หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] รีวิว...ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ ที่พักแนวบ้านต้นไม้ท่ามกลางป่าต้นสักที่พะเยา
กระทู้รีวิว
บันทึกนักเดินทาง
สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศ
คาเฟ่ (Cafe)
ร้านกาแฟ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
สวัสดีครับ...มาเที่ยวกันต่อหลังจากที่คราวนี้แล้วพาไปโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นแล้วเก็บความประทับใจยัดใส่กระเป๋า ออกจากสุโขทัยไปต่อกันที่พะเยา ซึ่งปกติถ้าไปพะเยาคงจะนึกถึงภูลังกาเป็นอันดับแรก แต่แถวๆอำเภอเมืองก็มีที่พักเจ๋งๆอยู่เหมือนกัน และที่ "ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์" คือหนึ่งในนั้น
กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเดิมครับ อ่านเพลินๆดูรูปไปเดี๋ยวก็จบ ไปกันเลยครับ
ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยพะเยา เลยประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยไปประมาณ 1.6 กม. ทางเข้าไม่มีจุดสังเกตหรือจุดเด่นอะไรเลย(จะบอกว่าจุดสังเกตคือบ้านสีเขียวหรือป้ายซ่อมมอเตอร์ไซค์ก็ไม่น่าจะเรียกว่าจุดสังเกตได้) ดังนั้นเพื่อความมั่นใจปักหมุดใน Google map แล้วตามไปจะดีที่สุดครับ
จอดรถปุ๊บ เจ้า 2 ตัวนี้ก็มาต้อนรับอย่างดี พอทำความรู้จักกันแล้วพี่แกก็ไม่สนใจกลุ่มของผมอีกเลย เรียกก็ไม่มา เดินผ่านก็ไม่มอง นอกจากเจ้า2ตัวนี้ก็ยังมีตัวอื่นอีก 2 ตัว ใครกลัวสุนัขอาจจะต้องพิจารณากันนิดนึงครับ
ห้องพักของที่นี่จะอยู่คนละฝั่งกับส่วนต้อนรับ ต้องเดินข้ามสะพานข้ามห้วยเล็กๆมา ห้องพักของที่นี่มีหลายแบบนะครับกระจายอยู่ทั่วบริเวณของฟาร์ม ห้องที่ผมจองเป็นห้องสวีทราคา 2490 บาทรวมอาหารเช้า รวมเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้เย็น(น้ำดื่มและซอฟดริ้งค์) รวมพิซซ่าทำเอง และรวมขี่ม้า
ห้องพักซึ่งจริงๆน่าจะเรียกว่าบ้านพักมากกว่าเพราะใหญ่โตใช้ได้อยู่ลึกเข้ามาในป่าต้นสัก ห่างจากถนนและห่างจากส่วนต้อนรับทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวแบบเต็มที่ ตอนกลางคืนยิ่งเงียบ ใครต้องการที่พักผ่อนแบบเงียบๆน่าจะถูกใจ
ห้องพักประกอบด้วยส่วนด้านนอก ไม่มีเครื่องปรับอากาศเป็นที่นั่งพักผ่อน ทานอาหารและดื่มด่ำกับธรรมชาติให้เต็มที่ อากาศไม่ร้อนมีลมพัดผ่านและอยู่ใต้เงาร่มไม้สดชื่นดีทีเดียวครับ
จุดเด่นจุดหนึ่งของห้องด้านนอกคือมุมนี้ครับ เป็นมุมที่เหมือนระเบียงยื่นออกไปชมป่าด้านนอก เหมาะกับการนั่งจิบกาแฟฟังเสียงนก(และเสียงตุ๊กแกในบางจังหวะ) นั่งเมาท์กับเพื่อน นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย หรือจะนั่งหายใจทิ้งเสียบ้างก็แล้วแต่สะดวก
ห้องนอนเป็นห้องปรับอากาศขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้าเต็มไปหมดทั้งช่องแสงแบบปิดม่านได้และปิดม่านไม่ได้ ตอนกลางวันห้องค่อนข้างสว่างจากแสงธรรมชาติเลยครับ ส่วนกลางคืนอาจจะเหงาๆวังเวงนิดหน่อย หาคนข้างกายมาด้วยจะช่วยได้มากครับ
เครื่องปรับอากาศจะอยู่ชั้นล่างเพียงเครื่องเดียว แต่ที่นอนจะมีชั้นบนซึ่งเป็นที่นอนใต้หลังคาดัวย วิธีที่ผมใช้คือเปิดแอร์ชั้นล่างแล้วเปิดพัดลมชั้นล่างให้หันขึ้นด้านบนจะช่วยส่งลมเย็นได้ดีขึ้น ปลั๊กไฟมีหลายจุดเท่าที่เห็นเฉพาะชั้นล่างก็มี 4 จุดเป็นอย่างน้อยแต่จุดสังเกตคือเป็นปลั๊กแบบ 2 ขาล้วนๆ ถ้าใครเอาอุปกรณ์ที่เป็นปลั๊ก 3 ขาเช่น Laptop มาด้วยก็พกตัวแปลงมาด้วยนะครับ
เตียงทั้งชั้นล่างและชั้นบนนอนสบายเลยครับ แน่นอนว่าชั้นล่างจะนุ่มกว่าแต่ก็นอนสบายทั้งนั้นครับ และที่นี่ไม่มีโทรทัศน์นะครับใช้เวลากับธรรมชาติให้เต็มที่ดีกว่า
ห้องน้ำกว้างขวาง โถสุขภัณฑ์มีสายชำระมาเรียบร้อย อุปกรณ์ในห้องน้ำครบถ้วนเลยครับ ได้มาตรฐานโรงแรมใหญ่ๆเลย
ตกเย็นก็ได้เวลาพิซซ่าทำเอง จริงๆควรจะเรียกว่าพิซซ่าแต่งเองมากกว่าเพราะที่นี่เตรียมให้หมดแล้ว เรามีหน้าที่แค่ละเลงลงไปแล้วก็เอาเข้าเตาอบตามเวลาและอุณหภูมิที่พนักงานบอกไว้เป็นอันเรียบร้อย
ตอนที่ผมไปที่นี่ไม่มีบริการอาหารเย็นนะครับ ออกไปหาซื้อแถวหน้ามอก็ได้ หรือจะสั่งแพนด้าก็ได้ พนักงานบอกว่าจะให้เขาไปซื้อให้ก็ได้...แหม เกรงใจน่ะ พิซซ่าเสร็จ มานั่งล้อมวงทานกันกับอาหารที่สั่งมาจากข้างนอก เครื่องดื่มอีกหน่อย ฉีดซอฟเฟลกันยุงไว้ก็นั่งได้ยาวๆครับ อากาศที่นี่ช่วงค่ำๆเย็นสบายทีเดียว
ทานอาหารเสร็จก็ไปดูที่พักช่วงค่ำๆเสียหน่อย บรรยากาศเงียบสงบสุดๆเลยครับ
อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆเลยครับ โจ๊กกับแซนวิช ชาหรือกาแฟ ผมสั่งเป็นชาเขียวมาแบบญี่ปุ่นเลยครับเป็นชาแบบข้นๆเลย ตบท้ายด้วยเสาวรสเรียกความสดชื่นเสียหน่อยแล้วไปขี่ม้ากัน
ที่นี่เป็นฟาร์มเลี้ยงม้าด้วยนะครับ ในราคาห้องของผมรวมค่าขี่ม้าไว้แล้วก็เลย(ให้เพื่อน)ลองขี่ เจ้าของที่นี่พาขี่ม้าเองเลย ถ้าใครขี่ม้าเป็นคุณพี่เจ้าของบอกว่ามีแพคเกจด้วยนะครับ ครึ่งวันหรือจะเต็มวันเลยก็ได้ ขี่ม้าลัดเลาะไปตามไร่ไปทานอาหารกลางวันกันในป่าในดง สนใจก็สอบถามพี่เขาได้เลย
ในบริเวณที่พักมีร้านกาแฟด้วยนะครับชื่อร้าน MR.Handsome หรือร้านสุดหล่อ เป็นร้านแนวดิบๆง่ายๆ มีเครื่องดื่มให้เลือกสั่งหลายอย่าง
ที่ทำกาแฟเป็นแบบใช้แรงคนบีบอัด กาแฟที่นี่มีหลายแบบเลยครับบางอย่างก็เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ผมไม่ทานกาแฟแต่กลิ่นก็หอมนุ่มนวลดีจริงๆ ชิมแก้วเย็นไปนิดนึงนุ่มนวลและหอมมากๆ ส่วนแก้วร้อนคนทานบอกว่าหอมกลิ่นโกโก้เพราะเป็นกาแฟโกโก้
สรุป ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์เหมาะครอบคลุมผู้เข้าพักได้หลายกลุ่มมาก จะมาคนเดียวปลีกวิเวกนั่งชมธรรมชาติหาความสงบก็มีให้สัมผัสแบบเต็มที่ จะมากับคนรักบรรยากาศก็โรแมนติกดีทีเดียว หรือจะมาเป็นครอบครัวก็มีกิจกรรมให้ทำ คุณลูกเล่นกับหมา(ถ้าไม่กลัวอ่ะนะ) คุณพ่อคุณแม่นั่งจิบกาแฟไป...ผ่านมาพะเยา ลองแวะมาที่นี่ดูครับ สวัสดีครับ
ชื่อสินค้า:
ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์
คะแนน:
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
- จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
- ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
อ่านความคิดเห็นทั้งหมด
หน้า:
หน้า
จาก
บนสุด
ล่างสุด
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] รีวิว...ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ ที่พักแนวบ้านต้นไม้ท่ามกลางป่าต้นสักที่พะเยา
สวัสดีครับ...มาเที่ยวกันต่อหลังจากที่คราวนี้แล้วพาไปโฮมสเตย์บ้านนาต้นจั่นแล้วเก็บความประทับใจยัดใส่กระเป๋า ออกจากสุโขทัยไปต่อกันที่พะเยา ซึ่งปกติถ้าไปพะเยาคงจะนึกถึงภูลังกาเป็นอันดับแรก แต่แถวๆอำเภอเมืองก็มีที่พักเจ๋งๆอยู่เหมือนกัน และที่ "ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์" คือหนึ่งในนั้น
กระทู้นี้รวดเดียวจบเหมือนเดิมครับ อ่านเพลินๆดูรูปไปเดี๋ยวก็จบ ไปกันเลยครับ
ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์ อยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยพะเยา เลยประตูใหญ่ของมหาวิทยาลัยไปประมาณ 1.6 กม. ทางเข้าไม่มีจุดสังเกตหรือจุดเด่นอะไรเลย(จะบอกว่าจุดสังเกตคือบ้านสีเขียวหรือป้ายซ่อมมอเตอร์ไซค์ก็ไม่น่าจะเรียกว่าจุดสังเกตได้) ดังนั้นเพื่อความมั่นใจปักหมุดใน Google map แล้วตามไปจะดีที่สุดครับ
จอดรถปุ๊บ เจ้า 2 ตัวนี้ก็มาต้อนรับอย่างดี พอทำความรู้จักกันแล้วพี่แกก็ไม่สนใจกลุ่มของผมอีกเลย เรียกก็ไม่มา เดินผ่านก็ไม่มอง นอกจากเจ้า2ตัวนี้ก็ยังมีตัวอื่นอีก 2 ตัว ใครกลัวสุนัขอาจจะต้องพิจารณากันนิดนึงครับ
ห้องพักของที่นี่จะอยู่คนละฝั่งกับส่วนต้อนรับ ต้องเดินข้ามสะพานข้ามห้วยเล็กๆมา ห้องพักของที่นี่มีหลายแบบนะครับกระจายอยู่ทั่วบริเวณของฟาร์ม ห้องที่ผมจองเป็นห้องสวีทราคา 2490 บาทรวมอาหารเช้า รวมเครื่องดื่มที่อยู่ในตู้เย็น(น้ำดื่มและซอฟดริ้งค์) รวมพิซซ่าทำเอง และรวมขี่ม้า
ห้องพักซึ่งจริงๆน่าจะเรียกว่าบ้านพักมากกว่าเพราะใหญ่โตใช้ได้อยู่ลึกเข้ามาในป่าต้นสัก ห่างจากถนนและห่างจากส่วนต้อนรับทำให้ได้ความเป็นส่วนตัวแบบเต็มที่ ตอนกลางคืนยิ่งเงียบ ใครต้องการที่พักผ่อนแบบเงียบๆน่าจะถูกใจ
ห้องพักประกอบด้วยส่วนด้านนอก ไม่มีเครื่องปรับอากาศเป็นที่นั่งพักผ่อน ทานอาหารและดื่มด่ำกับธรรมชาติให้เต็มที่ อากาศไม่ร้อนมีลมพัดผ่านและอยู่ใต้เงาร่มไม้สดชื่นดีทีเดียวครับ
จุดเด่นจุดหนึ่งของห้องด้านนอกคือมุมนี้ครับ เป็นมุมที่เหมือนระเบียงยื่นออกไปชมป่าด้านนอก เหมาะกับการนั่งจิบกาแฟฟังเสียงนก(และเสียงตุ๊กแกในบางจังหวะ) นั่งเมาท์กับเพื่อน นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย หรือจะนั่งหายใจทิ้งเสียบ้างก็แล้วแต่สะดวก
ห้องนอนเป็นห้องปรับอากาศขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก ช่องเปิดให้แสงธรรมชาติเข้าเต็มไปหมดทั้งช่องแสงแบบปิดม่านได้และปิดม่านไม่ได้ ตอนกลางวันห้องค่อนข้างสว่างจากแสงธรรมชาติเลยครับ ส่วนกลางคืนอาจจะเหงาๆวังเวงนิดหน่อย หาคนข้างกายมาด้วยจะช่วยได้มากครับ
เครื่องปรับอากาศจะอยู่ชั้นล่างเพียงเครื่องเดียว แต่ที่นอนจะมีชั้นบนซึ่งเป็นที่นอนใต้หลังคาดัวย วิธีที่ผมใช้คือเปิดแอร์ชั้นล่างแล้วเปิดพัดลมชั้นล่างให้หันขึ้นด้านบนจะช่วยส่งลมเย็นได้ดีขึ้น ปลั๊กไฟมีหลายจุดเท่าที่เห็นเฉพาะชั้นล่างก็มี 4 จุดเป็นอย่างน้อยแต่จุดสังเกตคือเป็นปลั๊กแบบ 2 ขาล้วนๆ ถ้าใครเอาอุปกรณ์ที่เป็นปลั๊ก 3 ขาเช่น Laptop มาด้วยก็พกตัวแปลงมาด้วยนะครับ
เตียงทั้งชั้นล่างและชั้นบนนอนสบายเลยครับ แน่นอนว่าชั้นล่างจะนุ่มกว่าแต่ก็นอนสบายทั้งนั้นครับ และที่นี่ไม่มีโทรทัศน์นะครับใช้เวลากับธรรมชาติให้เต็มที่ดีกว่า
ห้องน้ำกว้างขวาง โถสุขภัณฑ์มีสายชำระมาเรียบร้อย อุปกรณ์ในห้องน้ำครบถ้วนเลยครับ ได้มาตรฐานโรงแรมใหญ่ๆเลย
ตกเย็นก็ได้เวลาพิซซ่าทำเอง จริงๆควรจะเรียกว่าพิซซ่าแต่งเองมากกว่าเพราะที่นี่เตรียมให้หมดแล้ว เรามีหน้าที่แค่ละเลงลงไปแล้วก็เอาเข้าเตาอบตามเวลาและอุณหภูมิที่พนักงานบอกไว้เป็นอันเรียบร้อย
ตอนที่ผมไปที่นี่ไม่มีบริการอาหารเย็นนะครับ ออกไปหาซื้อแถวหน้ามอก็ได้ หรือจะสั่งแพนด้าก็ได้ พนักงานบอกว่าจะให้เขาไปซื้อให้ก็ได้...แหม เกรงใจน่ะ พิซซ่าเสร็จ มานั่งล้อมวงทานกันกับอาหารที่สั่งมาจากข้างนอก เครื่องดื่มอีกหน่อย ฉีดซอฟเฟลกันยุงไว้ก็นั่งได้ยาวๆครับ อากาศที่นี่ช่วงค่ำๆเย็นสบายทีเดียว
ทานอาหารเสร็จก็ไปดูที่พักช่วงค่ำๆเสียหน่อย บรรยากาศเงียบสงบสุดๆเลยครับ
อาหารเช้าเป็นแบบง่ายๆเลยครับ โจ๊กกับแซนวิช ชาหรือกาแฟ ผมสั่งเป็นชาเขียวมาแบบญี่ปุ่นเลยครับเป็นชาแบบข้นๆเลย ตบท้ายด้วยเสาวรสเรียกความสดชื่นเสียหน่อยแล้วไปขี่ม้ากัน
ที่นี่เป็นฟาร์มเลี้ยงม้าด้วยนะครับ ในราคาห้องของผมรวมค่าขี่ม้าไว้แล้วก็เลย(ให้เพื่อน)ลองขี่ เจ้าของที่นี่พาขี่ม้าเองเลย ถ้าใครขี่ม้าเป็นคุณพี่เจ้าของบอกว่ามีแพคเกจด้วยนะครับ ครึ่งวันหรือจะเต็มวันเลยก็ได้ ขี่ม้าลัดเลาะไปตามไร่ไปทานอาหารกลางวันกันในป่าในดง สนใจก็สอบถามพี่เขาได้เลย
ในบริเวณที่พักมีร้านกาแฟด้วยนะครับชื่อร้าน MR.Handsome หรือร้านสุดหล่อ เป็นร้านแนวดิบๆง่ายๆ มีเครื่องดื่มให้เลือกสั่งหลายอย่าง
ที่ทำกาแฟเป็นแบบใช้แรงคนบีบอัด กาแฟที่นี่มีหลายแบบเลยครับบางอย่างก็เป็นซิกเนเจอร์ของที่นี่ ผมไม่ทานกาแฟแต่กลิ่นก็หอมนุ่มนวลดีจริงๆ ชิมแก้วเย็นไปนิดนึงนุ่มนวลและหอมมากๆ ส่วนแก้วร้อนคนทานบอกว่าหอมกลิ่นโกโก้เพราะเป็นกาแฟโกโก้
สรุป ม่อนสามเคียน ฟาร์มสเตย์เหมาะครอบคลุมผู้เข้าพักได้หลายกลุ่มมาก จะมาคนเดียวปลีกวิเวกนั่งชมธรรมชาติหาความสงบก็มีให้สัมผัสแบบเต็มที่ จะมากับคนรักบรรยากาศก็โรแมนติกดีทีเดียว หรือจะมาเป็นครอบครัวก็มีกิจกรรมให้ทำ คุณลูกเล่นกับหมา(ถ้าไม่กลัวอ่ะนะ) คุณพ่อคุณแม่นั่งจิบกาแฟไป...ผ่านมาพะเยา ลองแวะมาที่นี่ดูครับ สวัสดีครับ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น