JJNY : “สมุย”เหงา/อนุดิษฐ์จ่อลากไอ้โม่ง ทุจริตงบฯ/สุทินฉายหนังตัวอย่างซักฟอกรัฐบาล/เวียดนามดันผลิตวัคซีนต้านโควิดใช้เอง

“สมุย” เงียบเหงา ไร้เงานักท่องเที่ยว
https://www.prachachat.net/general/news-572460


“ที่เกาะสมุยมันมีอะไร ที่ทำให้คุณนั้นต้องอยากไป ที่ทำให้คุณนั้นต้องติดใจมาชวนผม” เป็นท่อนหนึ่งในเนื้อเพลง “เกาะสมุย” ซึ่งเมื่อพูดถึงเกาะสมุยทุกคนคงต้องนึกถึงเพลงท่อนนี้ขึ้นมาทันที แน่นอนว่า สมุย เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ใครหลายๆ คนใฝ่ฝันอยากไปเที่ยว เพราะได้ชื่อว่าเป็นสรวงสวรรค์กลางอ่าวไทย มีหาดทรายสีขาวละเอียด แสงแดดสาดส่องเหมือนกับอัญมณี และคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติ
 
แตกต่างจากปัจจุบัน สมุยสุดเงียบเหงา ไร้เงานักท่องเที่ยว เพราะหลังจากที่ไวรัสโควิด-19 แพร่ระบาด ทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางเข้ามาในประเทศไทยไม่ได้ ส่งผลให้ผู้คนบนเกาะสมุยได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะท่อน้ำเลี้ยงสำคัญของคนบนเกาะสมุยมาจากนักท่องเที่ยวเกือบ 100% อย่างไรก็ดี “ออมสิน” ธนาคารเพื่อสังคม ซึ่งมองเห็นปัญหาในส่วนนี้ จึงได้ออกโครงการออมสินเพื่อสมุย เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนบนเกาะสมุย
 
ออมสิน ต่อลมหายใจ “สมุย” ฟื้นฟูการท่องเที่ยว
 
นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เล่าว่า เกาะสมุยเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบจากโควิดสูงมาก เพราะเป็นจังหวัดที่พึ่งพานักท่องเที่ยวต่างชาติสูงกว่า 90% และเป็นนักท่องเที่ยวไทยเพียง 10% ซึ่งจากโควิดทำให้ต่างชาติเข้ามาไม่ได้ จึงทำให้ธุรกิจเผชิญกับปัญหาขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง ธนาคารจึงตั้งใจเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการแบบครบวงจร ทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การผ่อนปรนเงื่อนไข การให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และการรีไฟแนนซ์ เพื่อประครองให้ธุรกิจสามารถไปต่อและมีการรักษาการจ้างงานต่อไปได้ ผ่านโครงการ “ออมสินเพื่อสมุย” (SAMUI MODEL) ซึ่งขณะนี้ได้มีการอนุมัติสินเชื่อทั้งหมดไปแล้ว รวมทั้งหมด 2,500 ราย จะทำให้มีเม็ดเงินลงสู่ระบบ 1,500 ล้านบาท
 
วิทัย” กล่าวว่า หลังจากนี้จะผลักดัน “ออมสินชวนเที่ยวสมุย” โดยธนาคารเตรียมจัดโปรโมชั่นให้กับลูกค้าของบัตรเครดิตของธนาคารออมสิน เพื่อกระตุ้นและต่อยอดให้มีความต้องการของตลาดในการเดินทางท่องเที่ยวโดยมีจุดหมายปลายทางที่เกาะสมุย และหวังว่าการเข้ามาดูแลสุมยในครั้งนี้ จะเป็นโครงการต้นแบบแก่ทุกภาคส่วนหรือหน่วยงานอื่น ในการช่วยเหลือพื้นที่เศรษฐกิจท่องเที่ยวอื่นๆ ที่ได้รับความเดือดร้อนไม่ต่างจากเกาะสมุย โดยเฉพาะที่เป็นจังหวัดรอง 50-60 จังหวัด ให้สามารถฟื้นฟูและกระตุ้นเศรษฐกิจของแต่ละพื้นที่ให้สามารถขับเคลื่อนต่อไปได้
 
อัตราเข้าพักโรงแรมเป็นศูนย์ “การเดินทาง” เป็นอุปสรรคการเที่ยว
 
นายวิรัช พงศ์ฉบับนภา กรรมการผู้จัดการโรงแรมพาวิลเลี่ยน สมุย วิลล่า แอนด์ รีสอร์ท เล่าว่า ก่อนหน้านี้ที่ยังไม่มีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด อัตราการท่องเที่ยวของเกาะสมุยต่ำสุด เพียง 70% และในโรงแรม มีอัตราการเข้าพักของนักท่องเที่ยว เฉลี่ยปีละ 50,000 คน ซึ่งนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ เช่น อังกฤษ อิสราเอล เยอรมัน เป็นต้น แต่เมื่อประสบสถานการณ์โควิด ทำให้ปัจจุบันอัตราการเข้าพักเป็นศูนย์ แม้ปัจจุบันโรงแรมจะลดราคาที่พักลงถึง 70% แต่ก็ยังมีคนมาเที่ยวน้อย ส่วนโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ที่รัฐบาลออกมาหวังกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ ก็เพิ่มโอกาสให้คนไทยเดินทางมาเที่ยวที่เกาะสมุยเพียง 2-3% เพราะเดิมคนไทยก็เดินทางมาเที่ยวที่นี่น้อยกว่า 5% อยู่แล้ว
 
“อุปสรรคการท่องเที่ยวสมุย คือการเดินทางที่มีค่าใช้จ่ายสูง ทั้งเรื่องสนามบิน เที่ยวบินก็แพง มาที่นี่ไปกลับรวมกว่า 10,000 บาท เมื่อโดยสารโดยเรือเฟอร์รารี่ ราคาก็ไม่ต่างกัน และสมัยก่อนต้องรอคิวนานถึง 3 ชั่วโมง เลยปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวไทยเข้ามา เพราะค่าเดินทางไปกลับราคาเท่ากับการเดินทางไปฮ่องกง และสิงคโปร์ นักท่องเที่ยวไทยก็เลยไม่มา เลือกไปเที่ยวต่างประเทศดีกว่า เราจึงอยากเสนอให้รัฐบาลทำสะพานจากหาดขนอมข้ามมายังเกาะสมุย ระยะทาง 18 กิโลเมตร และออกแบบให้เป็นจุดเด่น เรียกนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเที่ยวสมุย”
 
ออมสินเพื่อสมุย ประคองธุรกิจ-รักษาการจ้างงานได้อีก 6 เดือน
 
วิรัช” เล่าต่อว่า เดิมโรงแรมจ้างพนักงานกว่า 150 คน แต่เมื่อสถานการณ์ไร้เงานักท่องเที่ยวเช่นนี้ จึงได้มีการลดเวลาการทำงานลง 5-7 วัน สลับกันไป ซึ่งเราก็ไม่ได้อยากไล่ออก แต่ทุกวันนี้พนักงานก็ลาออกกันเอง ประมาณ 20-30 คน ซึ่งหวังว่า การที่ออมสินเข้ามาทำโครงการ “ออมสินเพื่อสมุย” จะทำให้เราสามารถประคองธุรกิจโรงแรมและรักษาการจ้างพนักงานไปได้อีก 6 เดือน โดยเราได้ขอสินเชื่อออมสินไป 10 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเหลือธุรกิจได้เป็นอย่างมาก เพราะก่อนหน้านี้ไปขอสินเชื่อจากธนาคารพาณิชย์ไม่ได้เลย
 
เสนอรัฐ พักเงินต้น-ดอกเบี้ย ออกไปอีก 1 ปี
 
อย่างไรก็ดี ยังอยากให้รัฐบาลช่วยเหลืออีก 3 ข้อ ได้แก่ 1.ให้ขยายการเข้าสู่หนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) จาก 3 เดือน เป็น 1 ปี เพื่อไม่ให้เข้าสู่การติดเครดิตบูโร 2.พักชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ย ออกไปอีก 1 ปี และ3.ขยายระยะเวลาให้สินเชื่อบ้านจากเดิม 10 ปี เป็น 20 ปี และใช้วิธีเชิงรุกเพื่อให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวที่ประเทศไทยได้ โดยใช้เทคนิค real-time reverse-transcriptase polymerase chain reaction (rRT-PCR) คือการตรวจหาสารพันธุกรรมว่ามีการเรียงตัวเหมือนโควิด-19 หรือไม่ ก่อนจะให้วีซ่าแก่นักท่องเที่ยว ซึ่งหลังผลออกแล้วถ้าไม่ติด-19 จะต้องเดินทางภายใน 3 วัน
 
มาตรการรัฐ-ลดค่าที่พัก หนุนยอดจองโรงแรมเพียง 30%
 
ด้านนายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า เศรษฐกิจบนเกาะสมุย อาศัยภาคการท่องเที่ยว คิดเป็น 95%  หรือมีมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมบนเกาะสมุยทั้งหมด 660 ราย ซึ่งหลังจากการผ่อนคลายล็อกดาวน์แล้ว มีการโรงแรมที่กลับมาเปิดให้บริการเพียง 150 รายเท่านั้น โดยล่าสุดวันที่ 25 ธ.ค.นี้ มียอดจองห้องพักเข้ามาเที่ยวสมุยเพิ่มขึ้น  15% เพิ่มจากช่วงต้นเดือนที่มียอดเข้าพัก ประมาณ 8-10%
 
ขณะที่ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2564 มียอดจองเข้ามาประมาณ 30% ถือว่าดีขึ้นกว่าช่วงที่เกิดโควิดเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลมาจากการลดราคาตั๋วเครื่องบิน รวมไปถึงการลดค่าห้องพักลงกว่า 70% และโครงการเราเที่ยวด้วยกันของรัฐ ทำให้มียอดจองผ่านโครงการดังกล่าวมายังสมุยถึง 60% จึงเชื่อว่าจากนี้ไปจนถึงสิ้นสุดโครงการในช่วงเดือนเม.ย.64 จะมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังสมุยเพิ่มมากขึ้นอีก
 
คาดโควิดคลี่คลาย นักท่องเที่ยวกลับมา 8 แสนคน
 
วรสิทธิ์” คาดว่าถ้าสถานการณ์โควิดคลี่คลาย และมีวัคซีนภายในก.ค.64 จะทำให้นักท่องเที่ยวกลับเข้ามาในสมุยมากขึ้น และคาดการณ์ว่าจะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาได้ 8 แสนคน เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเพียง 15% ของจำนวนนักท่องเที่ยวในปีก่อน ที่มีทั้งหมด 2.5 ล้านคน หรือมีรายได้เพียง 5,000 ล้านบาทเท่านั้น”
 
ทั้งนี้ การเข้ามาช่วยเหลือของออมสิน จะทำให้ผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่ได้รับสินเชื่อมีเงินทุนหมุนเวียนเพิ่มมากขึ้น แต่ต้องการให้ธนาคารออมสินผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อ ให้ผู้ประกอบการขอสินเชื่อได้ง่ายขึ้น เพราะขณะนี้มีผู้ประกอบการหลายรายถูกปฏิเสธสินเชื่อในเบื้องต้น โดยขอให้กลับไปเจรจาขอสินเชื่อเพิ่มเติมกับสถาบันการเงินรายเดิมที่เป็นลูกค้ากันอยู่ เพราะจะทำให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอดูแลพนักงาน
 

 
"อนุดิษฐ์" จ่อ ลากไอ้โม่ง ทุจริตงบฯ กระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นเวทีซักฟอก 
https://www.thairath.co.th/news/politic/1993249
 
นายอนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จ่อ ลากไอ้โม่งในรัฐบาล ทุจริตงบประมาณแผ่นดินกระตุ้นเศรษฐกิจ ขึ้นเวทีซักฟอก ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ 
 
วันที่ 11 ธ.ค. น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ระบุว่า ในยุคคสช.มีวงเงินความเสียหายที่เกิดจากการทุจริตประมาณ 3 แสนล้านบาท ว่า ในยุค คสช. ไม่มีตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้งทำให้การตรวจสอบฝ่ายบริหารหายไป จึงไม่แปลกที่ พล.ต.อ.วัชรพล ออกมายอมรับว่า ยุคคสช. มีเงินแผ่นดินรั่วไหลเกือบ 3 แสนล้านบาท แต่วันนี้หลังมีการเลือกตั้ง มีฝ่ายค้านทำหน้าที่ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล พบว่า มีข้อมูลที่ได้จากการตรวจสอบของคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ ที่มีความไม่ชอบมาพากล และเข้าข่ายการกระทำทุจริตประพฤติมิชอบในโครงการของรัฐมากมายหลายเรื่อง ซึ่งถ้าเป็นเรื่องเก่าสภาฯ ก็ต้องส่งให้ป.ป.ช.ไปดำเนินการ
 
"แต่สำหรับกรณีที่เพิ่งเกิดขึ้นและตรวจพบในรัฐบาลชุดนี้ เฉพาะที่พรรคเพื่อไทย ตรวจสอบพบความไม่ชอบมาพากลและอาจเข้าข่ายทุจริตจากหลายกระทรวงทั้งพรรคหลัก และพรรคร่วม อาทิ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ พรรคเพื่อไทยเห็นว่า การกระทำเช่นนี้เป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้ และจะต้องรวบรวมข้อเท็จจริงเพื่อนำไปสู่การหาตัวคนผิดมาลงโทษต่อไป โดยจะใช้กลไกของการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือสำคัญในการกระชากหน้ากากไอ้โม่งที่สวาปามเงินแผ่นดินไปกว่า 3 แสนล้านออกมาให้สังคมได้รับรู้โดยเร็วที่สุด และขอเตือนไปยังข้าราชการที่ให้ความร่วมมือกับนักการเมืองเพื่อทุจริตเงินแผ่นดินว่าคดีความทุจริตไม่มีอายุความ แม้เกษียณอายุราชการไปแล้วหากประพฤติเอาใจนักการเมืองท่านก็ต้องออกมาขึ้นโรงขึ้นศาลและต้องรับผิดในที่สุด" นายอนุดิษฐ์ กล่าว...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่