เคสตัวอย่างกรณีฟ้องชู้ สติสำหรับผู้หญิงแต่งงาน

ตอนนี้เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอีกครั้งค่ะ  ก่อนหน้านี้เคยแต่งงานมาแล้ว  มีลูกติด 1 คน  เลิกรากันเพราะความยังไม่พร้อมการมีครอบครัวของฝ่ายชาย  ไม่ได้จดทะเบียนค่ะ แต่ฟ้องเรียกค่าเลี้ยงดูลูกชนะคดีมาแล้ว  หลังจากนั้น  ชีวิตคิดว่าคงจะไม่มีใครอีก  เลี้ยงลูกอยู่กับลูกดีกว่า  แต่แล้วเค้าก็เข้ามาในชีวิต  มาทำดีด้วย  ไม่ได้ดูแลเฉพาะเรา  แต่ดูแลทั้งลูก และพ่อแม่เราทั้งหมด  เสมอต้นเสมอปลายตลอดมาไม่มีขาดตกบกพร่อง  ไม่ว่าจะไปไหน ทำอะไรรายงานหมด  ซึ่งเราเองซะอีกที่ไม่ค่อยตาม  เพราะเป็นนิสัยแบบนี้  แค่ขอให้บอกว่าไปไหนทำอะไรกับใครเท่านั้น  โทรศัพท์มีรหัสให้เราไปเช็คได้ตลอด  เป็นแบบนี้มาเกือบ 5 ปี  จึงตัดสินใจแต่งงานกัน  เราบอกแต่แรกแล้วค่ะ  ว่าเรายังไม่อยากมีลูกอีก  เข็ดมาก  แต่เค้าก็ไม่ว่าอะไร  เค้าพาเราไปจดทะเบียนค่ะ  ทั้งๆที่เราเองเฉยๆกับเรื่องนี้  แต่เค้าอยากจดก็จด  และมันมีประโยชน์มากและนึกขอบคุณเค้าอยู่เสมอที่พาเราไปจด  ไม่งั้นเกมส์พลิกมากจริงๆ เพี้ยนลอย

แต่งงานแล้วเค้าอยู่บ้านเราค่ะ  ช่วยกันทำมาหากิน  ซึ่งเรากู้เงินมาทำธุรกิจเล็กๆ  หลังจากนั้นโดนโกงไป  เค้าจึงกู้เงินที่ทำงานมาช่วยต่อสายป่าน  ธุรกิจกลับมาดีขึ้น  มีข้อตกลงที่เราบอกเค้าก่อนหน้านี้คือ  จะชำระเงินกู้ของทางเราก่อนเพราะดอกแพงกว่าทางเค้า  ซึ่งเค้าเป็นราชการดอกจะถูกมาก  เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร  จะไปเที่ยวไหนหรือกินอะไรเราก็เป็นคนออก  เพราะเราแค่คิดว่าเอาเงินมาใช้จ่ายในครอบครัวไม่ได้ไปใช้จ่ายอะไร  แต่งงานกันมาซักพัก  เราทำงานทั้งนอกบ้านและในบ้าน  อารมณ์ทางเพศก็อาจน้อยลง  ประกอบกับตอนนั้นลูกสาวได้นอนห้องเดียวกันด้วย  จึงทำให้การร่วมเตียงลดน้อยลง  เป็นที่ไม่พอใจสำหรับเค้า  หลังๆ  เราเลยแก้ปัญหาด้วยการทำห้องส่วนตัวให้กับลูกสาวแยกออกไปอีก 

ชีวิตดำเนินต่อไปเป็นปกติ  จนกระทั่ง เค้าได้เจอเพื่อนเก่าสมัยเรียนผ่านทางเฟสบุ๊ค  มีการนัดกินข้าวสังสรรค์กัน  หลังจากนั้น  สามีเปลี่ยนไปเป็นคนละคน  จากที่เคยโทรหาเช้า  กลางวัน  เย็น  กลับโทรบ้างไม่โทรบ้าง  ติดต่อไม่ได้  มีงานบ่อยครั้ง  ติดโทรศัพท์ แทบจะไม่เคยวางทิ้งไว้เลย  อยู่ดีๆ  ก็ออกจากบ้านไปแล้วหายไป 2-3 วันติดต่อไม่ได้  โทรไปไม่รับ  กลับมาก็ทะเลาะกัน  แล้วบอกว่าไม่มีอะไร  และจะไม่ทำแบบนี้อีก  และทำชีวิตเหมือนปกติ เราเลยคิดว่ามันคงไม่มีอะไร  

เราเลยคิดว่าถ้ามีลูกคงจะดีขึ้น  เพราะก่อนหน้านี้เค้าเคยบอกว่าอยากมีลูกมาก  เราเลยตัดสินใจที่จะมีลูก  ซึ่งบอกไว้เลยนะคะสำหรับผู้หญิงทุกคนที่คิดว่าการมีลูกจะเหนี่ยวรั้งผู้ชายไว้ได้  คุณคิดผิดมากๆๆๆ!!!  เราพยายามอยู่เกือบครึ่งปีกว่าจะมีเพราะก่อนหน้านี้เรากินยาคุมมานาน  จนวันที่เรารู้ว่าเรากำลังจะมีลูก  เราได้บอกเค้า  แต่เค้ากลับไม่ดีใจเลย  เงียบ  และหายออกไปจากบ้านอีก  เราเริ่มตั้งสติและสืบค้นเท่าที่เราจะทำได้  โชคดีที่เค้าเป็นคนไม่เก่งด้านเทคโนโลยีมากๆ เราเลยเค้าไปดูทั้งเฟสบุ๊คและ Line ของเค้าได้  ซึ่งตอนนั้น  เป็นความโชคดีที่ตอนนั้นเค้าให้เราทำเฟสบุ๊ค  ทำ Email ให้  และ Line ยังสามารถเข้าระบบได้ทั้งมือถือและคอมพิวเตอร์พร้อมกัน  

การได้สืบค้นทำให้เรากระจ่างถึงการเปลี่ยนไปของสามีว่าเกิดจากอะไร  ใช่ค่ะ  ไม่พ้นการมีผู้หญิงอื่น  ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน  มันคือเพื่อนสมัยเรียนที่เค้าเพิ่งจะติดต่อกันได้นั่นเอง  และจากการที่เค้าพูดคุยกันเดาได้ไม่ยากว่าเค้ามีอะไรกันเรียบร้อยแล้ว  เจ็บ จุก น้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว  ทำอะไรไม่ถูก  ได้แต่โทษตัวเองว่าเรื่องทั้งหมดคงเกิดจากเราที่ให้เค้าไม่พอ  ผู้หญิงคนนั้นก็รู้ค่ะว่าสามีมีครอบครัวแล้ว  แต่สามีเราเองที่ไปบอกกับผู้หญิงคนนั้น  และเพื่อนๆในกลุ่ม  ว่าเราไม่ดี  เราเป็นเมียที่แย่  ไม่ทำงานบ้าน  ไม่มีให้มีอะไรด้วย  เอาแต่เงิน  เอาแต่ใจ  ซึ่งเราเป็นตรงกันข้ามกับที่เค้าบอกไปทุกอย่าง  และที่ตกใจไปกว่านั้น  คือเค้าทั้ง 2 คนพยายามที่จะมีลูกด้วยกัน  การดูแลเอาใจใส่ในขณะที่เรากำลังจะมีลูกให้เค้าคือไม่มีเลย เราส่งข้อความไปหาผู้หญิงคนนั้น  โดยใช้เฟสเราเอง  ให้เค้าเห็นใจลูกผู้หญิงด้วยกัน  ขอให้เค้าคิดดีๆ  เค้าอ่านค่ะ  แต่ไม่ตอบ

หลังจากที่เค้าหายไป 3 วันเค้ากลับมาเหมือนเดิม  ซึ่งเราได้บอกเค้าว่าเรารู้เรื่องของเค้ากับผู้หญิงคนนั้นแล้ว  แต่ไม่ได้บอกค่ะว่ารู้มาได้ด้วยวิธีไหน  เค้าได้แต่ขอโทษ  และบอกว่าที่หายไปเค้าไปเคลียร์กับผู้หญิงคนนั้นมา  เค้าจะไม่ทำอีก  แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่เค้าพูดเลยค่ะ  เพราะในทุกๆวัน  เราแอบดูที่เค้าคุยกันตลอด  ได้แค่แคปรูปเก็บไว้คิดแค่ว่าวันข้างหน้าเราอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน  ทุกคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าเราโง่  ทำไมต้องทนอยู่แบบนี้  ไม่จบๆแยกๆไปให้เด็ดขาด  อยากจะบอกทุกคนว่าเราก็อยากทำแบบนั้นค่ะ  แต่เราซึ่งผ่านการแต่งงานมาแล้วครั้งนึง  เมื่อได้แต่งงานอีกครั้งนึงเราก็อยากรักษาชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์แบบไว้ให้ได้มากที่สุด  เราคิดแค่ว่าเมื่อลูกคลอดออกมาซักวันเค้าคงจะคิดได้ 

เราทำนิ่งๆ ทำตัวเหมือนเดิมทุกอย่าง  เค้าอยากมีอะไรตอนไหนเรามีให้เค้าหมด  ลงรูปคู่บ่อยๆ ลงรูปครอบครัวบ่อยๆ ซึ่งคิดว่าผู้หญิงคนนั้นเข้ามาส่องคงคิดอะไรได้บ้าง  แต่เปล่าเลย  ผู้หญิงคนนั้นก็ลงเหมือนกัน  ลงคำหวานๆ บ้าง  ลงรูปให้เห็นมือ  เห็นหลัง  เห็นบางส่วนของร่างกายแฟนเราให้เราเห็นบ้าง  บอกเป็นนัยๆว่าเค้าทั้ง2 คนยังคบกันอยู่  เราเห็นข้อความในกลุ่มเพื่อนๆของเค้าก็เตือนทั้ง 2 คน  แต่เค้าทั้ง 2 คนก็ไม่ฟัง  ลบเพื่อนที่ไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของเค้า 2 คนออกจากกลุ่มเลยด้วยซ้ำ  

วันที่เราเจ็บปวดที่สุดก็คือวันที่ผู้หญิงคนนั้น  ลงข้อความว่า  "ขอบคุณของพิเศษที่มอบให้"  และลงรูปเป็นรองเท้าเด็ก  ซึ่งเราจุกและคิดว่าผู้หญิงคนนั้นคงกำลังตั้งท้องแน่ๆ  เราได้พูดคุย  คาดคั้น และทะเลาะกับสามี  ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นคำพูดที่ออกจากปากเค้า  ใช่ค่ะ  เค้าขอมี 2 บ้าน  วันธรรมดาบ้านเรา  วันหยุดบ้านผู้หญิงคนนั้น  เราบอกเราไม่ยอม  ให้เลือกไปเลยว่าจะอยู่ทางไหน  ซึ่งเค้าก็ไม่เลือก  เราบอกถ้าไม่เลือกเราจะฟ้อง  เราไม่อยากทนอยู่ในสภาพนี้แล้ว  เค้าบอกเค้าขอเวลาเคลียร์เรื่องนี้อีกสักพัก  แต่เราก็เข้าไปส่องเฟสของผู้หญิงคนนั้น  ยังไปเที่ยวกลางคืน  ดื่มเหล้า  ทั้งๆที่บอกว่าท้อง  ไม่เหมือนกับเราที่เราท้องเราอยู่แต่บ้าน  ไม่มีดื่มเลย  จนผ่านไปไม่กี่เดือน  อยู่ๆ สามีก็ออกจากบ้านไปและหายไปอีก  ผู้หญิงคนนั้นลงใน Line ว่าอยู่ ตจว.กับสามีเรา  เสียใจค่ะ  เสียใจมาก  จนเค้ากลับมาบอกว่าที่หายไปคือพาผู้หญิงคนนั้นไป รพ.  เพราะเค้าแท้ง  และพากันไปปลอบใจที่  ตจว.  และเค้าบอกว่าคงจะจบกันเรียบร้อยแล้ว  เราเชื่อใจเค้าอีกค่ะ  ว่ามันคงจะจบแล้วจริงๆ....... เดี๋ยวมาต่อนะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่