สวัสดีชาวห้องสินธรทุกคนที่เข้ามาอ่านครับ
ผมไปอยู่ไหนมาตั้งนานไม่รู้ เพิ่งมาได้ดูเลือดข้นคนจาง ep 1 และ ep 2 และได้มาฟังตอนเขาอ่านพินัยกรรมแบ่งมรดก ซึ่งเป็นเหมือน conflict แรกๆ ของเรื่องเลย สรุปใจความได้ว่าอากงแบ่งหุ้นบริษัทจิระอนันต์ (คาดว่าเป็น private company มี shareholders equity ประมาณ 3,000 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2561) เป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน โดยแบ่งให้ ลูกชาย 3 คน และตั่วซุง (ลูกชายของลูกชายคนโต) คนละ 25% คิดเป็นตัวเลขกลมบ้านใหญ่ได้ 1,500 ล้าน ส่วนบ้านลูกชายคนรองทั้งสองได้บ้านละ 750 ล้านบาท ส่วนลูกสาวคนเดียวได้เงิดสด 200 ล้านบาทแทน ไม่ได้หุ้น
ลูกสาวซึ่งเป็นเหมือน managing director ของธุรกิจครอบครัวในพัทยาจึงเสียใจอย่างเห็นได้ชัด...
แต่ๆ ถ้าหากผมอยู่ในสถาณการณ์แบบภัสสร(ลูกสาว) ปี 2563 นี้ผมคงจะยิ้มกริ่มเพราะ
1. มรดกที่ได้เป็นเงินสด liquidity สูงที่สุดในบรรดา asset class ทั้งหลาย
2. ผมเอาเงินสด 200 ล้านบาทไปซื้อกองทุน ARKK ETF ในไตรมาสที่ 4 ปี 2561
ปัจจุบันนี้เงิน 200 ล้านบาทของภัสสรเมื่อปี 2561 จะมีมูลค่าประมาณ 744 ล้านบาท ในขณะที่หุ้นของเหล่าพี่ชายคงจะตกระเนระนาด (ถ้าอยู่ในตลาดหลักทรัพย์) ผมประเมินคร่าวๆว่าบริษัทจิระอนันต์เป็นเหมือน Minor International PLC ปัจจุบันนี้มูลค่าหุ้นของพี่ๆคงจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 550 ล้านบาทเท่านั้น ไม่นับรวมความปวดหัวที่ได้จากการบริหารกิจการโรงแรมในยุค Covid-19 และความจริงที่ว่าบริษัทเหล่านี้ในปี 2563 น่าจะทำตัวเป็นเสมือนโรงเผาเงินมากกว่าโรงแรม
เห็นไหมครับ ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เจอเรื่องไม่ดีก็ควรคิดเสมอว่า 'Good or Bad?, Who Knows!'
ปล. ผมเพิ่งดู ep 2 อย่าเพิ่งสปอยลนะครับ
Good or Bad?, Who Knows! วิเคราะห์กรณีการแบ่งมรดกในเรื่องเลือดข้นคนจาง
ผมไปอยู่ไหนมาตั้งนานไม่รู้ เพิ่งมาได้ดูเลือดข้นคนจาง ep 1 และ ep 2 และได้มาฟังตอนเขาอ่านพินัยกรรมแบ่งมรดก ซึ่งเป็นเหมือน conflict แรกๆ ของเรื่องเลย สรุปใจความได้ว่าอากงแบ่งหุ้นบริษัทจิระอนันต์ (คาดว่าเป็น private company มี shareholders equity ประมาณ 3,000 ล้านบาท ในไตรมาสที่ 3 ปี 2561) เป็น 4 ส่วนเท่าๆกัน โดยแบ่งให้ ลูกชาย 3 คน และตั่วซุง (ลูกชายของลูกชายคนโต) คนละ 25% คิดเป็นตัวเลขกลมบ้านใหญ่ได้ 1,500 ล้าน ส่วนบ้านลูกชายคนรองทั้งสองได้บ้านละ 750 ล้านบาท ส่วนลูกสาวคนเดียวได้เงิดสด 200 ล้านบาทแทน ไม่ได้หุ้น
ลูกสาวซึ่งเป็นเหมือน managing director ของธุรกิจครอบครัวในพัทยาจึงเสียใจอย่างเห็นได้ชัด...
แต่ๆ ถ้าหากผมอยู่ในสถาณการณ์แบบภัสสร(ลูกสาว) ปี 2563 นี้ผมคงจะยิ้มกริ่มเพราะ
1. มรดกที่ได้เป็นเงินสด liquidity สูงที่สุดในบรรดา asset class ทั้งหลาย
2. ผมเอาเงินสด 200 ล้านบาทไปซื้อกองทุน ARKK ETF ในไตรมาสที่ 4 ปี 2561
ปัจจุบันนี้เงิน 200 ล้านบาทของภัสสรเมื่อปี 2561 จะมีมูลค่าประมาณ 744 ล้านบาท ในขณะที่หุ้นของเหล่าพี่ชายคงจะตกระเนระนาด (ถ้าอยู่ในตลาดหลักทรัพย์) ผมประเมินคร่าวๆว่าบริษัทจิระอนันต์เป็นเหมือน Minor International PLC ปัจจุบันนี้มูลค่าหุ้นของพี่ๆคงจะลดลงมาอยู่ที่ประมาณ 550 ล้านบาทเท่านั้น ไม่นับรวมความปวดหัวที่ได้จากการบริหารกิจการโรงแรมในยุค Covid-19 และความจริงที่ว่าบริษัทเหล่านี้ในปี 2563 น่าจะทำตัวเป็นเสมือนโรงเผาเงินมากกว่าโรงแรม
เห็นไหมครับ ไม่มีอะไรแน่นอนจริงๆ เจอเรื่องไม่ดีก็ควรคิดเสมอว่า 'Good or Bad?, Who Knows!'
ปล. ผมเพิ่งดู ep 2 อย่าเพิ่งสปอยลนะครับ