ทริปนี้ เรากับเพื่อนแพลนกันมาเป็นเดือน แต่พอมีข่าวว่า "มีคนติดโควิคที่แม่สาย"

เฮ้อ.... เอาไงอ่ะ มีแต่คนยกเลิกทริป
แต่เราก็ตัดสินใจไป ไม่อยากยกเลิก งานนี้เลยต้องป้องกันตัวเองสุดๆ พกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวและใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ

ทริปนี้ไปกัน 4 คน เราใช้บริการรถประจำทาง เช่ารถ+คนขับ และรถเพื่อน ไปเครื่องบิน กลับรถทัวร์ เริ่มเลยละกัน
วันแรก เดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง ไฟล์ 6.45 น. ถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 8.20 น. จุดหมายแรกของเราคือ แม่กำปอง
จากที่ทำการบ้านมา มีรถตู้จอดตรงตลาดวโรรสไปแม่กำปอง ต้องจองล่วงหน้า เราก็จองไว้ 9.30 น. ค่ารถไปกลับคนละ 300 บาท
ออกจากสนามบิน เราใช้บริการรถแท็กซี่ของสนามบินไปตลาดวโรรถ ค่ารถ 150 บาท
ก่อนรถออก พนักงานก็จะวัดไข้ แจกเจลล้างมือ และแนะนำข้อมูลการท่องเที่ยวของหมู่บ้านแม่กำปอง ซึ่งถือว่าดีมาก จากตัวเมืองไปแม่กำปองใช้เวลาประมาณ 1.30 ชม. เส้นทางไม่ชันมาก รถตู้จะจอดที่ศูนย์การเรียนรู้ของหมู่บ้านและเป็นที่จอดรถของหมู่บ้านด้วย ที่พักใครไกลถ้าไม่อยากเดิน ก็มีรถ 2 แถวบริการ
ถึงแล้ว ที่พักของเรา
ที่นี่เป็นบ้านไม้ มีหลายห้อง ห้องที่เราจองไว้นอนได้ 4 คน ห้องน้ำในตัว มีเครื่องทำน้ำอุ่น ที่พักสะอาด เจ้าของก็ใจดี แต่มีข้อเสียนิดนึง คือไม่เก็บเสียง ห้องข้างๆ คุยเสียงดัง เค้าคงไม่รู้ว่าห้องไม่เก็บเสียงต้องเดินไปบอก
ที่พักของเราอยู่บนเนินเล็กๆ ด้านบนมีระเบียงชมวิวด้วย
เช็คอินแล้วออกไปเดินเที่ยวได้ เนื่องจากที่แม่กำปอง เป็นดินแดนแห่งการปลูกกาแฟ และมีจุดขายคือร้านกาแฟ ที่นี่จึงมีร้านกาแฟเยอะมากแต่ละร้านก็มีจุดขายไม่เหมือนกัน เราไปชมและชิมกาแฟกันเลย
ร้านกาแฟลุงปุ๊ดกับป้าเป็ง ร้านนี้เค้าบอกว่าเป็นร้านกาแฟแห่งแรกและเป็นไฮไลท์ที่เป็นสัญลักษณ์ของแม่กำปอง ใครมาก็ต้องมาเช็คอินที่นี่ ไม่งั้นมาไม่ถึงแม่กำปอง
กาแฟรสชาติดี เค้กอร่อย ให้ผ่านค่ะ

ด้านหลังร้านมีที่นั่ง และมีลำธารให้ลงไปถ่ายรูปได้
มื้อกลางวันเราฝากท้องไว้ที่ ร้านข้าวซอยกลอยใจ อยู่ตรงข้ามร้านกาแฟลุงปุ๊ดป้าเป็ง เราสั่งข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว แหนมย่าง อร่อยทุกอย่าง
ให้ผ่านค่ะ
อิ่มแล้วเดินเล่นกันต่อเลย
หมู่บ้านแม่กำปองนอกจากจะมีร้านแฟ ที่มีวิวให้ถ่ายรูป ยังมีวัด น้ำตก ร้านค้าให้เดินเล่นถ่ายรูป
ต้นกาแฟ มีปลูกอยู่ทั่วหมู่บ้าน
ร้านกาแฟ Teddu ที่นี่มีจุดขายที่สะพานเชือก ต้องซื้อกาแฟ 1 แก้วต่อ 1 คน ถึงจะได้ขึ้นสะพาน ด้านล่างมีน้ำตกเล็กๆ ให้ถ่ายรูป
ออกจากร้าน เราเดินกันจนถึงวัดแม่กำปอง จุดหมายของเราคือร้านกาแฟชมนกชมไม้ แต่มันต้องเดินขึ้นเขาอีกพอสมควร โชคดีที่นี่มีรถสองแถวให้บริการคนละ 20 บาท
>>>>วัดแม่กำปอง<<<<
นั่งรถซิค่ะรออะไร
รถมาจอดที่ "ร้านกาแฟระเบียงวิว" ที่นี่มีที่พักด้วยน๊าาา

เราไม่ได้ชิมกาแฟร้านนี้ (เพราะขนมหมด) ชมวิวอย่างเดียว
มีพร๊อพให้ยืมถ่ายรูปด้วย
ข้างๆ กันมีอีกร้าน "กาแฟอิงดาว" มีเค้กน่ากินมากกก เราเลยชิมเค้ก ชิมกาแฟ...อีกแล้ว (คืนนี้ไม่ต้องนอนแหละ กินกาแฟขนาดนี้) แต่เรายอม อยากลองชิม .............. เฮ้ย!! อร่อย เอาใจไปเลย

เราหาร้าน "กาแฟชมนกชมไม้" ไม่เจอเลยไม่ได้ไป มารู้อีกที่ว่าอยู่เยื้องกับ "ร้านระเบียงวิว" ไม่งั้นคงได้ชิมกาแฟอีก
ออกจากร้านกาแฟ เราเดินกันไป "น้ำตกแม่กำปอง" "เค้าบอกไม่ไกล" ได้ยินเสียงน้ำไหล แต่ไม่ถึงสักที แอบหวั่นใจ แต่พอดีมีเพื่อนร่วมทางเดินผ่านมา ก็อุ่นใจเดินกันจนถึง ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา
ถึงแล้ว "น้ำตกแม่กำปอง"

มื้อเย็นที่บ้านพักมีบริการ หมูจุ่ม เลยฝากท้องที่นี่ อะไรจะดีไปกว่าบรรยากาศดีๆ อากาศเย็นๆ กินร้อนๆ ฟินสุดๆ จัดไปค่ะ 2 ชุด

อิ่มแล้วเดินย่อยกันสักหน่อย บรรยากาศตอนกลางคืน ก็สวยไปอีกแบบ ที่นี่เค้ามีกฏห้ามส่งเสียงดัง ร้องเพลง เล่นดนตรี หลัง 21.00 น.
เดินเล่นถ่ายรูปสักพัก กลับที่พัก พรุ่งนี้ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ชมทะเลหมอกที่กิ่วฝิ่นที่นี่เป็นรอยต่อระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับลำปาง
จะสวยงามขนาดไหน เจอกันพรุ่งนี้ ราตรีสวัสด์
วันที่ 2 เวลา 05.30 น. อรุณสวัสดิ์ ณ แม่กำปอง รถสองแถวมารับไปกิ่วฝิ่น ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ผู้คนรอดูพระอาทิตย์เช้าวันใหม่
บรรยากาศกิ่วฝิ่น หนาวๆ มีร้านค้าเล็กๆ 2-3 ร้าน ขายหมูปิ้ง ข้าวปุกงา กาแฟ นมสด ให้นักท่องเที่ยวรองท้องด้วย
กลับจากกิ่วฝิ่นถึงที่พัก 07.30 น. ทานอาหารเช้าของที่พัก เป็นข้าวต้ม+ไข่ รสชาติดี
ถึงเวลาต้องจากแม่กำปองแล้ว เรานัดรถตู้เที่ยว 9.30 น. ต้องเดินไปขึ้นรถตรงที่รถมาส่ง บ๊าย บาย แม่กำปอง แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ
>>>>>>> แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางขุนเขา อากาศดี กาแฟ+เค้ก อาหารอร่อย ผู้คนน่ารัก เป็นมิตร สรุปว่าประทับใจค่ะ<<<<<<<<<<


จบตอนที่ 1 แม่กำปอง โปรดติดตามตอนที่ 2
ตอนที่ 2 กว่าจะถึงปาย...ข้ามเข้า...ผ่าน 752 โค้ง
รับลมหนาว แม่กำปอง ปาย ลำปาง 3 คืน 4 วัน (9-12 ธ.ค.63)
แต่เราก็ตัดสินใจไป ไม่อยากยกเลิก งานนี้เลยต้องป้องกันตัวเองสุดๆ พกเจลแอลกอฮอล์ติดตัวและใส่แมส ล้างมือบ่อยๆ
วันแรก เดินทางด้วยเครื่องบินจากสนามบินดอนเมือง ไฟล์ 6.45 น. ถึงเชียงใหม่เวลาประมาณ 8.20 น. จุดหมายแรกของเราคือ แม่กำปอง
จากที่ทำการบ้านมา มีรถตู้จอดตรงตลาดวโรรสไปแม่กำปอง ต้องจองล่วงหน้า เราก็จองไว้ 9.30 น. ค่ารถไปกลับคนละ 300 บาท
ออกจากสนามบิน เราใช้บริการรถแท็กซี่ของสนามบินไปตลาดวโรรถ ค่ารถ 150 บาท
ถึงแล้ว ที่พักของเรา
ที่พักของเราอยู่บนเนินเล็กๆ ด้านบนมีระเบียงชมวิวด้วย
ร้านกาแฟลุงปุ๊ดกับป้าเป็ง ร้านนี้เค้าบอกว่าเป็นร้านกาแฟแห่งแรกและเป็นไฮไลท์ที่เป็นสัญลักษณ์ของแม่กำปอง ใครมาก็ต้องมาเช็คอินที่นี่ ไม่งั้นมาไม่ถึงแม่กำปอง
มื้อกลางวันเราฝากท้องไว้ที่ ร้านข้าวซอยกลอยใจ อยู่ตรงข้ามร้านกาแฟลุงปุ๊ดป้าเป็ง เราสั่งข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ไส้อั่ว แหนมย่าง อร่อยทุกอย่าง
ให้ผ่านค่ะ
หมู่บ้านแม่กำปองนอกจากจะมีร้านแฟ ที่มีวิวให้ถ่ายรูป ยังมีวัด น้ำตก ร้านค้าให้เดินเล่นถ่ายรูป
>>>>วัดแม่กำปอง<<<<
ออกจากร้านกาแฟ เราเดินกันไป "น้ำตกแม่กำปอง" "เค้าบอกไม่ไกล" ได้ยินเสียงน้ำไหล แต่ไม่ถึงสักที แอบหวั่นใจ แต่พอดีมีเพื่อนร่วมทางเดินผ่านมา ก็อุ่นใจเดินกันจนถึง ระหว่างทางก็ได้ยินเสียงน้ำไหลตลอดเวลา
จะสวยงามขนาดไหน เจอกันพรุ่งนี้ ราตรีสวัสด์
วันที่ 2 เวลา 05.30 น. อรุณสวัสดิ์ ณ แม่กำปอง รถสองแถวมารับไปกิ่วฝิ่น ค่ารถไป-กลับ คนละ 100 บาท ผู้คนรอดูพระอาทิตย์เช้าวันใหม่
บรรยากาศกิ่วฝิ่น หนาวๆ มีร้านค้าเล็กๆ 2-3 ร้าน ขายหมูปิ้ง ข้าวปุกงา กาแฟ นมสด ให้นักท่องเที่ยวรองท้องด้วย
กลับจากกิ่วฝิ่นถึงที่พัก 07.30 น. ทานอาหารเช้าของที่พัก เป็นข้าวต้ม+ไข่ รสชาติดี
ถึงเวลาต้องจากแม่กำปองแล้ว เรานัดรถตู้เที่ยว 9.30 น. ต้องเดินไปขึ้นรถตรงที่รถมาส่ง บ๊าย บาย แม่กำปอง แล้วจะมาเยี่ยมใหม่นะ
>>>>>>> แม่กำปอง หมู่บ้านเล็กๆ ท่ามกลางขุนเขา อากาศดี กาแฟ+เค้ก อาหารอร่อย ผู้คนน่ารัก เป็นมิตร สรุปว่าประทับใจค่ะ<<<<<<<<<<
จบตอนที่ 1 แม่กำปอง โปรดติดตามตอนที่ 2
ตอนที่ 2 กว่าจะถึงปาย...ข้ามเข้า...ผ่าน 752 โค้ง