เรื่องมีอยู่ว่า .... บ่ายวันที่ 11.12.63 ร้านทองขึ้นห้างชื่อดังปล่อยรูปสินค้าพร้อมราคาโปรโมชั่นพิเศษ ผ่านทางLine ออฟฟิเชียลแอคเคาท์
ทางเรากำลังมองหาของขวัญให้คุณแม่เนื่องในวันเกิดอยู่พอดี
เกิดสะดุดที่สินค้า1ชิ้น เป็นแหวนทองดีไซน์เรียบหรูซ่อนดีเทล ราคา5900บาท ไซส์51
เนื่องจากบ้านขับไม่ไกลจากห้าง จึงขอแวะไปดูของจริงให้เห็นกับตาและลองแบบ
ตัดสินใจทักแอดมินเพจไปว่า "ทางเราต้องการสินค้าชิ้นนี้ พูดคุยเรื่องวิธีการชำระ และให้ชื่อพร้อมเบอร์โทร"
แอดมินโทรเข้ามาแจ้งว่า "คอนเฟริมสินค้า"
ทางเราจึงสอบถามเพิ่มเติมว่า "มีสินค้าไซส์52 หรือไม่ เนื่องจากจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้คุญแม่ เกรงว่าไซส์51มันจะคับไป"
แอดมินเช็คในระบบและแจ้งว่า "ไซส์52ยังมีในระบบ จะทำราคาและส่งผ่านทางข้อความLine"
เมื่อได้รับรูปภาพ ราคาคือ5800บาท ไซส์52 น้ำหนักทองจะได้น้อยกว่าไซส์51
แอดมินคอนเฟริมสิ้นค้าพร้อมราคาทางข้อความอีกครั้งให้เรา
เราจึงชำระเงิน5800บาทพร้อมแนบหลักฐานการชำระเงิน และสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับสินค้า
.
กลับมาบ้าน ผ่านไป ชั่วโมงกว่า ....
.
Line เด้งภาพสินค้าบางชิ้นที่ทำราคาผิด รวมถึง สินค้าที่Sold outพร้อมชื่อลูกค้าแต่ละท่าน แบบแหวนไซส์51ก็Sold outเช่นกัน แต่ไม่มีภาพสิ้นค้าไซส์52ของเราปรากฏอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน แอดมินโทรหาพร้อมแจ้งว่า สิ้นค้าที่เราซื้อเป็น1ในสิ้นค้าที่บริษัติทำราคาผิด ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มประมาณ3500บาท
ทางเราไม่สะดวกที่จะชำระเงินเกือบเท่าของราคาของ ซึ่งเรามองว่าองค์กรทำงานผิดพลาดไม่ใช่เรา
ให้แอดมินปรึกษาว่าจะรับผิดชอบยังไงในการผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพราะเรายังคงต้องการสิ้นค้าในราคาที่ตกลงแต่แรก
.
5นาทีผ่านไป..
.
แผนกฝ่ายการตลาดโทรกลับมาพร้อมแจ้งว่า "สินค้าที่ลูกค้าสั่งมีแค่ชิ้นเดียว และต้องสงวนสิทธ์ให้ผู้ที่ชำระก่อน"
ทางเราจึงแย้งว่า "สินค้าที่สั่งเป็นสินค้าคนละไซส์และคนละราคา"
ทางการตลาด เงียบไปซักพักแล้วบอกว่าขอใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อน
.
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า...
.
แผนกฝ่ายการตลาด คนเดิม โทรกลับมาพูดเหมือนเดิม เราจึงแย้งเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เพิ่มเติมคือ บริษัทจะคืนเงินแก่ลูกค้า
เราจึงแจ้งว่า เราต้องการสินค้าที่คุยกันไว้ ไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่พนง.ยังคงพูดว่าจะให้ฝ่ายบัญชีทำคืนเงิน (พยายามตัดบทโดยไม่ฟังเรา)
ยิ่งทำให้เราโมโหและไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พนง.แจ้งว่าจะเช็คข้อมูลแล้วจะให้แอดมินโทรกลับ
.
เนื่องจากตอนนั้นก็เกือบ2ทุ่มแล้ว ทางเรารอโทรศัพย์ตลอด แต่แอดมินไม่ได้มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด มีเพียงส่งข้อความว่าจะคืนเงิน ซึ่งเราก็พิมพ์ข้อความแจ้งว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้เป็นไปตามเราเคยตกลงแต่แรก และก็จบข้อความสนทนาในวันนั้น
.
วันรุ่งขึ้นเราจึงทักข้อความไปว่าจะขอรับของที่ห้างใกล้บ้าน และก็ได้คำตอบเดิมคือ ทางบริษัทจะคืนเงิน
.
ทางเราเห็นว่าในเมื่อคุยไม่รู้เรื่อง จึงอาจจะต้องโทรปรึกษากับเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ของสำนักงานใหญ่ซึ่งบริษัทปิดเสาร์-อาทิตย์ และ จะเปิดอีกทีในวันจันทร์
.
บ่ายวันจันทร์ที่ 14.12.63 เราจึงโทรหาสำนักงานใหญ่เพื่อจะขอแจ้งเรื่องกับแผนกลูกค้าสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ได้คุยเพราะทางแผนกติดประชุมตั้งแต่บ่าย1จนถึงเย็น (โทรสอบถามประมาณ3ครั้งเพื่อคอยเช็คจนบริษัทปิดทำการในวันนั้น)
.
เช้าวันอังคารที่ 15.12.63 เราจึงโทรอีกครั้ง พร้อมเล่าเรื่องราวให้แผนกลูกค้าสัมพันธ์ได้รับทราบ พนง.แจ้งว่าจะขอเช็คแล้วโทรกลับ
.
โทรกลับมาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์อธิบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแจ้งเหตุผลที่คนฟัง ฟังไม่ขึ้นเช่น
- แจ้งว่าแอดมินพึ่งเข้าทำงาน
- แจ้งว่าสินค้ามีแค่วงเดียวเป็นไซส์51ซึ่งขายให้ลูกค้าก่อนหน้านี้แล้ว
-แจ้งว่า เพราะมีแค่วงเดียวคือไซส์51 ซึ่งถ้าจะเอาต้องนำวงนี้ไปขยายเป็นไซส์52
เราโมโหมากกับคำอธิบายที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คุยกัน หรือสิงที่บริษัทเคยโฆษณาพรีเซ้นตนเอง
บริษัทยืนยันจะคืนเงินโดยไม่รับฟังว่าเราว่าต้องการอะไร หรือเสียเวลา เสียโอกาสอย่างไรบ้าง สุดท้ายก็จบที่จะเช็คแล้วโทรกลับ
.
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ส่งภาพใหม่มาทาง Line เป็นภาพสินค้าไซส์51 เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีกล่อข้อความRemarkประมาณว่า สิ้นค้ามีแค่ชิ้นเดียว สงวนสิทธ์ให้ท่านที่ชำระเงินเข้ามาก่อน (เหมือนบริษัทยังคงจะไม่ให้สินค้าไซส์52กับเราอยู่ดี)
.
** ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่เรามองว่าไม่สอดคล้องคือ **
1. สินค้าเป็นแหวนซึ่งมีสินค้าแค่ 1วงคือไซส์51
>> แล้วทำไมจึงสามารถให้ลูกค้ารอสายเพื่อเช็คในสต็อคได้ และยังสามารถทำราคาสิ้นค้าไซส์52ส่งมาทางข้อความได้
2. แหวนมี1วง คือไซส์51(ซึ่งมีคนซื้อไปแล้ว)
>> บริษัทไม่ได้เล็ก เปิดมา30ปี ทำงานกับระบบไม่ใช่ทำด้วยมือ และเราก็สั่งสิ้นค้าไซส์52 ไม่ใช่สินค้าไซส์51
3. แหวนมี1วง ต้องนำวงนี้ไซส์51(ซึ่งมีคนซื้อไปแล้ว)มาขยายเป็นไซส์52
>> ในความเป็นจริงร้านทองทั่วไปก็ทำได้ แต่ร้านทองของคุณทำตัวเรือนhandmadeไม่ใช่หร๋อ แม้ว่าจะทำได้เหตุใดน้ำหนักทองของ2สินค่าจึงไม่เท่ากัน หากต้องขยายออกจริงนน.ทองต้องเท่าเดิม
4. แจ้งว่ามีสิ้นค้าชิ้นเดียว แต่ทำไมถึงจะให้เราโอนเงินเพิ่มได้
>> สรุปตรงนี้มีสินค้ากี่ชิ้นกันแน่ ให้ชำระเงินเพิ่มแต่พอลูกค้าไม่รับข้อตกลง ก็พยายามยัดเยียดว่าสินค้ามีแค่ชิ้นเดียวคือไซส์51 มันย้อนแย้งมาก
5. โทษว่าแอดมินเป็นเด็กใหม่
>> บริษัทเป็นองค์กรใหญ่ น่าจะถูกบรีฟมาในรูปแบบเดียวกัน แอดมินทำตามหน้าที่ที่ระบบจัดไว้ แอดมินไม่ได้คิดคำนวนราคาสินค้าเองแน่นอน
.
รู้สึกเสียเวลา เสียโอกาส และ เสียความรู้สึกมาก ที่บริษัทไม่โทษตัวเอง เหตุใดถึงเอาความผิดมาตกที่ลูกค้า
แม้บริษัทจะหาอะไรมาอธิบาย ทางเรายังคงยืนยันว่า เราได้เช็คสินค้า ราคา และ คอนเฟริมโอนในเวลานั้นทันที
ตอนจะขาย บริษัทพรีเซ้นตัวเองให้ขายได้ พอไม่อยากขาย(จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม)ก็จะขอทำคืนเงิน แบบนี้ไม่เคยเจอที่ไหน
.
ทางเรามีหลักฐานครบในสิ่งที่ได้พูดคุยตกลงซื้อ-ขายกัน และเบื้องต้นได้มีการดำเนินเรื่องตามแบบที่พอจะทำได้
ทางเราได้ไปสน.เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
และ ยื่นเรื่องร้องเรียนความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ผ่านทางสคบ.
.
สิ่งที่ทำได้คือ รอฟังผล
.

.
งงตาแตก "ปรมาจารย์ทางด้านทองร้านดังขึ้นห้างผลักความผิดให้ลูกค้า" มาแชร์เรื่องราว
ทางเรากำลังมองหาของขวัญให้คุณแม่เนื่องในวันเกิดอยู่พอดี
เกิดสะดุดที่สินค้า1ชิ้น เป็นแหวนทองดีไซน์เรียบหรูซ่อนดีเทล ราคา5900บาท ไซส์51
เนื่องจากบ้านขับไม่ไกลจากห้าง จึงขอแวะไปดูของจริงให้เห็นกับตาและลองแบบ
ตัดสินใจทักแอดมินเพจไปว่า "ทางเราต้องการสินค้าชิ้นนี้ พูดคุยเรื่องวิธีการชำระ และให้ชื่อพร้อมเบอร์โทร"
แอดมินโทรเข้ามาแจ้งว่า "คอนเฟริมสินค้า"
ทางเราจึงสอบถามเพิ่มเติมว่า "มีสินค้าไซส์52 หรือไม่ เนื่องจากจะซื้อเป็นของขวัญวันเกิดให้คุญแม่ เกรงว่าไซส์51มันจะคับไป"
แอดมินเช็คในระบบและแจ้งว่า "ไซส์52ยังมีในระบบ จะทำราคาและส่งผ่านทางข้อความLine"
เมื่อได้รับรูปภาพ ราคาคือ5800บาท ไซส์52 น้ำหนักทองจะได้น้อยกว่าไซส์51
แอดมินคอนเฟริมสิ้นค้าพร้อมราคาทางข้อความอีกครั้งให้เรา
เราจึงชำระเงิน5800บาทพร้อมแนบหลักฐานการชำระเงิน และสอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับสินค้า
.
กลับมาบ้าน ผ่านไป ชั่วโมงกว่า ....
.
Line เด้งภาพสินค้าบางชิ้นที่ทำราคาผิด รวมถึง สินค้าที่Sold outพร้อมชื่อลูกค้าแต่ละท่าน แบบแหวนไซส์51ก็Sold outเช่นกัน แต่ไม่มีภาพสิ้นค้าไซส์52ของเราปรากฏอยู่
หลังจากนั้นไม่นาน แอดมินโทรหาพร้อมแจ้งว่า สิ้นค้าที่เราซื้อเป็น1ในสิ้นค้าที่บริษัติทำราคาผิด ลูกค้าต้องจ่ายเพิ่มประมาณ3500บาท
ทางเราไม่สะดวกที่จะชำระเงินเกือบเท่าของราคาของ ซึ่งเรามองว่าองค์กรทำงานผิดพลาดไม่ใช่เรา
ให้แอดมินปรึกษาว่าจะรับผิดชอบยังไงในการผิดพลาดที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เพราะเรายังคงต้องการสิ้นค้าในราคาที่ตกลงแต่แรก
.
5นาทีผ่านไป..
.
แผนกฝ่ายการตลาดโทรกลับมาพร้อมแจ้งว่า "สินค้าที่ลูกค้าสั่งมีแค่ชิ้นเดียว และต้องสงวนสิทธ์ให้ผู้ที่ชำระก่อน"
ทางเราจึงแย้งว่า "สินค้าที่สั่งเป็นสินค้าคนละไซส์และคนละราคา"
ทางการตลาด เงียบไปซักพักแล้วบอกว่าขอใช้เวลาตรวจสอบข้อมูลอีกครั้งก่อน
.
ผ่านไปครึ่งชั่วโมงกว่า...
.
แผนกฝ่ายการตลาด คนเดิม โทรกลับมาพูดเหมือนเดิม เราจึงแย้งเหมือนเดิม แต่ครั้งนี้เพิ่มเติมคือ บริษัทจะคืนเงินแก่ลูกค้า
เราจึงแจ้งว่า เราต้องการสินค้าที่คุยกันไว้ ไม่ได้ต้องการเงินคืน แต่พนง.ยังคงพูดว่าจะให้ฝ่ายบัญชีทำคืนเงิน (พยายามตัดบทโดยไม่ฟังเรา)
ยิ่งทำให้เราโมโหและไม่พอใจเป็นอย่างมาก
พนง.แจ้งว่าจะเช็คข้อมูลแล้วจะให้แอดมินโทรกลับ
.
เนื่องจากตอนนั้นก็เกือบ2ทุ่มแล้ว ทางเรารอโทรศัพย์ตลอด แต่แอดมินไม่ได้มีการติดต่อกลับแต่อย่างใด มีเพียงส่งข้อความว่าจะคืนเงิน ซึ่งเราก็พิมพ์ข้อความแจ้งว่าข้อตกลงนี้ไม่ได้เป็นไปตามเราเคยตกลงแต่แรก และก็จบข้อความสนทนาในวันนั้น
.
วันรุ่งขึ้นเราจึงทักข้อความไปว่าจะขอรับของที่ห้างใกล้บ้าน และก็ได้คำตอบเดิมคือ ทางบริษัทจะคืนเงิน
.
ทางเราเห็นว่าในเมื่อคุยไม่รู้เรื่อง จึงอาจจะต้องโทรปรึกษากับเจ้าหน้าที่ลูกค้าสัมพันธ์ของสำนักงานใหญ่ซึ่งบริษัทปิดเสาร์-อาทิตย์ และ จะเปิดอีกทีในวันจันทร์
.
บ่ายวันจันทร์ที่ 14.12.63 เราจึงโทรหาสำนักงานใหญ่เพื่อจะขอแจ้งเรื่องกับแผนกลูกค้าสัมพันธ์ แต่ก็ไม่ได้คุยเพราะทางแผนกติดประชุมตั้งแต่บ่าย1จนถึงเย็น (โทรสอบถามประมาณ3ครั้งเพื่อคอยเช็คจนบริษัทปิดทำการในวันนั้น)
.
เช้าวันอังคารที่ 15.12.63 เราจึงโทรอีกครั้ง พร้อมเล่าเรื่องราวให้แผนกลูกค้าสัมพันธ์ได้รับทราบ พนง.แจ้งว่าจะขอเช็คแล้วโทรกลับ
.
โทรกลับมาครั้งนี้ เจ้าหน้าที่แผนกลูกค้าสัมพันธ์อธิบายเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือแจ้งเหตุผลที่คนฟัง ฟังไม่ขึ้นเช่น
- แจ้งว่าแอดมินพึ่งเข้าทำงาน
- แจ้งว่าสินค้ามีแค่วงเดียวเป็นไซส์51ซึ่งขายให้ลูกค้าก่อนหน้านี้แล้ว
-แจ้งว่า เพราะมีแค่วงเดียวคือไซส์51 ซึ่งถ้าจะเอาต้องนำวงนี้ไปขยายเป็นไซส์52
เราโมโหมากกับคำอธิบายที่ไม่สอดคล้องกับสิ่งที่คุยกัน หรือสิงที่บริษัทเคยโฆษณาพรีเซ้นตนเอง
บริษัทยืนยันจะคืนเงินโดยไม่รับฟังว่าเราว่าต้องการอะไร หรือเสียเวลา เสียโอกาสอย่างไรบ้าง สุดท้ายก็จบที่จะเช็คแล้วโทรกลับ
.
หลังจากนั้นไม่นาน ก็ส่งภาพใหม่มาทาง Line เป็นภาพสินค้าไซส์51 เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือมีกล่อข้อความRemarkประมาณว่า สิ้นค้ามีแค่ชิ้นเดียว สงวนสิทธ์ให้ท่านที่ชำระเงินเข้ามาก่อน (เหมือนบริษัทยังคงจะไม่ให้สินค้าไซส์52กับเราอยู่ดี)
.
** ทั้งหมดทั้งมวล สิ่งที่เรามองว่าไม่สอดคล้องคือ **
1. สินค้าเป็นแหวนซึ่งมีสินค้าแค่ 1วงคือไซส์51
>> แล้วทำไมจึงสามารถให้ลูกค้ารอสายเพื่อเช็คในสต็อคได้ และยังสามารถทำราคาสิ้นค้าไซส์52ส่งมาทางข้อความได้
2. แหวนมี1วง คือไซส์51(ซึ่งมีคนซื้อไปแล้ว)
>> บริษัทไม่ได้เล็ก เปิดมา30ปี ทำงานกับระบบไม่ใช่ทำด้วยมือ และเราก็สั่งสิ้นค้าไซส์52 ไม่ใช่สินค้าไซส์51
3. แหวนมี1วง ต้องนำวงนี้ไซส์51(ซึ่งมีคนซื้อไปแล้ว)มาขยายเป็นไซส์52
>> ในความเป็นจริงร้านทองทั่วไปก็ทำได้ แต่ร้านทองของคุณทำตัวเรือนhandmadeไม่ใช่หร๋อ แม้ว่าจะทำได้เหตุใดน้ำหนักทองของ2สินค่าจึงไม่เท่ากัน หากต้องขยายออกจริงนน.ทองต้องเท่าเดิม
4. แจ้งว่ามีสิ้นค้าชิ้นเดียว แต่ทำไมถึงจะให้เราโอนเงินเพิ่มได้
>> สรุปตรงนี้มีสินค้ากี่ชิ้นกันแน่ ให้ชำระเงินเพิ่มแต่พอลูกค้าไม่รับข้อตกลง ก็พยายามยัดเยียดว่าสินค้ามีแค่ชิ้นเดียวคือไซส์51 มันย้อนแย้งมาก
5. โทษว่าแอดมินเป็นเด็กใหม่
>> บริษัทเป็นองค์กรใหญ่ น่าจะถูกบรีฟมาในรูปแบบเดียวกัน แอดมินทำตามหน้าที่ที่ระบบจัดไว้ แอดมินไม่ได้คิดคำนวนราคาสินค้าเองแน่นอน
.
รู้สึกเสียเวลา เสียโอกาส และ เสียความรู้สึกมาก ที่บริษัทไม่โทษตัวเอง เหตุใดถึงเอาความผิดมาตกที่ลูกค้า
แม้บริษัทจะหาอะไรมาอธิบาย ทางเรายังคงยืนยันว่า เราได้เช็คสินค้า ราคา และ คอนเฟริมโอนในเวลานั้นทันที
ตอนจะขาย บริษัทพรีเซ้นตัวเองให้ขายได้ พอไม่อยากขาย(จะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม)ก็จะขอทำคืนเงิน แบบนี้ไม่เคยเจอที่ไหน
.
ทางเรามีหลักฐานครบในสิ่งที่ได้พูดคุยตกลงซื้อ-ขายกัน และเบื้องต้นได้มีการดำเนินเรื่องตามแบบที่พอจะทำได้
ทางเราได้ไปสน.เพื่อปรึกษากับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และลงบันทึกประจำวันไว้แล้ว
และ ยื่นเรื่องร้องเรียนความไม่เป็นธรรมครั้งนี้ผ่านทางสคบ.
.
สิ่งที่ทำได้คือ รอฟังผล
.