จากบทความ C&C เห็นว่ามีผู้อ่านหลายคนที่หวนย้อนนึกถึงอดีตเมื่อได้อ่าน
จึงทำให้มีความคิดว่าจะเขียนเรื่องวิธีการติดตั้งเกมลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในช่วงยุคต้นทศวรรษ 90s เพื่อให้ผู้อ่านที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นได้หวนระลึกถึงวันวานและเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้อ่านที่เกิดไม่ทันยุคนั้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์การติดตั้งเกม C&C ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นการใช้คอมพิวเตอร์หรือ PC ของผู้เขียนเอง
ในช่วงที่ผู้เขียนได้เครื่อง PC เครื่องแรก ลักษณะการใช้ PC ในไทยยุคนั้นมักนิยมใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Microsoft(MS) DOS 6.22 ซึ่งสั่งงานด้วยการพิมพ์ชุดข้อความคำสั่ง (Command Line) เสียเป็นส่วนใหญ่ การติดตั้งใช้ MS Windows 3.11 ซึ่งเป็น Version ที่แพร่หลายที่สุดในยุคนั้น สำหรับผู้เขียนถือว่าเป็นแค่โปรแกรมช่วยอำนวยความสะดวกที่ทำงานบน DOS ซึ่งหรูเกินความจำเป็นและไม่ได้ให้ความสะดวกอะไรมากไปกว่าการทำให้เปิด, ปิด, ลบ, เปลี่ยนชื่อ, ย้ายไฟล์ ทำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าต่อมา MS Windows 95(win95) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พลิกโฉมหน้าการใช้งาน PC จะออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ปี 1995 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ C&C ออกวางจำหน่ายก็ตามแต่ในไทยช่วงนั้นยังไม่นิยมใช้งาน win95 มากนัก
ส่วนตัวแล้ว คาดว่าสาเหตุอยู่ที่ราคา win95 ถูกลิขสิทธิ์สมัยนั้นยังสูงมากและ CD Drive ยังไม่ใช่อุปกรณ์ PC มาตรฐานในไทย ทำให้ผู้ใช้ในไทยต้องรอให้ CD Drive มีราคาถูกลงพอที่จะซื้อหาได้ก่อน จากนั้นแผ่น CD win95 แบบละเมิดลิขสิทธิ์จึงเริ่มแพร่หลายตามมาจนมีการติดตั้งใช้งาน win95 อย่างแพร่หลายในภายหลัง
ปัจจุบันแม้ว่า DOS จะเลิกใช้งานไปแล้วแต่รูปแบบการใช้งานยังคงถูกใส่ไว้ใน Window ในชื่อ Command Prompt เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เชี่ยวชาญสามารถเข้าไปควบคุมสั่งการ PC ได้ผ่านชุดคำสั่ง Command Line ซึ่งผู้ที่ชำนาญแล้วสามารถใช้มันสั่งการ PC ให้ทำงานต่าง ๆ ได้เร็วกว่าการคลิกผ่านกราฟิกอินเตอร์เฟสมาก
ผู้อ่านสามารถทดลองเข้าถึง Command Prompt ได้ผ่านการกดปุ่ม Windows พิมพ์ cmd แล้วกด Enter
ดังนั้น เมื่อเราได้เครื่อง PC ใหม่มาสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกคือ หาแผ่น Boot DOS
ระบบปฏิบัติการ DOS ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในยุคนั้น ไฟล์และฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้งานนั้นสามารถถูกเก็บอยู่บนfloppy disk ขนาด 3 นิ้วครึ่ง ความจุ 1.44 เมกกะไบต์ (MB) เพียงแผ่นเดียวได้แล้วยังเหลือพื้นที่พอสำหรับเก็บไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมทำงานขนาดเล็ก เช่น CU Writer หรือที่มักเรียกในชื่อว่า เวิร์ดจุฬา ได้
เวลาใช้งานผู้ใช้ก็เพียงเอาแผ่น Disk ดังกล่าวใส่ลงไปแล้วเปิดเครื่อง เครื่องก็จะอ่านข้อมูล OS จาก Disk แล้วบูตระบบปฏิบัติการขึ้นมา
ถ้าเทียบกับปัจจุบันคงอารมณ์เหมือนเอา Window ใส่ลงใน USB Drive แล้วเวลาจะใช้งานก็เสียบ USB ให้บูต Window ขึ้นมาก็คงได้
เมื่อเครื่องบูตเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ต้องฟอร์แมต Harddisk เสียก่อน
ผู้อ่านหลายคงน่าจะเคยเจอหรือพูดคำว่าฟอร์แมตอยู่บ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมาจากคำสั่งหนึ่งของ Dos ที่ชื่อว่า Format ที่มักเข้าใจว่ามีไว้เพื่อลบข้อมูลทั้งหมดบน Disk (ที่จริง format นั้นทำหน้าที่มากกว่านั้น) โดยรูปแบบคำสั่งก็จะเป็น
format c:
เมื่อฟอร์แมตหรือเรียบร้อยต่อไปก็ทำให้ระบบสามารถบูตจาก Drive C ได้โดยใช้คำสั่ง
sys c:
คำสั่งนี้จะทำให้ระบบก๊อปปี้ไฟล์ที่จำเป็นในการบูต Dos ลงไปที่ Drive ปลายทาง ซึ่งก็คือ Drive C
เมื่อสำเร็จ ทีนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น Dos ในการบูตคอมพิวเตอร์อีกแล้ว
จากนั้นก็เอาแผ่น Dos ออกแล้วรีสตาร์ทเครื่องเพื่อบูต Dos จาก Harddisk แทนก็เป็นอันเรียบร้อย
ต่อไปคือการติดตั้ง Driver ของอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ ในการติดตั้งเกม ตามประสบการณ์ของผู้เขียนแล้ว ส่วนใหญ่มี Driver ของอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งทั้งสิ้น 3 อุปกรณ์ด้วยกัน ประกอบด้วย
Mouse
Sound Card
และ CD Drive
ในยุคต้น 90s นั้น Mouse, Sound card และ CD Drive ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานของ PC โดยเฉพาะ Sound Card ที่สมัยนั้นจะขายแยกเป็น extension card ให้เสียบกับ PC เพิ่มเติม ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ทุก Main Board จะมี Sound Chip ติดมากับตัวเลย โดย Sound Card ที่นิยมใช้ในสมัยนั้นมักเป็น Sound Blasters 16-bit เสียบผ่านสล็อตที่เรียกกว่า ISA ตามรูปประกอบ
ถ้าไม่ลง Driver ของ Sound Card เสียงก็ไม่ออก
ถ้าไม่ลง Driver ของ CD Drive ก็ติดตั้งเกมไม่ได้ (เกมอยู่ในแผ่น CD)
ถ้าไม่ลง Driver ของ Mouse ก็ใช้ Mouse เพื่อควบคุมเกมไม่ได้
และการลง Driver นั้นไม่เหมือนสมัยปัจจุบันที่ Windows แทบจะจัดการทุกอย่างให้หมด ในยุคนั้นผู้ใช้จะต้องลง Driver ของอุปกรณ์ที่ต้องการเอง ทีละตัว ทีละตัว
อันที่จริง การลง Drive ในยุค Dos นั้นอาจจะไม่สะดวกแต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากนัก
ทุกอุปกรณ์ที่ซื้อมานั้นจะมีการแถม Floppy Disk ที่ข้างในจุ Driver ของอุปกรณ์มาให้ด้วย
Download Driver? สมัยนั้น internet เป็นอะไรที่เรียกได้ว่า “ยุคหิน” ดังนั้นแผ่น Driver เหล่านี้จึงมีความสำคัญมากและต้องเก็บไว้ให้ดี ถ้าแผ่นเสียหรือหายแล้วไม่รู้จักใครที่ใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันก็อาจจะต้องเสียเงินไปซื้อ Driver ถึงที่ร้านซ่อมคอมฯ กันเลยทีเดียว แผ่น Driver เหล่านี้เริ่มลดความสำคัญลงตามความนิยมใช้งาน win95 ที่ในนั้นมี Driver อุปกรณ์ส่วนใหญ่มาให้พร้อมอยู่แล้ว
และเมื่อ internet เริ่มเข้าสู่ยุค ADSL ความสำคัญของแผ่น Driver ก็ยิ่งลดลงไปอีก
วิธีติดตั้ง Driver คือ เอาแผ่น Floppy Disk ใส่ลงไปใน Drive แล้วพิมพ์
A:
เพื่อย้ายเป้าของ Drive ปลายทางสำหรับอ่านข้อมูลไฟล์ต่าง ๆ ไปที่ Drive A
สมัยนี้หลาย ๆ คนคงไม่รู้จัก Drive A เพราะในยุคนั้น Drive A และ B นั้นมักเป็น Drive ที่มีไว้สำหรับ Floppy Disk หรือ ดิสเกตต์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน 99% เลิกใช้ไปแล้ว ทำให้ Drive A และ B หายไปโดยปริยาย
จากนั้นก็พิมพ์
dir
ซึ่งเป็นคำสั่งที่จะนำรายชื่อไฟล์ทั้งหมดใน Drive A ขึ้นมาแสดง
จุดประสงค์ของ dir คือเพื่อดูว่าชื่อไฟล์สำหรับติดตั้งโปรแกรมหรือ Driver นั้นชื่ออะไร
โดยส่วนใหญ่แล้วไฟล์ติดตั้งนั้นมักจะตั้งชื่อคล้าย ๆ กันเพียง 2 ชื่อ
ไม่ install ก็ setup
เมื่อดูว่าไฟล์สำหรับติดตั้งชื่ออะไรแล้วก็พิมพ์ชื่อไฟล์ลงไป
จากนั้นโปรแกรมก็จะติดตั้ง Driver ลงไปในระบบ อาจจะให้กด y/n เพื่อยืนยันอะไรบ้างเล็กน้อย จากนั้นก็เป็นอันเสร็จ
จากนั้นก็ทำกระบวนการนี้อีก 2 รอบจนครบทั้ง 3 อุปกรณ์ Mouse, Sound card และ CD Drive
ทีนี้ทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการใช้งาน PC
รวมถึงพร้อมสำหรับการติดตั้งและเล่นเกม เช่น C&C
ก่อนอื่นก็ใส่แผ่น CD ลงไปใน CD Drive จากนั้นก็พิมพ์
D:
เพื่อย้ายเป้าของ Drive ปลายทางสำหรับอ่านข้อมูลไฟล์ต่าง ๆ ไปยัง Drive D ที่สมัยนั้น CD Drive มักใช้ชื่อ Drive เป็น D
พิมพ์ dir เพื่อดูรายชื่อไฟล์ทั้งหมดใน CD
พิมพ์ชื่อไฟล์ติดตั้งเกมซึ่งชื่อนั้นถ้าไม่ install ก็มักจะเป็น setup
จากนั้นโปรแกรมก็จะเข้าสู่หน้าอินเตอร์เฟสสำหรับติดตั้งเกม กด Yes ไปเรื่อย ๆ จากนั้นโปรแกรมเกมก็จะเริ่มถูกติดตั้งลงใน Hard disk สำหรับเกมส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ก็แค่คอยดู progress bar อันน่าเบื่อไปเรื่อย ๆ จนจบกระบวนการก็เป็นอันเสร็จ
แต่การติดตั้งเกมนั้น C&C มีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใครและแทบไม่มีใครทำลูกเล่นแบบนี้อีกเลยในปัจจุบัน นั้นคือหน้าจอติดตั้งโปรแกรมเกมแบบพิเศษที่นอกจากจะทำให้กระบวนการติดตั้งเกมไม่น่าเบื่อแล้วยังทำให้เกมนั้น “พิเศษ” กว่าเกมอื่น ๆ
สำหรับผู้เขียนแล้ว ลูกเล่นนี้ทำให้ C&C นั้นดูเท่และสนุกตั้งแต่เริ่มติดตั้งเกมเลยทีเดียวและในภาค Remaster นั้น ผู้พัฒนาก็ยังนำลูกเล่นนี้กลับมาอีกครั้งให้แฟน ๆ ได้ระลึกความหลังกัน
ผู้อ่านสามารถดู หน้าจอติดตั้งโปรแกรมเกมของ C&C และ C&C Red Alert ได้ที่ Link ข้างล่าง
ฉบับ Original (Dos)
https://www.youtube.com/watch?v=cioyLQ2O6yc
https://www.youtube.com/watch?v=Ri-VlJVxc-g
ฉบับ Remaster
https://www.youtube.com/watch?v=-eDt_Q1risk
https://www.youtube.com/watch?v=nupLAa68rX0
เมื่อติดตั้งเกมเสร็จแล้ว ก็พิมพ์ c: เพื่อย้ายไปที่ Drive C ก่อนจากนั้นก็พิมพ์
cd c&c
เป็นคำสั่งเพื่อเข้าไปยัง Forder ชื่อ c&c ที่เป็น forder ที่ติดตั้งเกม
จากนั้นก็พิมพ์
c&c
เพื่อเรียกโปรแกรมไฟล์ c&c.exe เพื่อโหลดโปรแกรมและเริ่มต้นเล่นเกม
การติดตั้งและเล่นเกมในช่วงยุคต้น 90s ที่ยังใช้ Dos เป็นระบบปฏิบัติการหลักก็จะประมาณนี้
ที่จริงยังมีอีกหลายอย่างที่เหล่าเกมเมอร์ยุคต้น 90s ต้องพบเจอ, เรียนรู้และแก้ปัญหาเพื่อเล่นเกมบน PC
เช่น
- การตั้งค่าและบริการจัดการ high memory ของเครื่องบนไฟล์ config.sys
- การเข้าไปตั้งค่า, บริการจัดการการโหลด Driver หรือโปรแกรมต่าง ๆ เมื่อเริ่มต้นทำงานบนไฟล์ AUTOEXEC.BAT
- การติดตั้ง Japan Dos เพื่อเล่นเกมที่ทำงานได้บน Dos ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
- การสร้าง Bat ไฟล์เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่อง
- การแบ่ง Partition เพื่อแยก Drive ระบบและ Drive ของเกมออกจากกัน
- การทำ Dual Boot เพื่อความสะดวกในการสลับ OS ที่เหมาะสมกับการเล่นเกม
- การ defragment เพื่อทำให้ตัวระบบและเกมมีความเร็วที่สูงขึ้นเล็กน้อย
เป็นต้น
แต่เรื่องเหล่านี้มีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมากและหลาย ๆ อย่างนั้นผู้เขียนจำกระบวนการไม่ได้แล้ว
จึงขอจบการเล่าการติดตั้งและเล่นเกม PC ช่วงยุคต้น 90 ไว้แต่เพียงเท่านี้
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/
บทความตามใจฉัน “การติดตั้งเกมคอมพิวเตอร์ ยุคต้น90s”
จึงทำให้มีความคิดว่าจะเขียนเรื่องวิธีการติดตั้งเกมลงบนเครื่องคอมพิวเตอร์ในช่วงยุคต้นทศวรรษ 90s เพื่อให้ผู้อ่านที่เคยผ่านช่วงเวลานั้นได้หวนระลึกถึงวันวานและเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ให้แก่ผู้อ่านที่เกิดไม่ทันยุคนั้น โดยอ้างอิงจากประสบการณ์การติดตั้งเกม C&C ที่ถือเป็นจุดเริ่มต้นการใช้คอมพิวเตอร์หรือ PC ของผู้เขียนเอง
ในช่วงที่ผู้เขียนได้เครื่อง PC เครื่องแรก ลักษณะการใช้ PC ในไทยยุคนั้นมักนิยมใช้งานบนระบบปฏิบัติการ Microsoft(MS) DOS 6.22 ซึ่งสั่งงานด้วยการพิมพ์ชุดข้อความคำสั่ง (Command Line) เสียเป็นส่วนใหญ่ การติดตั้งใช้ MS Windows 3.11 ซึ่งเป็น Version ที่แพร่หลายที่สุดในยุคนั้น สำหรับผู้เขียนถือว่าเป็นแค่โปรแกรมช่วยอำนวยความสะดวกที่ทำงานบน DOS ซึ่งหรูเกินความจำเป็นและไม่ได้ให้ความสะดวกอะไรมากไปกว่าการทำให้เปิด, ปิด, ลบ, เปลี่ยนชื่อ, ย้ายไฟล์ ทำได้ง่ายขึ้นเท่านั้น
แม้ว่าต่อมา MS Windows 95(win95) ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการที่พลิกโฉมหน้าการใช้งาน PC จะออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม ปี 1995 ซึ่งเป็นปีเดียวกันกับที่ C&C ออกวางจำหน่ายก็ตามแต่ในไทยช่วงนั้นยังไม่นิยมใช้งาน win95 มากนัก
ส่วนตัวแล้ว คาดว่าสาเหตุอยู่ที่ราคา win95 ถูกลิขสิทธิ์สมัยนั้นยังสูงมากและ CD Drive ยังไม่ใช่อุปกรณ์ PC มาตรฐานในไทย ทำให้ผู้ใช้ในไทยต้องรอให้ CD Drive มีราคาถูกลงพอที่จะซื้อหาได้ก่อน จากนั้นแผ่น CD win95 แบบละเมิดลิขสิทธิ์จึงเริ่มแพร่หลายตามมาจนมีการติดตั้งใช้งาน win95 อย่างแพร่หลายในภายหลัง
ปัจจุบันแม้ว่า DOS จะเลิกใช้งานไปแล้วแต่รูปแบบการใช้งานยังคงถูกใส่ไว้ใน Window ในชื่อ Command Prompt เพื่อให้ผู้ใช้งานที่เชี่ยวชาญสามารถเข้าไปควบคุมสั่งการ PC ได้ผ่านชุดคำสั่ง Command Line ซึ่งผู้ที่ชำนาญแล้วสามารถใช้มันสั่งการ PC ให้ทำงานต่าง ๆ ได้เร็วกว่าการคลิกผ่านกราฟิกอินเตอร์เฟสมาก
ผู้อ่านสามารถทดลองเข้าถึง Command Prompt ได้ผ่านการกดปุ่ม Windows พิมพ์ cmd แล้วกด Enter
ดังนั้น เมื่อเราได้เครื่อง PC ใหม่มาสิ่งที่เราต้องทำเป็นอันดับแรกคือ หาแผ่น Boot DOS
ระบบปฏิบัติการ DOS ที่นิยมใช้อย่างแพร่หลายในยุคนั้น ไฟล์และฟีเจอร์พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการใช้งานนั้นสามารถถูกเก็บอยู่บนfloppy disk ขนาด 3 นิ้วครึ่ง ความจุ 1.44 เมกกะไบต์ (MB) เพียงแผ่นเดียวได้แล้วยังเหลือพื้นที่พอสำหรับเก็บไฟล์ข้อมูลหรือโปรแกรมทำงานขนาดเล็ก เช่น CU Writer หรือที่มักเรียกในชื่อว่า เวิร์ดจุฬา ได้
เวลาใช้งานผู้ใช้ก็เพียงเอาแผ่น Disk ดังกล่าวใส่ลงไปแล้วเปิดเครื่อง เครื่องก็จะอ่านข้อมูล OS จาก Disk แล้วบูตระบบปฏิบัติการขึ้นมา
ถ้าเทียบกับปัจจุบันคงอารมณ์เหมือนเอา Window ใส่ลงใน USB Drive แล้วเวลาจะใช้งานก็เสียบ USB ให้บูต Window ขึ้นมาก็คงได้
เมื่อเครื่องบูตเรียบร้อยแล้วต่อไปก็ต้องฟอร์แมต Harddisk เสียก่อน
ผู้อ่านหลายคงน่าจะเคยเจอหรือพูดคำว่าฟอร์แมตอยู่บ้าง ซึ่งจริง ๆ แล้วมันมาจากคำสั่งหนึ่งของ Dos ที่ชื่อว่า Format ที่มักเข้าใจว่ามีไว้เพื่อลบข้อมูลทั้งหมดบน Disk (ที่จริง format นั้นทำหน้าที่มากกว่านั้น) โดยรูปแบบคำสั่งก็จะเป็น
format c:
เมื่อฟอร์แมตหรือเรียบร้อยต่อไปก็ทำให้ระบบสามารถบูตจาก Drive C ได้โดยใช้คำสั่ง
sys c:
คำสั่งนี้จะทำให้ระบบก๊อปปี้ไฟล์ที่จำเป็นในการบูต Dos ลงไปที่ Drive ปลายทาง ซึ่งก็คือ Drive C
เมื่อสำเร็จ ทีนี้เราก็ไม่จำเป็นต้องใช้แผ่น Dos ในการบูตคอมพิวเตอร์อีกแล้ว
จากนั้นก็เอาแผ่น Dos ออกแล้วรีสตาร์ทเครื่องเพื่อบูต Dos จาก Harddisk แทนก็เป็นอันเรียบร้อย
ต่อไปคือการติดตั้ง Driver ของอุปกรณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ ในการติดตั้งเกม ตามประสบการณ์ของผู้เขียนแล้ว ส่วนใหญ่มี Driver ของอุปกรณ์ที่ต้องติดตั้งทั้งสิ้น 3 อุปกรณ์ด้วยกัน ประกอบด้วย
Mouse
Sound Card
และ CD Drive
ในยุคต้น 90s นั้น Mouse, Sound card และ CD Drive ไม่ใช่อุปกรณ์มาตรฐานของ PC โดยเฉพาะ Sound Card ที่สมัยนั้นจะขายแยกเป็น extension card ให้เสียบกับ PC เพิ่มเติม ไม่เหมือนสมัยนี้ที่ทุก Main Board จะมี Sound Chip ติดมากับตัวเลย โดย Sound Card ที่นิยมใช้ในสมัยนั้นมักเป็น Sound Blasters 16-bit เสียบผ่านสล็อตที่เรียกกว่า ISA ตามรูปประกอบ
ถ้าไม่ลง Driver ของ Sound Card เสียงก็ไม่ออก
ถ้าไม่ลง Driver ของ CD Drive ก็ติดตั้งเกมไม่ได้ (เกมอยู่ในแผ่น CD)
ถ้าไม่ลง Driver ของ Mouse ก็ใช้ Mouse เพื่อควบคุมเกมไม่ได้
และการลง Driver นั้นไม่เหมือนสมัยปัจจุบันที่ Windows แทบจะจัดการทุกอย่างให้หมด ในยุคนั้นผู้ใช้จะต้องลง Driver ของอุปกรณ์ที่ต้องการเอง ทีละตัว ทีละตัว
อันที่จริง การลง Drive ในยุค Dos นั้นอาจจะไม่สะดวกแต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากนัก
ทุกอุปกรณ์ที่ซื้อมานั้นจะมีการแถม Floppy Disk ที่ข้างในจุ Driver ของอุปกรณ์มาให้ด้วย
Download Driver? สมัยนั้น internet เป็นอะไรที่เรียกได้ว่า “ยุคหิน” ดังนั้นแผ่น Driver เหล่านี้จึงมีความสำคัญมากและต้องเก็บไว้ให้ดี ถ้าแผ่นเสียหรือหายแล้วไม่รู้จักใครที่ใช้อุปกรณ์แบบเดียวกันก็อาจจะต้องเสียเงินไปซื้อ Driver ถึงที่ร้านซ่อมคอมฯ กันเลยทีเดียว แผ่น Driver เหล่านี้เริ่มลดความสำคัญลงตามความนิยมใช้งาน win95 ที่ในนั้นมี Driver อุปกรณ์ส่วนใหญ่มาให้พร้อมอยู่แล้ว
และเมื่อ internet เริ่มเข้าสู่ยุค ADSL ความสำคัญของแผ่น Driver ก็ยิ่งลดลงไปอีก
วิธีติดตั้ง Driver คือ เอาแผ่น Floppy Disk ใส่ลงไปใน Drive แล้วพิมพ์
A:
เพื่อย้ายเป้าของ Drive ปลายทางสำหรับอ่านข้อมูลไฟล์ต่าง ๆ ไปที่ Drive A
สมัยนี้หลาย ๆ คนคงไม่รู้จัก Drive A เพราะในยุคนั้น Drive A และ B นั้นมักเป็น Drive ที่มีไว้สำหรับ Floppy Disk หรือ ดิสเกตต์ ซึ่งคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน 99% เลิกใช้ไปแล้ว ทำให้ Drive A และ B หายไปโดยปริยาย
จากนั้นก็พิมพ์
dir
ซึ่งเป็นคำสั่งที่จะนำรายชื่อไฟล์ทั้งหมดใน Drive A ขึ้นมาแสดง
จุดประสงค์ของ dir คือเพื่อดูว่าชื่อไฟล์สำหรับติดตั้งโปรแกรมหรือ Driver นั้นชื่ออะไร
โดยส่วนใหญ่แล้วไฟล์ติดตั้งนั้นมักจะตั้งชื่อคล้าย ๆ กันเพียง 2 ชื่อ
ไม่ install ก็ setup
เมื่อดูว่าไฟล์สำหรับติดตั้งชื่ออะไรแล้วก็พิมพ์ชื่อไฟล์ลงไป
จากนั้นโปรแกรมก็จะติดตั้ง Driver ลงไปในระบบ อาจจะให้กด y/n เพื่อยืนยันอะไรบ้างเล็กน้อย จากนั้นก็เป็นอันเสร็จ
จากนั้นก็ทำกระบวนการนี้อีก 2 รอบจนครบทั้ง 3 อุปกรณ์ Mouse, Sound card และ CD Drive
ทีนี้ทุกอย่างก็พร้อมสำหรับการใช้งาน PC
รวมถึงพร้อมสำหรับการติดตั้งและเล่นเกม เช่น C&C
ก่อนอื่นก็ใส่แผ่น CD ลงไปใน CD Drive จากนั้นก็พิมพ์
D:
เพื่อย้ายเป้าของ Drive ปลายทางสำหรับอ่านข้อมูลไฟล์ต่าง ๆ ไปยัง Drive D ที่สมัยนั้น CD Drive มักใช้ชื่อ Drive เป็น D
พิมพ์ dir เพื่อดูรายชื่อไฟล์ทั้งหมดใน CD
พิมพ์ชื่อไฟล์ติดตั้งเกมซึ่งชื่อนั้นถ้าไม่ install ก็มักจะเป็น setup
จากนั้นโปรแกรมก็จะเข้าสู่หน้าอินเตอร์เฟสสำหรับติดตั้งเกม กด Yes ไปเรื่อย ๆ จากนั้นโปรแกรมเกมก็จะเริ่มถูกติดตั้งลงใน Hard disk สำหรับเกมส่วนใหญ่แล้วผู้ใช้ก็แค่คอยดู progress bar อันน่าเบื่อไปเรื่อย ๆ จนจบกระบวนการก็เป็นอันเสร็จ
แต่การติดตั้งเกมนั้น C&C มีลูกเล่นที่ไม่เหมือนใครและแทบไม่มีใครทำลูกเล่นแบบนี้อีกเลยในปัจจุบัน นั้นคือหน้าจอติดตั้งโปรแกรมเกมแบบพิเศษที่นอกจากจะทำให้กระบวนการติดตั้งเกมไม่น่าเบื่อแล้วยังทำให้เกมนั้น “พิเศษ” กว่าเกมอื่น ๆ
สำหรับผู้เขียนแล้ว ลูกเล่นนี้ทำให้ C&C นั้นดูเท่และสนุกตั้งแต่เริ่มติดตั้งเกมเลยทีเดียวและในภาค Remaster นั้น ผู้พัฒนาก็ยังนำลูกเล่นนี้กลับมาอีกครั้งให้แฟน ๆ ได้ระลึกความหลังกัน
ผู้อ่านสามารถดู หน้าจอติดตั้งโปรแกรมเกมของ C&C และ C&C Red Alert ได้ที่ Link ข้างล่าง
ฉบับ Original (Dos)
https://www.youtube.com/watch?v=cioyLQ2O6yc
https://www.youtube.com/watch?v=Ri-VlJVxc-g
ฉบับ Remaster
https://www.youtube.com/watch?v=-eDt_Q1risk
https://www.youtube.com/watch?v=nupLAa68rX0
เมื่อติดตั้งเกมเสร็จแล้ว ก็พิมพ์ c: เพื่อย้ายไปที่ Drive C ก่อนจากนั้นก็พิมพ์
cd c&c
เป็นคำสั่งเพื่อเข้าไปยัง Forder ชื่อ c&c ที่เป็น forder ที่ติดตั้งเกม
จากนั้นก็พิมพ์
c&c
เพื่อเรียกโปรแกรมไฟล์ c&c.exe เพื่อโหลดโปรแกรมและเริ่มต้นเล่นเกม
การติดตั้งและเล่นเกมในช่วงยุคต้น 90s ที่ยังใช้ Dos เป็นระบบปฏิบัติการหลักก็จะประมาณนี้
ที่จริงยังมีอีกหลายอย่างที่เหล่าเกมเมอร์ยุคต้น 90s ต้องพบเจอ, เรียนรู้และแก้ปัญหาเพื่อเล่นเกมบน PC
เช่น
- การตั้งค่าและบริการจัดการ high memory ของเครื่องบนไฟล์ config.sys
- การเข้าไปตั้งค่า, บริการจัดการการโหลด Driver หรือโปรแกรมต่าง ๆ เมื่อเริ่มต้นทำงานบนไฟล์ AUTOEXEC.BAT
- การติดตั้ง Japan Dos เพื่อเล่นเกมที่ทำงานได้บน Dos ภาษาญี่ปุ่นเท่านั้น
- การสร้าง Bat ไฟล์เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานเครื่อง
- การแบ่ง Partition เพื่อแยก Drive ระบบและ Drive ของเกมออกจากกัน
- การทำ Dual Boot เพื่อความสะดวกในการสลับ OS ที่เหมาะสมกับการเล่นเกม
- การ defragment เพื่อทำให้ตัวระบบและเกมมีความเร็วที่สูงขึ้นเล็กน้อย
เป็นต้น
แต่เรื่องเหล่านี้มีรายละเอียดปลีกย่อยค่อนข้างมากและหลาย ๆ อย่างนั้นผู้เขียนจำกระบวนการไม่ได้แล้ว
จึงขอจบการเล่าการติดตั้งและเล่นเกม PC ช่วงยุคต้น 90 ไว้แต่เพียงเท่านี้
ปล.ตอนนี้ผมได้เปิด Facebook Page “บทความตามใจฉัน”
โดยบทความจะหลายหลากคละประเภทกันไปความตามความสนใจนั้นขณะนั้น ถ้าสนใจก็กดติดตามได้ครับ
https://www.facebook.com/uptomejournal/