[CR] เล่าความรู้สึกหลังจากดูหนัง WW84 (รีวิวสปอยล์)

ในที่สุดก็ได้ดู Wonder Woman 1984 แล้ว หลังจากที่รอมานานมาก คราวนี้ได้ดูพากย์ไทยแต่ก็สนุกดีเดี๋ยวค่อยไปซ้ำซาวด์แทร็คอีกรอบ ทีนี้ อยากเล่าความรู้สึกที่ได้ดูมาครับ ถ้าไม่สปอยล์คงไม่สามารถเล่าได้เต็มที่ ดังนั้น สปอยล์แน่นอน! ควรดูมาแล้วทั้งสองภาค แล้วค่อยมาอ่านนะครับ

ความรู้สึกหลังดูจบคือ ซึ้งมาก ทำให้นึกถึงฉากที่ดูไม่มีอะไรในภาคแรกแต่กลายเป็นฉากที่น่าจดจำหลังจากดู WW84 จบไปเลย ฉากนั้นคือตอนที่สตีฟขอไดอาน่าเต้นรำ เต้นรำไปซักพักก็มีหิมะตก นางเอกก็บอกว่า ว้าว! อัศจรรย์จริง ๆ นี่คือสิ่งที่ผู้คนทำกันเวลาที่ไม่มีสงครามเหรอ พระเอกบอกว่า ใช่ นางเอกก็ถามว่าแล้วมีอะไรอีก? พระเอกตอบว่า พวกเขาก็..ตื่นนอน กินอาหารเช้า อ่านหนังสือพิมพ์ ออกไปทำงาน มีลูกด้วยกัน แล้วก็อยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ประมาณนั้น มันเป็นยังไงเหรอสตีฟ? นางเอกถาม คือ..ผมก็ไม่รู้หรอก พระเอกตอบ

ฉากการแข่งขันตอนเริ่มเรื่องที่เกาะอเมซอน บางคนว่าเป็นการปูเรื่องราวของชุดเกราะทอง แต่นอกจากนั้น ผมว่าประเด็นหลักอยู่ที่เรื่องราวที่ไดอาน่าโกงการแข่งขันด้วย โดยการใช้ทางลัด จนแม่บอกว่า เจ้าไม่สมควรชนะเพราะเจ้ายังไม่เหมาะสม นั้นคือความจริง และไม่ใช่เรื่องน่าอาย วีรบุรุษแท้จริงจะอยู่กับความจริง ไม่ใช่เรื่องหลอกลวง (ถ้าจำผิดขออภัยนะครับ) ซึ่งฉากนี้ส่งผลต่อการตัดสินใจของนางเอกในเวลาต่อมา และยังคลุมธีมของหนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องเอาไว้ด้วย

ตอนแรกได้ยินคำว่าราชินีแห่งสยามในฉากห้องทำงานในพิพิธภัณฑ์ เราก็ เอ๊ะ เกี่ยวกับประเทศไทยด้วยเหรอ แอบคิดเล่น ๆ หรือว่าเกี่ยวกับหนังอาหลอง ทับทิมสยาม ตัวร้ายชีต้าก็คืออังกอร์! คิดไปนั้น แต่ไม่เกี่ยวอะไรเลย ฮา เป็นไอเท็มอื่นที่มีความสำคัญกว่าคือ หินแห่งความฝัน เคยมีหนังสมัยก่อนนะ ที่เป็นปีศาจอธิษฐาน The Wish อะไรซักอย่างจำไม่ได้ ซึ่งมันจะใช้พลังไม่ได้ต่อเมื่อมีคนขอพร พอขอพรเสร็จก็เข้าทางมัน โลกก็โกลาหล ที่มาคงมาจากนิทานอลาดินกับตะเกียงวิเศษนั้นแหละ พอตัวร้ายขอปั๊บแว่บแรกคิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลย คือไม่รู้เรื่องย่อ WW84 มาก่อน เจอแบบนี้ก็ผิดคาดเหมือนกัน แล้วคิดในใจหายนะแน่ ๆ ตัวร้ายเป็นปีศาจอธิษฐาน แล้วโยงเนียนด้วยนะ ซื้อมาจากตลาดมืด ผู้ซื้อคือแม็กซ์เวลลอร์ด (มีป้ายอยู่ในกล่อง) แต่บังเอิญเกิดเหตุโจรปล้น สินค้าเลยถูกเอฟบีไออายัดแล้วส่งมาให้พิพิธภัณฑ์ตรวจสอบ แม็กซ์ลอร์ดเลยตามมาเป็นผู้บริจาคให้แผนก แล้วใช้เล่ห์เหลี่ยมเอาหินมาจนได้ หินก้อนนี้มีสิ่งที่แฝงไว้คือให้พรได้ครั้งเดียวและต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยน ที่มันอยู่มาได้นานคงเพราะคนทั่วไปอ่านภาษาลาตินไม่ออก แต่แม็กซ์ลอร์ดรู้ ศึกษามา เลยโกงหินโดยการขอเป็นผู้ให้พรเองซะเลยเพื่อที่ตัวเองจะได้มีสิทธิเลือกสิ่งแลกเปลี่ยนได้ ซึ่งก็เหมือนขอพรได้หลายครั้ง แต่สิ่งที่เขาต้องแลกคือสุขภาพอันทรุดโทรมลงไปเรื่อย ๆ ต้องให้พรไปเรื่อย ๆ แลกเปลี่ยนกับสุขภาพตัวเองดีขึ้นเรื่อย ๆ อำนาจเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อีกคนที่สงสัยว่าอะไรคือสิ่งแลกเปลี่ยนคือ บาบาร่า เพื่อนนางเอก มีเพื่อนที่ดูด้วยกันบอกว่าสิ่งที่แลกเปลี่ยนของเธอคือความเป็นมนุษย์ เพื่อน ๆ เห็นด้วยมั้ยครับ แบบเสียความเห็นใจผู้อื่น ความมีอิสระ การมีความรัก อะไรแบบนั้น เรื่องปมความเป็นมนุษย์นี่เหมือนจะเป็นหัวใจของหนังวันเดอร์ทุกภาคเลย คิดว่าคงมาจากเจตนารมณ์ของผู้สร้างตัวละครนี้ ที่ต้องการให้เป็นฮีโร่ที่เป็นตัวแทนของความรักความห่วงใย ฮีโร่ที่เชื่อในความเป็นมนุษย์

กลับมาที่วันเดอร์วูเมน เธอมีความสุขราวกับฝันเมื่อได้พระเอกกลับมา แต่ก็พบความจริงที่ว่าโลกนี้วุ่นวายมากขึ้นเรื่อย ๆ ความสุขจากความฝันกำลังสร้างความจริงที่หายนะ เพราะทุกคนต่างใช้ทางลัดสู่ความสำเร็จโดยไม่สนใจคนอื่น โลกวุ่นวาย จนเธอต้องมองหาวิธีแก้ปัญหา วีรบุรุษแท้จริงต้องซื่อสัตย์กับตัวเองและอยู่บนบรรทัดฐานความจริง ที่แม่เธอสอน ในที่สุดก็เธอตัดใจจากความฝันด้วยน้ำตานองหน้าและอารมณ์พลุงพล่าน เลยเกิดฉากบินที่เป็นเซอร์ไพรซ์อีกฉาก พุ่งไปบนฟ้า วันเดอร์บินได้! ชอบตอนเหวี่ยงเชือกโดยไม่เกี่ยวกับอะไรแล้วกระตุกดึงตัวเองพุ่งไปข้างหน้า แม่เจ้า ช่างเป็นวิธีการบินที่แปลกดี ทวงท่าสง่าสวยงาม ชอบ

ตอนที่หนังเรื่องนี้ชื่อ WW84 ก็คิดแล้วว่าปี 1984 เป็นยุคสงครามเย็น หรือจะพูดถึงรัสเซีย-สหรัฐ และสงครามนิวเคลียร์ แล้วก็จริง ๆ ระหว่างที่แม็กซ์ลอร์ดมีอำนาจมากขึ้นเรื่อย ๆ จากคนขอพร เขาไปฐานใต้ดินเพื่อส่งสัญญาณไปทั่วโลกเพื่อติดต่อคนให้เยอะขึ้นอีก แต่ว่าความจริงบนโลก พรขีปนาวุธนิวเคลียร์ที่มากขึ้น ๆ ของปธน.สหรัฐ กำลังสร้างความหวาดกลัวให้รัสเซียจนสองประเทศนี้จะยิงจรวดใส่กันอยู่แล้ว แม็กซ์ลอร์ดไม่รู้เรื่องรู้ราวจนกระทั่งวันเดอร์วูเมนมาถึง ฉากนี้เหมือนเป็นการสู้กันระหว่างสองพลัง แม็กซ์ลอร์ใช้พลังอธิษฐานในการไม่ให้วันเดอร์เข้าถึงตัวเขาได้ ส่วนวันเดอร์ใช้บ่วงบาศแห่งจริงพยายามเหวี่ยงออกไปให้ถึง ซึ่งก่อนหน้านี้เธอบอกว่าพลังของมันมาจากความจริง ส่วนหินของแม็กซ์ลอร์ดพลังมาจากอะไร คิดว่าคงมาจากความโลภ คนยิ่งขอ แม็กซ์ลอร์ดยิ่งพลังเพิ่ม ระหว่างยื้อยุดกันอยู่ แม็กซ์ลอร์ดก็หันมาถามวันเดอร์วูเมน เธอไม่เอาด้วยเหรอ ทั้งมีคนรัก มีทั้งพลัง เธอไม่ต้องการเหรอ! วันเดอร์ก็ตอบว่า ใช่ นั้นคือสิ่งที่เธอต้องการที่สุด แต่ไม่ มันไม่ใช่ความจริง โลกนี้ต้องดำเนินต่อไป ต้องไปข้างหน้า ไม่ควรก้าวไปข้างหลัง เธอจะต้อง move on (เขียนตามความเข้าใจ) และด้วยความที่ไดอาน่าอยู่กับความจริง พลังในการเชื่อในความจริงทำให้เชือกมีพลังเพิ่มมากขึ้นจนเข้าตัวแม็กซ์ลอร์ด เข้าถึงเครื่องอนุภาค (เครื่องส่งสัญญาณ) แล้ววันเดอร์ก็ใช้พลังของบ่วงบาศทำให้คนทั้งโลกได้เห็นความจริง อันนี้ก็เป็นการตอบคำถามคาใจในภาคแรกเหมือนกันนะ ที่ตัวร้ายจับเชือกแล้วบอกว่าฉันไม่ใช่เทพแห่งสงครามฉันคือเทพแห่งความจริง มนุษย์ทำลายโลกนี้เรื่อย ๆ แล้วพลังของบ่วงบาศก็แสดงความจริงให้เห็น มนุษย์ทำลายโลกนี้จริง ๆ แม็กซ์ลอร์ดเห็นสงครามนิวเคลียร์ที่กำลังจะเกิดขึ้น เห็นคนรักที่กำลังจะตาย เห็นหายนะที่กำลังจะเกิด สุดท้ายเขาก็คิดได้และถอนคำอธิษฐาน แล้วโลกกลับไปสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม จริง ๆ ส่วนนี้แอบขัดใจอยู่นะ ทุกอย่างกลับไปแบบไม่มีผลกระทบอะไร? (เหมือนคนหาย 5 ปีในหนังอเวนเจอร์ก็ขัดใจ) ถ้าเป็นหนังปีศาจอธิษฐาน หนังสมัยก่อนที่พูดไว้ตอนแรก ตอนจบมันจะประมาณว่า "ขอให้ข้าไม่เคยขอ" แล้วมันก็ย้อนอดีตวูบกลับไปตอนแรกไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่หนังวันเดอร์ดูจะไม่ใช่ แต่ให้ทุกคนช่วยกันถอนคำอธิษฐานทุกคน แล้วมันจะครบทุกคนไหมเนี้ย? มันจะไม่มีฮีโร่คนใหม่หรือปีศาจคนใหม่เกิดจากคำอธิษฐานเลยหรือ อันนี้คงต้องให้ไปจินตนาการต่อกันเอง เพราะหนังก็เหมือนตัดกลับไปทุกอย่างเป็นปกติอย่างรวดเร็ว เว้นแต่ รู้สึกบาบาร่าจะไม่ได้พูดว่าขอถอนนะ แต่ทว่าร่างชีต้าของเธอหายไป หรือสิ่งที่แม็กซ์ลอร์ดให้ผู้อื่นจะหายไป แล้วสิ่งที่บาบาร่าขอละ ขอตั้งแต่ยังเป็นก้อนหินอยู่ จะยังอยู่ รึเปล่า? คาใจ ภาคหน้าจะพูดถึงเรื่องนี้มั้ยเนี้ย 

สุดท้ายไดอาน่าเดินอยู่ที่งานรื่นเริง คงเป็นเทศกาลคริสต์มาส มองดูหิมะตก ทำให้นึกถึงฉากเต้นรำจากภาคแรก แต่รอบนี้ขอพูดโดยพระเอกโดยคำพูดในภาคนี้ อัศจรรย์จริง ๆ ผมดีใจนะ ที่ผมได้เห็นมัน ผมชอบที่นี้ ชอบทุกสิ่งที่นี่ และอยากเห็นคุณอยู่ที่นี่ด้วย คุณต้องปกป้องโลกนี้ โลกที่วุ่นวายนี้ ส่วนผม ฉันไม่สามารถบอกลาคุณได้ นางเอกตอบ คุณไม่ต้องบอกลาผม เพราะผมจากคุณไปนานแล้ว สุดท้าย..งานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา

นางเอกมองดูหิมะตก แล้วก็พูดว่า "หลายสิ่งหลายอย่าง หลายสิ่งหลายอย่าง" สงสัยเป็นการตอบคำถามของตัวเองในภาคแรก 

..นี่คือสิ่งที่ผู้คนทำกันเวลาที่ไม่มีสงครามเหรอ

#แก้คำผิด และคำพูดพระเอกตอนจบ


จบแล้วครับ ขอขอบคุณทุกท่านที่อ่านจนจบ

ชื่อสินค้า:   Wonder Women 1984
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่