ตอนนี้เราเหนื่อยจังเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ เราก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไงดีเหมือนกันนะคะ...
ตอนนี้เราอายุ 23 ค่ะ ปีหน้าจะ 24 ตอนนี้เราเป็นหนี้อยู่สามล้าน เนื่องจากการทำเรื่องกู้บ้านให้ครอบครัวอยู่ค่ะ ตอนนี้เราผ่อนมา 2 ปีแล้ว ปีหน้าก็เข้าปีที่ 3
แล้วก็จะผ่อนมากขึ้น      เราเป็นลูกคนเล็กค่ะ มีพี่ชายสองคน ซึ่งพี่คนโตอยู่กับครอบครัวของตัวเอง แต่พี่คนกลางมีครอบครัวแล้วแต่ก็อยู่กับเราค่ะ 
ซึ่งที่แม่ให้พี่คนกลางอยู่ด้วยเพราะว่าอยากจะให้ช่วยผ่อนและก็อยากให้อยู่เป็นครอบครัว ซึ่งเราแบบ มันคือบ้านแบบทาวน์โฮมอะคะทุกคน ซึ่งมันมีที่ก็จริงแต่มันก็สำหรับแค่อาศัยอยู่หนึ่งครอบครัว เราไม่เข้าใจแม่เราเลยค่ะจริงๆ เห้ออออออ
แล้วตอนจะทำเรื่องกู้บ้าน คือเรากับพี่ก็คุยกันแล้วว่าอยากจะให้ทุกคน ช่วยผ่อนหน่อยได้ไหม เพราะยังไงก็กู้ให้พ่อกับแม่อยู่นะ คือมันก็ดูเห็นแก่ตัวอยู่เพราะพี่คนโตก็ไม่ได้มาอยู่ด้วย แต่เราก็แค่ไม่อยากให้พี่เรา ผลักภาระมาให้เราคนเดียว พี่เราก็โอเคเดียวช่วยผ่อน สมมติค่าบ้าน 10000 เราอยู่ก็จ่าย 4000 พี่คนกลางอยู่ 4000
พี่คนโต 2000 มันก็คือโอเคตกลง ตอนผ่อนปีแรก พี่คนโตมันก็ยังช่วยจ่ายอยู่ แต่มาปีนี้มันไม่ได้ช่วยแล้ว ก็คือกลายเป็น เราจ่าย 6000 พี่คนกลางจ่าย 4000
เราก็รู้นะว่ามันมีโควิดเข้ามา แต่ก็คือมันไม่ได้กระทบกับพี่คนโตเราคนเดียวจนถึงทำให้ไม่ช่วยออกไหมอะ ทุกคนเค้าก็โดนอะ พี่คนกลางก็โดน
ส่วนค่าน้ำค่าไฟค่ากิน แม่กับพ่อออก แม่เราอะขายอาหารตามสั่ง พ่อทำงานรับจ้างทั่วไป แต่คือเราก็ไม่รู้เรื่องรายรับรายจ่ายของพ่อกัยแม่เลย
อะมาที่นี้ เราก็บ่นกับแม่ว่าทำไมพี่คนโตมันไม่ช่วยออกเลย  แม่ก็บอกว่ามันมีครอบครัว มีลูกมีเต้าต้องดูแล เราก็คือคิดในใจนะว่า ไม่ได้ไหมอะ
งี้เราก็คือสามารถออกไปอยู่ข้างนอก มีลูกมีแฟนบ้างจะได้ไม่ต้องมารับภาระผ่อนบ้านมั่งก็ได้ไหม ก็นะลูกรัก
เรานึกเรื่องอะไรได้ก็จะเขียนอันนั้นนะคะ อาจจะไม่ปะติดปะต่อกันนะคะ
ปัจจุบันคือเราจบมอ.6นะคะ ตั้งแต่อนุบาลถึงมอ.ต้นเราเรียนที่กรุงเทพมาตลอด แล้วอยู่ๆมอ.ปลายแม่ก็ส่งให้เราไปเรียนต่างจังหวัด ซึ่งก็คือจังหวัดร้อยเอ็ด
เพราะว่าพี่ชายคนโตของเราไปเปิดร้านเกมอยู่ที่นู้น (พี่ชายคนโตเราไปอยู่บ้านพ่อของเค้านะคะ ก็คือสามีเก่าของแม่ สามีคนแรก)
แม่ก็เลยอยากให้ไปอยู่กับพี่ชายและก็ไปช่วยพี่ชายด้วย ตอนนั้นเราก็เสียใจนะคะเฟลมาก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พอไปถึงเราก็จะไปสมัครเรียน เราไม่ได้อยู่อำเภอในเมืองนะคะ ไกลจากตัวเมืองอยู่ เราตั้งใจว่าจะไปเรียนในตัวเมือง แต่คือเราพึ่งไปอยู่และก็ไม่ค่อยรู้จักก็เลยจะให้พี่ชายคนโตพาไป 
แต่มันก็ไม่ได้พาเราไปสมัครเรียนในโรงเรียนตัวเมือง พาเราไปสมัครโรงเรียนที่มีมอ.ปลายแถวนั้นแทน ที่นี้เราก็คือเสียเลยค่ะ อันนี้โทษพี่ชายก็ไม่ได้โทษที่ตัวเราด้วย
ก็คือก็ไปเรียนเหมือนเอาจบมากกว่า ไม่ได้ตั้งใจเรียนเลย แต่ก็พยายามไม่ให้เหลวไหล แล้วเราก็ติดเกมด้วยค่ะไหนจะต้องช่วยพี่เฝ้าร้านเกมอีก เละเทะเลยค่ะ
และเราไปเรียนที่นู้นแม่ให้เงินใช้เดือนละแค่ 2000 เรารู้สึกเหมือนโดนตัดหางทิ้งไม่ใส่ใจยังไงก็ไม่รู้
มีอีกอย่างค่ะ คือที่จริงอะนะ เราเป็นลูกบุญธรรม ของครอบครัวนี้นะคะ อันเรื่องนี้เราก็พึ่งมารู้ด้วยแล้วเป็นการที่เรารู้ด้วยตัวเองไม่ได้มีผู้ใหญ่คนไหนมาบอกเราเลย 
เราไม่รู้นะคะว่ามีคนในครอบครัวนี้มีใครรู้บ้างว่าเราเป็นลูกบุญธรรม  ที่เรารู้ก็เพราะ ตอนนั้นน่าจะปอ.หกหรือมอ.หนึ่งเราก็ไม่มั่นใจ คือทางโรงเรียนต้องการเอกสาร
อะไรสักอย่าง แล้วที่นี้เราก็ด้วยความขี้เกียจบอกแม่ เราก็เลยไปหาเอง พอไปนั่งค้นนั่งหาเอกสารเราก็เจอเอกสารจากศาลระบุว่า ชื่อแม่เรา ขอรับ ชื่อเรา 
เป็นบุตรบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมาย คือตอนนั้นโลกของเราที่คิดว่าเค้าคือพ่อแม่นี้ถล่มเลยนะ แตกเป็นเสี่ยงๆเลย  แล้วที่นี้มันก็ทำให้เราโยงได้ว่าเออ 
ทำไมผู้ใหญ่แถวบ้านเราชอบพูดว่าเราเกิดมาจากกระบอกไม้ไผ่ ปล้วก็ทำให้เรานึกถึงเหตุการหนึ่งตอนเด็กเลย(น่าจะ ปอ.สาม ปอ.สี่ได้)
คือตอนนั้นลูกของพี่ชายคนกลางพึ่งคลอด เราก็ช่วยเลี้ยงได้ช่วยดูแลหรือนั่งเฝ้าเวลาหลานหลับได้ แล้วคือเด็กพึ่งเกิดคนที่บ้านเค้าก็จะให้กำไลข้อเท้าข้อมือใส่
เป็นเงินเป็นทองงี้ แล้วตอนนั้นเราก็เป้นคนนั่งเฝ้าหลานหลับ แล้วคือมันหลุดซึ่งตอนหลังก็เจอว่ามันหลวมเลยล่น
แต่คือตอนนั้นแม่เรา แม่คนที่เอาเรามาเลี้ยงเลย หันมาถามเราว่าเราเอาไปรึป่าว เราก็บอกว่าไม่ได้เอาไป แม่เรากฌจี้ๆอยู่อย่างงั้น เราก็บอกนะว่าเราไม่ได้เอาไป
และก็ถามแม่ว่า แม่ไม่เชื่อหนูหรอ ว่าหนูไม่ได้เอาไป แม่ตอบกลับมาว่า ไม่เชื่อ เราแบบไปต่อไม่ถูกเลย ก็เลยเงียบ แล้วสุดท้ายก็เจอมันล่นอยู่
แต่แม่ไม่มีการขอโทษเราสักคำ เราแบบโคตรเสีนใจอะ ทุกวันนี้ยังจำได้แล้วมันก็ทำให้เราเอาโยงไปว่าเพราะเราไม่ใช่ลูกเค้าแท้ๆสินะ
หลังๆจากนั้นก็ไม่ค่อยมีเรื่องอะไรแล้วนะคิดว่า หรือเราจำไม่ได้ก็ไม่รู้
แต่เราเริ่มรู้ว่า อาการนี้น่าจะเริ่มตอนมอ.ต้น มันเป็นแบบ เราเริ่มทำร้ายตัวเอง แต่เราไม่ได้ทำตลอดนะคะ
เราจะทำตอนที่เรารู้สึกว่า เราทำให้แม่ไม่ดีพอ หรือทำให้เค้ารู้สึกแย่ เราก็จะทำร้ายตัวเอง มี หยิก กัด แล้วก็กรีดแขนตัวเองค่ะ
ตอนมอ.ต้นเราไม่ได้ทำบ่อยนะคะ นานๆครั้งเลย แต่เป็นช่วงหลังเราจบมอ.หกแล้วค่ะ ที่จริงเราตั้งใจว่าจบมอ.หกก็จะเรียนมหาลัยที่อุบลฯเลย 
ถึงเราจะเละเทะเรื่องเรียนแต่ก็ไม่ได้ทิ้งนะคะ ก็น่าจะได้สองจุดแปดหรือเก้าได้ ก็น่าจะเข้าม.อุบลได้ เราขอแม่แล้ว แต่แม่บอกเราว่าไม่มีเงินส่งเราเรียน
ให้เรากลับกรุงเทพฯมาทำงานก่อนค่อยเรียน เราก็ทำอะไรไม่ได้ก็ต้องกลับมาทำงานค่ะ เอาจริงตอนนั้นเราไม่รู้สึกว่าแม่รักเราเลยนะ เหมือนเลี้ยงเราไว้ใช้งาน 
เลี้ยงไว้ให้ตอบแทนเค้ามากกว่า เราก็กลับมาทำงานที่กรุงเทพและก็อยู่กับแม่ที่บ้านเก่านะ (ตอนนั้นยังไม่โดนไล่ที่) ก็ทำงานมีเงินเดือน แม่ก็ขอเราเดือนละ 5000 
เราก็ให้ไม่ได้อิดออดอะไร ตอนนั้นรู้สึกคือเราต้องทำให้เค้าเพราะเค้าอุตส่าห์เอาเรามาเลี้ยง เราก้คือทำงานให้เงินเค้าไปเรื่อยๆ พอน่าจะ 3 ปีได้ คือบ้านเก่าเราอะ 
มันเป็นบ้านไม้ เดียวตรงนั้นก็พัง ตรงนี้ก็พุ ตรงนี้น้ำรั่วเพราะฝนตก แม่ก็เลยบอกให้เราไปเช่าห้องอยู่ตึกเดียวกับพี่สะใภ้ เราก็ไปเช่าอยู่ ก็กลายเป็น
เราต้องให้แม่ และก็จ่ายค่าเช่าห้อง แต่ตอนนั้นที่เราออกมาอยู่คนเดียวเราโคตรมีความสุขเลยทุกคน มีความสุขมากๆ
จนน่าจะเข้าปีที่ 4 หรือ 5 ที่เราทำงานอะ เจ้าของที่ตรงบ้านเก่าก็เริ่มมาบอกแต่ละบ้านละบ้านแถวนั้นว่า เดียวจะไล่ที่นะ จะนู้นนี้นั้น ก็เลยกลายมาต้องกู้บ้าน
แล้วตอนนั้นเราน่าจะ 19 ใกล้จะ 20 มั่งนะ อายุมันยังไม่ถึงเกณฑ์ที่จะกู้บ้านได้ ที่นี้ก็ต้องดึงคนนู้นคนนี้นคนนั้นมาช่วย 
และเหมือนเราก็รู้สึกว่าเราทำไม่ได้ดีอะ ทำไมทำให้พ่อกับแม่ลำบาก ไม่มีที่อยู่ดีๆ คิดว่าเค้ารู้สึกไม่ดี ผิดหวัง รู้สึกแย่ในตัวเอาอะ
พอเราคิดแบบนั้น เรารู้สึกว่าถ้ามีคนรู้สึกเจ็บเพราะเรา (ทางด้านความรู้สึก) หรือรู้สึกแย่เพราะเรา เราต้องทำให้ตัวเองเจ็บทางร่างกายเป็นการทดแทน
ช่วงนั้นก็คือ แขนทั้งสองข้างเราเต็มไปด้วยรอยกัด รอยหยิก จนหลังๆรู้สึกแค่นั้นมันยังไม่พอกับการทำให้เค้ารู้สึกเจ็บ ก็คือกรีดแขนตัวเองเลย
กรัดหนักมาก เราซื้อใบมีดคัตเตอร์มาเก็บไว้กรีดแขนเลย แต่เราก็มีการพยายามพาตัวเองไปพบจิตแพทย์นะ แต่เราไม่มีงบ เพราะต้องให้แม่กับจ่ายค่าเช่า
ก็จะเป็นใข้ของประกันสังคม ก็คือได้ยามากินได้ล้างแผล แต่ก็คือไม่ได้คุยปรึกษาว่ามันคืออาการทางจิต หรือควรรักษาอย่างไหร่
จนทำเรื่องกู้บ้านผ่านเราก็ไม่ได้กรีดแขนตัวเองแล้ว แต่ก็ยังมีหยิก มีกัดอยู่
เราเกลียดแม่มากเลยนะ แต่ก็รักแม่ด้วย เราอยากให้แม่ตายสักที เรารู้สึกว่าเราโดนขังไว้อะ เราก็แค่อยากให้แม่ปล่อยเราไป ปล่อยเราออกไป
จากความรู้สึกอะไรเราก็ไม่รู้อะ เราแค่อยากหนี อยากให้แม่ตาย หรือไม่ก็ให้เราตาย เราไม่กล้าพอที่จะทำให้ตัวเองเสียชีวิตนะแต่เราก็อยากให้ตัวเองตาย
เราอยากหนีนะ แต่เราอะก็จะคิดอีกว่าถ้าเราหนี มันก็จะทำให้แม่แย่ ทำให้แม่เหนื่อย พอเราคิดแบบนั้นมันก็จะทำให้เราทำร้ายตัวเอง ตอนนี้เราก็ทำร้ายตัวเองนะ
แต่พยายามห้ามให้ทำร้ายแค่หยิกกับกัด ยังห้ามให้ตัวเองไม่กรีดแขนได้อยู่ เออที่จริงตอนนี้อะเราเจอก้อนซีสที่หน้าอก
เราไปตรวจอยู่รอนัด เราภาวนาทุกวันเลย ว่าขอให้มันเป็นเนื้อร้าย ถ้าเป็นเนื้อร้าย เราก็จะได้มีชีวิตที่สั้นลงนะ
พอคิดว่าชีวิตเราสั้นลง เราไม่ต้องทน เราก็มีความสุขมากเลยนะ
ขอบคุณนะคะถ้ามีคนเข้ามาอ่าน
แต่ถ้าไม่มีก็ไม่เป็นไรนะคะ อย่างน้อยก็ถือว่าเป็นการระบายออกมาก
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่