มิตรรัก นักแฟนตาซี : SS 2 EP 20 ต้อนรับปีใหม่ไร้แฟนบอล(อีกหน) บอลเตะต่ออย่ารอช้าจัดทีม

ผ่านพ้นช่วงส่งท้ายปีเก่ามาที่เรารวบ Gameweek 15-16 ไปทีเดียวเลย EP ที่แล้ว รอบนี้เราเลยต้องมาสรุปกันหน่อยว่าบทสรุปของเดือน ธ.ค. เป็นอย่างไรบ้าง รวมถึงรอบคัดเลือกของ FPL Cup ที่ใช้คะแนน GW16 อันวุ่นวายมาตัดสิน

Gameweek 16 วุ่นวายด้วย 2 คู่เลื่อนเตะ ที่ทำเอากุนซือแฟนตาซีหัวหมุน

ความวุ่นวายของ Gameweek 16 คือมีถึง 2 คู่อย่าง เอฟเวอร์ตัน-แมนฯ ซิตี้ และ สเปอร์-ฟูแล่ม ที่ต้องเลื่อนเตะเพราะยอดติดเชื้อโควิด-19 พุ่งสูงขึ้นในแคมป์ “เรือใบสีฟ้า” และ “เจ้าสัวน้อย” ทำให้นักเตะอย่าง เด บรอยน์, ราฮีม, เคน, ซน, DCL ไม่ได้ลงเล่น แถมซาล่าห์ก็ไม่มา บรูโน่ก็มาแบบไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย

นอกจากการสรุปผลแล้ว เราก็ไม่มีเวลารั้งรอต้อนรับปีใหม่กันกับ Gameweek 17 ทันทีสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งนอกจากเรื่องความฟิตของนักเตะที่เห็นหลายทีมสลับโรเตชันกัน ยังต้องติดตามข่าวโควิด-19 ที่ทำให้ทั้งแมนฯ ซิตี้ และฟูแล่ม ขอเลื่อนเตะใน GW16 ด้วย

สรุปผลประกอบการ

ถึงจะคิดคะแนนได้แค่ 9 ตัว แต่คะแนนดีกว่า GW14 หรือ 15 ซะอีก

คะแนน Gameweek 16 : 58 คะแนน
คะแนนรวม : 984 คะแนน

อันดับรวม : 94,712 (ขึ้นมาจาก 137,956 – GW14)
อันดับชาวไทย : 868 (ขึ้นมาจาก 1,214 – GW14)
อันดับ The.Macho League : 121 (ขึ้นมาจาก 146 – GW14)

FPL Cup : ผ่านรอบคัดเลือก (อันดับ 322,520 ใน Gameweek 16)

โลกเราก็มีอะไรไม่คาดคิดอยู่เสมอแหละครับ เช่นเดียวกับ Gameweek 16 ซึ่งทีมผมดันทำคะแนนได้มากกว่า Gameweek 14 และ 15 เสียอีก แม้จะต้องใช้บริการตัวสำรองครบ 3 ตัว และสุดท้ายก็มีนักเตะที่คิดคะแนนแค่ 9 คน เพราะมีถึง 5 ตัวที่ไม่ได้ลงเล่น

“ร็อบ โฮลดิ้ง” กลายเป็นตัวโจ๊กเกอร์สำคัญ ที่ทำ 9 แต้มใน GW16

คีย์หลักที่สร้างความแตกต่างคือ โฮลดิ้งที่เปลี่ยนเข้ามาทำแต้มได้เยี่ยม, ราฟินญ่า, แม็คคาร์ธี, โรเบิร์ตสัน ก็มา ถึงกัปตันซาล่าห์จะทำให้ผิดหวังอีกนัด แต่กัปตันเมเจอร์ตัวอื่นก็แทบไม่มากัน คะแนนเลยดีดบวกขึ้นอย่างชัดเจน

ส่วนแผนการต่อไป ที่ตั้งใจจะไม่ใช้ตัวช่วยกับ Gameweek 18 ก็ต้องมาดูกันต่อไป โดยอาจจะต้องมอง Gameweek 17 ไว้ด้วย เพราะตัวแมนฯ ซิตี้ (และเชลซี ซึ่งไม่มีในทีมแล้ว) อาจไม่ได้ลงเล่นอีก หากโควิด-19 ในแคมป์พวกเขาไม่ดีขึ้น มองข้ามตรงนี้ไม่ได้

ผลสอบนักเตะแนะนำ (GW14, 15)

“สจ๊วต ดัลลัส” มาเนื้อๆ เน้นๆ คลีนชีต 2 นัด แถมนัดหลังมีแอสซิสต์

ผู้รักษาประตู : อลิสซง เบ็คเกอร์ (2, 6 คะแนน)

กองหลัง : ยานนิค เวสเตอร์การ์ด (0, 0 คะแนน / เจ็บซะงั้น), สจ๊วต ดัลลัส (6, 12 คะแนน)

กองกลาง : โม ซาล่าห์ (2, 3 คะแนน), ราฟินญ่า (3, 8 คะแนน), ซน ฮึง มิน (3, – คะแนน / นัดที่ 2 เลื่อน)

กองหน้า : คริส วู้ด (2, 2 คะแนน), พาทริค แบมฟอร์ด (8, 8 คะแนน)

Gameweek 17 : วิเคราะห์ทีเด็ด

ผู้รักษาประตู
แคสเปอร์ ชไมเคิล (เลสเตอร์ / 5.5 ล้านปอนด์)


ถึงฟอร์มโดยรวมของเลสเตอร์ในซีซันนี้จะน่าพอใจ แต่ในส่วนเกมรับ “จิ้งจอกสยาม” วุ่นวายทีเดียว กับการจัดการแนวรับที่มีทั้งเจ็บ และระบบการเล่นไม่ลงตัว นั่นเลยทำให้พวกเขาเพิ่งเก็บคลีนชีตได้ 5 นัด แม้ฟอร์มของชไมเคิลจะยังคงเส้นคงวา

เกมนี้ เลสเตอร์จะออกไปเยือนนิวคาสเซิล ซึ่งมีพื้นฐานเล่นเกมรับเป็นหลัก เลสเตอร์คงจะครองบอลบุก และสร้างโอกาสได้มากกว่า ซึ่งน่าจะทำให้เกมรับเจองานไม่ยากนัก ถึงจะต้องระวังคัลลั่ม วิลสัน ไว้บ้างก็ตาม แต่นี่เป็นโอกาสดี ที่จะมีคลีนชีตเพิ่มของชไมเคิล

กองหลัง
คีแรน เทียร์นีย์ (อาร์เซน่อล / 5.3 ล้านปอนด์)


โดยราคาแล้ว เทียร์นีย์อาจจะน่าเลือกน้อยกว่าโฮลดิ้ง, มารี หรือเบเยริน แต่หากต้องเลือกแนะนำแนวรับที่ดีที่สุดของอาร์เซน่อลแล้ว ปฏิเสธไม่ได้ว่าเทียร์นีย์ ทำหน้าที่ได้ดีไม่แพ้ใคร แถมยังมีเกมรุกเป็นโบนัสเสริมอีกด้วย

ถึงฟอร์มโดยรวมของ “ปืนใหญ่” ต้องดูกันต่อว่ายืนระยะได้แค่ไหน หลังเพิ่งกลับมาชนะ 2 นัดรวด หลังสะดุดจนกุนซือแทบจะโดนเด้ง แต่กับการไปเยือน WBA ที่มีปัญหาเวลาที่ต้องพยายามบุกเข้าใส่คู่แข่งแทนที่จะตั้งรับเหนียวแน่นอย่างเดียว เลยคาดว่าอาร์เซน่อลจะเล่นได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสลุ้นไม่เสียประตูตามไปด้วย

เจมส์ ทราคอฟสกี้ (เบิร์นลีย์ / 5.3 ล้านปอนด์)


ถึงตัวเลือกในการจัดทีมจะมีจำกัดเหลือเกิน แต่ไดซ์ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีเยี่ยม และพยายามเน้นจุดเด่นของเบิร์นลีย์ เพื่อยืนหยัดหนีตกชั้นในซีซันนี้ ซึ่งนั่นก็คือเกมรับที่เหนียวแน่น และบอลไดเรกต์เข้าทำ

ทั้ง 2 สิ่งที่ว่ามา เลยเป็นจุดที่แนะนำทราคอฟสกี้ เพราะนอกจากเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ทีมเริ่มเก็บคลีนชีตได้ถี่ขึ้น (ตอนนี้ยอดรวม 6 คลีนชีต) ยังมีลุ้นจากการขึ้นไปเล่นเซ็ตพีซ ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ใช้จู่โจมคู่แข่ง โดยเฉพาะฟูแล่มที่มีปัญหากับการรับมือลูกโด่ง (หวังว่าโควิด-19 จะดีขึ้น แล้วทำให้ฟูแล่มได้เตะนะ)

กองกลาง
ซน ฮึง มิน (สเปอร์ / 9.7 ล้านปอนด์)


เงียบเหงามาในช่วงบ็อกซ์ซิ่ง เดย์ แถมเจอเกมเลื่อนเตะไปนัดนึงอีก กลับมานัดนี้สเปอร์ต้องมาเจอกับลีดส์ ที่เริ่มกลับมาเข้าฟอร์ม ชนะมา 2 นัดติดแบบไม่เสียประตู แต่เชื่อเลยด้วยเกมของ “ยูงทอง” ที่ดันบุกเข้าใส่ตลอด นัดนี้คงโดนทีเด็ดของลูกทีมมูรินโญ่บ้างแหละ

อปป้าซน ถือเป็นแกนนำสำคัญในการเล่นเกมโต้กลับเร็วของทีม ถึงฟอร์มโดยรวมของแดนกลางจะดร็อปลง แต่การประสานงานระหว่างซนกับเคนน่าจะยังดีอยู่ เชื่อว่าเกมกับลีดส์จะมีสกอร์หลายลูก ส่วนจะออกฝั่งไหน ต้องไปลุ้นกัน

เปโดร เนโต้ (วูล์ฟ / 6.0 ล้านปอนด์)


มิดฟิลด์จอมลุยชาวโปรตุกีซ พยายามเต็มที่ในการทำเกมรุกให้ทีม หลังวูล์ฟต้องเสียฆิมิเนซที่พักยาวไป นอกจากความกล้าเล่นกล้าลุยของเนโต้แล้ว เขายังเป็นคนรับเหมาเซ็ตพีซของทีมด้วย อย่างนัดที่แล้วที่เจอกับแมนฯ ยู ถ้าเด เกอาไม่เซฟหลายที เขาต้องได้แอสซิสต์บ้าง

เกมกับไบรท์ตันคงจะทำให้วูล์ฟตื้อๆ ไปบ้าง เพราะฟอร์มพวกเขายังไม่สม่ำเสมอ แต่ด้วยสไตล์ที่ดันเกมรับขึ้นสูงของ “เจ้านกนางนวล” เนโต้คงจะมีพื้นที่ได้เล่นพอสมควร และอาจจะผลิตแต้มได้ลุ้นในนัดนี้

กิลฟี่ ซิกูร์ดสัน (เอฟเวอร์ตัน / 6.8 ล้านปอนด์)


เอฟเวอร์ตันได้พักมาเต็มๆ หลังเกมกับแมนฯ ซิตี้เลื่อนไป ทำให้ความสดของพวกเขาน่าจะสู้กับเวสต์แฮมได้ดี โดยเฉพาะ “ขุนค้อน” เริ่มฟอร์มไม่สม่ำเสมอ กลับกันกับฟอร์มของ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” ที่เริ่มกับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้ง

การกลับมาชนะติดต่อกันอีกครั้งของเอฟเวอร์ตัน ส่วนนึงมาจากฟอร์มที่กลับมาเข้าที่ของซิกูร์ดสัน เพราะนอกจากจะควบคุมการเคลื่อนบอลของทีม เขาเริ่มกลับมามีทีเด็ดในการทำประตูอีกครั้ง แถมยังเป็นคนเล่นเซ็ตพีซ และยิงจุดโทษอีกต่างหาก

กองหน้า
โรแบร์โต้ ฟิร์มิโน่ (ลิเวอร์พูล / 9.3 ล้านปอนด์)


กองหน้าจอมเทคนิค เริ่มกลับมาเล่นได้ลื่นไหล นับตั้งแต่เกมกับสเปอร์ ที่เขาเป็นคนโหม่งประตูชัย แต่ด้วยฟอร์มเกมรุกของทีมแชมป์เก่าดันมาตกลงหลังเกมถล่มพาเลซ 7-0 เลยทำให้ 2 นัดหลังฟิร์มิโน่ไม่มีสกอร์ ทั้งที่สร้างโอกาสได้ไม่น้อยเลย

เกมเยือนเซาธ์แธมป์ตัน แน่นอนว่าไม่ง่าย เพราะ “นักบุญ” ก็กำลังเล่นได้มั่นใจ แต่ด้วยการยืนเกมรับที่ไม่ได้ลงไปรับต่ำมากนัก ทำให้เกมรุกของ “หงส์แดง” น่าจะมีช่องเล่นงานได้มากขึ้น โดยมีฟิร์มิโน่เป็นตัวประสานสำคัญ ถ้าคมๆ หน่อย ต้องมีแหละประตูหรือแอสซิสต์น่ะ

คริสเตียน เบนเทเก้ (พาเลซ / 5.5 ล้านปอนด์)


จะว่าไปการแนะนำเบนเทเก้ก็ทำให้ลังเลเหมือนกัน เพราะรูปเกมของพาเลซ 3 นัดหลัง ถือว่าไม่ดีเอาซะเลย แต่เหลือบไปมองคู่แข่งอย่างเชฟฯ ยู ในนัดนี้แล้ว “ดาบคู่” มีปัญหามากกว่า โดยเฉพาะเกมรับที่เคยเป็นจุดเด่น ตอนนี้สะเปะสะปะกว่าที่คิดไว้

เบนเทเก้เพิ่งยิงซีซันนี้ไปทั้งหมด 3 ลูก เพราะเพิ่งได้รับโอกาสลงตัวจริงในช่วงหลัง ด้วยฟอร์มของทั้งอายิว และบัซชัวอายี่ที่ไม่ดีเท่าไหร่ ทำให้ประโยชน์ในการพักบอล และเล่นลูกกลางอากาศของเบนเทเก้ดูมีภาษีดีกว่า โดยเฉพาะกับนัดนี้ ซึ่งเชฟฯ ยู โดนลูกกลางอากาศเล่นงานชักบ่อยในระยะหลัง

(ขออนุญาตต่อส่วนที่เหลือในคอมเมนท์นะครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่