ยกขาหยาบกร้าน..เหยียบปูนเปลือย
มันเหนื่อย..ในสายลมแห้งผาก
ผิวหนังคล้ำก่ำ..กล้ำกรำความยาก
มันสากไปถึงผนังห้องใจ
ไม่มี..ความปรารถนาในชีวิต
ถูกผิด..ตัดสินแค่ตัวรอดไหม
ฆ่าชีวิต..เหยียบย่ำพงไพร
บอดใบ้ในอ่อนโยน
โยนร่างอันหยาบ..ยังน้ำลำธารหนึ่ง
น้ำซึ่ง..เหล่านกเรี่ยเริงผาดโผน
ไม่เห็น..แต่กลัวตัวไปโดน
ผิวน้ำโน่นที่ใส
ไม่เคยโดน..แตะต้องน้ำมาทั้งชีวิต
ในจิต..ขลาดกลัวและหม่นไหม้
เกลียดชัง..ความร่าเริงเป็นไท
ของไอ้..นกพวกนั้นเหลือเกิน
มันกรีดร้องโหยหวนอะไรวะ
มันเกาะเบียดกันทำไมอะ
มันมีสีเลือดเพื่ออะไรวะ
มันตื่นตระหนกทำไมทำไมทำไม!
อยากจะทำลาย..พวกมันเหลือเกิน
จึงเดิน..ย่ำจ้ำสู่ขอบน้ำใส
หมายมั่น..จะบดขยี้ทุกอย่างให้บรรลัย
มันต้องตายตายตาย!..เท้าย่ำธารา...
สะดุ้งสุดตัว..ชั่วคราวความรู้สึก
กรีดลึก..จากเท้าแล่นหัวหา
ล่าถอยอย่างเร็ว..กลับสู่ดินหยาบช้า
ความบ้าบิ่นมลายหาย
ในสายตา..ก่อกำเนิดสงสัย
มีอะไร..ในน้ำอันชั่วร้าย
ทำไมนกนั่น..ไม่เห็นเป็นอันตราย
มั่นหมายชนะมัน
ไม่มี..อะไรที่ไม่พิชิต
ชัยสถิตย์..ทั่วถิ่นนรกสวรรค์
กับอีแค่น้ำ..จะกลัวทำไมกัน
จึงกล้ากลั้นใจ..เท้าหย่อนธารา...
วูบวาบทั่วตัว..ชั่วครู่ความรู้สึก
สำนึก..ถ้วนทั่วพรูพรั่งทั้งมังสา
กร้านเกร็ง..พลันอ่อนผ่อนลงกายา
แสงรงค์ตรงหน้า..ช่างสวยงาม
เจ้าเจื้อยแจ้ว~ไพเราะจริงนะ
เจ้าคู่เคล้า~แนบร่างช่างอบอุ่นจริงจ่ะ
เจ้ามีสีสัน~แพรวพรรณแท้นะ
เจ้าเริงระ~บำสำรวย..ช่างสวยงาม
...
หย่อนขาหยาบกร้าน..หยั่งห้วงนที
ห้วงปรีดีย์..ในสายลมไถ่ถาม
แสงอาทิตย์..ส่องชีวิตทุกโมงยาม
ไยเพิ่งข้าม..กลับห้วงวิญญาณ..
กลับสถาน..แห่งใจ ฯ
เท้าหย่อนธารา