#Alive (Il Cho, 2020)
ภายนตร์ซอมบี้ที่น่าจะเหมาะกับช่วงเวลากักตัว คอนเซ็ปท์ค่อนข้างน่าสนใจในการใช้ตัวละครน้อยและให้ตัวละครอยู่ในพื้นที่จำกัด โดยมีซอมบี้หลายล้อม หนังค่อย ๆ สร้างความขัดแย้งระหว่างโลกภายนอกที่กำลังบ้าคลั่งกับตัวละครที่อยู่ในห้องอย่างสบายใจ จนตัวละครเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเองไม่น่าจะอยู่รอดได้อีกต่อไปในสภาพแบบนี้ และลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ความกดดันจึงเกิดจากการสร้างสภาพแวดล้อมและโลเคชั่นที่จำกัด ซึ่งผู้กำกับสามารถสร้างอารมณ์ร่วมและสร้างสถานการณ์ได้ดี แม้ว่าจะมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่ก็ตาม ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ตัวละครต้องเผชิญ เช่น อาหารเริ่มไม่พอ สัญญาณเริ่มไม่มี น้ำไม่มี ทำให้เราร่วมลุ้นเอาใจช่วยว่าตัวละครจะรอดพ้นอย่างไร
อย่างไรก็ดี หนังมีพล็อตเรื่องที่น้อยมาก ทำให้หนังต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครเจอกับสิ่งใหม่ นั้นคือการเจอตัวละครอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในห้องเหมือนกันแต่อยู่คนละตึก ทั้งสองคนพยายามที่จะสื่อสารช่วยเหลือกันและหาวิธีรอดพ้นไปจากห้องตัวเองที่เสบียงเริ่มไม่พอแล้ว ซึ่งพอพล็อตการเอาตัวรอดในห้องปิดตายของพระเอกไปต่อไม่ได้ หนังก็เปิดประตูสู่โลกภายนอกและทิ้งพล็อตเอาตัวรอดห้องปิดตายเป็นหนังแอคชั่นสู้ซอมบี้ ในแง่หนึ่ง การทำแบบนี้ก็ไม่ได้ชวนน่าเบื่อนัก แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไปไม่สุดในพล็อตเริ่มต้นที่วางไว้ ถึงกระนั้น หนังก็เปลี่ยนอารมณ์คนดูในช่วงท้ายเรื่องอีกครั้งให้เป็นแนวสยองขวัญจิตวิทยา ซึ่งพอดูภาพรวมแล้วหนังไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพราะมีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว
การแสดงของ ยูอาอิน กับ พักชินฮเย ช่วยให้ตัวหนังมีเสน่ห์มากขึ้น ง่าย ๆ คือทำให้ตัวหนังดึงดูดให้เราเลือกดูมากขึ้น แม้ว่าบทภาพยนตร์จะไม่ได้มีอะไรมาก แต่เสน่ห์ของนักแสดงนำก็ช่วยให้เราติดตามได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนงานฉาก โปรดักชั่น ทำได้ดีตามมารตฐานหนังเกาหลี ท้ายสุด #Alive เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้เพลิน ๆ แบบไม่คิดอะไรมาก ถือว่าทำได้สนุกสนานในแนวทางหนังซอมบี้เรื่องหนึ่งเลย ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก สามารถรับชมได้อย่างสบาย ๆ
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง

ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page:
https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog:
http://moviesdelightclub.blogspot.com/
#Alive (Il Cho, 2020) รีวิวโดย MDC
ภายนตร์ซอมบี้ที่น่าจะเหมาะกับช่วงเวลากักตัว คอนเซ็ปท์ค่อนข้างน่าสนใจในการใช้ตัวละครน้อยและให้ตัวละครอยู่ในพื้นที่จำกัด โดยมีซอมบี้หลายล้อม หนังค่อย ๆ สร้างความขัดแย้งระหว่างโลกภายนอกที่กำลังบ้าคลั่งกับตัวละครที่อยู่ในห้องอย่างสบายใจ จนตัวละครเริ่มตระหนักได้ว่าตัวเองไม่น่าจะอยู่รอดได้อีกต่อไปในสภาพแบบนี้ และลุกขึ้นมาทำอะไรสักอย่าง ความกดดันจึงเกิดจากการสร้างสภาพแวดล้อมและโลเคชั่นที่จำกัด ซึ่งผู้กำกับสามารถสร้างอารมณ์ร่วมและสร้างสถานการณ์ได้ดี แม้ว่าจะมีความไม่สมเหตุสมผลอยู่ก็ตาม ข้อจำกัดต่าง ๆ ที่ตัวละครต้องเผชิญ เช่น อาหารเริ่มไม่พอ สัญญาณเริ่มไม่มี น้ำไม่มี ทำให้เราร่วมลุ้นเอาใจช่วยว่าตัวละครจะรอดพ้นอย่างไร
อย่างไรก็ดี หนังมีพล็อตเรื่องที่น้อยมาก ทำให้หนังต้องสร้างสถานการณ์ให้ตัวละครเจอกับสิ่งใหม่ นั้นคือการเจอตัวละครอีกตัวหนึ่งที่อยู่ในห้องเหมือนกันแต่อยู่คนละตึก ทั้งสองคนพยายามที่จะสื่อสารช่วยเหลือกันและหาวิธีรอดพ้นไปจากห้องตัวเองที่เสบียงเริ่มไม่พอแล้ว ซึ่งพอพล็อตการเอาตัวรอดในห้องปิดตายของพระเอกไปต่อไม่ได้ หนังก็เปิดประตูสู่โลกภายนอกและทิ้งพล็อตเอาตัวรอดห้องปิดตายเป็นหนังแอคชั่นสู้ซอมบี้ ในแง่หนึ่ง การทำแบบนี้ก็ไม่ได้ชวนน่าเบื่อนัก แต่ก็น่าเสียดายที่หนังไปไม่สุดในพล็อตเริ่มต้นที่วางไว้ ถึงกระนั้น หนังก็เปลี่ยนอารมณ์คนดูในช่วงท้ายเรื่องอีกครั้งให้เป็นแนวสยองขวัญจิตวิทยา ซึ่งพอดูภาพรวมแล้วหนังไม่มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันเพราะมีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียว
การแสดงของ ยูอาอิน กับ พักชินฮเย ช่วยให้ตัวหนังมีเสน่ห์มากขึ้น ง่าย ๆ คือทำให้ตัวหนังดึงดูดให้เราเลือกดูมากขึ้น แม้ว่าบทภาพยนตร์จะไม่ได้มีอะไรมาก แต่เสน่ห์ของนักแสดงนำก็ช่วยให้เราติดตามได้ตลอดรอดฝั่ง ส่วนงานฉาก โปรดักชั่น ทำได้ดีตามมารตฐานหนังเกาหลี ท้ายสุด #Alive เป็นภาพยนตร์ที่ดูได้เพลิน ๆ แบบไม่คิดอะไรมาก ถือว่าทำได้สนุกสนานในแนวทางหนังซอมบี้เรื่องหนึ่งเลย ถ้าไม่คาดหวังอะไรมาก สามารถรับชมได้อย่างสบาย ๆ
ขอให้มีความสุขกับการรับชมภาพยนตร์ครับ
ตัวอย่าง
ติดตามรีวิวภาพยนตร์ได้ที่
Page: https://www.facebook.com/MoviesDelightClub/
Blog: http://moviesdelightclub.blogspot.com/