เราเปนแค่คนธรรมดาคนหนึ่งที่อยากมีความสุขแต่เราไม่สามารถมีความสุขได้อีกแล้วเพราะว่าตั้งแต่ที่เรายังทำงานอยู่พ่อแม่เรารวมถึงเพื่อนสนิทเค้าชอบดูถูกอาชีพเราว่าไม่มั่นคง ไม่มีเกียรติ ไม่จำเปนต้องมีธุรกิจก้อเดินหน้าได้ พอมาเจอโควิดทางบริษัทให้พักงานยาว ช่วงระหว่างนี้เราก้อทำงานพาร์ทไทม์ไปด้วยพร้อมๆกับเรียนหลักสูตรที่สามารถเปิดช่องทางใหม่ๆในการเลือกอาชีพที่เราไม่เคยสนใจ มีอยู่วันหนึ่งเราไปอยู่คอนโดคนเดียวพอเรารู้ว่าพ่อแม่เรากำลังมาเราก้อพยายามทำความสะอาดเช็ดถูก่อนวันที่เค้าจะมาหาเรา แต่พอเวลาเค้ามาหาเรา เค้าก้อชอบมาจับผิดว่าเรายังทำจุดนั้นจุดนี้ไม่สะอาด แล้วเค้าก้อจะชอบตำหนิว่าหรือว่าทำงานเหนื่อยจนไม่มีเวลาทำงานบ้าน ทั้งที่เค้าก้อรู้ว่าเราตกงานเรามีแค่งานพาร์ทไทม์ แต่เค้าก้อยังตำหนิเราไม่เลิก เค้าบอกว่าคนอย่างเราทำงานกับใครไม่ได้หรอก ไม่ต้องไปหางานแล้วเพราะอายุ30กว่าแล้วคงไม่มีใครรับทำงานแล้ว สติปัญญาก้อเพี้ยนๆพูดจาก้อไม่รู้เรื่อง เพื่อนก้อไม่มี แฟนก้อไม่มี หน้าที่การงานก้อไม่มีความก้าวหน้า เค้าบอกว่าเค้ารังเกียจเรามากเพราะเราไม่มีอะไรที่เค้าจะสามารถหยิบยกมาชื่นชมได้เลย เค้าบอกว่าเราทำงานไม่ได้หรอก เราทำได้แค่เรียนๆและก้อเรียน เพราะเค้าเห็นว่าเราชอบลงคอร์สหลายๆคอร์สเรียนเค้าบอกว่าเราเรียนไปแต่เอาไปใช้งานไม่ได้ เราเลยคิดว่าเราเองก้อไม่สมควรอยู่ต่อไปแล้วเพราะพ่อแม่เราเค้าก้อรังเกียจที่เราไม่มีงานที่มั่นคง ชีวิตส่วนตัวเราก้อล้มเหลว ไม่ว่าจะเปนเพื่อนหรือแฟน เราคิดว่าชีวิตเราก้ไม่ต้องทำเพื่อใครอีกแล้ว เราคิดว่าถึงเราตายไปพ่อแม่เราเค้าก้อไม่เสียใจเพราะเค้าเปนคนพูดเองว่าเค้ารังเกียจเราเพราะเราตกงานแล้วเราก้อต้องมาอยู่กินกับเค้า เราคิดว่าเราไม่จำเปนต้องอยู่เพื่อใครอีกแล้ว อยู่ไปก้อรกบ้านเค้าเปล่าๆ เปนเสนียดพ่อแม่ ถ้าเราตายไปแล้วชีวิตพ่อแม่ก้ออาจจะดีขึ้นก้อได้อย่างน้อยๆเค้าก้อจะได้ใช้เงินกินอยู่เฉพาะส่วนของเค้าและที่สำคัญคือเค้าก้อจะได้ไม่อายคนที่เค้ามีลูกเพี้ยนๆอย่างเรา
ฟางเส้นสุดท้าย