สวัสดีค่ะ อีชั้นชื่อนิตยา โคกสูงเนินค่ะ (เรียก นิตยาฯ ได้นะคะ) วันนี้ อีชั้นจะมาเล่าประสบการณ์เอาคืนธนาคารต่างด้าวยักษ์ใหญ่ระดับเจ้าโลกด้านบัตรเครดิตมาเล่าสู่กันฟัง คือ เค้าลืมอัพเดทข้อมูลเครดิตบูโรของนิตยาฯ ค่ะ
ก่อนอื่นนะคะ อีชั้นเป็นคน ตจว. (ดูนามสกุลคงรู้นะคะ) แต่เข้ามาเรียนและทำงานในเมืองกรุงตั้งแต่สมัยวัยรุ่น การงานมั่นคง เงินเดือนพอกินพอใช้ แรกเริ่มเดิมที อีชั้นสมัครบัตรเครดิตของธนาคารต่างด้าวเจ้านี้ตั้งแต่ปี 2548 เพราะเค้าชอบออกบู้ธแถมกระเป๋าเดินทางอ่ะค่ะ ขอบอกว่า อีชั้นเป็นลูกค้าชั้นดีนะค่ะ จ่าย (ขั้นต่ำ) ตรงเวลาสม่ำเสมอ แบบนี้ เรียนว่าลูกค้าชั้นดีเพราะธนาคารเค้าได้ดอกจากอีชั้นค่ะ
เหตุการณ์เริ่มต้นตอนปี 2556 วันนั้น อีชั้นนั่งแท๊กซี่จะไปทำงานแล้วก็คิดอะไรเพลินๆ จนลืมกระเป๋าถือไว้บนรถแท๊กซี่ ซึ่งมีทั้งมือถือและกระเป๋าตังค์ที่พกบัตรต่างๆ ไว้ด้วย ... โชคดีที่ยังมีเงินทอนตอนจ่ายค่าแท๊กซี่เหลือติดตัวไว้นิดหน่อย ... วันนั้น งานการไม่ทำละค่า รีบไปแจ้งความเลย แล้วก็กลับคอนโดไปเอาตังค์กับบัตรเครดิตที่ยังพอมีซุกไว้ที่ห้องไปซื้อมือถือและก็ออกซิมการ์ดเบอร์เดิม ซึ่งกว่าจะทำอะไรๆ เสร็จก็ร่วมหลายชั่วโมง
พอเปิดมือถือได้เท่านั้นล่ะค่ะ เสียงแจ้งเตือนข้อความทางโทรศัพท์ก็ดังรัวๆ อีชั้นค่อยๆ ไล่เปิดอ่านดูทีละข้อความ คุณขา .... แทบลมจับ .... มีข้อความจาก 2-3 ธนาคารแจ้งว่ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต .... ยังค่ะ ข้อความยังไม่หยุดค่ะ .... คุณพระช่วย บัตรเครดิตถูกใช้เต็มวงเงินภายในไม่กี่ชั่วโมง !!! อีชั้นรีบโทรไปอายัดบัตรเครดิตทันที
(สรุปเลยนะคะ) มีมือดีเอาบัตรเครดิตไปรูดแถมมีลายเซ็นในเซลสลิปด้วยค่ะ แต่ลายเซ็นไม่เหมือนกับที่อีชั้นเซ็นไว้หลังบัตรค่ะ (อีชั้นเข้าใจว่าร้านค้าที่รับบัตรเครดิตต้องตรวจดูลายเซ็นหลังบัตรด้วยนิคะ ทำไมปล่อยผ่านไปได้ ไม่เข้าใจ) ธนาคารก็ให้อีชั้นทำเรื่องปฏิเสธค่ะ .... บางที่ก็อนุโลมนะคะ แต่บางที่ก็ไม่ให้ค่ะ ... อีชั้นก็พยายามเต็มที่ ขอลดหนี้บ้าง ทยอยชำระบ้าง คิดเสียว่าเวรกรรมที่ทำไว้แต่ชาติปางก่อน ซึ่งแน่นอนว่าประวัติเครดิตบูโรของอีชั้นคงฟอนเฟะไปแล้ว .... แต่คุณคะ มีธนาคารนึงค่ะ จำธนาคารต่างด้าวที่อีชั้นเกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นได้มะคะ เค้าไม่อนุโลม แถมยังระงับวงเงินบัตรเครดิตและบอกเลิกสัญญากับอีชั้นค่ะ เท่านั้นไม่พอ โทรศัพท์ทวงทุกวันเช้าเย็น (ตอนนั้นยังไม่มี พ.ร.บ. ทวงหนี้) เจ้าหน้าที่ของธนาคารทำงานดีมากค่ะ ทวงหนี้แบบตำบอนสุดๆ ค่ะ อีชั้นได้แต่ร้องเพลงพี่ตูน บอแลม ไปค่ะ ชีวิตแค่โดนทำร้าย
กระทั่งปี 2558 ธนาคารต่างด้าวรายนั้นฟ้องอีชั้นค่ะ (ยอดหลักหมื่นบาท) ... อีชั้นต้องไปศาล เข้าคอกพยานสาบานตนเบิกความค่ะ อายมากค่ะ สั่นด้วย อีชั้นต้องแจกลายเซนพิสูจน์ลายมือชื่อหลังบัตรเครดิตหลายหน้ากระดาษเอ 4 แต่ก็ยังโชคดีนะคะที่ไม่ปวดมือ เพราะสมัยประถมโดนครูทำโทษคัดลายมือบ่อยๆ สุดท้าย คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้องค่ะ เพราะลายเซนในเซลสลิปไม่ตรงกับลายเซนอีชั้น อีชั้นไม่ต้องรับผิดต่อธนาคาร .... บุญรักษา เราจบสิ้นกันเสียทีนะคะ
หลังจากเสร็จสิ้นคดีความแล้ว อีชั้นก็ระมัดระวังการใช้จ่าย และวางแผนการเงินแบบว่าใช้แต่เงินสดอ่ะค่ะ หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิต และการขอกู้เงินใดๆ อีก เพราะแอบคิดเองว่า อีชั้นน่าจะยังคงติดประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรค้างอยู่อีก 3 ปี นับจากที่คดีจบ
เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ช่วงต้นปี 2562 อีชั้นคิดว่าประวัติหนี้เสียคงจะไม่มีค้างในระบบเครดิตบูโรแล้วแหละ เพราะเคลียร์ไปหมดทุกอย่างแล้ว เลยไปขอกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อคอนโด และก็สมัครบัตรเครดิตพ่วงไปด้วยเลย แต่ปรากฏว่าอีชั้นถูกปฏิเสธทุกแห่งเลยค่ะ บอกว่าติดเครดิตบูโร อีชั้นก็ตกกะใจค่ะ เลยไปเช็คข้อมูลเครดิต ปรากฏว่าคุณขา สถานะบัญชีสินเชื่อบัตรเครดิตที่อยู่กับธนาคารต่างด้าวที่ฟ้องอีชั้นครั้งกระนั้นระบุว่า “ยังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย” ..... อีชั้นจัดแจงโทรไปหาธนาคารขอให้แก้ไขประวัติเครดิตบูโรด่วน คุณเจ้าหน้าที่บอกจะประสานให้ ... รอไปเป็นชาติค่ะ ไม่มีใครติดต่อมา ไม่มีใครจัดการอะไร
อีชั้นร้อนใจก็จัดแจงติดต่อไปที่ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ได้ความว่างี้ค่ะ การแก้ไขข้อมูลประวัติเครดิตบูโร สามารถทำได้โดยธนาคารซึ่งเป็นสมาชิกของ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ส่งเรื่องให้แก้ไขข้อมูล หรืออีกทางนึง เจ้าของข้อมูล (ตัวอีชั้นเอง) จะขอแก้ไขเองก็ได้ โดยจะต้องยื่นเรื่องพร้อมเอกสารประกอบต่างๆ เข้าไปเพื่อพิจารณาด้วย
อีชั้นคิดว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารโดยตรงที่ควรจะแก้ไขให้อีชั้น …. อีชั้นก็วนกลับไปติดตามเรื่องหาธนาคารเดิมสิคะ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ บอกแต่ว่ารอหัวหน้า อีชั้นก็ขอคุยกับหัวหน้าที่มีอำนาจ จนได้รับคำตอบว่า ลืมอัพเดทข้อมูลเครดิตบูโร และจะรีบแก้ไขให้โดยด่วน .... วี้ดดดด บึ้มค่ะ ตอบตรงแบบนี้ อีชั้นก็เหวี่ยงล่ะคะ อดใจไม่ไหวแล้ว ธนาคารต่างด้าวยักษ์ใหญ่ระดับเจ้าโลกด้านบัตรเครดิต ทำงานประสาอะไร
พุทโธ ธัมโม สังโฆ .... ใจร่มๆ รอไปอีก 2 เดือน อีชั้นไปตรวจเครดิตบูโรของตัวเองอีกรอบ ปรากฏว่า คลีนค่ะ .... แบบว่าไม่เหลือร่องรอยว่าอีชั้นเคยติดเครดิตบูโรเลย แล้วไง ไม่แจ้งอะไรอีชั้นหน่อยหรอคะ อีชั้นไม่พึงใจเลยร่างจดหมายร้องเรียนเจ้าหน้าที่ธนาคารค่ะ และสำเนาเรียนไปถึงเอ็มดีฝรั่งเลยนะคะ มีทั้งเว่อชั่นไทย และ ทรานสะเลดอินทูอิงลิช เอ็มดีนางก็ไม่ได้ใส่ใจ ให้เจ้าหน้าที่ตอบมาประมาณว่า ก็ลบให้เรียบร้อยแล้ว เพื่อทราบ
วี้ดดดดด ..... ไม่ค่ะ เรื่องนี้ต้องไม่จบ งานการไม่ทำแล้วค่ะ ร่างจดหมายร้องเรียนไป สคบ. บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ คณะกรรมการข้อมูลเครดิต (ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีหน่วยงานไหน อีชั้นแจ้งโหมดดดด
จนกระทั่ง คณะกรรมการข้อมูลเครดิต (ธนาคารแห่งประเทศไทย) เมตตากรุณาอีชั้นที่รับเรื่องและดูแลเรื่องนี้ให้ หลังจากสอบสวนไปมาแล้ว เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งอีชั้นว่า ธนาคารมีความผิดตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 มาตรา 18 และมาตรา 19 ที่กำหนดให้ สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ มีหน้าที่นำส่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย เพื่อรายงานสถานะของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอไปจนกว่าสินเชื่อนั้นจะได้รับการชำระเสร็จสิ้น เมื่อธนาคารละเลยไม่ปฏิบัติตาม จึงมีคำสั่งลงโทษปรับธนาคาร .... เงินค่าปรับเข้าคณะกรรมกรข้อมูลเครดิต จบ....
อ้าว .... แล้วอีชั้นล่ะ จะได้รับการเยียวยาไหมคะ ... ได้รับคำตอบว่า คุณผู้บริโภคหากประสงค์จะดำเนินการอื่นๆ เช่นเรียกค่าเสียหาย ต้องไปดำเนินการทางศาลด้วยตนเองค่ะ ขอบคุณค่ะ
มาถึงขั้นนี้ละ อีชั้นก็ต้องจัดให้สุดค่ะ ฟ้องค่ะ ธนาคารระดับโลกกระทำการโดยประมาทเลินเล่นเล่อ บกพร่องในหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้อีชั้นได้รับความเสียหายจากการกระทบกระเทือนสิทธิอันชอบธรรม กลายเป็นผู้ที่มีประวัติเสื่อมเสียทางการเงิน ไม่มีเครดิต ติดแบล๊กลิสต์ ไม่ได้รับความเชื่อถือในการทำธุรกรรมด้านสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จึงขอให้ธนาคารชดใช้ค่าเสียหายแก่อีชั้นเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดและกระทบกระเทือนสิทธิอันชอบธรรม (ลอกทนายมานะคะ แต่งเองไม่เป็นหรอกค่ะ)
ศาลท่านขอให้เจรจาไกล่เกลี่ยก่อน แต่ธนาคารไม่ยอมค่ะ จะสู้คดี อีชั้นก็ไม่ยี่หร่ะ มาถึงขนาดนี้แระ .... ไปศาล 3 รอบ สืบกันจนกระทั่ง ธนาคารยอมรับว่าประมาทจริง ศาลท่านก็เที่ยงตรงราวกับเปาบุ้นจิ้น เมื่อธนาคารประมาทก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อีชั้นค่ะ ธนาคารจะชดใช้เป็นบัตรเครดิตให้ใช้ตามวงเงินเดิม .... ศาลท่านว่าเลยค่ะ เค้าไม่ได้อยากเป็นลูกค้าคุณแล้ว เค้าจะให้ธนาคารคุณชดใช้ค่าเสียหาย จะจ่ายเท่าไหร่ กี่แสนดี ศาลที่เคารพเจ้าขา อีชั้นไม่ได้หวังอะไรมากมายขนาดนั้น แค่อยากให้เค้าเข็ดหลาบเจ้าค่ะ
ก่อนครบกำหนดนัดอีกรอบ ธนาคารก็โทรมาเจรจาขอให้อีชั้นรับค่าเสียหายจำนวนนึง เพื่อทำสัญญาประนีประนอมและถอนฟ้อง แถมบอกว่าให้อีชั้นลงนามสัญญานอนดีสโครสเชอร์ (ไม่เปิดเผยข้อมูล) ด้วยนะคะ ... ก็ได้ อีชั้นรับไว้ ไม่ใช่หน้าเงินนะคะ แต่มันยาวนานเกินไป ถ้าอีชั้นไม่ใช่สายสตรอง บึกบึนล่ะก็ คงยอมสิโรราบไปนานแล้วล่ะค่ะ
จบเรื่องแล้ว แต่สิ่งที่อีชั้นปรารถนาคือ คำขอโทษซึ่งก็ยังไม่เคยหลุดออกมาให้ได้ยินค่ะ
อีชั้นคิดว่า เรื่องนี้ไม่ได้นำมาประจานนะคะ แต่อยากให้ทุกคนรู้จักปกป้องสิทธิของเราค่ะ ไม่ให้คนอื่นมาละเมิดสิทธิเรา และเราก็ไม่ได้ละเมิดสิทธิคนอื่นค่ะ
เป็นการเล่าเรื่องครั้งแรก รบกวนฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ให้นิตยาฯ ด้วยนะคะ
ธนาคารลืมอัพเดทข้อมูลเครดิตบูโรของลูกค้า
ก่อนอื่นนะคะ อีชั้นเป็นคน ตจว. (ดูนามสกุลคงรู้นะคะ) แต่เข้ามาเรียนและทำงานในเมืองกรุงตั้งแต่สมัยวัยรุ่น การงานมั่นคง เงินเดือนพอกินพอใช้ แรกเริ่มเดิมที อีชั้นสมัครบัตรเครดิตของธนาคารต่างด้าวเจ้านี้ตั้งแต่ปี 2548 เพราะเค้าชอบออกบู้ธแถมกระเป๋าเดินทางอ่ะค่ะ ขอบอกว่า อีชั้นเป็นลูกค้าชั้นดีนะค่ะ จ่าย (ขั้นต่ำ) ตรงเวลาสม่ำเสมอ แบบนี้ เรียนว่าลูกค้าชั้นดีเพราะธนาคารเค้าได้ดอกจากอีชั้นค่ะ
เหตุการณ์เริ่มต้นตอนปี 2556 วันนั้น อีชั้นนั่งแท๊กซี่จะไปทำงานแล้วก็คิดอะไรเพลินๆ จนลืมกระเป๋าถือไว้บนรถแท๊กซี่ ซึ่งมีทั้งมือถือและกระเป๋าตังค์ที่พกบัตรต่างๆ ไว้ด้วย ... โชคดีที่ยังมีเงินทอนตอนจ่ายค่าแท๊กซี่เหลือติดตัวไว้นิดหน่อย ... วันนั้น งานการไม่ทำละค่า รีบไปแจ้งความเลย แล้วก็กลับคอนโดไปเอาตังค์กับบัตรเครดิตที่ยังพอมีซุกไว้ที่ห้องไปซื้อมือถือและก็ออกซิมการ์ดเบอร์เดิม ซึ่งกว่าจะทำอะไรๆ เสร็จก็ร่วมหลายชั่วโมง
พอเปิดมือถือได้เท่านั้นล่ะค่ะ เสียงแจ้งเตือนข้อความทางโทรศัพท์ก็ดังรัวๆ อีชั้นค่อยๆ ไล่เปิดอ่านดูทีละข้อความ คุณขา .... แทบลมจับ .... มีข้อความจาก 2-3 ธนาคารแจ้งว่ามีการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต .... ยังค่ะ ข้อความยังไม่หยุดค่ะ .... คุณพระช่วย บัตรเครดิตถูกใช้เต็มวงเงินภายในไม่กี่ชั่วโมง !!! อีชั้นรีบโทรไปอายัดบัตรเครดิตทันที
(สรุปเลยนะคะ) มีมือดีเอาบัตรเครดิตไปรูดแถมมีลายเซ็นในเซลสลิปด้วยค่ะ แต่ลายเซ็นไม่เหมือนกับที่อีชั้นเซ็นไว้หลังบัตรค่ะ (อีชั้นเข้าใจว่าร้านค้าที่รับบัตรเครดิตต้องตรวจดูลายเซ็นหลังบัตรด้วยนิคะ ทำไมปล่อยผ่านไปได้ ไม่เข้าใจ) ธนาคารก็ให้อีชั้นทำเรื่องปฏิเสธค่ะ .... บางที่ก็อนุโลมนะคะ แต่บางที่ก็ไม่ให้ค่ะ ... อีชั้นก็พยายามเต็มที่ ขอลดหนี้บ้าง ทยอยชำระบ้าง คิดเสียว่าเวรกรรมที่ทำไว้แต่ชาติปางก่อน ซึ่งแน่นอนว่าประวัติเครดิตบูโรของอีชั้นคงฟอนเฟะไปแล้ว .... แต่คุณคะ มีธนาคารนึงค่ะ จำธนาคารต่างด้าวที่อีชั้นเกริ่นไว้ตั้งแต่ต้นได้มะคะ เค้าไม่อนุโลม แถมยังระงับวงเงินบัตรเครดิตและบอกเลิกสัญญากับอีชั้นค่ะ เท่านั้นไม่พอ โทรศัพท์ทวงทุกวันเช้าเย็น (ตอนนั้นยังไม่มี พ.ร.บ. ทวงหนี้) เจ้าหน้าที่ของธนาคารทำงานดีมากค่ะ ทวงหนี้แบบตำบอนสุดๆ ค่ะ อีชั้นได้แต่ร้องเพลงพี่ตูน บอแลม ไปค่ะ ชีวิตแค่โดนทำร้าย
กระทั่งปี 2558 ธนาคารต่างด้าวรายนั้นฟ้องอีชั้นค่ะ (ยอดหลักหมื่นบาท) ... อีชั้นต้องไปศาล เข้าคอกพยานสาบานตนเบิกความค่ะ อายมากค่ะ สั่นด้วย อีชั้นต้องแจกลายเซนพิสูจน์ลายมือชื่อหลังบัตรเครดิตหลายหน้ากระดาษเอ 4 แต่ก็ยังโชคดีนะคะที่ไม่ปวดมือ เพราะสมัยประถมโดนครูทำโทษคัดลายมือบ่อยๆ สุดท้าย คดีนี้ศาลพิพากษายกฟ้องค่ะ เพราะลายเซนในเซลสลิปไม่ตรงกับลายเซนอีชั้น อีชั้นไม่ต้องรับผิดต่อธนาคาร .... บุญรักษา เราจบสิ้นกันเสียทีนะคะ
หลังจากเสร็จสิ้นคดีความแล้ว อีชั้นก็ระมัดระวังการใช้จ่าย และวางแผนการเงินแบบว่าใช้แต่เงินสดอ่ะค่ะ หลีกเลี่ยงการใช้บัตรเครดิต และการขอกู้เงินใดๆ อีก เพราะแอบคิดเองว่า อีชั้นน่าจะยังคงติดประวัติหนี้เสียในเครดิตบูโรค้างอยู่อีก 3 ปี นับจากที่คดีจบ
เวลาผ่านไปเกือบ 4 ปี ช่วงต้นปี 2562 อีชั้นคิดว่าประวัติหนี้เสียคงจะไม่มีค้างในระบบเครดิตบูโรแล้วแหละ เพราะเคลียร์ไปหมดทุกอย่างแล้ว เลยไปขอกู้เงินธนาคารเพื่อซื้อคอนโด และก็สมัครบัตรเครดิตพ่วงไปด้วยเลย แต่ปรากฏว่าอีชั้นถูกปฏิเสธทุกแห่งเลยค่ะ บอกว่าติดเครดิตบูโร อีชั้นก็ตกกะใจค่ะ เลยไปเช็คข้อมูลเครดิต ปรากฏว่าคุณขา สถานะบัญชีสินเชื่อบัตรเครดิตที่อยู่กับธนาคารต่างด้าวที่ฟ้องอีชั้นครั้งกระนั้นระบุว่า “ยังอยู่ในกระบวนการทางกฎหมาย” ..... อีชั้นจัดแจงโทรไปหาธนาคารขอให้แก้ไขประวัติเครดิตบูโรด่วน คุณเจ้าหน้าที่บอกจะประสานให้ ... รอไปเป็นชาติค่ะ ไม่มีใครติดต่อมา ไม่มีใครจัดการอะไร
อีชั้นร้อนใจก็จัดแจงติดต่อไปที่ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ได้ความว่างี้ค่ะ การแก้ไขข้อมูลประวัติเครดิตบูโร สามารถทำได้โดยธนาคารซึ่งเป็นสมาชิกของ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ส่งเรื่องให้แก้ไขข้อมูล หรืออีกทางนึง เจ้าของข้อมูล (ตัวอีชั้นเอง) จะขอแก้ไขเองก็ได้ โดยจะต้องยื่นเรื่องพร้อมเอกสารประกอบต่างๆ เข้าไปเพื่อพิจารณาด้วย
อีชั้นคิดว่า เป็นหน้าที่ของธนาคารโดยตรงที่ควรจะแก้ไขให้อีชั้น …. อีชั้นก็วนกลับไปติดตามเรื่องหาธนาคารเดิมสิคะ เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ บอกแต่ว่ารอหัวหน้า อีชั้นก็ขอคุยกับหัวหน้าที่มีอำนาจ จนได้รับคำตอบว่า ลืมอัพเดทข้อมูลเครดิตบูโร และจะรีบแก้ไขให้โดยด่วน .... วี้ดดดด บึ้มค่ะ ตอบตรงแบบนี้ อีชั้นก็เหวี่ยงล่ะคะ อดใจไม่ไหวแล้ว ธนาคารต่างด้าวยักษ์ใหญ่ระดับเจ้าโลกด้านบัตรเครดิต ทำงานประสาอะไร
พุทโธ ธัมโม สังโฆ .... ใจร่มๆ รอไปอีก 2 เดือน อีชั้นไปตรวจเครดิตบูโรของตัวเองอีกรอบ ปรากฏว่า คลีนค่ะ .... แบบว่าไม่เหลือร่องรอยว่าอีชั้นเคยติดเครดิตบูโรเลย แล้วไง ไม่แจ้งอะไรอีชั้นหน่อยหรอคะ อีชั้นไม่พึงใจเลยร่างจดหมายร้องเรียนเจ้าหน้าที่ธนาคารค่ะ และสำเนาเรียนไปถึงเอ็มดีฝรั่งเลยนะคะ มีทั้งเว่อชั่นไทย และ ทรานสะเลดอินทูอิงลิช เอ็มดีนางก็ไม่ได้ใส่ใจ ให้เจ้าหน้าที่ตอบมาประมาณว่า ก็ลบให้เรียบร้อยแล้ว เพื่อทราบ
วี้ดดดดด ..... ไม่ค่ะ เรื่องนี้ต้องไม่จบ งานการไม่ทำแล้วค่ะ ร่างจดหมายร้องเรียนไป สคบ. บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ คณะกรรมการข้อมูลเครดิต (ธนาคารแห่งประเทศไทย) มีหน่วยงานไหน อีชั้นแจ้งโหมดดดด
จนกระทั่ง คณะกรรมการข้อมูลเครดิต (ธนาคารแห่งประเทศไทย) เมตตากรุณาอีชั้นที่รับเรื่องและดูแลเรื่องนี้ให้ หลังจากสอบสวนไปมาแล้ว เจ้าหน้าที่โทรมาแจ้งอีชั้นว่า ธนาคารมีความผิดตาม พ.ร.บ. การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 มาตรา 18 และมาตรา 19 ที่กำหนดให้ สถาบันการเงินที่เป็นสมาชิกของ บจก. ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ มีหน้าที่นำส่งข้อมูลที่ถูกต้องและทันสมัย เพื่อรายงานสถานะของลูกค้าอย่างสม่ำเสมอไปจนกว่าสินเชื่อนั้นจะได้รับการชำระเสร็จสิ้น เมื่อธนาคารละเลยไม่ปฏิบัติตาม จึงมีคำสั่งลงโทษปรับธนาคาร .... เงินค่าปรับเข้าคณะกรรมกรข้อมูลเครดิต จบ....
อ้าว .... แล้วอีชั้นล่ะ จะได้รับการเยียวยาไหมคะ ... ได้รับคำตอบว่า คุณผู้บริโภคหากประสงค์จะดำเนินการอื่นๆ เช่นเรียกค่าเสียหาย ต้องไปดำเนินการทางศาลด้วยตนเองค่ะ ขอบคุณค่ะ
มาถึงขั้นนี้ละ อีชั้นก็ต้องจัดให้สุดค่ะ ฟ้องค่ะ ธนาคารระดับโลกกระทำการโดยประมาทเลินเล่นเล่อ บกพร่องในหน้าที่ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ทำให้อีชั้นได้รับความเสียหายจากการกระทบกระเทือนสิทธิอันชอบธรรม กลายเป็นผู้ที่มีประวัติเสื่อมเสียทางการเงิน ไม่มีเครดิต ติดแบล๊กลิสต์ ไม่ได้รับความเชื่อถือในการทำธุรกรรมด้านสินเชื่อกับสถาบันการเงิน จึงขอให้ธนาคารชดใช้ค่าเสียหายแก่อีชั้นเพื่อเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการละเมิดและกระทบกระเทือนสิทธิอันชอบธรรม (ลอกทนายมานะคะ แต่งเองไม่เป็นหรอกค่ะ)
ศาลท่านขอให้เจรจาไกล่เกลี่ยก่อน แต่ธนาคารไม่ยอมค่ะ จะสู้คดี อีชั้นก็ไม่ยี่หร่ะ มาถึงขนาดนี้แระ .... ไปศาล 3 รอบ สืบกันจนกระทั่ง ธนาคารยอมรับว่าประมาทจริง ศาลท่านก็เที่ยงตรงราวกับเปาบุ้นจิ้น เมื่อธนาคารประมาทก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้อีชั้นค่ะ ธนาคารจะชดใช้เป็นบัตรเครดิตให้ใช้ตามวงเงินเดิม .... ศาลท่านว่าเลยค่ะ เค้าไม่ได้อยากเป็นลูกค้าคุณแล้ว เค้าจะให้ธนาคารคุณชดใช้ค่าเสียหาย จะจ่ายเท่าไหร่ กี่แสนดี ศาลที่เคารพเจ้าขา อีชั้นไม่ได้หวังอะไรมากมายขนาดนั้น แค่อยากให้เค้าเข็ดหลาบเจ้าค่ะ
ก่อนครบกำหนดนัดอีกรอบ ธนาคารก็โทรมาเจรจาขอให้อีชั้นรับค่าเสียหายจำนวนนึง เพื่อทำสัญญาประนีประนอมและถอนฟ้อง แถมบอกว่าให้อีชั้นลงนามสัญญานอนดีสโครสเชอร์ (ไม่เปิดเผยข้อมูล) ด้วยนะคะ ... ก็ได้ อีชั้นรับไว้ ไม่ใช่หน้าเงินนะคะ แต่มันยาวนานเกินไป ถ้าอีชั้นไม่ใช่สายสตรอง บึกบึนล่ะก็ คงยอมสิโรราบไปนานแล้วล่ะค่ะ
จบเรื่องแล้ว แต่สิ่งที่อีชั้นปรารถนาคือ คำขอโทษซึ่งก็ยังไม่เคยหลุดออกมาให้ได้ยินค่ะ
อีชั้นคิดว่า เรื่องนี้ไม่ได้นำมาประจานนะคะ แต่อยากให้ทุกคนรู้จักปกป้องสิทธิของเราค่ะ ไม่ให้คนอื่นมาละเมิดสิทธิเรา และเราก็ไม่ได้ละเมิดสิทธิคนอื่นค่ะ
เป็นการเล่าเรื่องครั้งแรก รบกวนฝากติดตาม กดไลค์ กดแชร์ให้นิตยาฯ ด้วยนะคะ