ฝันมรณะ
Story by Ancient Blue
(Blue Bravenick)
Chapter 3
System Error
Memory uploads processing…
MDSP system error…
“ระบบเครื่องเล่นความฝันจำลองผิดพลาด หน่วยความจำเกิดความผิดพลาดที่ตัวระบบ” เสียงจากระบบอัตโนมัติของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ดังขึ้นในหัวของอาเธอร์
Memory transfers 5%...
ตัวเลขและภาพต่าง ๆ สลับหมุนไปมาอย่างรวดเร็ว
“นี่อาเธอร์นายน่าจะใช้รถโดยสารนะเพื่อน มันเร็วกว่ารถไฟบ้านี่ตั้งเยอะ” เสียงของเรย์ดังขึ้น
เฮเนอร์งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากำลังยืนอยู่บริเวณสถานีรถไฟอีกครั้ง ทั้งที่เขาเดินออกจากสถานีรถไฟมาจนจวนจะเดินทางกลับกันแล้ว
ตรงหน้าเด็กหนุ่มร่างสูง ผมสั้นสีแดง สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำผูกผ้าพันคอสีน้ำตาล กำลังถอนหายใจขณะส่งตั๋วรถไฟมาให้เขา
“เรย์...”
“ให้ตั๋วแล้วยังไม่รีบรับอีก” เรย์ต่อว่า ขณะยัดตั๋วในมือส่งให้กับเพื่อน
“นี่เรย์ ใจเย็น ๆ หน่อยสิ ฉันว่าอย่างน้อยรถไฟมันก็ถูกกว่ารถโดยสารนะ”
เสียงเล็ก ๆ เรียกความสนใจของเฮเนอร์ให้หันมองไปอีกด้าน
เด็กสาวร่างเล็ก ผมยาวตรงสีเทา ผิวขาวเข้ากับเสื้อยืดคอกลมสีขาว สะพายกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ผิดปกติไป
เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้
“เข้าข้างกันอีกแล้วนะ...” เรย์หน้ามุ่ย ยื่นตั๋วส่งให้เด็กสาวแทน
ทำไมถึงไม่ได้ยินชื่อของเธอ เฮเนอร์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นใคร ท่าทางสนิทสนมกับตนอย่างน่าประหลาด
“นี่อาเธอร์เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเงียบไป” เสียงเล็กใสของเด็กสาวคนเดิมร้องทักอีกครั้ง แม้จะรู้สึกได้ว่าเธอจ้องมองอยู่แต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้
“เฮ้ยเพื่อน...เป็นอะไรหรือเปล่า” เรย์สำทับ
“อาเธอร์” เธอเรียกเขาอีกครั้ง
เฮเนอร์รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อนั้น เขาหลับตาลงเพิ่มข่มอาการปวดที่หัว
ภาพของเด็กสาวผมสีขี้เถ้าปรากฏขึ้นอีกครั้งบนถนนหน้าสถานีรถไฟ รถยนต์คันสีดำกำลังพุ่งตรงมายังเธอโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหรือหักหลบ เสียงกรีดร้องดังขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบหายไป
ภาพทุกอย่างปรากฏขึ้นอย่างไร้ลำดับ...
ทุกเหตุการณ์ไม่มีที่มา...
ทุกอย่างล้วนไม่มีเหตุผล...
พร้อมกับอาการปวดหัวค่อย ๆ ทุเลาลง ก่อนจะหายเป็นปลิดทิ้ง
เด็กหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้นภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือแสงไฟสีขาวสว่างจ้าจนทำให้เขาต้องหรี่ตาลง
“อาเธอร์นายฟื้นแล้ว” เสียงของเรย์โพล่งขึ้น
เมื่อแสงสว่างจางลงก็พบว่าเพื่อนผมแดงยืนอยู่ตรงหน้า จ้องมองมาด้วยความเป็นห่วง
“ที่นี่ที่ไหน” เด็กหนุ่มถาม
เขาพยายามขยับเขยื้อนร่างกาย แต่มันกลับหนักเสียจนไม่สามารถทำได้อย่างใจต้องการ ลำตัวรู้สึกปวดจนชาราวกับถูกบางอย่างกระแทกเขาอย่างแรง
“ฉันอยู่ที่ไหน”
“โรงพยาบาลยังไงล่ะ” เสียงนั้นเริ่มอธิบาย “ตอนแรกฉันนึกว่านายจะไม่รอดแล้วซะอีกนะ ยังดีที่มีแค่รอยฟกช้ำและแผลถลอกกับหัวแตก เล่นสลบไปตั้งหลายวัน”
“แล้วเรย์ล่ะ ฉันจำได้ว่าฉันกำลังประคองเรย์ขึ้นมาจากถนนแล้วก็...โอ๊ย...เจ็บเป็นบ้าเลยแฮะ” เฮเนอร์กุมท้องตัวเองแน่น เนื่องจากการขยับตัวเมื่อครู่นี้ทำให้รู้สึกเจ็บแปลบกะทันหัน
“นายพูดอะไรของนายเพื่อน” เรย์ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ สร้างความแปลกใจให้กับเฮเนอร์ด้วยเช่นกัน
เพราะน้ำเสียงนั้นเหมือนกับเรย์ไม่มีผิดเพี้ยน
“ท่าทางสมองนายต้องได้รับการกระทบกระเทือนแน่เลย”
“แล้วนายเป็นใคร” เด็กหนุ่มพยายามลืมตาขึ้นมองเพื่อให้เห็นหน้าตาของอีกฝ่ายให้ชัดเจน
‘เรย์...’
“ฉันเองเพื่อน”
เฮเนอร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดเจน เขาพินิจคนตรงหน้าจนแน่ใจก่อนจะส่ายหัวไปมา “เรย์...”
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่เรย์ที่เขารู้จักแน่นอน ใบหน้าเรียวได้รูป ผมสั้นสีแดง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำทับด้วยผ้าพันคอสีน้ำตาล และรองเท้าหนังสีดำดูภูมิฐาน ไม่ต่างจากเรย์เพื่อนของเขาเลยสักนิด แต่เขากลับรู้สึกติดใจบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
ตอนนี้เขามั่นใจว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับตนเองแน่ ทำไมคนที่น่าจะเป็นเพื่อนคนนี้ถึงเรียกเขาว่า ‘อาเธอร์’ เฮเนอร์ยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงสีขาวอย่างทุลักทุเลพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนเหลือบไปเห็นตู้กระจกตั้งอยู่ปลายเตียง
ภาพที่สะท้อนในกระจกเป็นตัวเขาไม่ผิดแน่ ทั้งร่างกายและหน้าตาทุกอย่างล้วนเป็นของตน เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล
“เรย์...” เขาลองเรียกชื่ออีกฝ่ายดูเพื่อความแน่ใจ
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าเพื่อน” อีกฝ่ายตอบรับอย่างว่าง่าย พร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ทำไมนายถึงเรียกฉันว่าอาเธอร์ล่ะ”
“ก็ชื่อนายไงเพื่อน” เรย์หัวเราะพร้อมด้วยรอยยิ้มทะเล้น ๆ บนใบหน้า “นี่นายอย่ามาล้อฉันเล่นนะเพื่อนว่านายความจำเสื่อม”
ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติไปเกิดขึ้นกับเขา...
เฮเนอร์มั่นใจในความคิดของตนเองก่อนจะเริ่มเรียบเรียงคำพูดเพื่อตอบคำถามคนที่อยู่ตรงหน้า
“แล้วถ้าหากว่าฉันยืนยันว่าฉันไม่ใช่อาเธอร์อะไรของนายล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันและที่นี่คือที่ไหน...หรือแม้แต่นายเองก็ไม่ใช่เรย์คนที่ฉันเคยรู้จัก”
น้ำเสียงจริงจังของเฮเนอร์ทำให้เรย์จ้องเขาไม่วางตา
หนุ่มผมแดงยันร่างลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท ถอนหายใจเบา ๆ
“ฉันจะต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ที่เชื่อว่านายความจำเสื่อมนะเพื่อน หรือบางทีอาจจะ...” เขาเว้นจังหวะไว้ก่อนจะตัดสินใจไม่พูดประโยคท้ายต่อจนจบ
เฮเนอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง แม้จะไม่แน่ใจแต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงคือมีบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขา
ไม่นานเฮเนอร์ก็นึกขึ้นได้ว่า ‘อาเธอร์’ อยู่ในความฝัน เขาน่าจะอยู่ในความฝันแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นความฝัน
“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดีแต่ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ใช่อาเธอร์ ตอนนั้นพวกเราถูกขโมยกระชากกระเป๋าชนเอาอย่างจัง พอฉันรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว”
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันคิดไว้จะเป็นจริงสินะ” ท่าทางของเรย์ดูเปลี่ยนไป เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงตามเดิม “ถ้าเป็นแบบนี้นายคงยังไม่สมควรที่จะเยี่ยมเธอตอนนี้”
“เธอ...นายหมายถึงใครเหรอ” ร่างที่โดนผ้าพันแผลพันไว้เกือบทั่วตัวถามอย่างสงสัย
“เอาไว้ให้นายหายดีก่อนฉันจะพานายไปหาเธอเอง”
ตอนนี้เฮเนอร์เริ่มสนใจ ‘เธอ’ ที่เด็กหนุ่มพูดถึงมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องหยุดความคิดเพราะคงไม่มีประโยชน์หากรบเร้าให้เรย์คนนี้พาตนไปเยี่ยม ‘เธอ’
“ดูท่าฉันคงต้องฟื้นความทรงจำให้นายยาวเลยเพื่อน”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปเด็กหนุ่มผมแดงจึงเริ่มพูดต่อ “เอาเป็นว่าฉันจะค่อย ๆ อธิบายให้นายเข้าใจเองเพื่อน ตอนนี้ก็พักผ่อนให้หายดีก่อนก็แล้วกัน อีกไม่นานนายก็คงออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ”
“ฉันถามอะไรหน่อยสิเรย์”
คนถูกถามหรี่ตาลงมองด้วยท่าทางยียวน “อะไรล่ะ”
“ฉันหลับไปนานแค่ไหน”
เรย์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ได้คำตอบ “ประมาณ...เกือบสองอาทิตย์”
“ฉันขอตัวออกไปหากาแฟกินก่อนนะ นั่งเฝ้านายมาทั้งคืนไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาดูนายด้วยเพื่อน”
เฮเนอร์นั่งอยู่ในห้องคนเดียวท่ามกลางความเงียบ หลังจากมองร่างของเรย์ที่เดินออกไปผ่านประตูบานเลื่อน ในหัวมีคำถามมากมายจนนับไม่ถ้วน
“ที่นี่คือที่ไหน” เขาถามตัวเองก่อนจะกุมหน้าท้องของตัวเองเบา ๆ “แต่ความรู้สึกเจ็บแบบนี้มันของจริงนี่นา”
ฝันมรณะ : Chapter III System Error
Memory uploads processing…
MDSP system error…
“ระบบเครื่องเล่นความฝันจำลองผิดพลาด หน่วยความจำเกิดความผิดพลาดที่ตัวระบบ” เสียงจากระบบอัตโนมัติของปัญญาประดิษฐ์หรือ AI (Artificial Intelligence) ดังขึ้นในหัวของอาเธอร์
Memory transfers 5%...
ตัวเลขและภาพต่าง ๆ สลับหมุนไปมาอย่างรวดเร็ว
“นี่อาเธอร์นายน่าจะใช้รถโดยสารนะเพื่อน มันเร็วกว่ารถไฟบ้านี่ตั้งเยอะ” เสียงของเรย์ดังขึ้น
เฮเนอร์งุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น เขากำลังยืนอยู่บริเวณสถานีรถไฟอีกครั้ง ทั้งที่เขาเดินออกจากสถานีรถไฟมาจนจวนจะเดินทางกลับกันแล้ว
ตรงหน้าเด็กหนุ่มร่างสูง ผมสั้นสีแดง สวมเสื้อแจ็กเก็ตสีดำผูกผ้าพันคอสีน้ำตาล กำลังถอนหายใจขณะส่งตั๋วรถไฟมาให้เขา
“เรย์...”
“ให้ตั๋วแล้วยังไม่รีบรับอีก” เรย์ต่อว่า ขณะยัดตั๋วในมือส่งให้กับเพื่อน
“นี่เรย์ ใจเย็น ๆ หน่อยสิ ฉันว่าอย่างน้อยรถไฟมันก็ถูกกว่ารถโดยสารนะ”
เสียงเล็ก ๆ เรียกความสนใจของเฮเนอร์ให้หันมองไปอีกด้าน
เด็กสาวร่างเล็ก ผมยาวตรงสีเทา ผิวขาวเข้ากับเสื้อยืดคอกลมสีขาว สะพายกระเป๋าสตางค์สีน้ำตาล ทว่ากลับมีบางสิ่งที่ผิดปกติไป
เขาไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้
“เข้าข้างกันอีกแล้วนะ...” เรย์หน้ามุ่ย ยื่นตั๋วส่งให้เด็กสาวแทน
ทำไมถึงไม่ได้ยินชื่อของเธอ เฮเนอร์ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นใคร ท่าทางสนิทสนมกับตนอย่างน่าประหลาด
“นี่อาเธอร์เป็นอะไรหรือเปล่าทำไมเงียบไป” เสียงเล็กใสของเด็กสาวคนเดิมร้องทักอีกครั้ง แม้จะรู้สึกได้ว่าเธอจ้องมองอยู่แต่เขากลับไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของเธอได้
“เฮ้ยเพื่อน...เป็นอะไรหรือเปล่า” เรย์สำทับ
“อาเธอร์” เธอเรียกเขาอีกครั้ง
เฮเนอร์รู้สึกปวดหัวขึ้นมาเมื่อได้ยินเสียงเรียกชื่อนั้น เขาหลับตาลงเพิ่มข่มอาการปวดที่หัว
ภาพของเด็กสาวผมสีขี้เถ้าปรากฏขึ้นอีกครั้งบนถนนหน้าสถานีรถไฟ รถยนต์คันสีดำกำลังพุ่งตรงมายังเธอโดยไม่มีท่าทีว่าจะหยุดหรือหักหลบ เสียงกรีดร้องดังขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะเงียบหายไป
ภาพทุกอย่างปรากฏขึ้นอย่างไร้ลำดับ...
ทุกเหตุการณ์ไม่มีที่มา...
ทุกอย่างล้วนไม่มีเหตุผล...
พร้อมกับอาการปวดหัวค่อย ๆ ทุเลาลง ก่อนจะหายเป็นปลิดทิ้ง
เด็กหนุ่มค่อย ๆ ลืมตาขึ้นภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าคือแสงไฟสีขาวสว่างจ้าจนทำให้เขาต้องหรี่ตาลง
“อาเธอร์นายฟื้นแล้ว” เสียงของเรย์โพล่งขึ้น
เมื่อแสงสว่างจางลงก็พบว่าเพื่อนผมแดงยืนอยู่ตรงหน้า จ้องมองมาด้วยความเป็นห่วง
“ที่นี่ที่ไหน” เด็กหนุ่มถาม
เขาพยายามขยับเขยื้อนร่างกาย แต่มันกลับหนักเสียจนไม่สามารถทำได้อย่างใจต้องการ ลำตัวรู้สึกปวดจนชาราวกับถูกบางอย่างกระแทกเขาอย่างแรง
“ฉันอยู่ที่ไหน”
“โรงพยาบาลยังไงล่ะ” เสียงนั้นเริ่มอธิบาย “ตอนแรกฉันนึกว่านายจะไม่รอดแล้วซะอีกนะ ยังดีที่มีแค่รอยฟกช้ำและแผลถลอกกับหัวแตก เล่นสลบไปตั้งหลายวัน”
“แล้วเรย์ล่ะ ฉันจำได้ว่าฉันกำลังประคองเรย์ขึ้นมาจากถนนแล้วก็...โอ๊ย...เจ็บเป็นบ้าเลยแฮะ” เฮเนอร์กุมท้องตัวเองแน่น เนื่องจากการขยับตัวเมื่อครู่นี้ทำให้รู้สึกเจ็บแปลบกะทันหัน
“นายพูดอะไรของนายเพื่อน” เรย์ถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ สร้างความแปลกใจให้กับเฮเนอร์ด้วยเช่นกัน
เพราะน้ำเสียงนั้นเหมือนกับเรย์ไม่มีผิดเพี้ยน
“ท่าทางสมองนายต้องได้รับการกระทบกระเทือนแน่เลย”
“แล้วนายเป็นใคร” เด็กหนุ่มพยายามลืมตาขึ้นมองเพื่อให้เห็นหน้าตาของอีกฝ่ายให้ชัดเจน
‘เรย์...’
“ฉันเองเพื่อน”
เฮเนอร์เบิกตากว้างด้วยความตกใจเมื่อเห็นอีกฝ่ายชัดเจน เขาพินิจคนตรงหน้าจนแน่ใจก่อนจะส่ายหัวไปมา “เรย์...”
เด็กหนุ่มรู้สึกว่าคนที่นั่งอยู่ตรงหน้านั้นไม่ใช่เรย์ที่เขารู้จักแน่นอน ใบหน้าเรียวได้รูป ผมสั้นสีแดง สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกางเกงขายาวสีดำทับด้วยผ้าพันคอสีน้ำตาล และรองเท้าหนังสีดำดูภูมิฐาน ไม่ต่างจากเรย์เพื่อนของเขาเลยสักนิด แต่เขากลับรู้สึกติดใจบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
ตอนนี้เขามั่นใจว่าต้องมีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นกับตนเองแน่ ทำไมคนที่น่าจะเป็นเพื่อนคนนี้ถึงเรียกเขาว่า ‘อาเธอร์’ เฮเนอร์ยันตัวลุกขึ้นนั่งบนเตียงสีขาวอย่างทุลักทุเลพร้อมกับกวาดสายตามองไปรอบห้อง ก่อนเหลือบไปเห็นตู้กระจกตั้งอยู่ปลายเตียง
ภาพที่สะท้อนในกระจกเป็นตัวเขาไม่ผิดแน่ ทั้งร่างกายและหน้าตาทุกอย่างล้วนเป็นของตน เพียงแต่ตอนนี้ร่างกายเต็มไปด้วยผ้าพันแผล
“เรย์...” เขาลองเรียกชื่ออีกฝ่ายดูเพื่อความแน่ใจ
“นายเป็นอะไรหรือเปล่าเพื่อน” อีกฝ่ายตอบรับอย่างว่าง่าย พร้อมส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร
“ทำไมนายถึงเรียกฉันว่าอาเธอร์ล่ะ”
“ก็ชื่อนายไงเพื่อน” เรย์หัวเราะพร้อมด้วยรอยยิ้มทะเล้น ๆ บนใบหน้า “นี่นายอย่ามาล้อฉันเล่นนะเพื่อนว่านายความจำเสื่อม”
ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ผิดปกติไปเกิดขึ้นกับเขา...
เฮเนอร์มั่นใจในความคิดของตนเองก่อนจะเริ่มเรียบเรียงคำพูดเพื่อตอบคำถามคนที่อยู่ตรงหน้า
“แล้วถ้าหากว่าฉันยืนยันว่าฉันไม่ใช่อาเธอร์อะไรของนายล่ะ ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉันและที่นี่คือที่ไหน...หรือแม้แต่นายเองก็ไม่ใช่เรย์คนที่ฉันเคยรู้จัก”
น้ำเสียงจริงจังของเฮเนอร์ทำให้เรย์จ้องเขาไม่วางตา
หนุ่มผมแดงยันร่างลุกขึ้นจากเก้าอี้ข้างเตียง ก่อนจะเดินไปเปิดหน้าต่างที่อยู่ใกล้ ๆ เพื่อให้อากาศถ่ายเท ถอนหายใจเบา ๆ
“ฉันจะต้องเป็นบ้าแน่ ๆ ที่เชื่อว่านายความจำเสื่อมนะเพื่อน หรือบางทีอาจจะ...” เขาเว้นจังหวะไว้ก่อนจะตัดสินใจไม่พูดประโยคท้ายต่อจนจบ
เฮเนอร์นิ่งไปครู่หนึ่ง แม้จะไม่แน่ใจแต่สิ่งหนึ่งที่เป็นความจริงคือมีบางอย่างกำลังเกิดขึ้นกับตัวเขา
ไม่นานเฮเนอร์ก็นึกขึ้นได้ว่า ‘อาเธอร์’ อยู่ในความฝัน เขาน่าจะอยู่ในความฝันแน่นอน ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นความฝัน
“ฉันไม่รู้ว่าควรจะเริ่มจากตรงไหนดีแต่ฉันมั่นใจว่าฉันไม่ใช่อาเธอร์ ตอนนั้นพวกเราถูกขโมยกระชากกระเป๋าชนเอาอย่างจัง พอฉันรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ที่นี่แล้ว”
“ดูเหมือนว่าสิ่งที่ฉันคิดไว้จะเป็นจริงสินะ” ท่าทางของเรย์ดูเปลี่ยนไป เขานั่งลงบนเก้าอี้ข้าง ๆ เตียงตามเดิม “ถ้าเป็นแบบนี้นายคงยังไม่สมควรที่จะเยี่ยมเธอตอนนี้”
“เธอ...นายหมายถึงใครเหรอ” ร่างที่โดนผ้าพันแผลพันไว้เกือบทั่วตัวถามอย่างสงสัย
“เอาไว้ให้นายหายดีก่อนฉันจะพานายไปหาเธอเอง”
ตอนนี้เฮเนอร์เริ่มสนใจ ‘เธอ’ ที่เด็กหนุ่มพูดถึงมากยิ่งขึ้น แต่ก็ต้องหยุดความคิดเพราะคงไม่มีประโยชน์หากรบเร้าให้เรย์คนนี้พาตนไปเยี่ยม ‘เธอ’
“ดูท่าฉันคงต้องฟื้นความทรงจำให้นายยาวเลยเพื่อน”
เมื่อเห็นอีกฝ่ายนิ่งไปเด็กหนุ่มผมแดงจึงเริ่มพูดต่อ “เอาเป็นว่าฉันจะค่อย ๆ อธิบายให้นายเข้าใจเองเพื่อน ตอนนี้ก็พักผ่อนให้หายดีก่อนก็แล้วกัน อีกไม่นานนายก็คงออกจากโรงพยาบาลได้แล้วล่ะ”
“ฉันถามอะไรหน่อยสิเรย์”
คนถูกถามหรี่ตาลงมองด้วยท่าทางยียวน “อะไรล่ะ”
“ฉันหลับไปนานแค่ไหน”
เรย์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ได้คำตอบ “ประมาณ...เกือบสองอาทิตย์”
“ฉันขอตัวออกไปหากาแฟกินก่อนนะ นั่งเฝ้านายมาทั้งคืนไม่ได้นอนเลย เดี๋ยวฉันจะไปตามหมอมาดูนายด้วยเพื่อน”
เฮเนอร์นั่งอยู่ในห้องคนเดียวท่ามกลางความเงียบ หลังจากมองร่างของเรย์ที่เดินออกไปผ่านประตูบานเลื่อน ในหัวมีคำถามมากมายจนนับไม่ถ้วน
“ที่นี่คือที่ไหน” เขาถามตัวเองก่อนจะกุมหน้าท้องของตัวเองเบา ๆ “แต่ความรู้สึกเจ็บแบบนี้มันของจริงนี่นา”