก็จัดเลย (อ่านสปอยจนรู้ตอนจบแล้วค่อยตัดสินใจดู แปลกมั้ย?  แต่มันอยากดูไปแล้วอะ ทำไงได้อมยิ้ม20)


หนังเริ่มต้นเดินเรื่องตามสูตรการ์ตูนโชเน็นเป๊ะ  พวกพระเอกเจอตัวละครใหม่สมทบประจำภาค(ที่จริงตัวละครก็โผล่มาก่อนหน้านี้แล้วในทีวีซีรีส์) เจอศัตรูแบ่งพาร์ทกันสู้  ให้พระเอกสู้ก่อน เกือบตายแต่ก็ชนะมาได้  แล้วมีเซอร์ไพรส์ศัตรูใหม่โผล่มาให้รุ่นพี่สู้ต่อแทนพระเอกที่บาดเจ็บ จนถึงบทสรุปที่เซอร์ไพรส์หักหาญจิตใจพระเอกและคนดูมาก  ถ้าเรื่องนี้เป็นหนังโรงเดี่ยวๆ จบในตัว คงต้องบอกว่าจบได้ช็อกหนักหนาสาหัส ผิดธรรมเนียมการ์ตูนโชเน็นอย่างแรงที่ตัวเอก(แม้จะไม่ใช่พระเอก)ตายโดยที่ตัวร้ายหนีไปได้ลอยนวลและพระเอกทำอะไรไม่ได้เลย (ส่วนตัวคิดว่าทำให้เหวอพอๆ กับเรื่อง The Mist หรือ Infernal Affair เลย)  เพราะตามปกติพรรคพวกพระเอกสละชีพตัวร้ายต้องตายไปด้วยกัน หรือไม่พระเอกก็มาจัดการต่อจนจบเคสจนได้   แต่ความที่เนื้อเรื่องจริงยังไม่จบ ก็ทำให้หนังเปลี่ยนโทนไปเป็นจบโศกซึ้งกินใจแบบ Titanic และดึงอารมณ์ร่วมให้ผู้ชมอยากติดตามเนื้อเรื่องต่อไป

ถัดจากนี้เป็นความรู้สึกส่วนตัวที่มีต่อหนังเรื่องนี้

ชอบเรื่องนี้มาก  เดินเรื่องง่ายๆ เป็นเส้นตรง ไม่ซับซ้อน คนไม่รัเนื้อเรื่องมาก่อนก็ดูเข้าใจได้  ภาพสวยมาก ดนตรีประกอบก็เพราะเข้ากับฉากทุกตอน ดีงามสมบูรณ์พร้อมจริงๆ  เนื้อเรื่องอิงยุคสมัยโบราณผสมความแฟนตาซีตรงวิชาดาบ  ทำให้รู้สึกเหมือนเรากำลังดูหนังกำลังภายในเลย ฉากต่อสู้ดุดันจนเราดูแล้วลุ้นแทบลืมหายใจ ฉากดราม่าก็เศร้าจนน้ำตาไหล ลืมไปเลยว่าเป็นการ์ตูน นึกว่าตัวละครเป็นคนจริงๆ

ทันจิโร่ เป็นพระเอกแสนดีแต่ก็เข้มแข็งเด็ดขาดมีความอดทนต่อความเศร้าทุกข์ยากทั้งหลาย  จิตใจดีทั้งที่ผ่านเรื่องเลวร้ายขนาดนั้นคงเพราะยังมีเนซึโกะเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ ถ้าไม่เหลือใครเลยอาจจะสติแตกไปแล้ว เป็นคนดีจนนึกเกลียดหรือหมั่นไส้ไม่ลงเหมือนก๊วยเจ๋งพระเอกมังกรหยกเลย (ฮา)

ส่วนตัวละครที่ชอบสุดในกลุ่มเด็กๆ ก็คืออิโนะสุเกะ ชอบกว่าทันจิโร่ซะอีก  เก่ง-ถึก-เถื่อน ไม่ใจดีเกิน น่าจะเป็นเด็กรุ่นเดียวกับทันจิโร่กับเซนอิทสึ แต่เสียงพากย์ห้าวยังกับผู้ใหญ่ ฟังแต่เสียงนึกว่ารุ่นเดียวกับเคียวจูโร่เลย อมยิ้ม39


ส่วนที่ประทับใจที่สุดของเรื่องก็ต้องยกให้ตัวละครนี้เลย เสาหลักเพลิง เรนโงคุ เคียวจูโร่  ภาพแรกที่เห็นคือโปสเตอร์หนังด้านบนที่รวมตัวละคร  ตอนนั้นดูออกแค่ว่าทันจิโร่เป็นตัวพระเอก ส่วนเคียวจูโร่ดูไม่ออกว่าเป็นตัวฝ่ายดีหรือร้าย  ยิ่งรูปโปสเตอร์เดี่ยวที่ลูกพี่ยืนจังก้าเห็นแล้วนึกว่าเป็นบอสตัวร้ายไปเลยนะแววตาโหดเหลือเกิน


พอได้ดูจนจบแล้วต้องบอกว่าหนังเรื่องนี้มีทันจิโร่เป็นพระเอกและตัวเดินเรื่อง แต่ตัวเอกที่เด่นสุดในเรื่องคือเคียวจูโร่ ด้วยพล็อตและบทในเรื่องที่เป็นผู้เสียสละให้พระเอกได้ไปต่อ หนังสร้างภาพจำที่โดดเด่นให้ตัวละครนี้ได้ดีมาก  แม้บทจะมีแค่สั้นๆ ในหนังภาคเดียว   แต่คนดูจะรักและจดจำเคียวจูโร่ไปจนการ์ตูนเรื่องนี้จบบริบูรณ์แน่นอน (จากที่อ่านสปอยมาจบหนังภาคนี้ยังเดินเรื่องไปไม่ถึงครึ่งทางเลย)  ส่วนตัวชอบตัวละครนี้ตั้งแต่รูปลักษณ์ Character design ที่เหมือนตัวละครคาบูกิหรืองิ้ว ดูโดดเด่นออกมาจากตัวละครอื่น ทรงผม, สีผม, สีตา แค่ดูก็นึกถึงไฟแล้ว  บุคลิกก็ห้าวหาญ มั่นคงในหลักการที่ยึดถือจนตัวตายไม่ยอมเปลี่ยน  เป็นตัวละครที่น่าเสียดายที่หมดบทไวเหลือเกินทั้งที่ออกแบบไว้ดีมาก(ยังใช้ไม่คุ้มเลย อย่างน้อยน่าจะได้เป็นอาจารย์สอนวิชาให้ทันจิโร่สักหน่อย)  น่าเสียใจที่คนดีคนนึงต้องตายไป(ตรงจุดนี้ทั้งทันจิโร่ ทั้งเราที่นั่งดูก็เสียน้ำตาให้เคียวจูโร่ไปแล้ว)  แต่ไม่ได้น่าสงสารเพราะเคียวจูโร่ได้ต่อสู้จนถึงที่สุดถึงจะแพ้อาคาสะ แต่ก็บรรลุเป้าหมายของภารกิจปกป้องผู้คนได้ทั้งหมด  ได้ฝากคำสั่งเสียถึงครอบครัว ได้พวกทันจิโร่รับช่วงอุดมการณ์ แล้วท้ายสุดยังได้พบแม่ที่มารับและหมดความค้างคาใจจนตายไปทั้งรอยยิ้ม  ถือว่าหนังจบเรื่องราวของเสาหลักเพลิงได้สมบูรณ์งดงามแล้ว


ป.ล. นั่งฟังเพลงไตเติ้ลจบเรื่องประกอบภาพเคียวจูโร่ไปเรื่อยๆ พอจบเพลงภาพสุดท้ายเห็นด้ามดาบที่หักก็น้ำตาไหลอีกรอบ  จบแบบหนังกำลังภายในจริงๆ  "ดาบอยู่คนอยู่ ดาบหักคนตาย" อมยิ้ม08



 
ความรู้สึกเพิ่มเติมหลังดูรอบที่สอง
 
อาทิตย์นี้ไม่มีหนังใหม่ที่น่าสนใจเข้าฉาย  เห็นดาบพิฆาตอสูรยังมีรอบฉายแถมมีรอบฉายไอแม็กซ์ด้วย  เลยจัดไปอีกซักรอบ  รู้สึกคุ้มค่ามากกก ภาพเต็มจอเต็มตา  รู้สึกสโคปภาพบนจอไอแม็กซ์จะกว้างกว่าจอโรงปกตินะ เหมือนภาพมันหุบขอบด้านข้างเข้ามาไม่มาก  ในโรงปกติภาพหุบขอบเข้ามาจนเกือบจะเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสเลย  เสียงก็กระหึ่มระทึกเบสกระแทกสะใจ ฉากต่อสู้ดูอลังการขึ้นไปอีก
 
ดูรอบนี้คิดว่าคงไม่ร้องไห้เพราะรู้เนื้อเรื่องหมดแล้ว แต่ก็ยังน้ำตาซึมช่วงท้ายอยู่ดี  หนังจบมานั่งนึกทบทวนว่าทำไมเราอินกับหนังการ์ตูนได้ขนาดนี้  โดยเฉพาะกับตัวละครเคียวจูโร่ เรียบเรียงความคิดตัวเองมาได้ประมาณนี้
 
1.เนื้อเรื่องอยู่ในโลกจริง  ไม่ใช่ดินแดนแฟนตาซีหรือโลกต่างมิติที่สมมุติขึ้น ทำให้เรารู้สึกเชื่อมต่อกับเหตุการณ์ในเรื่องได้จนคิดว่ามันสมจริงในระดับเดียวกับหนังกำลังภายในที่ดูมาตั้งแต่เด็ก  พอเราอินไปกับเนื้อเรื่องก็ทำให้อินกับตัวละครจนลืมว่าเป็นตัวการ์ตูนนึกว่าเป็นคนจริงๆ
 
2.ความประทับใจที่มีต่อทันจิโร่ ถึงยังเด็กแต่สมเป็นพระเอกจนทำให้นึกเอาใจช่วยไปได้  ทั้งที่ปกติจะรำคาญพวกพระเอกแสนดีที่นิสัยดีเกิน แต่ทันจิโร่นอกจากจะใจดีมีเมตตาแล้ว ยังมีความเข้มแข็งเด็ดขาดในตัวด้วย  ไม่ได้มีแต่ด้านอ่อนโยนใจดี ยังมีด้านที่โกรธแค้นจนสามารถจับดาบฆ่าฟันอสูร กระทั่งฆ่าตัวเองก็ยังทำได้ จิตแข็งมาาากก นับถือเลย
 
3.อิโนะสุเกะ เป็นตัวละครสำคัญที่แท็กทีมสู้กับทันจิโร่ได้ลงตัว ถ้าไม่มีอิโนะสุเกะทันจิโร่คงปราบเอนมุไม่สำเร็จ ทั้งที่เป็นเด็กวัยเดียวกันนิสัยก็มุทะลุดุดันแบบเด็กนะ  แต่ก็มีความคิดอ่านบางอย่างที่เป็นผู้ใหญ่จนนึกไม่ถึง ตอนที่กระตุ้นเพื่อนให้เลิกเศร้ากับการตายของเคียวจูโร่กับคำพูดที่ว่าสิ่งที่ตายไปก็แค่กลับคืนสู่ผืนดิน  ขนาดทันจิโร่ที่เคยผ่านการสูญเสียครอบครัวมาแล้วยังทำใจไม่ได้เลย
 
4.เอนมุ ดูรอบนี้รู้สึกประทับใจตัวละครนี้ขึ้นมา  คือหมอนี่เป็นตัวร้ายที่สมเป็นตัวร้ายจริงแฮะ ชั่วร้ายแบบ master mind มาแนวบุ๋นใช้แผนวางกับดัก ไม่สู้ซึ่งหน้าแต่แรก  เสียงพากย์ก็โรคจิตได้ใจ สมบทบาทตัวร้ายทำให้เอาใจช่วยฝ่ายพระเอกได้เต็มที่  เพราะหลังจากอาคาสะโผล่มาจนจบเรื่อง มันปรับความรู้สึกลำบากมาก  ส่วนตัวไม่รู้สึกว่าอาคาสะเป็นตัวร้ายของเรื่องเหมือนอย่างเอนมุทั้งที่ฆ่าเคียวจูโร่ เหมือนกับเป็นตัวละครที่โผล่มาเพื่อเป็นคู่ต่อสู้ของเคียวจูโร่เท่านั้น  มาแนวบู๊แหลก สู้กันตัวต่อตัวไม่มีตุกติก ตรงข้ามกับเอนมุทุกอย่าง ทำให้จนถึงจบเรื่องถึงจะเจ็บใจที่เคียวจูโร่ตาย แต่ก็ไม่ได้เกลียดอาคาสะ
 
5.ความรู้สึกที่มีต่อเคียวจูโร่  ตามที่เคยบอกรอบแรกว่าชอบรูปลักษณ์ character design ที่โดนเด่น ในบรรดาเสาหลักทั้งหมด เคียวจูโร่เป็นคนเดียวที่เห็นปุ๊บยังไม่ต้องออกกระบวนท่าก็รู้ทันทีว่าเกี่ยวข้องกับไฟชัดเจนมาก  บุคลิกนิสัยก็ร้อนแรงเหมือนไฟ  ช่วงแรกในรถไฟแสดงฝีมืออย่างโหดแววตารอยยิ้มดุดัน พอรวมกับรูปลักษณ์ที่ดู traditional oriental เหมือนถอดแบบมาจากพวกรูปปปั้นเทพเจ้าปราบมารในศาลเจ้าเลย
 
พอเนื้อเรื่องดำเนินไป เราได้เห็นเรื่องราวชีวิตกับความรู้สึกนึกคิดของเคียวจูโร่ เห็นเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ยิ่งประทับใจขึ้นไปอีก เป็นคนดีที่น่านับถือจริงๆ มั่นคงในหลักการและหน้าที่ ทั้งที่ไม่มีความแค้นส่วนตัวกับอสูร ครอบครัวหรือคนสำคัญไม่ได้ถูกฆ่าเหมือนบ้านคามาโดะ แต่กลับยอมสู้จนตัวตายเพียงเพราะยึดมั่นในหลักการ"ผู้เข้มแข็งต้องปกป้องคนอ่อนแอกว่า"ที่แม่ปลูกฝังไว้  ทั้งที่น่าจะรู้ตัวแล้วว่าสู้ไม่ได้ แต่ไม่ถอย  หากคิดเพียงจะโค่นอาคาสะให้ได้โดยไม่สนเรื่องอื่นก็น่าจะสั่งให้รุ่นน้องมาช่วยรุมได้ เหมือนอย่างตอนที่ทันจิโร่กับอิโนะสุเกะร่วมกันสู้กับเอนมุ  เพราะแม้ทันจิโร่จะบาดเจ็บแต่อิโนะสุเกะยังสู้ได้ แต่เคียวจูโร่กลับสั่งห้ามไม่ให้รุ่นน้องเข้ามาร่วมต่อสู้เด็ดขาด
 
พอมาคิดดูว่าเคียวจูโร่เพิ่งจะได้รู้จักพวกทันจิโร่แค่คืนเดียว (กับสองพี่น้องคามาโดะจริงๆ ก็แค่เคยเห็นหน้า) แต่ก็ดูแลพวกเด็กๆ อย่างดีที่สุด ทั้งรับเป็นลูกศิษย์  สอนทันจิโร่ใช้ปราณห้ามเลือด(น่าจะเป็นเรื่องเดียวที่ได้สอน)  หลังต่อสู้กับอาคาสะก็ยอมรับความตายอย่างสงบ ไม่ดิ้นรนกระยิ้มกระสนเคียดแค้นอย่างเจ้าเอนมุ ไม่โทษใครเลย  ถึงจุดนี้ที่เป็นช่วงเวลาสุดท้ายในชีวิตแทนที่จะคิดถึงแต่เรื่องตัวเองพอฝากคำสั่งเสียถึงครอบครัวแล้วก็ยังเป็นห่วงเด็กๆ ทุกคนรวมถึงเนซึโกะด้วย บอกทางให้ทันจิโร่ได้สืบค้นเรื่องฮิโนะคามิคางุระต่อไป  ยอมรับเนซึโกะเป็นหน่วยพิฆาตอสูร  ตอนที่บอกให้ใช้ชีวิตอย่างภาคภูมินี่น้ำตาซึมเลย อุตส่าห์คิดว่าจะไม่มีน้ำตาแล้วเชียว

สรุปว่าไปดูซ้ำอีกรอบ ยิ่งชอบหนังเรื่องนี้ขึ้นไปอีกอมยิ้ม36
ชื่อสินค้า:   Kimetsu No Yaiba: Mugen Ressha-Hen(ดาบพิฆาตอสูร: ศึกรถไฟสู่นิรันดร์)
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่