สวัสดีเพื่อนๆพี่ๆน้องๆชาวห้องสินธรทุกท่านครับ
ปีนี้ถือเป็นปีที่เปี่ยมคุณค่ามากสำหรับนักลงทุนอย่างเราๆ เพราะได้เจอทั้งตลาดหมีและตลาดกระทิงในปีเดียวกัน ลงสุดขึ้นสุด และเป็นปีที่ผมสามารถเอาไปบอกลูกบอกหลานได้ว่าผมเคยได้ร่วมหัวจมท้ายกับตลาดหุ้นมาแล้ว โดยตอนเดือนก.พ.- มี.ค. 63 ผมไม่ได้ขายหุ้นเลย หุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา โดนมาทุก circuit breaker
มาดูพอร์ตแรก (พอร์ตหลัก) ของผมกันดีกว่า

ถ้าใครเคยอ่านกระทู้ก่อนๆของผมคงทราบว่าผมเคยขาดทุนหนักจากการซื้อ-ขายหุ้น เลยทำให้ผมตั้งปณิธานว่าจะไม่ลงทุนในหุ้นอีกและหันมาทำ DCA กองทุนหุ้น growth แทน และปีนี้ผมก็ได้กองทุน 1 เด้งมาครองสมใจอยาก
พอร์ตที่สอง (พอร์ตเล็ก) คือ พอร์ตที่ผมใช้ฝึกเพื่อปูทางกลับไปซื้อหุ้นรายตัวอีกครั้ง (ช่วยไม่ได้ใครๆก็อยากเป็นเซียนหุ้นกันทั้งนั้นเนอะ)

โดยพอร์ตนี้อายุยังไม่ถึง 3 เดือนดี เริ่มแรกเลยยังไม่กล้าซื้อหุ้น มาซื้อ ETF ดูก่อน อยากจะลองเล่นสั้นเพื่อ capture ตัว uptrend จากสามเหลี่ยมขาขึ้น (Ascending triangle) ที่กำลังก่อตัวในดัชนี Nasdaq-100 (สูตรเสี่ยป๋อง) ผมไม่เคยเล่นเทคนิค แต่ไม่ลองไม่รู้ครับ ถ้าพลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียน
สรุปผลการลงทุนปี 63
มูลค่าพอร์ตวันที่ 27 ธ.ค. 2563 = 1,108,118 บาท
มูลค่าพอร์ตวันที่ 27 ธ.ค. 2562 = 365,590 บาท
YoY Gain = 203.1% (แน่นอนว่า gain นี้มาจากทั้ง capital gain และการใส่เงินเพิ่ม)
ผมพอใจกับผลการลงทุนปีนี้ พอร์ตผมไม่ใหญ่แต่ผมถือว่าผมมาไกลพอสมควรจากคนที่เคยเห็นตลาดหุ้นเป็นบ่อน ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมมีวินัยมากกว่าเดิม ผม stick to the plan มาตลอดทั้งปีและไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยน ผมว่าผมไม่ต้องได้หุ้น 10 เด้ง (tenbaggers) แบบ Peter Lynch ผมก็มีความสุขในการลงทุนได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ผมคิดถึงหุ้นพวกนี้ผมจะมีแต่ความโลภ และชีวิตที่มีความโลภมากไปแบบนั้นมันไม่มีความสุขเอาเสียเลย
แผนการลงทุนปี 2564
1. ผมคิดว่าผมคงทำ DCA กองทุนต่อ - มีเพื่อนนักลงทุนบอกให้ขายทำกำไร แต่ผมมองยาวกว่านั้น มันต้องมี correction บ้างแหละครับ แต่ผมคิดว่า let the winners run ดีกว่า มันตกผมซื้อเพิ่ม ดร.นิเวศน์เคยบอกว่า 'ขายไม่เป็น' ผมจะลองทำตามดู
2. ผมจะลองกลับมาซื้อหุ้น - แต่คงจะลงแบบ diversified 10-20 ตัว ตาม themes แบบของ Ark Invest และจะยังคงใช้ DCA มาช่วยในการเข้าซื้อ ผมยังไม่เชื่อว่าเทคนิคอลจะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
3. ลงทุนใน cryptocurrency - ผมว่าถ้ามีเงินสดเหลืออาจจะได้ลองซื้อ crypto assets ดูบ้าง fiat currency มีแต่จะลดมูลค่า และยิ่ง Federal reserve สหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะเพิ่มดอกเบี้ย (Federal funds rate) รวมทั้งยังจะซื้อ government-backed securities ต่อเนื่องอีกหลายปี เขาว่ากันว่า hurdle rate ของการลงทุน (cost of capital) อาจจะสูงถึง 15% ต่อปีตลอด 4-5 ปี ข้างหน้า ถ้าหาก cryptocurrency คือคำตอบของการทำ wealth preservation ผมว่าเราอาจจะได้เห็น growth เฉลี่ยหลัก 15% ต่อปีใน bitcoin เทียบกับ USD
หากมีอะไรอยากแชร์ ตำหนิติชม เชิญมาคอมเมนต์ได้เลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน
สรุปผลการลงทุนปี 2563 ของผมและมาแชร์แผนการลงทุนปีหน้ากันครับ
ปีนี้ถือเป็นปีที่เปี่ยมคุณค่ามากสำหรับนักลงทุนอย่างเราๆ เพราะได้เจอทั้งตลาดหมีและตลาดกระทิงในปีเดียวกัน ลงสุดขึ้นสุด และเป็นปีที่ผมสามารถเอาไปบอกลูกบอกหลานได้ว่าผมเคยได้ร่วมหัวจมท้ายกับตลาดหุ้นมาแล้ว โดยตอนเดือนก.พ.- มี.ค. 63 ผมไม่ได้ขายหุ้นเลย หุ้นเต็มพอร์ตตลอดเวลา โดนมาทุก circuit breaker
มาดูพอร์ตแรก (พอร์ตหลัก) ของผมกันดีกว่า
ถ้าใครเคยอ่านกระทู้ก่อนๆของผมคงทราบว่าผมเคยขาดทุนหนักจากการซื้อ-ขายหุ้น เลยทำให้ผมตั้งปณิธานว่าจะไม่ลงทุนในหุ้นอีกและหันมาทำ DCA กองทุนหุ้น growth แทน และปีนี้ผมก็ได้กองทุน 1 เด้งมาครองสมใจอยาก
พอร์ตที่สอง (พอร์ตเล็ก) คือ พอร์ตที่ผมใช้ฝึกเพื่อปูทางกลับไปซื้อหุ้นรายตัวอีกครั้ง (ช่วยไม่ได้ใครๆก็อยากเป็นเซียนหุ้นกันทั้งนั้นเนอะ)
โดยพอร์ตนี้อายุยังไม่ถึง 3 เดือนดี เริ่มแรกเลยยังไม่กล้าซื้อหุ้น มาซื้อ ETF ดูก่อน อยากจะลองเล่นสั้นเพื่อ capture ตัว uptrend จากสามเหลี่ยมขาขึ้น (Ascending triangle) ที่กำลังก่อตัวในดัชนี Nasdaq-100 (สูตรเสี่ยป๋อง) ผมไม่เคยเล่นเทคนิค แต่ไม่ลองไม่รู้ครับ ถ้าพลาดก็ถือว่าเป็นบทเรียน
สรุปผลการลงทุนปี 63
มูลค่าพอร์ตวันที่ 27 ธ.ค. 2563 = 1,108,118 บาท
มูลค่าพอร์ตวันที่ 27 ธ.ค. 2562 = 365,590 บาท
YoY Gain = 203.1% (แน่นอนว่า gain นี้มาจากทั้ง capital gain และการใส่เงินเพิ่ม)
ผมพอใจกับผลการลงทุนปีนี้ พอร์ตผมไม่ใหญ่แต่ผมถือว่าผมมาไกลพอสมควรจากคนที่เคยเห็นตลาดหุ้นเป็นบ่อน ตอนนี้ผมรู้สึกว่าผมมีวินัยมากกว่าเดิม ผม stick to the plan มาตลอดทั้งปีและไม่มีความคิดที่จะเปลี่ยน ผมว่าผมไม่ต้องได้หุ้น 10 เด้ง (tenbaggers) แบบ Peter Lynch ผมก็มีความสุขในการลงทุนได้ เพราะเมื่อไหร่ที่ผมคิดถึงหุ้นพวกนี้ผมจะมีแต่ความโลภ และชีวิตที่มีความโลภมากไปแบบนั้นมันไม่มีความสุขเอาเสียเลย
แผนการลงทุนปี 2564
1. ผมคิดว่าผมคงทำ DCA กองทุนต่อ - มีเพื่อนนักลงทุนบอกให้ขายทำกำไร แต่ผมมองยาวกว่านั้น มันต้องมี correction บ้างแหละครับ แต่ผมคิดว่า let the winners run ดีกว่า มันตกผมซื้อเพิ่ม ดร.นิเวศน์เคยบอกว่า 'ขายไม่เป็น' ผมจะลองทำตามดู
2. ผมจะลองกลับมาซื้อหุ้น - แต่คงจะลงแบบ diversified 10-20 ตัว ตาม themes แบบของ Ark Invest และจะยังคงใช้ DCA มาช่วยในการเข้าซื้อ ผมยังไม่เชื่อว่าเทคนิคอลจะสร้างความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน
3. ลงทุนใน cryptocurrency - ผมว่าถ้ามีเงินสดเหลืออาจจะได้ลองซื้อ crypto assets ดูบ้าง fiat currency มีแต่จะลดมูลค่า และยิ่ง Federal reserve สหรัฐฯ ไม่มีแผนที่จะเพิ่มดอกเบี้ย (Federal funds rate) รวมทั้งยังจะซื้อ government-backed securities ต่อเนื่องอีกหลายปี เขาว่ากันว่า hurdle rate ของการลงทุน (cost of capital) อาจจะสูงถึง 15% ต่อปีตลอด 4-5 ปี ข้างหน้า ถ้าหาก cryptocurrency คือคำตอบของการทำ wealth preservation ผมว่าเราอาจจะได้เห็น growth เฉลี่ยหลัก 15% ต่อปีใน bitcoin เทียบกับ USD
หากมีอะไรอยากแชร์ ตำหนิติชม เชิญมาคอมเมนต์ได้เลยครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน