เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนกลับมาคบกันได้ตอนนี้ก็เข้า4ปีแล้ว หลังจากเลิกรากันไป8-9ปีได้ ในปีแรกเค้าสัญญาว่ารับปริญญาเสร็จเค้าจะขอแต่งงานเพราะเค้าอยู่ต่างจังหวัด แต่พอเรารับปริญญาเรียบร้อยแล้วเค้าก็เฉยๆ พอเราพูดว่าลืมสัญญาหรือเปล่า เค้าก็บอกไม่ลืมแต่ขอเวลาต้องเก็บเงินก่อน ในระหว่างที่รอเข้าปีที่2 เราก็อยู่ด้วยกันประกอบที่เรายังไม่ได้ทำงานเราเลยดูแลย่าของเค้าที่ติดเตียงดูแลบ้านทุกอย่าง พ่อกับแม่เราก็เห็นว่าเราอยู่ด้วยกันแล้ว ก็ให้พ่อแม่มาคุยว่าจะเอายังไง ถ้าไม่แต่งก็ผูกข้อมือก็ได้ เราก็ได้คุยกับเค้าเค้าก็เฉยๆบอกให้รอหน่อย เราก็อยากให้เค้าบอกพ่อของเค้า จนเค้าบอกพ่อของเค้าพ่อเค้าบอกเราว่าไม่ชอบพิธีรีตอง จะแต่งก็เก็บเงินกันเองแล้วมาบอก แล้วอยากให้เราไปอยู่กับทางบ้านเค้าต่างจังหวัดโดยไปทำงานที่นั้นเลย มันทำให้เราเครียดมากร้องไห้แทบทุกวัน เพราะพ่อแม่เราก็ถามแล้ว ทางบ้านแฟนก็เฉยๆ รวมทั้งแฟนของเราก็ไม่กระตือรือร้นที่จะเก็บเงินเพื่อจะแต่งอะไร จนเข้าปีที่3เราเริ่มเหนื่อยกับการรอกับคำสัญญา เราก็พยายามไม่คิดเรื่องนี้ออกไปหาความสุขนอกบ้านบ้าง ก็ทำให้หายได้บางครั้ง เข้าปีที่4 ในปีนี้เราเหมือนไปไม่รอดแต่เราก็อดทนเพราะเรารักเค้า ในระหว่างปีนี้รู้สึกอึดอัดมากๆที่อยู่ด้วยกัน เพราะเราไม่เคยเข้าใจกัน เวลาเราไม่ชอบอะไรเค้าก็ทำ อะไรที่เค้าสัญญากับเราไม่ทำแล้วเค้าก็ทำ จนเราเสียความรู้สึกซ้ำไปซ้ำมา เราไม่รู้ว่าเราจะออกจากความรู้สึกแบบนี้อย่างไร เรารู้สึกเหมือนเราตัวคนเดียวทำเพื่อเค้าเกินไป จนเค้าไม่มีความพยายามอะไร เวลาทะเลาะกันเค้าไม่เคยสนใจว่าเราจะร้องไห้ขนาดไหน เค้าทำเหมือนปกติ กินเหล้าเบียร์มากน้อยก็กินทุกวัน หรือถ้าเราเงียบเราก็ไม่คุยกันเป็นอาทิตย์ก็มี ความดีของเค้าคือเค้าไม่เคยนอกใจแต่สิ่งที่เราไม่อยากทนคือเหมือนเค้าละเลยความรู้สึกของเรา ไม่เคยดูแลใส่ใจเรา ทั้งที่เราอยู่ด้วยกันทุกๆวัน เรารู้สึกจัดการความรุ้สึกแบบนี้อย่างไรเราพยายามไม่คิดและรักตัวเองไม่เอาความรู้สึกไปแขวนไว้กับเค้า แต่เราก็ทำไม่ได้สักทีพี่ๆเพื่อน มีคำแนะนำอย่างไรหรือกำจัดความคิดความรู้สึกแบบนี้อย่างไร ขอบคุณค่ะ🙏🙏🙏
คิดมากไป หรือ เราควรตัดสินใจเดินออกมา