ฝันมรณะ
Story by Ancient Blue
(Blue Bravenick)
Chapter VIII
A Girl…?
เสียงเข็มนาฬิกาดังเป็นจังหวะหมุนไปทีละนิด ๆ ท่ามกลางความเงียบ
ห้องทำงานของสารวัตรในสำนักงานตำรวจประจำเมืองมาเซลเปิดไฟจากโคมไฟบนโต๊ะทำงาน ให้แสงพอมองเห็นเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า
สารวัตรโนอาร์เพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากนอนฟุบหลับไปบนโต๊ะทำงาน นายตำรวจหนุ่มบิดขี้เกียจไปมาก่อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกาแขวนหน้าประตูห้อง
“ให้ตายสิจะเที่ยงคืนแล้วเหรอ”
เครื่องเชื่อมต่อคลื่นสมองจาก MDSP ถูกปลดออกวางอยู่บนโต๊ะคู่กับข้อความบนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งที่วางอยู่คู่กัน ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเด็กหนุ่มที่ชื่อ ‘เรย์’
‘ไปช่วยเจ้าหน้าที่สองคนนั้นในความฝัน ส่วนเครื่อง MDSP ตัวนี้เป็นตัวก็อปปี้ที่ผมสร้างขึ้นมาจากแบบของจริง’ คำพูดจากทางโทรศัพท์ของเด็กหนุ่ม
ครั้งแรกมันฟังดูเป็นเรื่องน่าตลกขบขันเสียด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนจะตกอยู่ในอันตรายขณะอยู่ในความฝัน ความฝันเป็นเพียงลำดับภาพกับความคิดที่เกิดจากกระบวนการทำงานของสมอง ฟังดูไร้สาระสิ้นดีหากคิดว่าร่างกายมนุษย์จะได้รับอันตรายเมื่อถูกทำร้ายในความฝัน
เมื่อถูกเน้นย้ำเป็นครั้งที่สองสารวัตรหนุ่มจึงยอมช่วย
ใช่ว่าเขาไม่รู้จักเครื่อง MDSP หรือเครื่องเล่นความฝันจำลอง มันคือเครื่องมือที่ทำให้ใครที่ใช้มันต่อเข้ากับคลื่นสมองสามารถควบคุมความฝันที่สร้างขึ้นจากจิตใต้สำนึกได้ ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงอะไรจากการใช้งาน
หลังจากการเสียชีวิตของดอกเตอร์โรเบิร์ตเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักวิจัยคลื่นสมองและเป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยที่สร้าง MDSP ตัวต้นแบบ ห่างกันเพียงแค่หนึ่งวันก็เกิดคดีรถชนเด็กวัยรุ่นชายและหญิง แต่รถยนต์ที่ก่อเหตุนั้นไม่มีคนขับ ไร้ร่องรอยของสัญญาณชีวิตราวกับว่าที่นั่งคนขับนั้นไม่เคยมีใครนั่งมาตั้งแต่ก่อนก่อเหตุ
โนอาร์รู้สึกสงสัยว่าทำไมทั้งสองเหตุการณ์นั้นดูเหมือนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าประหลาด
เพราะเหตุผลนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สองนายจาก APCO เข้ามาตรวจสอบในช่วงเวลาเดียวกับที่เขารับผิดชอบคดีของดอกเตอร์โรเบิร์ต
ทว่าในตอนช่วงเย็นของวันนี้เขากลับได้พบกับเด็กหนุ่มผมแดงท่าทางกวนประสาท ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เขาสอบปากคำในที่เกิดเหตุของวันนั้นในฐานะพยานที่เห็นเหตุการณ์และเป็นเพื่อนของทั้งสองคนที่ถูกรถชน
เรย์ให้ MDSP พร้อมกับกระดาษหนึ่งแผ่นที่จดเบอร์โทรศัพท์ของเขาไว้ เน้นย้ำนักหนาว่าต้องช่วยเจ้าหน้าที่สองนายจาก APCO ออกมาจากความฝันให้ได้
‘เจ้าหน้าที่ทั้งสองนายนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย คุณต้องรีบไปช่วยพวกเขาเดี๋ยวนี้’ เด็กคนนั้นพูดพร้อมกับทิ้งเครื่องเล่นความฝันจำลองไว้ให้
ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ อีกอย่างสองคนนั้นเป็นถึงเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกมาเพื่อรับมือกับความฝัน ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
โนอาร์ได้เข้าไปในโลกแห่งความฝันผ่าน MDSP เครื่องนั้น
เขาพบรถของเจ้าหน้าที่โจนาธานจอดอยู่หน้าบ้านของดอกเตอร์โรเบิร์ต ภายในกลับว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ในรถ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเข้าไปในบ้าน
เมื่อเปิดเข้าไปสิ่งที่ทำให้นายตำรวจหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างของเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายกำลังถูกพื้นในห้องนั่งเล่นของตัวบ้านดูดลงไป
พวกเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิดและตื่นขึ้นมาจากความฝัน
ตำรวจหนุ่มนั่งมองเครื่องเล่นความฝันจำลองอย่างพิจารณา ดูเหมือนว่าการพัฒนาของดอกเตอร์โรเบิร์ตจะก้าวข้ามขีดจำกัดของธรรมชาติไปจนน่ากลัว ความฝันสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่านคลื่นสมองจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งคล้ายกับแม่ข่ายอินเทอร์เน็ต
“ช่างเป็นความคิดที่น่ากลัวจริง ๆ” เขานั่งพึมพำกับตนเอง
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะของเขาดังขึ้น
ไม่นานเจ้าของห้องทำงานก็เอื้อมมือคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีครับผมสารวัตรโนอาร์พูดสาย”
‘ตอนนี้ฉันกับโจแล้วก็เรย์นั่งรอคุณอยู่ในร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล พวกเราได้หลักฐานชิ้นสำคัญในคดีนี้แล้ว’ เสียงเล็กแหลมจากปลายสายทักกลับมา
โนอาร์จำเสียงของแคทรีน่าได้ “ถ้าอย่างนั้นอีกสิบนาทีผมจะไปพบคุณที่นั่นนะครับ”
‘ฉันลืมไปเลย ขอบคุณมากนะคะที่มาช่วยฉันกับโจไว้’ เสียงนั้นนุ่มนวลผิดกับครั้งแรกที่เคยคุยกัน
ปลายสายตัดสัญญาณไป...
สารวัตรหนุ่มเก็บเอกสารจัดไว้ให้เรียบร้อย หยิบปืนเหน็บใส่ซองข้างเอวโดยไม่ลืมเก็บ MDSP ใส่ลงไปกระเป๋าสะพาย ก่อนปิดไฟล็อกประตูห้องทำงานให้เรียบร้อย
เรย์นั่งคนกาแฟร้อนในแก้วพลางก้มมองนาฬิกาหนังสีดำบนข้อมือซ้าย
“เที่ยงคืนห้านาที”
ช่วงเวลานี้ในร้านมีลูกค้าเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น เสียงเพลงแนวกล่องดนตรีเข้ากับบรรยากาศในร้านได้อย่างน่าประหลาด
แคทรีน่านั่งกอดอกมองน้ำเปล่าในแก้วใสที่วางตั้งอยู่ตรงหน้า ไม่ได้พูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร ในขณะที่โจนาธานนั่งอ่านสมุดบันทึกเล่มเล็กที่ถูกคั่นด้วยปากกาหมึกซึมด้ามโปรดของตนอยู่ เขายังคงหมกมุ่นอยู่กับรายละเอียดของเครื่องสร้างความฝันจำลองหรือ MDSP รุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น
ชายหนุ่มวางสมุดบันทึกลงบนโต๊ะกอดอกมองเรย์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ตกลงจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้พวกเราฟังได้หรือยัง”
เด็กหนุ่มยักไหล่ “ผมแค่รู้ว่าพวกคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย ก็เลยให้สารวัตรโนอาร์เข้าไปช่วยพวกคุณในความฝันก็เท่านั้น”
“นั่นคือปัญหา” เจ้าหน้าที่สาวที่นั่งอยู่แทรกขึ้น
“ปัญหาคือนายรู้ได้ยังไงว่าพวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย” ชายหนุ่มสำทับ
“คือ...”
ยังไม่ทันจะได้อธิบายทั้งสามคนก็พบชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำแดดเล็กน้อย ผมสั้นเกรียนสีดำ สวมเสื้อกันลมสีน้ำตาลอ่อนทับเสื้อเชิ้ตสีขาวยืนอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษที่มาช้าครับ” สารวัตรโนอาร์กล่าวเสียงเรียบ
“ใครบอกว่าคุณมาช้า” ชายร่างสูงที่นั่งพิงพนักเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา “ถ้าหากว่าเป็นความฝันก็อาจจะช้าเพราะคุณสามารถมาได้เร็วกว่านี้ครับ”
“ผมเพิ่งเคยใช้ MDSP เป็นครั้งแรกตอนช่วยพวกคุณออกมา” โนอาร์พูดเสียงเรียบ “แต่เพิ่งจะรู้ว่าในความฝันนั้นเราสามารถตายได้ด้วย”
“ปกติเมื่อคุณตายในความฝันของตัวเอง ร่างกายจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยกระบวนการทำงานของคลื่นสมองอัตโนมัติ ในขณะที่หากคุณถูกฆ่าหรือตายในความฝันของคนอื่นที่คุณเจาะเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของความฝันคุณก็จะมีสภาพไม่ต่างจากผัก” เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้าโจนาธานจึงอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น “หากคุณรุกล้ำเข้าไปในความฝันของคนอื่นและตายในนั้น เจ้าของความฝันสามารถที่จะไม่ให้คุณได้ออกไปจากความฝันนั้นอีกเลยก็ได้ ร่างกายของคุณจะมีสภาพเหมือนคนนอนหลับเป็นปกติ คุณจะไม่รู้สึก ไม่ฝันและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง”
“นั่งก่อนสิคะสารวัตร” แคทรีน่าโพล่งขึ้น ผายมือไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้าง ๆ
สารวัตรหนุ่มนั่งลงตามคำชวนเจ้าหน้าที่สาว เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานเดินเข้ามาเพื่อรับรายการจากลูกค้าที่เข้ามาใหม่
“จะรับอะไรดีคะ”
เขามีท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนสั่ง “ผมขอช็อคโกแลตเย็น ไม่หวานนะครับ เอ่อ...หมายถึงไม่ใส่น้ำตาล”
พนักงานสาวมีสีหน้างุนงงก่อนยิ้มแก้เขิน พร้อมกับจดรายการลงในกระดาษ “กรุณารอสักครู่นะคะ”
“คุณเองก็มีรสนิยมแปลก ๆ กับเขาเหมือนกันเหรอครับ” โจนาธานกลั้วหัวเราะ
“ทุกคนต่างก็มีรสนิยมความชอบเป็นของตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่เหรอครับ คุณเองน่าจะเข้าใจดีกว่าผมนะครับ”
“เอาล่ะ ๆ ผมไม่มีเวลามาฟังพวกคุณโต้วาทศิลป์กันหรอกนะครับ” เรย์ที่นั่งฟังอยู่พักใหญ่จึงแทรกขึ้นด้วยความรำคาญ
เด็กหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบ MDSP ตัวใหม่ที่หายไปขึ้นมาวางบนโต๊ะ สิ่งนั้นเรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี เครื่องเล่นความฝันจำลองที่วางอยู่นั้นคือ MDSP ที่หายไปจากห้องวิจัยของดอกเตอร์โรเบิร์ตไม่ผิดแน่
“เธอเป็นคนขโมยมันออกมาจากห้องวิจัยเหรอ” แคทรีน่าถาม
เรย์พยักหน้า “ผมเป็นคนขโมยมันออกมาจากห้องวิจัยของดอกเตอร์ในวันที่เขาถูกฆ่า”
“ใครเป็นคนฆ่า” โนอาร์โพล่งขึ้น เรียกสายตาทั้งสามคู่หันไปมองเป็นทางเดียวกัน
“นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากให้พวกคุณทั้งสามคนช่วย” คนตอบสีหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะช่วยก็ต่อเมื่อนายบอกความจริง” สารวัตรคาดคั้น
“ถ้าผมบอกตอนนี้คุณจะเชื่อผมเหรอครับคุณตำรวจ”
สารวัตรหนุ่มยักไหล่ ขยับยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากคล้ายกับเป็นการบอกนัย ๆ ว่า ‘บอกมาสักทีสิ’
“ความฝัน”
“นายกำลังจะบอกฉันว่าความฝันคือฆาตกรเหรอ ไร้สาระสิ้นดีเลย” เขาเน้นเสียงท้ายให้ดูชัดขึ้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตลกกับตนอยู่
“หลายอย่างที่คุณไม่เคยเชื่อก็พิสูจน์กับตาคุณมาแล้วไม่ใช่เหรอครับสารวัตร” โจนาธานแทรกขึ้น
คราวนี้เจ้าหน้าที่หนุ่มจาก APCO เป็นฝ่ายแย้งขึ้น ทำให้นายตำรวจที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นิ่วหน้ากอดอกด้วยความหงุดหงิด
“ความฝันคือตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมดเหรอ” แคทรีน่าทำหน้าครุ่นคิด
“ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะอยู่เหนือความคาดหมาย” โจนาธานสำทับ
“ตอนนี้ผมมีแผน แต่อยากให้พวกคุณสามคนร่วมมือกัน”
ฝันมรณะ : Chapter VIII A Girl...?
เสียงเข็มนาฬิกาดังเป็นจังหวะหมุนไปทีละนิด ๆ ท่ามกลางความเงียบ
ห้องทำงานของสารวัตรในสำนักงานตำรวจประจำเมืองมาเซลเปิดไฟจากโคมไฟบนโต๊ะทำงาน ให้แสงพอมองเห็นเอกสารที่กองอยู่ตรงหน้า
สารวัตรโนอาร์เพิ่งตื่นขึ้นมาหลังจากนอนฟุบหลับไปบนโต๊ะทำงาน นายตำรวจหนุ่มบิดขี้เกียจไปมาก่อนเงยหน้าขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกาแขวนหน้าประตูห้อง
“ให้ตายสิจะเที่ยงคืนแล้วเหรอ”
เครื่องเชื่อมต่อคลื่นสมองจาก MDSP ถูกปลดออกวางอยู่บนโต๊ะคู่กับข้อความบนกระดาษแผ่นเล็ก ๆ แผ่นหนึ่งที่วางอยู่คู่กัน ซึ่งเป็นเบอร์โทรศัพท์ของเด็กหนุ่มที่ชื่อ ‘เรย์’
‘ไปช่วยเจ้าหน้าที่สองคนนั้นในความฝัน ส่วนเครื่อง MDSP ตัวนี้เป็นตัวก็อปปี้ที่ผมสร้างขึ้นมาจากแบบของจริง’ คำพูดจากทางโทรศัพท์ของเด็กหนุ่ม
ครั้งแรกมันฟังดูเป็นเรื่องน่าตลกขบขันเสียด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนจะตกอยู่ในอันตรายขณะอยู่ในความฝัน ความฝันเป็นเพียงลำดับภาพกับความคิดที่เกิดจากกระบวนการทำงานของสมอง ฟังดูไร้สาระสิ้นดีหากคิดว่าร่างกายมนุษย์จะได้รับอันตรายเมื่อถูกทำร้ายในความฝัน
เมื่อถูกเน้นย้ำเป็นครั้งที่สองสารวัตรหนุ่มจึงยอมช่วย
ใช่ว่าเขาไม่รู้จักเครื่อง MDSP หรือเครื่องเล่นความฝันจำลอง มันคือเครื่องมือที่ทำให้ใครที่ใช้มันต่อเข้ากับคลื่นสมองสามารถควบคุมความฝันที่สร้างขึ้นจากจิตใต้สำนึกได้ ซึ่งไม่มีผลข้างเคียงอะไรจากการใช้งาน
หลังจากการเสียชีวิตของดอกเตอร์โรเบิร์ตเมื่อสองอาทิตย์ก่อน ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นนักวิจัยคลื่นสมองและเป็นหนึ่งในทีมนักวิจัยที่สร้าง MDSP ตัวต้นแบบ ห่างกันเพียงแค่หนึ่งวันก็เกิดคดีรถชนเด็กวัยรุ่นชายและหญิง แต่รถยนต์ที่ก่อเหตุนั้นไม่มีคนขับ ไร้ร่องรอยของสัญญาณชีวิตราวกับว่าที่นั่งคนขับนั้นไม่เคยมีใครนั่งมาตั้งแต่ก่อนก่อเหตุ
โนอาร์รู้สึกสงสัยว่าทำไมทั้งสองเหตุการณ์นั้นดูเหมือนมีความเกี่ยวข้องกันอย่างน่าประหลาด
เพราะเหตุผลนี้ทำให้เจ้าหน้าที่สองนายจาก APCO เข้ามาตรวจสอบในช่วงเวลาเดียวกับที่เขารับผิดชอบคดีของดอกเตอร์โรเบิร์ต
ทว่าในตอนช่วงเย็นของวันนี้เขากลับได้พบกับเด็กหนุ่มผมแดงท่าทางกวนประสาท ซึ่งเป็นคนเดียวกับที่เขาสอบปากคำในที่เกิดเหตุของวันนั้นในฐานะพยานที่เห็นเหตุการณ์และเป็นเพื่อนของทั้งสองคนที่ถูกรถชน
เรย์ให้ MDSP พร้อมกับกระดาษหนึ่งแผ่นที่จดเบอร์โทรศัพท์ของเขาไว้ เน้นย้ำนักหนาว่าต้องช่วยเจ้าหน้าที่สองนายจาก APCO ออกมาจากความฝันให้ได้
‘เจ้าหน้าที่ทั้งสองนายนั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย คุณต้องรีบไปช่วยพวกเขาเดี๋ยวนี้’ เด็กคนนั้นพูดพร้อมกับทิ้งเครื่องเล่นความฝันจำลองไว้ให้
ในตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเรื่องไร้สาระ อีกอย่างสองคนนั้นเป็นถึงเจ้าหน้าที่ที่ถูกฝึกมาเพื่อรับมือกับความฝัน ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นอย่างแน่นอน
โนอาร์ได้เข้าไปในโลกแห่งความฝันผ่าน MDSP เครื่องนั้น
เขาพบรถของเจ้าหน้าที่โจนาธานจอดอยู่หน้าบ้านของดอกเตอร์โรเบิร์ต ภายในกลับว่างเปล่า ไม่มีใครอยู่ในรถ ดูเหมือนว่าเขาน่าจะเข้าไปในบ้าน
เมื่อเปิดเข้าไปสิ่งที่ทำให้นายตำรวจหนุ่มแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองปรากฏอยู่ตรงหน้า ร่างของเจ้าหน้าที่ทั้งสองนายกำลังถูกพื้นในห้องนั่งเล่นของตัวบ้านดูดลงไป
พวกเขารอดมาได้อย่างหวุดหวิดและตื่นขึ้นมาจากความฝัน
ตำรวจหนุ่มนั่งมองเครื่องเล่นความฝันจำลองอย่างพิจารณา ดูเหมือนว่าการพัฒนาของดอกเตอร์โรเบิร์ตจะก้าวข้ามขีดจำกัดของธรรมชาติไปจนน่ากลัว ความฝันสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ผ่านคลื่นสมองจากคนหนึ่งไปอีกคนหนึ่งคล้ายกับแม่ข่ายอินเทอร์เน็ต
“ช่างเป็นความคิดที่น่ากลัวจริง ๆ” เขานั่งพึมพำกับตนเอง
เสียงโทรศัพท์บนโต๊ะของเขาดังขึ้น
ไม่นานเจ้าของห้องทำงานก็เอื้อมมือคว้าหูโทรศัพท์ขึ้นมา “สวัสดีครับผมสารวัตรโนอาร์พูดสาย”
‘ตอนนี้ฉันกับโจแล้วก็เรย์นั่งรอคุณอยู่ในร้านกาแฟข้างโรงพยาบาล พวกเราได้หลักฐานชิ้นสำคัญในคดีนี้แล้ว’ เสียงเล็กแหลมจากปลายสายทักกลับมา
โนอาร์จำเสียงของแคทรีน่าได้ “ถ้าอย่างนั้นอีกสิบนาทีผมจะไปพบคุณที่นั่นนะครับ”
‘ฉันลืมไปเลย ขอบคุณมากนะคะที่มาช่วยฉันกับโจไว้’ เสียงนั้นนุ่มนวลผิดกับครั้งแรกที่เคยคุยกัน
ปลายสายตัดสัญญาณไป...
สารวัตรหนุ่มเก็บเอกสารจัดไว้ให้เรียบร้อย หยิบปืนเหน็บใส่ซองข้างเอวโดยไม่ลืมเก็บ MDSP ใส่ลงไปกระเป๋าสะพาย ก่อนปิดไฟล็อกประตูห้องทำงานให้เรียบร้อย
เรย์นั่งคนกาแฟร้อนในแก้วพลางก้มมองนาฬิกาหนังสีดำบนข้อมือซ้าย
“เที่ยงคืนห้านาที”
ช่วงเวลานี้ในร้านมีลูกค้าเพียงไม่กี่โต๊ะเท่านั้น เสียงเพลงแนวกล่องดนตรีเข้ากับบรรยากาศในร้านได้อย่างน่าประหลาด
แคทรีน่านั่งกอดอกมองน้ำเปล่าในแก้วใสที่วางตั้งอยู่ตรงหน้า ไม่ได้พูดหรือแสดงความคิดเห็นอะไร ในขณะที่โจนาธานนั่งอ่านสมุดบันทึกเล่มเล็กที่ถูกคั่นด้วยปากกาหมึกซึมด้ามโปรดของตนอยู่ เขายังคงหมกมุ่นอยู่กับรายละเอียดของเครื่องสร้างความฝันจำลองหรือ MDSP รุ่นใหม่ที่ถูกพัฒนาขึ้น
ชายหนุ่มวางสมุดบันทึกลงบนโต๊ะกอดอกมองเรย์ด้วยสีหน้าไม่พอใจ “ตกลงจะเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้พวกเราฟังได้หรือยัง”
เด็กหนุ่มยักไหล่ “ผมแค่รู้ว่าพวกคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย ก็เลยให้สารวัตรโนอาร์เข้าไปช่วยพวกคุณในความฝันก็เท่านั้น”
“นั่นคือปัญหา” เจ้าหน้าที่สาวที่นั่งอยู่แทรกขึ้น
“ปัญหาคือนายรู้ได้ยังไงว่าพวกเรากำลังตกอยู่ในอันตราย” ชายหนุ่มสำทับ
“คือ...”
ยังไม่ทันจะได้อธิบายทั้งสามคนก็พบชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ำแดดเล็กน้อย ผมสั้นเกรียนสีดำ สวมเสื้อกันลมสีน้ำตาลอ่อนทับเสื้อเชิ้ตสีขาวยืนอยู่ตรงหน้า
“ขอโทษที่มาช้าครับ” สารวัตรโนอาร์กล่าวเสียงเรียบ
“ใครบอกว่าคุณมาช้า” ชายร่างสูงที่นั่งพิงพนักเก้าอี้เงยหน้าขึ้นมองหน้าปัดนาฬิกา “ถ้าหากว่าเป็นความฝันก็อาจจะช้าเพราะคุณสามารถมาได้เร็วกว่านี้ครับ”
“ผมเพิ่งเคยใช้ MDSP เป็นครั้งแรกตอนช่วยพวกคุณออกมา” โนอาร์พูดเสียงเรียบ “แต่เพิ่งจะรู้ว่าในความฝันนั้นเราสามารถตายได้ด้วย”
“ปกติเมื่อคุณตายในความฝันของตัวเอง ร่างกายจะถูกปลุกให้ตื่นขึ้นมาด้วยกระบวนการทำงานของคลื่นสมองอัตโนมัติ ในขณะที่หากคุณถูกฆ่าหรือตายในความฝันของคนอื่นที่คุณเจาะเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของความฝันคุณก็จะมีสภาพไม่ต่างจากผัก” เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่วหน้าโจนาธานจึงอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้น “หากคุณรุกล้ำเข้าไปในความฝันของคนอื่นและตายในนั้น เจ้าของความฝันสามารถที่จะไม่ให้คุณได้ออกไปจากความฝันนั้นอีกเลยก็ได้ ร่างกายของคุณจะมีสภาพเหมือนคนนอนหลับเป็นปกติ คุณจะไม่รู้สึก ไม่ฝันและไม่ตื่นขึ้นมาอีกเป็นครั้งที่สอง”
“นั่งก่อนสิคะสารวัตร” แคทรีน่าโพล่งขึ้น ผายมือไปยังเก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้าง ๆ
สารวัตรหนุ่มนั่งลงตามคำชวนเจ้าหน้าที่สาว เป็นจังหวะเดียวกับที่พนักงานเดินเข้ามาเพื่อรับรายการจากลูกค้าที่เข้ามาใหม่
“จะรับอะไรดีคะ”
เขามีท่าทางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนสั่ง “ผมขอช็อคโกแลตเย็น ไม่หวานนะครับ เอ่อ...หมายถึงไม่ใส่น้ำตาล”
พนักงานสาวมีสีหน้างุนงงก่อนยิ้มแก้เขิน พร้อมกับจดรายการลงในกระดาษ “กรุณารอสักครู่นะคะ”
“คุณเองก็มีรสนิยมแปลก ๆ กับเขาเหมือนกันเหรอครับ” โจนาธานกลั้วหัวเราะ
“ทุกคนต่างก็มีรสนิยมความชอบเป็นของตัวเองทั้งนั้นไม่ใช่เหรอครับ คุณเองน่าจะเข้าใจดีกว่าผมนะครับ”
“เอาล่ะ ๆ ผมไม่มีเวลามาฟังพวกคุณโต้วาทศิลป์กันหรอกนะครับ” เรย์ที่นั่งฟังอยู่พักใหญ่จึงแทรกขึ้นด้วยความรำคาญ
เด็กหนุ่มล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบ MDSP ตัวใหม่ที่หายไปขึ้นมาวางบนโต๊ะ สิ่งนั้นเรียกความสนใจจากเจ้าหน้าที่ทั้งสองคนได้เป็นอย่างดี เครื่องเล่นความฝันจำลองที่วางอยู่นั้นคือ MDSP ที่หายไปจากห้องวิจัยของดอกเตอร์โรเบิร์ตไม่ผิดแน่
“เธอเป็นคนขโมยมันออกมาจากห้องวิจัยเหรอ” แคทรีน่าถาม
เรย์พยักหน้า “ผมเป็นคนขโมยมันออกมาจากห้องวิจัยของดอกเตอร์ในวันที่เขาถูกฆ่า”
“ใครเป็นคนฆ่า” โนอาร์โพล่งขึ้น เรียกสายตาทั้งสามคู่หันไปมองเป็นทางเดียวกัน
“นั่นคือเหตุผลที่ผมอยากให้พวกคุณทั้งสามคนช่วย” คนตอบสีหน้าเปลี่ยนอย่างเห็นได้ชัด
“ฉันจะช่วยก็ต่อเมื่อนายบอกความจริง” สารวัตรคาดคั้น
“ถ้าผมบอกตอนนี้คุณจะเชื่อผมเหรอครับคุณตำรวจ”
สารวัตรหนุ่มยักไหล่ ขยับยิ้มนิด ๆ ที่มุมปากคล้ายกับเป็นการบอกนัย ๆ ว่า ‘บอกมาสักทีสิ’
“ความฝัน”
“นายกำลังจะบอกฉันว่าความฝันคือฆาตกรเหรอ ไร้สาระสิ้นดีเลย” เขาเน้นเสียงท้ายให้ดูชัดขึ้นเพราะคิดว่าอีกฝ่ายกำลังเล่นตลกกับตนอยู่
“หลายอย่างที่คุณไม่เคยเชื่อก็พิสูจน์กับตาคุณมาแล้วไม่ใช่เหรอครับสารวัตร” โจนาธานแทรกขึ้น
คราวนี้เจ้าหน้าที่หนุ่มจาก APCO เป็นฝ่ายแย้งขึ้น ทำให้นายตำรวจที่นั่งอยู่ข้าง ๆ นิ่วหน้ากอดอกด้วยความหงุดหงิด
“ความฝันคือตัวการที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมดเหรอ” แคทรีน่าทำหน้าครุ่นคิด
“ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะอยู่เหนือความคาดหมาย” โจนาธานสำทับ
“ตอนนี้ผมมีแผน แต่อยากให้พวกคุณสามคนร่วมมือกัน”