realme นั้นยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายที่จะมาเติมเต็ม AIoT ของตัวเองทั้งหมดทำให้มีความครอบคลุมมากขึ้นและล่าสุดก็ถึงคิวของ realme Smart TV ที่จะมาลุยตลาดทีวีกันแล้วในประเทศไทยครับ เรียกได้ว่ามีความแปลกใหม่พอสมควรที่ค่ายมือถือนั้นจะเอาทีวีเข้ามาสู้กับตลาดทีวีในไทย แต่ด้วยชื่อ realme ก็เป็นตัวช่วยทำให้มีความมั่นใจได้เรื่องของ ราคา และ สเปกที่ทำออกมาได้ค่อนข้างโดดเด่นเช่นเดียวกับมือถือของตัวเอง รวมถึงการรับประกันจากทางศูนย์ไทย พร้อมกับระยะเวลา 3 ปีเต็มๆทำให้มีความเด่นมากขึ้นในการใช้งาน และมั่นใจได้ ทางด้านสเปกนั้นแน่นอนว่ามาพร้อมหน้าจอ LED ที่รองรับการใช้งานกับเทคโนโลยี Chroma Boost รวมถึงลำโพง 4 ตัวรองรับ Dolby Audio 24W และ การที่เป็น Android TV ทั้งหมดทำให้รองรับการเชื่อมต่อ การใช้งานที่ดีขึ้นและทำราคาได้ดี เริ่มต้น 4,999 บาทเท่านั้นในขนาด 32 นิ้ว แต่ได้ฟีเจอร์ ทุกอย่างเหมือนกับรุ่น 43 นิ้วทั้งหมดเลย
realme Smart TV เปิดตัวมาด้วยการนำเทคโนโลยี Chroma Boost จากสมาร์ทโฟนมาด้วย แน่นอนว่าเปิดใช้งานตลอดเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้หน้าจอภาพนั้นมีความสว่างขึ้น พร้อมกับ สีสวยสดขึ้น ค่า Contrast สูงขึ้นพร้อมกับสเปกความสว่างสูงสุด 40nits หน้าจอขอบบาง 8.7 มิลลิเมตร และให้มุมกว้างถึง 178 องศา ถ้ามองเทียบสเปกถือว่าดีเกินราคาอยู่เช่นกัน และยังคงมีฟีเจอร์ Chromecast ในตัวเป็นฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Android TV และทำให้ใช้งาน Google Assistant ใช้คำสั่งเสียงได้เลย รองรับภาษาไทย และรวมถึงรองรับแอป Youtube, Netflix, Prime, Disney+ ได้แบบ Official ความละเอียดสูงทั้งหมดครับ หรือจะแอปอื่นๆก็สามารถใช้งานตัว Play Store ก็มีให้เลือกอีกกว่า 5,000 แอป ทางด้านสเปกนั้นใช้งาน CPU MediaTek แบบ Quad-Core ใช้ RAM 1GB มีความจุภายใน 8GB มีลำโพงคู่ในตัว และรวมทั้งหมด ฝั่ง ละ 2 ตัวครับทำให้รองรับเสียงที่ดีพอสมควรเลยแหละ มีความดังกำลังขับสูงพร้อมรองรับระบบ Dolby 24W เช่นกัน ส่วนหน้าจอนั้นเป็น LED ก็ภาพอะไรสวยงามเช่นกันรองรับ Content ได้ดี รวมถึงตัวรีโมท มีไมค์สั่งงานรองรับได้สบายและ ช่องเชื่อมต่อครบๆเลย
realme Smart TV เปิดราคาในไทย 32 นิ้ว HD 4,999 บาท และ 43 นิ้ว FHD 7,999 บาท พร้อมขายเร็วๆนี้ รอติดตามกันอีกที พร้อมการรับประกัน 3 ปีเต็ม
UNBOX 32 นิ้ว
- ตัวเครื่อง realme smart TV
- ขาตั้ง 2 ข้าง
- รีโมท
- ถ่าน AAA 2 ก้อน
- คู่มือ และ การติดตั้ง
UNBOX 43 นิ้ว
- ตัวเครื่อง realme smart TV
- ขาตั้ง 2 ข้าง
- รีโมท
- ถ่าน AAA 2 ก้อน
- คู่มือ และ การติดตั้ง
- สายแปลง AV ออก 3 ช่อง
DESIGN
งานออกแบบทีวีนั้นก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปครับขาตั้งมุมซ้ายขวาพร้อมกับหน้าจอที่มีความบาง แต่ทางด้าน realme นั้นจะเด่นตรงเรื่องของขอบหน้าจอที่ต้องบอกว่ามีความบางมากๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งและชนิดของหน้าจอที่เป็น LED สวยงามพอสมควรครับและได้เทคโนโลยี Chroma Boost เสริมเข้ามาทำให้มีความสว่างสด สีสันทำได้ดีส่วนน้ำหนักค่อนข้างเบาถือเปลี่ยนที่วางได้แบบถือข้างเดียวได้สบายๆครับไม่ได้หนัก และ มีความบางพอสมควร น้ำหนักตัว 32 นิ้วจะอยู่ที่ 3.7 กิโลกรัม ส่วนทางด้าน 43 นิ้วจะอยู่ที่ 6.7 กิโลกรัม สำหรับความต่าง 3 กิโลกรัม realme Smart TV ผ่านการทดสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด อาทิ ทดสอบในห้องอุณหภูมิต่ำถึง -20℃ ตกจากที่สูงกว่า 760mm กดใช้งานปุ่มกว่า 5,000 ครั้ง กดเปิด-ปิด กว่า 5,500 ครั้งและอื่นๆ นอกจากนี้ ยังผ่านมาตรฐาน ระดับสากล ISTA
จะเห็นว่าขนาดนั้นมีความแตกต่างกัน ตัวเล็กที่ 32 นิ้ว และตัวใหญ่ 43 นิ้วครับส่วนทางด้านงานออกแบบนั้นใช้งานแบบเดียวกันทั้งหมด ทั้งขาตั้ง ส่วนขอบหน้าจอที่มีความบางเท่ากัน รวมถึงงานออกแบบด้านข้างและด้านหลังนั้นเหมือนกันทั้งหมด จะเห็นได้เลยว่างานประกอบด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดถือว่าดูดี และเส้นสายอะไรนั้นคล้ายกัน และขอบด้านข้างหน้าจอนั้นมีความบางและที่สำคัญคือเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อทั้ง 2 ขนาดให้มาเหมือนกันทั้งหมด
งานประกอบ วัสดุตามขอบนั้นจะเป็นพลาสติกทั้งหมด รวมถึงขาตั้งทั้ง 2 ข้างเป็นพลาสติกสีดำทั้งหมดครับ เมื่อแกะแล้วต้องมาประกอบเองทั้งหมดเพราะเวลาใส่กล่องนั้นจะถอดขาตั้งออก เป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อนะครับ ส่วนขอบหน้าจอ ขอบล่างอะไรก็งานประกอบตามเรทราคาของรุ่นนี้ พร้อมกับโลโก้ realme ขอบล่างตรงกลาง และปุ่มเปิด/ปิดเช่นกัน
ส่วนทางด้านลำโพงนั้นจะยิงออกมาด้านล่าง ข้างละ 2 ตัวรวมทั้งหมด 24W ส่วนขาตั้งนั้นจะเป็นทรงเดียวกันเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดรูปทรงเดียวกันมียางรองข้างล่างพอใช้งานได้ เพราะตัวทีวีไม่ได้หนัก ทำให้ขาตั้งแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเน้นความพรีเมี่ยมเป็นโลหะทำสีอะไรนั้นน่าจะดูแพงกว่า เลยแอบดูพลาสติกเยอะไปนิดหน่อย ส่วนระบายความร้อนด้านหลังนั้นยิงออกส่วนบนปกติครับเป็นมาตรฐานของทีวีหลายๆแบรนด์จะ Layout ประมาณนี้เลย พร้อมกับ รูสำหรับการยึดติดผนังเป็นมาตรฐาน พร้อมใช้งานทั้ง 2 ขนาด ตามมาตรฐาน VESA
SPEC 32 นิ้ว
- หน้าจอขนาด 32 นิ้ว (1366 × 768 พิกเซล) HD, มุมมอง 178 องศา ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
- การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
- ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
- มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
- Android TV 9.0
- มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in
- Netflix, YouTube, Prime Video
- Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
- HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
- รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
- speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B
SPEC 43 นิ้ว
- หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
- การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
- ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
- มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
- Android TV 9.0
- มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in
- Netflix, YouTube, Prime Video
- Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
- HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
- รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
- speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B
SCREEN
หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับ ถอดรหัส HDR 10 แน่นอนว่าในภาพถ่ายนั้นจะเป็นหน้าจอตัว 43 นิ้วส่วนเรื่องของสีสัน ความสวย ความสว่างทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างกันรองรับมุมมองได้ดีเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันแค่ความละเอียด แต่สีสัน ความสวย มิติของสีนั้นเหมือนกันอย่างมาก แค่ความคมชัดตัว 43 นิ้วจะทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยความละเอียดที่มากกว่า ส่วนความสว่างก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากๆครับ ตัวภาพสวย มิติสีดีพอสมควร สีสดกำลังดีไม่เวอร์มากนัก ตามเรทราคาและตัวขอบหน้าจออันนี้ถือว่าบาง รองรับการถอดรหัสวีดีโอมาตรฐาน HDR10 และ โหมดภาพ HLG แต่หน้าจอภาพไม่ได้แสดงผลแบบ HDR 10 นะครับ
หน้าจอพาแนลนั้นเป็นแบบ LED ทั้ง 2 ขนาดแต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความละเอียดและการรองรับ ส่วนมุมมองของหน้าจอ การเพี้ยนหรือดรอปของสีหน้าจอนั้นไม่ได้แตกต่างกันทั้ง 2 รุ่นเจออาการเดียวกันครับเมื่อมองในด้านข้างข้อดีของรุ่นนี้คือหนา้จอสีไม่เพี้ยนแม้จะมองจากด้านข้างมากๆหรือเอียงมากก็ไม่เจออาการเพี้ยนของสี ซึ่งถ้ามองเทียบกับในเรทราคาแบบนี้ตัวอื่นๆค่ายอื่นมีเพี้ยนเยอะกว่านี้ชัดเจน จุดนี้ถือว่าดี แต่การดรอปของความสว่างของหน้าจอนั้นมีอยู่บ้างตามภาพเลยนั้นเองก็เป็นปกติ ที่มุมมองแบบนี้แอบดรอปลงนิดหน่อย แต่สียังคงแม่นยำอยู่นะอันนี้สำคัญครับซึ่งหน้าจอของทาง realme รอบนี้ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของสีสันและรองรับมุมมองที่ค่อนข้างกว้างมากๆ
งานออกแบบขอบหน้าจอนั้นถือว่ามีความบางถ้าหากมองเทียบกับบรรดาทีวีเรทราคานี้ครับถือว่างานออกแบบมีความโดดเด่นพอสมควรแต่เรื่องงานประกอบ วัสดุอะไรพวกนี้ก็ตามเรทราคาของบรรดาทีวีพวกนี้ ส่วนหน้าจอพาแนลสวยงามสีสดและสว่างพอสมควร น่าจะได้เทคโนโลยี Chromaboost เข้ามาช่วยที่เราจะเห็นได้ในมือถือของ realme นั้นเองทำให้เวลาใช้งานกลางวันนั้นถือว่าสบายๆสู้แสงได้ เจอพวกแสงเงากระทบก็ยังพอเห็นหน้าจอชัด
SPEAKER
ไม่ค่อยเห็นทีวีในเรท 4-5 พันที่จะให้ลำโพง 4 ตัวครับ และ ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาที่ 4 ตัวรองรับระบบเสียง Dolby Audio Stereo 4 ตัว 24W ทำให้เรื่องของเสียงนั้นรองรับการใช้งานได้ค่อนข้างดีทั้งในเรื่องของเสียงเวลาดูทีวีทั่วไปหรือจะเป็นการดู Content ต่างๆทั้ง NETFLIX – SPOTIFY รวมถึง YOUTUBE ต้องบอกว่าการที่ลำโพงให้มานั้นถือว่าถ้าเน้นในเรื่องของกำลังขับเสียงนั้นสามารถรองรับได้สบายมีความดังแม้จะปรับแค่ ครึ่งนึงก็ตาม และการเปิด Dolby นั้นทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น กังวานมากขึ้น แต่ถ้ามองเทียบกับบรรดาเรทราคานี้ลำโพงตัวนี้ถือว่าดังกว่าคู่แข่งดีกว่าชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของทีวี พวกเสียงเบส หรือ ย่านต่ำนั้นก็จะไม่ได้เยอะมากเป็นปกติของบรรดาทีวีพวกนี้ครับ แต่เน้นเสียงคนพูดชัดถือว่าตอบโจทย์มากๆครับ TV สร้างความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 148Hz ถึง 20,000Hz ซึ่งในแต่ละข้างนั้นจะ ประกอบด้วยลำโพง Full-Range 1 ตัว และลำโพง Tweeter 1 ตัว เมื่อทั้ง 2 ชุดทำงานร่วมกัน มีกำลังไฟถึง 24W ทำให้เป็นทีวีที่โดดเด่นในเรื่องของลำโพงมากๆตัวนึงในเรทราคาประมาณนี้
[SR] รีวิว realme SMART TV ขนาด 32 นิ้ว และ 43 นิ้ว Android TV ภาพสวยสด ลำโพงดี !
realme นั้นยังคงเดินหน้าพัฒนาสินค้าที่มีความหลากหลายที่จะมาเติมเต็ม AIoT ของตัวเองทั้งหมดทำให้มีความครอบคลุมมากขึ้นและล่าสุดก็ถึงคิวของ realme Smart TV ที่จะมาลุยตลาดทีวีกันแล้วในประเทศไทยครับ เรียกได้ว่ามีความแปลกใหม่พอสมควรที่ค่ายมือถือนั้นจะเอาทีวีเข้ามาสู้กับตลาดทีวีในไทย แต่ด้วยชื่อ realme ก็เป็นตัวช่วยทำให้มีความมั่นใจได้เรื่องของ ราคา และ สเปกที่ทำออกมาได้ค่อนข้างโดดเด่นเช่นเดียวกับมือถือของตัวเอง รวมถึงการรับประกันจากทางศูนย์ไทย พร้อมกับระยะเวลา 3 ปีเต็มๆทำให้มีความเด่นมากขึ้นในการใช้งาน และมั่นใจได้ ทางด้านสเปกนั้นแน่นอนว่ามาพร้อมหน้าจอ LED ที่รองรับการใช้งานกับเทคโนโลยี Chroma Boost รวมถึงลำโพง 4 ตัวรองรับ Dolby Audio 24W และ การที่เป็น Android TV ทั้งหมดทำให้รองรับการเชื่อมต่อ การใช้งานที่ดีขึ้นและทำราคาได้ดี เริ่มต้น 4,999 บาทเท่านั้นในขนาด 32 นิ้ว แต่ได้ฟีเจอร์ ทุกอย่างเหมือนกับรุ่น 43 นิ้วทั้งหมดเลย
realme Smart TV เปิดตัวมาด้วยการนำเทคโนโลยี Chroma Boost จากสมาร์ทโฟนมาด้วย แน่นอนว่าเปิดใช้งานตลอดเป็นเทคโนโลยีที่จะช่วยให้หน้าจอภาพนั้นมีความสว่างขึ้น พร้อมกับ สีสวยสดขึ้น ค่า Contrast สูงขึ้นพร้อมกับสเปกความสว่างสูงสุด 40nits หน้าจอขอบบาง 8.7 มิลลิเมตร และให้มุมกว้างถึง 178 องศา ถ้ามองเทียบสเปกถือว่าดีเกินราคาอยู่เช่นกัน และยังคงมีฟีเจอร์ Chromecast ในตัวเป็นฟีเจอร์ที่มาพร้อมกับ Android TV และทำให้ใช้งาน Google Assistant ใช้คำสั่งเสียงได้เลย รองรับภาษาไทย และรวมถึงรองรับแอป Youtube, Netflix, Prime, Disney+ ได้แบบ Official ความละเอียดสูงทั้งหมดครับ หรือจะแอปอื่นๆก็สามารถใช้งานตัว Play Store ก็มีให้เลือกอีกกว่า 5,000 แอป ทางด้านสเปกนั้นใช้งาน CPU MediaTek แบบ Quad-Core ใช้ RAM 1GB มีความจุภายใน 8GB มีลำโพงคู่ในตัว และรวมทั้งหมด ฝั่ง ละ 2 ตัวครับทำให้รองรับเสียงที่ดีพอสมควรเลยแหละ มีความดังกำลังขับสูงพร้อมรองรับระบบ Dolby 24W เช่นกัน ส่วนหน้าจอนั้นเป็น LED ก็ภาพอะไรสวยงามเช่นกันรองรับ Content ได้ดี รวมถึงตัวรีโมท มีไมค์สั่งงานรองรับได้สบายและ ช่องเชื่อมต่อครบๆเลย
realme Smart TV เปิดราคาในไทย 32 นิ้ว HD 4,999 บาท และ 43 นิ้ว FHD 7,999 บาท พร้อมขายเร็วๆนี้ รอติดตามกันอีกที พร้อมการรับประกัน 3 ปีเต็ม
UNBOX 32 นิ้ว
- ตัวเครื่อง realme smart TV
- ขาตั้ง 2 ข้าง
- รีโมท
- ถ่าน AAA 2 ก้อน
- คู่มือ และ การติดตั้ง
UNBOX 43 นิ้ว
- ตัวเครื่อง realme smart TV
- ขาตั้ง 2 ข้าง
- รีโมท
- ถ่าน AAA 2 ก้อน
- คู่มือ และ การติดตั้ง
- สายแปลง AV ออก 3 ช่อง
DESIGN
งานออกแบบทีวีนั้นก็ถือว่าเป็นมาตรฐานทั่วไปครับขาตั้งมุมซ้ายขวาพร้อมกับหน้าจอที่มีความบาง แต่ทางด้าน realme นั้นจะเด่นตรงเรื่องของขอบหน้าจอที่ต้องบอกว่ามีความบางมากๆ เมื่อเทียบกับคู่แข่งและชนิดของหน้าจอที่เป็น LED สวยงามพอสมควรครับและได้เทคโนโลยี Chroma Boost เสริมเข้ามาทำให้มีความสว่างสด สีสันทำได้ดีส่วนน้ำหนักค่อนข้างเบาถือเปลี่ยนที่วางได้แบบถือข้างเดียวได้สบายๆครับไม่ได้หนัก และ มีความบางพอสมควร น้ำหนักตัว 32 นิ้วจะอยู่ที่ 3.7 กิโลกรัม ส่วนทางด้าน 43 นิ้วจะอยู่ที่ 6.7 กิโลกรัม สำหรับความต่าง 3 กิโลกรัม realme Smart TV ผ่านการทดสอบมาตรฐานอย่างเข้มงวด อาทิ ทดสอบในห้องอุณหภูมิต่ำถึง -20℃ ตกจากที่สูงกว่า 760mm กดใช้งานปุ่มกว่า 5,000 ครั้ง กดเปิด-ปิด กว่า 5,500 ครั้งและอื่นๆ นอกจากนี้ ยังผ่านมาตรฐาน ระดับสากล ISTA
จะเห็นว่าขนาดนั้นมีความแตกต่างกัน ตัวเล็กที่ 32 นิ้ว และตัวใหญ่ 43 นิ้วครับส่วนทางด้านงานออกแบบนั้นใช้งานแบบเดียวกันทั้งหมด ทั้งขาตั้ง ส่วนขอบหน้าจอที่มีความบางเท่ากัน รวมถึงงานออกแบบด้านข้างและด้านหลังนั้นเหมือนกันทั้งหมด จะเห็นได้เลยว่างานประกอบด้านหลังเป็นชิ้นเดียวกันทั้งหมดถือว่าดูดี และเส้นสายอะไรนั้นคล้ายกัน และขอบด้านข้างหน้าจอนั้นมีความบางและที่สำคัญคือเรื่องของพอร์ตเชื่อมต่อทั้ง 2 ขนาดให้มาเหมือนกันทั้งหมด
งานประกอบ วัสดุตามขอบนั้นจะเป็นพลาสติกทั้งหมด รวมถึงขาตั้งทั้ง 2 ข้างเป็นพลาสติกสีดำทั้งหมดครับ เมื่อแกะแล้วต้องมาประกอบเองทั้งหมดเพราะเวลาใส่กล่องนั้นจะถอดขาตั้งออก เป็นแบบนี้ทุกยี่ห้อนะครับ ส่วนขอบหน้าจอ ขอบล่างอะไรก็งานประกอบตามเรทราคาของรุ่นนี้ พร้อมกับโลโก้ realme ขอบล่างตรงกลาง และปุ่มเปิด/ปิดเช่นกัน
ส่วนทางด้านลำโพงนั้นจะยิงออกมาด้านล่าง ข้างละ 2 ตัวรวมทั้งหมด 24W ส่วนขาตั้งนั้นจะเป็นทรงเดียวกันเป็นวัสดุพลาสติกทั้งหมดรูปทรงเดียวกันมียางรองข้างล่างพอใช้งานได้ เพราะตัวทีวีไม่ได้หนัก ทำให้ขาตั้งแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าเน้นความพรีเมี่ยมเป็นโลหะทำสีอะไรนั้นน่าจะดูแพงกว่า เลยแอบดูพลาสติกเยอะไปนิดหน่อย ส่วนระบายความร้อนด้านหลังนั้นยิงออกส่วนบนปกติครับเป็นมาตรฐานของทีวีหลายๆแบรนด์จะ Layout ประมาณนี้เลย พร้อมกับ รูสำหรับการยึดติดผนังเป็นมาตรฐาน พร้อมใช้งานทั้ง 2 ขนาด ตามมาตรฐาน VESA
SPEC 32 นิ้ว
- หน้าจอขนาด 32 นิ้ว (1366 × 768 พิกเซล) HD, มุมมอง 178 องศา ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
- การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
- ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
- มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
- Android TV 9.0
- มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in
- Netflix, YouTube, Prime Video
- Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
- HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
- รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
- speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B
SPEC 43 นิ้ว
- หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับถอดรหัส HDR 10
- การแสดงผล 7 รูปแบบ : มาตรฐาน, สดใส, กีฬา, ภาพยนตร์, เกม, ประหยัดพลังงาน
- ชิปประมวลผล Quad-Core Cortex A53 MediaTek
- มาพร้อมการ์ดจอ Mali-470 MP3 RAM 2133MHz 1GB, ความจำ 8GB
- Android TV 9.0
- มาพร้อม Chromecast แบบ Built-in
- Netflix, YouTube, Prime Video
- Wi-Fi 802.11 b/g/n (2.4GHz), Bluetooth 5.0
- HDMI x 3 (มี 1 ช่องรองรับ ARC), USB x 2, SPDIF, DVB-T2, Ethernet,
- รองรับ H.264, H.263, MPEG1/2/4, etc.
- speakers 12W x 2 + tweeter x 2, รองรับ Dolby Audio MS12B
SCREEN
หน้าจอขนาด 43 นิ้ว (1920 × 1080พิกเซล) Full HD ที่มีความสว่างสูงสุด 400 nits, มุมมอง 178 องศา, รองรับ ถอดรหัส HDR 10 แน่นอนว่าในภาพถ่ายนั้นจะเป็นหน้าจอตัว 43 นิ้วส่วนเรื่องของสีสัน ความสวย ความสว่างทั้ง 2 รุ่นนี้ไม่ได้แตกต่างกันรองรับมุมมองได้ดีเหมือนกัน แต่จะแตกต่างกันแค่ความละเอียด แต่สีสัน ความสวย มิติของสีนั้นเหมือนกันอย่างมาก แค่ความคมชัดตัว 43 นิ้วจะทำได้ดีกว่าพอสมควรด้วยความละเอียดที่มากกว่า ส่วนความสว่างก็ถือว่าใกล้เคียงกันมากๆครับ ตัวภาพสวย มิติสีดีพอสมควร สีสดกำลังดีไม่เวอร์มากนัก ตามเรทราคาและตัวขอบหน้าจออันนี้ถือว่าบาง รองรับการถอดรหัสวีดีโอมาตรฐาน HDR10 และ โหมดภาพ HLG แต่หน้าจอภาพไม่ได้แสดงผลแบบ HDR 10 นะครับ
หน้าจอพาแนลนั้นเป็นแบบ LED ทั้ง 2 ขนาดแต่จะแตกต่างกันในเรื่องของความละเอียดและการรองรับ ส่วนมุมมองของหน้าจอ การเพี้ยนหรือดรอปของสีหน้าจอนั้นไม่ได้แตกต่างกันทั้ง 2 รุ่นเจออาการเดียวกันครับเมื่อมองในด้านข้างข้อดีของรุ่นนี้คือหนา้จอสีไม่เพี้ยนแม้จะมองจากด้านข้างมากๆหรือเอียงมากก็ไม่เจออาการเพี้ยนของสี ซึ่งถ้ามองเทียบกับในเรทราคาแบบนี้ตัวอื่นๆค่ายอื่นมีเพี้ยนเยอะกว่านี้ชัดเจน จุดนี้ถือว่าดี แต่การดรอปของความสว่างของหน้าจอนั้นมีอยู่บ้างตามภาพเลยนั้นเองก็เป็นปกติ ที่มุมมองแบบนี้แอบดรอปลงนิดหน่อย แต่สียังคงแม่นยำอยู่นะอันนี้สำคัญครับซึ่งหน้าจอของทาง realme รอบนี้ถือว่าทำได้ดีในเรื่องของสีสันและรองรับมุมมองที่ค่อนข้างกว้างมากๆ
งานออกแบบขอบหน้าจอนั้นถือว่ามีความบางถ้าหากมองเทียบกับบรรดาทีวีเรทราคานี้ครับถือว่างานออกแบบมีความโดดเด่นพอสมควรแต่เรื่องงานประกอบ วัสดุอะไรพวกนี้ก็ตามเรทราคาของบรรดาทีวีพวกนี้ ส่วนหน้าจอพาแนลสวยงามสีสดและสว่างพอสมควร น่าจะได้เทคโนโลยี Chromaboost เข้ามาช่วยที่เราจะเห็นได้ในมือถือของ realme นั้นเองทำให้เวลาใช้งานกลางวันนั้นถือว่าสบายๆสู้แสงได้ เจอพวกแสงเงากระทบก็ยังพอเห็นหน้าจอชัด
SPEAKER
ไม่ค่อยเห็นทีวีในเรท 4-5 พันที่จะให้ลำโพง 4 ตัวครับ และ ทางด้านลำโพงในรุ่นนี้ให้มาที่ 4 ตัวรองรับระบบเสียง Dolby Audio Stereo 4 ตัว 24W ทำให้เรื่องของเสียงนั้นรองรับการใช้งานได้ค่อนข้างดีทั้งในเรื่องของเสียงเวลาดูทีวีทั่วไปหรือจะเป็นการดู Content ต่างๆทั้ง NETFLIX – SPOTIFY รวมถึง YOUTUBE ต้องบอกว่าการที่ลำโพงให้มานั้นถือว่าถ้าเน้นในเรื่องของกำลังขับเสียงนั้นสามารถรองรับได้สบายมีความดังแม้จะปรับแค่ ครึ่งนึงก็ตาม และการเปิด Dolby นั้นทำให้เสียงมีมิติมากขึ้น กังวานมากขึ้น แต่ถ้ามองเทียบกับบรรดาเรทราคานี้ลำโพงตัวนี้ถือว่าดังกว่าคู่แข่งดีกว่าชัดเจน แต่ด้วยข้อจำกัดของทีวี พวกเสียงเบส หรือ ย่านต่ำนั้นก็จะไม่ได้เยอะมากเป็นปกติของบรรดาทีวีพวกนี้ครับ แต่เน้นเสียงคนพูดชัดถือว่าตอบโจทย์มากๆครับ TV สร้างความถี่เสียงได้ตั้งแต่ 148Hz ถึง 20,000Hz ซึ่งในแต่ละข้างนั้นจะ ประกอบด้วยลำโพง Full-Range 1 ตัว และลำโพง Tweeter 1 ตัว เมื่อทั้ง 2 ชุดทำงานร่วมกัน มีกำลังไฟถึง 24W ทำให้เป็นทีวีที่โดดเด่นในเรื่องของลำโพงมากๆตัวนึงในเรทราคาประมาณนี้
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้