สวัสดีค่ะ อยากเตือนภัยและสอบถามว่าใครเคยประสบเหตุการณ์คล้ายเราและมีวิธีการดำเนินการกันอย่างไรบ้างคะ
เหตุเกิดช่วงปลายตุลาคมที่ผ่านมาจากการไปทานอาหารร้านหนึ่งย่านศาลเจ้าพ่อเสือในช่วง3-4โมง แล้วกลับบ้านมามีอาการอาเจียน
และถ่ายท้องในช่วง1-2ทุ่ม เหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้ประสบเหตุคือเราและคุณแม่ค่ะ ซึ่งอาหารเป็นเมนูปกติที่เวลาไปทานอาหารอีสานเราก็สั่งและทานมาโดยตลอดไม่เคยมีปัญหา ไม่มีการทานปลาร้าหรือของไม่ปรุงสุก ร้านนี้เป็นเพียงมื้อเดียวที่ทานเหมือนกันในวันนั้น ตอนช่วงเช้า-สายเราทานแค่ข้าวต้มหมู
ส่วนคุณแม่ทานข้าวปกติ เรามีอาการหนักกว่าทางคุณแม่เนื่องจากเพราะมีอาการไข้ขึ้น ทางบ้านเลยนำตัวส่งโรงพยาบาลที่เรารักษาตัวประจำ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่เรามีประวัติการรักษามากว่า10ปีแล้ว ส่วนคุณแม่ให้จิบน้ำเกลือบ่อยๆกลัวเสียน้ำจนช็อค พอสักพักเริ่มหยุดถ่าย อาเจียนน้อยลงและเช็คว่าไม่มีไข้เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน
กลับมาในส่วนตัวเรา มีไข้ถึง38องศา ถ่ายเหลว และอาเจียน ทานน้ำยังอาเจียนเลย ทางโรงพยาบาลเลยให้แอดมิด เก็บอุจจาระไปตรวจ และให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือ พอช่วงเช้าวันใหม่อาการเริ่มดีขึ้น ไม่ถ่ายเหลวแล้ว แต่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังทานอาหารในมื้อเช้าและอาการปวดมวนในท้องนิดหน่อย คุณหมอเข้ามาแจ้งผลตรวจว่าพบการติดเชื้อในลำไส้ และวินิจฉัยเขียนในใบรับรองแพทย์ว่า ลำไส้อักเสบ ถึงจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้แต่ต้องพักงานต่ออีก2 วัน และงดนม
ในช่วงเที่ยงวันนั้นเราเลยทักทางเพจของร้านอาหารไป ว่าเราทานอาหารที่ร้านและสงสัยเหตุเกิดจากอาหารที่ร้านเพราะเป็นอาหารเพียงมื้อเดียวที่เรากับคุณแม่ทานเหมือนกัน แล้วมีอาการแบบเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน ทางร้านก็ขอเบอร์ติดต่อและพูดคุย ในตอนแรกทางร้านพูดถึงจะรับผิดชอบ เราเลยให้คุยกับทางคุณน้าในส่วนรายละเอียดต่างๆแทน แต่พอตกบ่ายๆบิลค่ารักษามา มีจำนวนหมื่นหกพันกว่าบาท ทางร้านเลยบอกว่าช่วยได้แค่3-4พัน เท่านั้น ไม่รู้ว่าน้องกับคุณแม่ไปทานอะไรมา ทำไมต้องไปโรงพยาบาลเอกชนด้วย ถ้าจะให้ร้านรับผิดชอบ ก็ให้คุณหมอเขียนมาว่า เหตุเกิดจากการทานอาหารชนิดนี้จากร้านนี้เลย ถึงจะรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างอาหารก็ไม่มีแล้ว เราเลยถามกลับไปทางร้านด้วยตัวเองในแชทเพจว่า
ในวันนั้นมีลูกค้าท่านอื่นเป็นเหมือนเราไหม ทางร้านแจ้งไม่มีใครเป็นอะไร ไม่มีใครแจ้งมา เราเลยถามกลับไปอีก ว่าทางร้านใช้วิธีการตรวจสอบกลับหาลูกค้าอย่างไร ในเมื่อแอพไทยชนะหรือสมุดเขียนเบอร์โทรก็ไม่มีให้ตรวจสอบ ก็บอกกลับมาว่าเป็นลูกค้าประจำ ทางร้านตรวจสอบแล้วไม่มีเกิดเหตุใดใดทั้งสิ้น และเราก็สงสัยถึงความสะอาดและวิธีการประกอบอาหารของร้าน ทางร้านก็ยืนยันว่าร้านสะอาดปลอดภัยต่างๆ มานึกขึ้นได้ทีหลังว่า ร้านนี้พนักงานไม่ใส่mask มีแต่ลูกค้าที่ใส่ พอเข้ารับประทานก็ถอดตามปกติ ดูทรงแล้วถึงทางร้านจะบอกว่าไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่ก็คือจะไม่รับผิดชอบนั้นแหละ เราถามหาหลักฐานต่างๆในการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ยืนยันในวันดังกล่าว หรือแค่ภาพวงจรปิดในขั้นตอนการประกอบอาหาร ทางร้านก็ให้ได้แค่"คำพูด" แต่ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันเลยมายืนยัน ดังนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลเราเลยแก้ปัญหาด้วยการร้องเรียนต่อสคบ.ยื่นเรื่องผ่านทางออนไลน์ไป
.
สรุปแล้วอยากเตือนทุกคนนะคะอย่ามองแค่ว่าร้านอาหารดูดี ดูเหมือนสะอาด โปรโมทในเพจสวยหรู แต่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันทางร้านกับรับผิดชอบไม่ได้เท่าที่ควร ขอให้ยืนยันความบริสุทธิ์ตนเองด้วยหลักฐานก็ทำไม่ได้ เราไปทานอาหารก็ไม่ได้คาดหวังว่ากลับมาต้องป่วยจากการไปทานอาหาร อยากให้ผู้ประกอบการมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคให้มากๆ คงเข็ดขยาดกับการทานอาหารอีสานไปอีกนานเลย จะให้เรามานั่งเก็บตัวอย่างอาหารจากทุกร้านที่ไปทานเผื่อวันไหนแจ็กพ็อตท้องเสียขึ้นมาอีก ก็คงทำให้ไม่ไหวเช่นกันนะคะ เรื่องนี้มันจะจบตั้งแต่ถ้าทางร้านมีพยานไม่ว่าจะบุคคลหรือแค่ภาพหรือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ว่าร้านคุณถูกจริงๆ สะอาดจริงๆ ตรวจสอบลูกค้าในวันนั้นจริงๆ เราก็จะโทษตัวเราเองทันทีว่าเป็นที่ตัวเราร่างกายเราเอง แต่ทางร้านกลับไม่ให้ความชัดเจนใดใดเลย ฝากทุกคนพิจารณาในการเลือกรับประทานอาหารนอกบ้านกันให้ดีดีนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ
.
ปล.ใครมีอุทธาหรณ์เกี่ยวกับการไปทานร้านอาหารหรือเกี่ยวกับความรับผิดชอบจากผู้ประกอบการใดใด มาแบ่งปันกันได้นะคะ😊
ถ้าตั้งกระทู้ผิดห้องต้องขออภัยด้วยนะคะ มือใหม่จริงๆค่ะ😂
ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านศาลเจ้าพ่อเสือ
เหตุเกิดช่วงปลายตุลาคมที่ผ่านมาจากการไปทานอาหารร้านหนึ่งย่านศาลเจ้าพ่อเสือในช่วง3-4โมง แล้วกลับบ้านมามีอาการอาเจียน
และถ่ายท้องในช่วง1-2ทุ่ม เหตุการณ์ในครั้งนี้ ผู้ประสบเหตุคือเราและคุณแม่ค่ะ ซึ่งอาหารเป็นเมนูปกติที่เวลาไปทานอาหารอีสานเราก็สั่งและทานมาโดยตลอดไม่เคยมีปัญหา ไม่มีการทานปลาร้าหรือของไม่ปรุงสุก ร้านนี้เป็นเพียงมื้อเดียวที่ทานเหมือนกันในวันนั้น ตอนช่วงเช้า-สายเราทานแค่ข้าวต้มหมู
ส่วนคุณแม่ทานข้าวปกติ เรามีอาการหนักกว่าทางคุณแม่เนื่องจากเพราะมีอาการไข้ขึ้น ทางบ้านเลยนำตัวส่งโรงพยาบาลที่เรารักษาตัวประจำ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่เรามีประวัติการรักษามากว่า10ปีแล้ว ส่วนคุณแม่ให้จิบน้ำเกลือบ่อยๆกลัวเสียน้ำจนช็อค พอสักพักเริ่มหยุดถ่าย อาเจียนน้อยลงและเช็คว่าไม่มีไข้เลยไม่ได้ไปโรงพยาบาลด้วยกัน
กลับมาในส่วนตัวเรา มีไข้ถึง38องศา ถ่ายเหลว และอาเจียน ทานน้ำยังอาเจียนเลย ทางโรงพยาบาลเลยให้แอดมิด เก็บอุจจาระไปตรวจ และให้ยาฆ่าเชื้อทางสายน้ำเกลือ พอช่วงเช้าวันใหม่อาการเริ่มดีขึ้น ไม่ถ่ายเหลวแล้ว แต่มีอาการคลื่นไส้และอาเจียนหลังทานอาหารในมื้อเช้าและอาการปวดมวนในท้องนิดหน่อย คุณหมอเข้ามาแจ้งผลตรวจว่าพบการติดเชื้อในลำไส้ และวินิจฉัยเขียนในใบรับรองแพทย์ว่า ลำไส้อักเสบ ถึงจะให้ออกจากโรงพยาบาลได้แต่ต้องพักงานต่ออีก2 วัน และงดนม
ในช่วงเที่ยงวันนั้นเราเลยทักทางเพจของร้านอาหารไป ว่าเราทานอาหารที่ร้านและสงสัยเหตุเกิดจากอาหารที่ร้านเพราะเป็นอาหารเพียงมื้อเดียวที่เรากับคุณแม่ทานเหมือนกัน แล้วมีอาการแบบเดียวกันในช่วงเวลาเดียวกัน ทางร้านก็ขอเบอร์ติดต่อและพูดคุย ในตอนแรกทางร้านพูดถึงจะรับผิดชอบ เราเลยให้คุยกับทางคุณน้าในส่วนรายละเอียดต่างๆแทน แต่พอตกบ่ายๆบิลค่ารักษามา มีจำนวนหมื่นหกพันกว่าบาท ทางร้านเลยบอกว่าช่วยได้แค่3-4พัน เท่านั้น ไม่รู้ว่าน้องกับคุณแม่ไปทานอะไรมา ทำไมต้องไปโรงพยาบาลเอกชนด้วย ถ้าจะให้ร้านรับผิดชอบ ก็ให้คุณหมอเขียนมาว่า เหตุเกิดจากการทานอาหารชนิดนี้จากร้านนี้เลย ถึงจะรับผิดชอบทั้งหมด ซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ ตัวอย่างอาหารก็ไม่มีแล้ว เราเลยถามกลับไปทางร้านด้วยตัวเองในแชทเพจว่า
ในวันนั้นมีลูกค้าท่านอื่นเป็นเหมือนเราไหม ทางร้านแจ้งไม่มีใครเป็นอะไร ไม่มีใครแจ้งมา เราเลยถามกลับไปอีก ว่าทางร้านใช้วิธีการตรวจสอบกลับหาลูกค้าอย่างไร ในเมื่อแอพไทยชนะหรือสมุดเขียนเบอร์โทรก็ไม่มีให้ตรวจสอบ ก็บอกกลับมาว่าเป็นลูกค้าประจำ ทางร้านตรวจสอบแล้วไม่มีเกิดเหตุใดใดทั้งสิ้น และเราก็สงสัยถึงความสะอาดและวิธีการประกอบอาหารของร้าน ทางร้านก็ยืนยันว่าร้านสะอาดปลอดภัยต่างๆ มานึกขึ้นได้ทีหลังว่า ร้านนี้พนักงานไม่ใส่mask มีแต่ลูกค้าที่ใส่ พอเข้ารับประทานก็ถอดตามปกติ ดูทรงแล้วถึงทางร้านจะบอกว่าไม่ได้ปัดความรับผิดชอบ แต่ก็คือจะไม่รับผิดชอบนั้นแหละ เราถามหาหลักฐานต่างๆในการยืนยันถึงความบริสุทธิ์ของร้าน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าที่ยืนยันในวันดังกล่าว หรือแค่ภาพวงจรปิดในขั้นตอนการประกอบอาหาร ทางร้านก็ให้ได้แค่"คำพูด" แต่ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอันเลยมายืนยัน ดังนั้นหลังจากออกจากโรงพยาบาลเราเลยแก้ปัญหาด้วยการร้องเรียนต่อสคบ.ยื่นเรื่องผ่านทางออนไลน์ไป
.
สรุปแล้วอยากเตือนทุกคนนะคะอย่ามองแค่ว่าร้านอาหารดูดี ดูเหมือนสะอาด โปรโมทในเพจสวยหรู แต่พอเกิดเหตุไม่คาดฝันทางร้านกับรับผิดชอบไม่ได้เท่าที่ควร ขอให้ยืนยันความบริสุทธิ์ตนเองด้วยหลักฐานก็ทำไม่ได้ เราไปทานอาหารก็ไม่ได้คาดหวังว่ากลับมาต้องป่วยจากการไปทานอาหาร อยากให้ผู้ประกอบการมีความรับผิดชอบต่อผู้บริโภคให้มากๆ คงเข็ดขยาดกับการทานอาหารอีสานไปอีกนานเลย จะให้เรามานั่งเก็บตัวอย่างอาหารจากทุกร้านที่ไปทานเผื่อวันไหนแจ็กพ็อตท้องเสียขึ้นมาอีก ก็คงทำให้ไม่ไหวเช่นกันนะคะ เรื่องนี้มันจะจบตั้งแต่ถ้าทางร้านมีพยานไม่ว่าจะบุคคลหรือแค่ภาพหรือวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ว่าร้านคุณถูกจริงๆ สะอาดจริงๆ ตรวจสอบลูกค้าในวันนั้นจริงๆ เราก็จะโทษตัวเราเองทันทีว่าเป็นที่ตัวเราร่างกายเราเอง แต่ทางร้านกลับไม่ให้ความชัดเจนใดใดเลย ฝากทุกคนพิจารณาในการเลือกรับประทานอาหารนอกบ้านกันให้ดีดีนะคะ ขอบคุณที่อ่านมาจนจบค่ะ
.
ปล.ใครมีอุทธาหรณ์เกี่ยวกับการไปทานร้านอาหารหรือเกี่ยวกับความรับผิดชอบจากผู้ประกอบการใดใด มาแบ่งปันกันได้นะคะ😊
ถ้าตั้งกระทู้ผิดห้องต้องขออภัยด้วยนะคะ มือใหม่จริงๆค่ะ😂