นายเสี่ยโป้ อภิรักษ์ ยอมรับว่า มีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวจริงที่ซีคอนบางแค ว่าจะจัดทำเสื้อสีชมพู ประดับตราสัญลักษณ์ อ้างว่าที่ไม่ใช่เสื้อเหลือง เพราะไม่ชอบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และขอให้ช่วยสนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท จึงรับปาก แต่ก็ติดขัดเนื่องจากไม่สามารถออกนอกประเทศได้จึงไปขอยืมเงินของ “ซ้อ” มาได้ 2 ล้านบาท และให้ไปปรึกษากับ นายสันธนะ เพื่อตรวจสอบ
นายสันธนะ ได้ลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่การโทรพูดคุยกันเป็นเวลา 3.52 นาที พร้อมเล่าว่า ขณะพูดคุยกัน นายบิณฑ์อ้างว่า สมทบทุนโครงการมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีการจัดทำเนื้อสีชมพูให้กับผู้ร่วมบริจาค 100 บาท แต่กลับให้โอนเงินสด 2 ล้านบาทเข้าบัญชีส่วนตัว จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบ
นายสันธนะ ได้อ่านหนังสือตอบกลับของ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นผู้ดำเนินโครงการที่นายบิณฑ์อ้างถึง โดยเนื้อหาเป็นการยืนยันว่า
นายบิณฑ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการนี้ และการโอนเงินบริจาคจะต้องผ่านมูลนิธิศิริราชเท่านั้น จึงเชื่อว่า การรับบริจาคของนายบิณฑ์ เป็นการแอบอ้าง
หลังการเปิดเอกสาร นายสันธนะ ได้ทวงถามจุดยืนของ นายอภิรักษ์ ว่าจะดำเนินการหลังจากนี้อย่างไร ทำให้ นายอภิรักษ์ ยืนยันว่า ต้องการแค่ทำบุญ และไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ กับนายบิณฑ์ โดยระบุว่า มีอาชีพที่สามารถหาเงินได้จากต่างประเทศ และไม่ต้องการหากินด้วยวิธีนี้ และหากว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร นายบิณฑ์ ก็ควรให้ตรวจสอบ เพราะเอกสารมีครบถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย วันพรุ่งนี้ นายสันธนะ จะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเรียกร้องให้นายบิณฑ์ เดินทางไปแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่นายอภิรักษ์ ยืนยันว่าจะเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามด้วย เพราะเอกสารหลักฐานค่อนข้างแน่นหนา
นายสันธนะ ให้ผู้ติดตามพยายามติดต่อนายบิณฑ์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้
นายสันธนะ ได้ลำดับเหตุการณ์ ตั้งแต่การโทรพูดคุยกันเป็นเวลา 3.52 นาที พร้อมเล่าว่า ขณะพูดคุยกัน นายบิณฑ์อ้างว่า สมทบทุนโครงการมูลนิธิโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งมีการจัดทำเนื้อสีชมพูให้กับผู้ร่วมบริจาค 100 บาท แต่กลับให้โอนเงินสด 2 ล้านบาทเข้าบัญชีส่วนตัว จึงเป็นที่มาของการตรวจสอบ
นายสันธนะ ได้อ่านหนังสือตอบกลับของ นพ.บุญ วนาสิน ประธานกรรมการบริษัท ธนบุรี เฮลท์ แคร์ กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นผู้ดำเนินโครงการที่นายบิณฑ์อ้างถึง โดยเนื้อหาเป็นการยืนยันว่า นายบิณฑ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการดำเนินการโครงการนี้ และการโอนเงินบริจาคจะต้องผ่านมูลนิธิศิริราชเท่านั้น จึงเชื่อว่า การรับบริจาคของนายบิณฑ์ เป็นการแอบอ้าง
หลังการเปิดเอกสาร นายสันธนะ ได้ทวงถามจุดยืนของ นายอภิรักษ์ ว่าจะดำเนินการหลังจากนี้อย่างไร ทำให้ นายอภิรักษ์ ยืนยันว่า ต้องการแค่ทำบุญ และไม่มีผลประโยชน์ใด ๆ กับนายบิณฑ์ โดยระบุว่า มีอาชีพที่สามารถหาเงินได้จากต่างประเทศ และไม่ต้องการหากินด้วยวิธีนี้ และหากว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไร นายบิณฑ์ ก็ควรให้ตรวจสอบ เพราะเอกสารมีครบถือว่าเป็นเรื่องที่อันตราย วันพรุ่งนี้ นายสันธนะ จะเดินทางไปยังกองบังคับการปราบปราม เพื่อแจ้งความดำเนินคดี พร้อมเรียกร้องให้นายบิณฑ์ เดินทางไปแสดงตัวเพื่อความบริสุทธิ์ใจ ขณะที่นายอภิรักษ์ ยืนยันว่าจะเดินทางไปที่กองบังคับการปราบปรามด้วย เพราะเอกสารหลักฐานค่อนข้างแน่นหนา