**เรื่องมีอยู่ว่าเราไปนอนเล่นที่ห้องแฟนและกำลังจะออกจากห้องเขา แต่วันนั้นไม่รู้คิดยังไงไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วดันไปเจอเป็นชุดนอน(เซ็กซี่) ของผู้หญิงในสภาพที่ (เหมือน)เพิ่งถูกใช้งานมาไม่นานนี้ พอเราเห็นอย่างนั้นเราก็รีบออกจากห้องของเขาทันที (แต่แฟนเราไม่อยู่ในห้อง ณ ตอนนั้นมีแค่เราที่อยู่)
กลับมาเราก็ยังไม่พูดอะไร จนเขาโทรมาเราเลยถามว่า ชุดนอนผู้หญิงในตู้เป็นของใคร? เขาเงียบไปสักพักและตอบกลับมาว่าเป็นของแฟนเก่า ตอนนั้นเอาจริงๆก็ไม่เชื่อหรอกแต่ก็ยังอยากดูพฤติกรรมของเขาต่อ(ก็ยังรักอะนะ) ก็ทำเป็นเชื่อเขาว่าเป็นอย่างที่เขาพูด แต่เขาพูดขึ้นมาว่า เขาไม่ชอบที่เราทำแบบนี้นะ เขาขอเวลาคิดเรื่องนี้ก่อนบอกกับเราว่าไม่ต้องโทรไม่ต้องตามเขา แล้วเขาก็เงียบไป5วันโดยที่เราไม่ได้ทั้งโทรและตามเขาเลย เราก็อยู่ในส่วนของเราโดยที่ไม่ได้ไปยุ่งกับเขาเพราะเรารู้ว่าเราผิดที่ไปค้นของเขา ระหว่างที่รอเขาติดต่อกลับมาเราก็กระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย คิดมากไปหลายเรื่อง
จนสุดท้ายเขาติดต่อกลับมา เขาโทรมาบอกเลิกเรา บอกให้เราเลิกยุ่งกับเขาอย่ามายุ่งกับเขาอีก เราได้ยินคำที่เขาพูดกับเรามันรู้สึกเจ็บใจมากที่เขาใช้คำว่า เลิกยุ่ง อย่ามายุ่งอีก มันเจ็บยิ่งกว่าคำว่าเราเลิกกันดีกว่าอีก และยังบอกอีกว่าเวลาที่เขาหายไปเขาได้ไปคุยและตกลงคบกับผู้หญิงคนใหม่แล้ว เราที่ได้ยินอย่างนั้นก็งง+ตกใจ คือ5วันที่เขาหายไปทำไมมันเร็วจังที่จะไปคุยและตกลงคบกันแล้ว แต่เราก็เหมือนพยายามยื้อเขาให้เขาเห็นใจเราแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล (เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้ซิเรียสอะไรถ้าเขาจะเลิกแต่เราแค่รู้สึกอยากให้โอกาสตัวเองได้แก้ตัวทำอะไรที่เรายังไม่ได้ลองทำดูบ้างแค่นั้น แต่เขาไม่ให้ก็ไม่เป็นไร)
คำถามหลังจากเลิกกันคือ
- เราไปเจอเสื้อผ้าผู้หญิงแทนที่เขาจะอธิบายหรือบอกอะไรที่มากกว่าพูดแค้ว่า มันเป็นของแฟนเก่า ทำไมเขาไม่พูดอะไรเลย (แต่เราก็ยอมรับนะว่าเราเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันที่ไปค้นของเขาอันนี้ยอมรับว่าผิดจริง) แต่ก็อยากให้เขาพูดอะไรมากกว่านี้หน่อย และวันที่เลิกกันเรามีความรู้สึกว่าเขาพยายามโยนความผิดทุกอย่างมาให้กับเราทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องอะไร
*ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรารู้ว่าเราทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว เราทำหน้าที่แฟนคนนึงได้ดีและสมบูรณ์เท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำให้ได้ดีสุดแล้ว ไม่ว่าจะรักและซื่อสัตย์กับใจตัวเองและตัวของเขา ให้เกียติเขาในฐานะผู้ชายที่เรารักและเคารพมากๆที่สุดแล้ว เราไม่เคยทำให้เขาต้องเสียหายไม่ว่าจะทางใดก็ตามเราไม่เคยคิดที่จะทำเลยแถมยังพูดให้เขาดูดีในสายตาของญาติเราและเพื่อนของเราอีกด้วย และไม่เคยคิดจะทำลายเขาเลยยังครั้ง เวลาที่เขาเดือดร้อนเราก็ยังยินดีช่วยเหลือเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันเลยทำให้เราไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือเสียใจอย่างทุกครั้งที่ผ่านๆมา แต่มันก็มีบ้างที่มันจะรู้สึกโหวงๆ บ้างมีคิดถึงเรื่องที่เขาทำให้เราบ้างมันก็ยังมี ไม่ได้บอกว่าเขาไม่มีเรื่องดีนะ เขาเป็นคนใส่ใจ (เกือบ) ทุกเรื่องซึ่งและเขารักพ่อกับแม่เขามาก (แต่เขาไม่ได้รักเรามาก) สำหรับเรามันเป็นข้อดี
*** มันเลยยังเป็นคำถามอยู่ทุกวันนี้ว่าเรื่องนี้เราทำผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกับคุยหรือปรับความเข้าใจกันไม่ได้เลยใช่มั้ย ที่อยากรู้เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นกับคนต่อไป(ถ้ามี) เราจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก
ไปเจอเสื้อผ้าผู้หญิงในห้องนอนแฟน
กลับมาเราก็ยังไม่พูดอะไร จนเขาโทรมาเราเลยถามว่า ชุดนอนผู้หญิงในตู้เป็นของใคร? เขาเงียบไปสักพักและตอบกลับมาว่าเป็นของแฟนเก่า ตอนนั้นเอาจริงๆก็ไม่เชื่อหรอกแต่ก็ยังอยากดูพฤติกรรมของเขาต่อ(ก็ยังรักอะนะ) ก็ทำเป็นเชื่อเขาว่าเป็นอย่างที่เขาพูด แต่เขาพูดขึ้นมาว่า เขาไม่ชอบที่เราทำแบบนี้นะ เขาขอเวลาคิดเรื่องนี้ก่อนบอกกับเราว่าไม่ต้องโทรไม่ต้องตามเขา แล้วเขาก็เงียบไป5วันโดยที่เราไม่ได้ทั้งโทรและตามเขาเลย เราก็อยู่ในส่วนของเราโดยที่ไม่ได้ไปยุ่งกับเขาเพราะเรารู้ว่าเราผิดที่ไปค้นของเขา ระหว่างที่รอเขาติดต่อกลับมาเราก็กระวนกระวายใจอยู่ไม่น้อย คิดมากไปหลายเรื่อง
จนสุดท้ายเขาติดต่อกลับมา เขาโทรมาบอกเลิกเรา บอกให้เราเลิกยุ่งกับเขาอย่ามายุ่งกับเขาอีก เราได้ยินคำที่เขาพูดกับเรามันรู้สึกเจ็บใจมากที่เขาใช้คำว่า เลิกยุ่ง อย่ามายุ่งอีก มันเจ็บยิ่งกว่าคำว่าเราเลิกกันดีกว่าอีก และยังบอกอีกว่าเวลาที่เขาหายไปเขาได้ไปคุยและตกลงคบกับผู้หญิงคนใหม่แล้ว เราที่ได้ยินอย่างนั้นก็งง+ตกใจ คือ5วันที่เขาหายไปทำไมมันเร็วจังที่จะไปคุยและตกลงคบกันแล้ว แต่เราก็เหมือนพยายามยื้อเขาให้เขาเห็นใจเราแต่สุดท้ายก็ไม่ได้ผล (เอาจริงๆ เราก็ไม่ได้ซิเรียสอะไรถ้าเขาจะเลิกแต่เราแค่รู้สึกอยากให้โอกาสตัวเองได้แก้ตัวทำอะไรที่เรายังไม่ได้ลองทำดูบ้างแค่นั้น แต่เขาไม่ให้ก็ไม่เป็นไร)
คำถามหลังจากเลิกกันคือ
- เราไปเจอเสื้อผ้าผู้หญิงแทนที่เขาจะอธิบายหรือบอกอะไรที่มากกว่าพูดแค้ว่า มันเป็นของแฟนเก่า ทำไมเขาไม่พูดอะไรเลย (แต่เราก็ยอมรับนะว่าเราเองก็มีส่วนผิดด้วยเหมือนกันที่ไปค้นของเขาอันนี้ยอมรับว่าผิดจริง) แต่ก็อยากให้เขาพูดอะไรมากกว่านี้หน่อย และวันที่เลิกกันเรามีความรู้สึกว่าเขาพยายามโยนความผิดทุกอย่างมาให้กับเราทั้งหมดไม่ว่าจะเรื่องอะไร
*ตลอดเวลาที่ผ่านมาเรารู้ว่าเราทำทุกอย่างดีที่สุดแล้ว เราทำหน้าที่แฟนคนนึงได้ดีและสมบูรณ์เท่าที่ผู้หญิงคนนึงจะทำให้ได้ดีสุดแล้ว ไม่ว่าจะรักและซื่อสัตย์กับใจตัวเองและตัวของเขา ให้เกียติเขาในฐานะผู้ชายที่เรารักและเคารพมากๆที่สุดแล้ว เราไม่เคยทำให้เขาต้องเสียหายไม่ว่าจะทางใดก็ตามเราไม่เคยคิดที่จะทำเลยแถมยังพูดให้เขาดูดีในสายตาของญาติเราและเพื่อนของเราอีกด้วย และไม่เคยคิดจะทำลายเขาเลยยังครั้ง เวลาที่เขาเดือดร้อนเราก็ยังยินดีช่วยเหลือเขาทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องอะไร มันเลยทำให้เราไม่ได้รู้สึกเสียดายหรือเสียใจอย่างทุกครั้งที่ผ่านๆมา แต่มันก็มีบ้างที่มันจะรู้สึกโหวงๆ บ้างมีคิดถึงเรื่องที่เขาทำให้เราบ้างมันก็ยังมี ไม่ได้บอกว่าเขาไม่มีเรื่องดีนะ เขาเป็นคนใส่ใจ (เกือบ) ทุกเรื่องซึ่งและเขารักพ่อกับแม่เขามาก (แต่เขาไม่ได้รักเรามาก) สำหรับเรามันเป็นข้อดี
*** มันเลยยังเป็นคำถามอยู่ทุกวันนี้ว่าเรื่องนี้เราทำผิดร้ายแรงขนาดนั้นเลยเหรอ ถึงกับคุยหรือปรับความเข้าใจกันไม่ได้เลยใช่มั้ย ที่อยากรู้เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นกับคนต่อไป(ถ้ามี) เราจะได้ไม่ทำแบบนี้อีก