เรื่องมีอยู่ว่ามีคนแนะนำให้รู้จักกับผชคนนึง วัตถุประสงค์ก็คืออยากให้ลองคุยๆดู ก็คือหาแฟนให้นั่นแหละ ผชอายุประมาณ 40 ต้นๆค่ะ เรารู้จักกันช่วงต้นปีช่วงล๊อกดาวน์พอดี ทำให้เราคุยกันได้ผ่านแชทไลน์อย่างเดียว (ไม่เคยโทรค่ะ แค่แชท) ซึงเราโอเคนะที่รักษาระยะห่างแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าถ้าเจอตัวจริงเราจะไปด้วยกันได้ไหม จะได้ไม่ต้องลึกซึ้งกันมาก ซึ่งพอได้คุยเราก็รู้สึกคลิ๊กนะ คือชอบอะไรเหมือนๆกัน ไลฟ์สไตล์คล้ายๆกัน ตอนคุยนี่เป็นการพูดคุยแบบเรื่องทั่วไปมากในแต่ละวัน ไม่เคยคุยในลักษณะหยอดหรือจีบ เราเองก็ไม่คุยกับเค้าในลักษณะนั้นเหมือนกัน มีการถามไถ่สารทุกข์สุขดิบบ้าง มีระยะห่างในการคุยเยอะเหมือนกัน ซึ่งโดยส่วนตัวก็ไม่ค่อยชอบผชจู่โจม หรือตามติดหยอดบ่อยๆ ก็เลยรู้สึกโอเคที่ได้คุยกับเค้ามั๊ง เพราะส่วนตัวก็เป็นคนมีโลกส่วนตัวสูงเหมือนกัน นิสับผชส่วนตัว เท่าที่รู้คือเป็นคนโลกส่วนตัวสูง พูดไม่ค่อยเก่ง (อาจต้องชวนคุย อันนี้คนที่รู้จักบอกมา) เป็นคนบ้างาน งานเยอะ ช่วง2-3เดือนแรกที่คุยก็โอเค ผลัดกันคุย ผลัดกันทัก หลังจากนั้นพอเริ่มเปิดเมือง เค้าก็กลับบ้านตจว แล้วอยู่ยาวเลย ทำให้เราคุยกันน้อยลง อาจเป็นเพราะได้กลับไปเจอญาติๆเจอพ่อแม่พี่น้อง ไม่เหงาเหมือนตอนอยู่คนเดียวที่กทม ช่วงที่เค้าอยู่บ้าน ส่วนใหญ่ก็เป็นเราที่เป็นฝ่ายเริ่มทักเค้าไปก่อน มีบ้างที่เค้าทักมาก่อน แต่น้อยมากๆๆๆ แต่ด้วยความที่ว่าเราทักไป ก็คุยดีกลับมาทุกครั้ง ไม่ได้มีสัญญาณบอกว่ารำคาญหรือไม่อยากคุย ก็เลยหน้าด้านทักเค้าต่อไป แต่ก็ไม่ได้ถี่เลย แค่อาทิตย์ละครั้งสองครั้ง เอาจริงๆก็คืออยากรักษาความสัมพันธ์ไว้แค่นั้นแหละ ไหนๆก็คุยกันมานาน ก็อยากทำความรู้จักเจอกันสักครั้ง ถ้ามันใช่ก็ไปต่อ แต่ถ้าไม่ใช่เราก็เป็นเพื่อนกันได้ เสียดายเวลาที่คุยกัน จนกระทั่งเมื่อไม่นานเค้ามากทม เราก็เลยรวบรวมความกล้าชวนเค้ากินข้าว แต่ไม่ได้ชวนตรงๆนะ ก็เกริ่นๆว่าถ้าว่างๆก็กินข้าวกัน ซึ่งเค้าก็ตอบมาทันทีว่าได้ครับ (คือถ้าคนไม่อยากไปมันคงไม่ตอบกลับมาทันทีมั๊ย ก็คงดองๆแชทแล้วค่อยตอบ หรือไม่ก็บ่ายเบี่ยง หรือไม่คุยต่อด้วยแล้ว (ถ้าไม่ได้อยากเจอหรือสานต่อ) แต่นี่หลังจากนั้นก็เหมือนเดิม ก็คุยกันผ่านไลน์เหมือนเดิม รู้มาว่ามีงานมีโปรเจคเข้ามาเยอะมากตั้งแต่กลับมากทม ก็เห็นเค้าบอกยุ่งตลอดเลย เราก็รอเค้าชวนเค้าก็ไม่ชวนซักที (น่าจะเดือนกว่าๆแล้ว) คือตัวเองก็ไม่ใช่คนที่กล้าซักเท่าไหร่ เรื่องจีบผช เกิดมาก็ไม่เคยรุกใครขนาดนี้ นี่คือคนแรก
คืองงสับสนว่าเค้าคิดไรอยู่ ถ้าไม่ใช่ ไม่อยากสานสัมพันธ์แล้วจะคุยทำไม คุยเพื่ออะไร ชวนกินข้าวก็แล้ว (ก็แสดงเจตนาชัดเจน) จะบอกว่าคุยตามมารยาทแต่ไม่คิดจะเจอ ก็รู้สึกว่าใช่เหรอ เพราะการคุยตามมารยาทคือถามคำตอบคำ และคงไม่เป็นฝ่ายตั้งคำถามในบทสนทนา ตอนนี้เราก็ยังคงคุยแชทกันอยู่ ซึ่งก็เป็นเราเหมือนเดิมที่ทักเค้าไปก่อน (แต่ไม่บ่อย เหมือนเดิมอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง) ซึ่งในบทสนทนาก็คุยดี ไม่ได้ดูรำคาญอะไร แต่อาจจะตอบช้ากว่าเดิมบ้าง เพราะเค้าบอกว่ายุ่งโปรเจคเข้า ช้าสุดคือส่งหัวค่ำ ตอบเช้าอีกวันนึง อยากรู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ทำไมเดาใจยากจริง เราแค่อยากเจอเพราะมันคาใจแค่นั้นเอง ใช่ก็ไปต่อ ไม่ใช่ก็จบ เสียดายเวลาที่คุยกัน นี่ก็เกือบปีแล้ว แต่ทำไมเค้าไม่ยอมมาเจอเราซักที ส่วนเรื่องที่คิดว่ามีแฟนแล้วรึเปล่า อันนี้ก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือตอนช่วงเริ่มคุยต้นปีไม่มีจริงๆ (คนรู้จักเค้ายืนยัน) เลิกกับแฟนเก่ามานานแล้วน่าจะเกือบๆ3ปี แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้สถานะเค้าเหมือนกัน
ถามคุณผู้ชาย ถ้าไม่คิดจะสานต่อกับคนที่คุยจะคุยต่อมั๊ยคะ
คืองงสับสนว่าเค้าคิดไรอยู่ ถ้าไม่ใช่ ไม่อยากสานสัมพันธ์แล้วจะคุยทำไม คุยเพื่ออะไร ชวนกินข้าวก็แล้ว (ก็แสดงเจตนาชัดเจน) จะบอกว่าคุยตามมารยาทแต่ไม่คิดจะเจอ ก็รู้สึกว่าใช่เหรอ เพราะการคุยตามมารยาทคือถามคำตอบคำ และคงไม่เป็นฝ่ายตั้งคำถามในบทสนทนา ตอนนี้เราก็ยังคงคุยแชทกันอยู่ ซึ่งก็เป็นเราเหมือนเดิมที่ทักเค้าไปก่อน (แต่ไม่บ่อย เหมือนเดิมอาทิตย์ละครั้งสองครั้ง) ซึ่งในบทสนทนาก็คุยดี ไม่ได้ดูรำคาญอะไร แต่อาจจะตอบช้ากว่าเดิมบ้าง เพราะเค้าบอกว่ายุ่งโปรเจคเข้า ช้าสุดคือส่งหัวค่ำ ตอบเช้าอีกวันนึง อยากรู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่ ทำไมเดาใจยากจริง เราแค่อยากเจอเพราะมันคาใจแค่นั้นเอง ใช่ก็ไปต่อ ไม่ใช่ก็จบ เสียดายเวลาที่คุยกัน นี่ก็เกือบปีแล้ว แต่ทำไมเค้าไม่ยอมมาเจอเราซักที ส่วนเรื่องที่คิดว่ามีแฟนแล้วรึเปล่า อันนี้ก็ไม่มั่นใจเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ คือตอนช่วงเริ่มคุยต้นปีไม่มีจริงๆ (คนรู้จักเค้ายืนยัน) เลิกกับแฟนเก่ามานานแล้วน่าจะเกือบๆ3ปี แต่ตอนนี้ก็ไม่รู้สถานะเค้าเหมือนกัน